พฤติกรรมของแมว
เป็นความรู้เกี่ยวกับแมวครับ เผื่อใครต้องเอาไปทำงาน
ผู้เข้าชมรวม
2,008
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
พฤติกรรมของลูกแมวและการฝึก
( Kitten behavior and training )
--------------------------------------------------------------------------------
ลูกแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีความน่ารักและน่าโมโหได้ในขณะเดียวกัน ในการที่จะช่วยลูกค้าให้เข้าใจถึงพฤติกรรมที่ปกติของแมวต้องได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมในการฝึก และสามารถปรับปรุงหรือป้องกันพฤติกรรมที่เป็นปัญหาต่างๆ
ในลูกแมวที่มีนิสัยซน จะชอบเล่นลูกบอลเล็กๆที่มีขนแต่เมื่อลูกแมวนั้นได้ถูกนำมาเลี้ยงลักษณะที่ดูน่ารักของมันก็อาจจะถูกบดบังโดยสัญชาติญาณของลูกแมวนั้นได้ โชคดีที่มีวิธีป้องกันช่วยให้เจ้าของหายหงุดหงิด หัวข้อนี้จะกล่าวถึงสิ่งที่สำคัญในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกแมวโดยเฉพาะพฤติกรรมที่เป็นปกติและพฤติกรรมแปลกๆที่พบได้บ่อยและคำแนะนำในการรักษา สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับประกอบด้วย ความเข้าใจต่างๆเกี่ยวกับลูกแมว, สิ่งต่างๆที่ลูกแมวต้องการ,การฝึกที่เหมาะสมและเพียงพอและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกแมว
การพัฒนาของลูกแมวในระยะแรก
ช่วง sensitive และความเกี่ยวพันกับมนุษย์
การให้ความอบอุ่นโดยการลูบขน, การนอนบนตักของเจ้าของ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำในการลี้ยงแมว ความสัมพันธ์ของคนกับลูกแมวที่เข้ากันได้ไม่ได้เกิดจากสัญชาติญาณ แต่จะเกิดจากการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีซึ่งจะเกิดได้ดีที่สุดในช่วง sensitive ซึ่งช่วง sensitive นาย Betesonได้กล่าวไว้ว่า "ช่วง sensitive คือช่วงที่อายุที่มีผลกระทบในระยะยาวเกี่ยวกับการพัฒนาเฉพาะตัว" ตามที่ได้มีการศึกษาผลกระทบของมนุษย์ที่เกิดกับแมวในช่วงระยะเวลาต่างๆกัน ได้ว่าช่วง sensitive ของการอยู่ร่วมกันของคนกับลูกแมวคือช่วงอายุ 2 ถึง 7 สัปดาห์หลังคลอด ในแมวที่ถูกคนอุ้มเป็นเวลา 15นาทีต่อวันสามารถมีความพร้อมในการอยู่ร่วมกันกับคนมากกว่าแมวที่ได้ถูกอุ้มเลย และเมื่อมันมีอายุมากขึ้น(มากกว่า7สัปดาห์) พฤติกกรมของมันก็จะไม่ต่างไปกับแมวที่เพิ่งถูกเลี้ยงหลังอายุ 14สัปดาห์เลย
จากการทดลองแมวที่ถูกอุ้ม 40 นาทีต่อวันจะสามารถอยู่บนตักคนได้นานกว่าแมวที่ถูกอุ้ม15 นาทีต่อวัน โดยถ้าเพิ่มเวลาในการอุ้มมากขึ้นก็จะสามารถมีพฤติกรรมในการใกล้ชิดกับคน ในสถานการณ์ที่อยู่ที่บ้าน ลูกแมวจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนทั้งทางตรงและทางอ้อมดีกว่าในห้องทดลอง เมื่อเปรียบเทียบแมวที่อยู่ที่บ้านกับในห้องทดลอง แมวที่อยู่ที่บ้านจะมีระดับความเกี่ยวข้องกับมนุษย์มากกว่า
สิ่งสำคัญของช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับสังคมคือ ในความสัมพันธ์ของลูกแมวที่ไม่มีแม่ดูแลกับมนุษย์ จากการศึกษาในเร็วๆนี้นักวิจัยพบว่าลูกแมวที่ไม่มีความสัมพันธ์กับมนุษย์ในช่วง7สัปดาห์แรกนั้นจะไม่คุ้นเคยกับมนุษย์ ดังนั้นถ้ามนุษย์ต้องการเลี้ยงแมวที่บ้าน สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การต้องช่วยชีวิตหลังจากหย่านมฝึกการแสดงอยู่กับผู้คน
ถึงแม้ว่าข้อมูลข้างต้นจะสนับสนุนความสำคัญของการเรียนรู้และประสบการณ์การติดต่อกับมนุษย์ มันยังมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม จากการศึกษาพบว่าการออกข้างนอกและแสดงความมั่นใจของแมวตัวผู้ มีแนวโน้มสัมพันธ์กับมนุษย์มากกว่าแมวตัวผู้ที่ขี้อาย การศึกษาเป็นนัยว่าลักษณะของพ่อซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กบมนุษย์มีอิทธิพลต่อลูกแมวเหนือลักษณะของแม่ ดังนั้นเจ้าของที่ต้องการแมวที่ประจบมนุษย์ควรที่จะหาลูกแมวที่ได้พ่อเป็นแมวพเนจร แต่สิ่งที่สำคัญคือ ลักษณะทางพ่อของแมวนั้นทางวิจัยไม่มีข้อมูล จึงเป็นข้อจำกัดของการใช้ข้อมูลนี้
การหย่านม
การหย่านมเริ่มต้นเมื่อลูกแมวอายุ 4-5 สัปดาห์และจะเลิกอย่างเด็ดขาดในสัปดาห์ที่ 8-10 แต่บางครั้งลูกแมวบางตัวที่ยังหย่าไม่นมไม่ขาดก็จะมีพฤติกรรมการดูดหรือกัดแทะข้าวของต่างๆได้
การล่าเหยื่อ
การล่าเป็นสัญชาติญาณของแมว แมวเร่ร่อนส่วนใหญ่ แม่จะนำเหยื่อมาให้ลูกแมวจนถึง4สัปดาห์ สัปดาห์ที่ 5 ลูกแมวสามารถฆ่าหนู ถ้าแมวถูกเลี้ยงตั้งแต่เกิดกับหนู จากการทดลองแมวจะไม่ล่าหนูชนิดนั้น การจำกัดการเข้าถึงเหยื่อเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จากการศึกษาพฤติกรรมการล่าเหยื่อ ถ้าลูกแมวออกไปล่าเหยื่อนอกบ้าน การผูกกระพรวนเป็นสิ่งเตือนภัยต่อเหยื่อ แต่แมวส่วนใหญ่ยังกลับบ้านด้วยเหยื่อที่ถูกล่า
การเคลื่อนไหว
ช่วงอายุ 6-7 สัปดาห์ ลูกแมวสามารถแสดงนิสัยที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว เช่น การเดิน, การหมุนวัตถุเล็กๆ แต่ไม่สามารถบ่งบอกได้มากเท่ากับอายุ 10-11 สัปดาห์ ลูกแมวจะค่อยๆเดินเมื่อมันหมุนตัวในที่แคบๆ สำหรับความปลอดภัยและสุขอนามัยของเจ้าของจะดีขึ้นเมื่อลูกแมวรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวมากขึ้น
สังคมและของเล่น
การเล่นเป็นสิ่งสำคัญของการพัฒนาทางกายภาพและพฤติกรรม การเล่นที่เหมาะสมสามารถลดความเสียหายของสิ่งของและการก้าวร้าว การเล่นต่อสิ่งต่างๆจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงอายุ 4-13 สัปดาห์และจะเริ่มลดลง กี่มีลูกแมวสองตัวที่อายุเท่ากันในบ้านเป็นสิ่งดี แต่เจ้าของต้องตระหนักว่าการเล่นระหว่างลูกแมวจะลดลงเมื่อโตเต็มวัย นอกเหนือจากนี้จะมีการต่อสูที่รุนแรงมากขึ้น การเล่นของเล่นจะมากขึ้นเมื่ออายุ 7-8 สัปดาห์ มนุษย์จะเลือกปลามันเป็นธรรมดาที่แมวจะแสดงสัญชาติญาณในการล่าเหยื่อของแมวออกมา
การเรียนรู้
คำว่า "Copycat" บางทีมีจุดกำเนิดมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าเป็นผู้สังเกตที่ยอดเยี่ยม แมวมองการกระทำของแมวตัวอื่นและสามารถทำตามได้ทันที สิ่งเหล่านี้เป็นความสามารถที่สอนกันได้ เช่นการมาหา, การนั่งหรือการกระทำอื่นโดยใช้สิ่งจูงใจ
ยกตัวอย่าง การสั่งลูกแมวนั้นทำได้โดยถืออาหารและให้มันดม เมื่อมันสนใจ ก็ยกอาหารเหนือหัวลูกแมวแล้วพูดว่า "นั่ง" ถ้าลูกแมวทำตามก็ควรให้รางวัลและชมเชยมัน ถ้าเจ้าของแมวต้องการให้แมวทำเป็นประจำ , เจ้าของควรสั่งให้แมวทำเช่นนั้นไปสักพักและควรให้รางวัลอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าเจ้าของฝึกลูกแมวอย่างสม่ำเสมอ ลูกแมวก้จะทำตามคำสั่งนั้น หรือแม้ว่าจะขาดช่วงฝึกไปก็ตามลูกแมวก็จะยังรักษาพฤติกรรมนี้ไว้โดยรางวัลก็เป็นสิ่งจำเป็นในการชมเชยมันเป็นครั้งคราวด้วย การไปที่ร้านหนังสือหรือห้องสมุดเพื่อที่จะฝึกฝนแมวเพื่อที่คุณจะได้แนะนำลูกค้าและมั่นใจได้ว่า การฝึกอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง ไม่ใช่การลงโทษหรือความเจ็บปวด สำหรับคนที่เข้าใจว่าแมวไม่สามารถถูกฝึกฝนนั้นควรคิดเกี่ยวกับระยะเวลาที่ลูกแมวเข้ามาอยู่ในห้องครัวหลังจากได้ยินเสียงคนเปิดกระป๋องอาหาร ลูกแมวเรียนความสัมพันธ์ของเสียงกับอาหาร ซึ่งเป็นของรางวัลและแมวจำนวนมากจะมาในห้องครัว เมื่อเปิดอาหารกระป๋องและหวังว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในจานของมัน
การท้าทายพฤติกรรมของลูกแมว
การกระโดดขึ้นบนเคาน์เตอร์
ถึงแม้ว่าลูกแมวอาจจะยังไม่สามารถที่จะกระโดดสูงในแนวตั้งได้สำเร็จมากนักแต่ความสามารถในการกระโดดก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในสองสามเดือนแรกเจ้าของแมวจะพบว่าลูกแมวเกาะในที่ไม่ธรรมดาและบางทีในที่ที่ไม่คาดคิด เป็นสิ่งปกติสำหรับลูกแมวในการสำรวจสภาพแวดล้อมและจะเกาะอยู่ในบริเวณสูงๆ จากการใช้พื้นที่ในแนวตั้งลูกแมวจะเพิ่มขนาดความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในบ้านและความสามารถในการกระทำ
มีการยอมรับและไม่ยอมรับจาภาพที่ปรากฏให้เห็นของเจ้าของแมว บ่อยครั้งที่เจ้าของต้องการสอนลูกแมวอยู่ให้ห่างจากเคาน์เตอร์ในครัวและโต๊ะในห้องรับประทานอาหาร เพื่อให้เกิดความสำเร็จมากขึ้นในความพยายามดังกล่าวประการแรกเจ้าของต้องจัดหาที่เกาะในแนวตั้งให้ลูกแมว เสาสำหรับเกาะหรือชั้นที่อยู่ใกล้หรือในระยะจำกัดเพื่อให้ลูกแมวมีทางเลือกที่จะไปยังเคาน์เตอร์ในครัวหรือโต๊ะ เจ้าของควรจะฝึกให้ลูกแมวใช้บริเวณที่จัดไว้ให้โดยเล่นกับลูกแมวใกล้กับบริเวณที่จัดไว้ ให้รางวัลและชมเชยลูกแมวเมื่อลูกแมวไปเกาะในที่ที่ต้องการต่อจากนั้นเจ้าของควรจะจัดบริเวณที่ไม่เป็นที่ต้องการและไม่ยอมรับให้ลูกแมวเพื่อเป็นการยืนยันว่าลูกแมวไม่ต้องการการกระทำอย่างนั้นของเจ้าของ ถ้าเจ้าของไม่ใช้วิธีในทางตรงกันข้ามเพื่อแอบดูและหวังผลที่ตามมา ลูกแมวจะไม่เรียนรู้ในการกระโดดสูงขึ้นไปในบริเวณที่ต้องการถ้าเจ้าของเฝ้าดูอยู่ อย่างไรก็ตามมันหมายถึงการใช้วิธีห้ามไม่ให้ใช้บริเวณเหล่านั้น เช่น การวางผ้าเทปไว้ 2 เส้น (placing double-stick tape) , การเคลื่อนที่โดยมีเสียงบอกสัญญาณ (a motion detector-type alarm) , แผ่นที่ส่งผ่านกระแสไฟฟ้าเมื่อมีการสัมผัส (a pad that delivers a small electrical shock when touched) หรืออุปกรณ์อื่นๆที่ไม่ใช้การกระทำจากเจ้าของโดยตรง ผลที่เกิดขึ้นในทางลบไม่ควรจะอยู่ในการเฝ้าดูของเจ้าของ ลูกแมวควรจะเรียนรู้ในการที่จะหลีกเลี่ยงพื้นผิวเหล่านั้นจากผลในทางลบและใช้วิธีการที่น่าสนใจในการเกาะ เจ้าของควรจะรอบคอบคือไม่ควรล่อหลอกลูกแมวโดยการวางอาหาร ,ดอกไม้หรือต้นไม้ไว้บนเคาน์เตอร์หรือโต๊ะ
ในขณะที่ความพยายามที่สมเหตุสมผลได้เกิดขึ้นเพื่อป้องกันการใช้เคาน์เตอร์และโต๊ะของลูกแมวลูกแมวบางตัวถูกกำหนดและจะใช้บริเวณเหล่านั้นทั้งๆที่เจ้าของพยายามจะขัดขวางมัน ถ้าในกรณีเช่นนี้บางครั้งมันเป็นการจำเป็นที่จะต้องยอมรับความล้มเหลวและตระหนักว่ามันเป็นความจำเป็นที่จะต้องยอมรับว่ามันเป็นพฤติกรรมปกติของลูกแมว
ละครสัตว์กลางคืน (The nighttime circus)
บางครั้งการบ่นที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปของเจ้าของแมวคือการระเบิดของเจ้าของที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงของลูกแมว แมวไม่ได้เป็นสัตว์กลางคืน พวกมันจะทำ crepuscular pattern of activity ซึ่งจะเกิดมากในช่วงรุ่งสางและในช่วงค่ำ แต่ถ้ามันไม่ใช่สัตว์กลางคืนทำไมมันจึงทำสิ่งต่างๆในเวลากลางคืน มันเป็นคุณสมบัติในส่วนของพลังและความอยากรู้อยากเห็นซึ่งเป็นลักษณะของแมว
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเราตรวจสอบพฤติกรรมของลูกแมว เราอาจพบว่าลูกแมวไม่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรใดๆในเวลากลางวัน ในขณะที่เจ้าของทำงานในเวลากลางวันลูกแมวจะใช้เวลาในตอนกลางวันนอนหลับ ตอนเย็นเจ้าของอาจจะนอนสบายบนโซฟากับเพื่อนๆ ดังนั้นลูกแมวก็จะส่งเสียงร้องในช่วงเวลาสั้นๆของเวลาเช้า เพื่อที่จะจัดการกับปัญหานี้เจ้าของแมวจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนพลังงานของแมวให้เป็นกิจกรรมต่างๆเมื่อเจ้าของแมวยังไม่หลับ ลูกแมวซึ่งตื่นตลอดในช่วงเย็นเล่นเกมหรือวิ่งไล่ของเล่นจะมีความร้ายน้อยลงในช่วงกลางคืน
แรงกระตุ้นอื่นๆสำหรับในช่วงเวลากลางคืนคือความสนใจในการได้รับการกระทำ เจ้าของแมวซึ่งส่งเสียงร้อง กรีดร้อง ตะโกนเสียงดัง หรือไล่ล่ากันจะเป็นการเรียกร้องความสนใจจากแมว เจ้าของแมวต้องระวังในการที่จะไม่ให้รางวัลใดๆแก่ลูกแมวเมื่อมันทำสิ่งที่ไม่ดีในเวลากลางคืน ถ้าพวกมันไม่สนใจในพฤติกรรมดังนั้นมันจะต้องถูกลงโทษ (ถูกฉีดด้วยกระบอกฉีดน้ำ) แน่นอน การปิดประตูห้องนอนหรือใส่หูฟังอาจจะช่วยรับประกันการหลับในเวลากลางคืนได้
ในที่สุดเจ้าของแมวเป็นจำนวนมากตอบสนองการรบกวนในเวลากลางคืนโดยการตื่นขึ้นมาให้อาหารลูกแมวโดยตั้งข้อสงสัยว่ามันอาจจะหิว ลูกแมวเหล่านี้จึงเรียนรู้อย่างรวดเร็วว่า การทำให้เจ้าของตื่นจะได้รับรางวัลอย่างงาม เมื่อเจ้าของพยายามที่จะหยุดพฤติกรรมมันในครั้งแรก ลูกแมวจะดื้อมากขึ้นการไม่เอาใจใส่อย่างคงที่ของเจ้าของจะทำให้เห็นความแตกต่างของพฤติกรรมในที่สุด
การทำลาย
ถึงแม้ว่ามันอาจจะมีน้ำหนักน้อยกว่า 5 ปอนด์ ลูกแมวทำความทุกข์และความเสียหายได้ในระยะเวลาสั้นๆ อาวุธหลักของมันคือ เล็บเท้าหน้า ถึงแม้ว่าลูกแมวบางตัวเคี้ยวบางสิ่งบางอย่างได้
การข่วนเป็นการกระทำปกติของแมวซึ่งให้ประโยชน์ต่อแมวมากมาย มันได้เหยียดกล้ามเนื้อ ปล่อยกลิ่นและทำเครื่องหมายให้เห็นและแต่งเล็บของมัน แมวจะเริ่มข่วน การข่วนที่ประสบความสำเร็จคือ การมีรอยข่วนที่สิ่งของที่เป็นเป้าหมายเป็นที่ยอมรับ เจ้าของแมวควรจะจัดหาโครงสร้างในการข่วนที่เป็นที่ยอมรับ ในตำแหน่งที่มองเห็น โครงสร้างของการข่วนควรจะแข็งแรง พลิกไปทางแนวตั้งหรือแนวนอนได้ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกแมวและทำด้วยวัสดุที่ลูกแมวชอบ เพื่อที่จะบ่งชี้ถึงความพอใจในการข่วนและวัสดุที่ใช้ เจ้าของแมวควรเสนอหลายๆชนิดหรือเสนอสิ่งที่ไม่ยอมรับให้ลูกแมวเป็นทางเลือกเพื่อแกล้งล้อเล่น เจ้าของควรจะทำสิ่งที่ไม่ยอมรับ (เช่น การใช้เทปกาว 2 หน้า,อลูมิเนียมฟอย)หรือจัดหาให้ไม่ได้ วัสดุที่ซื้อไม่ควรซื้อสำหรับการใช้เล็บของลูกแมว ( เช่น หนังที่ทนทาน) อาจจะเหมาะสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์ ลูกแมวควรจำได้รับการแต่งเล็บทุกสัปดาห์เพื่อเล็บจะได้ไม่คม เพื่อควบคุมความยุ่งยาก ควรพิจารณาที่สวมเล็บซึ่งมีอายุการใช้งานเป็นเดือนหรือถอดเล็บออก ในขณะที่การถอดเล็บออกเป็นเรื่องที่โต้แย้งกันว่าเป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณ ในทางตรงกันข้ามเป็นความเชื่อหรือเป็นที่นิยม มันไม่มีผลต่อปัญหาในทางพฤติกรรมของแมว เช่น ก้าวร้าว หรือ การทำบ้านรก
ถึงแม้ว่ามันอาจจะธรรมดาน้อยกว่า ลูกแมวบางตัวอาจเคี้ยวของในบ้านโดยเฉพาะวัตถุที่เป็นเส้นใยหรือต้นไม้ เพียงแต่คุณป้องกันเด็กแล้วคุณก็จำเป็นต้องป้องกันแมวด้วย ต้นไม้ควรจะเก็บไว้ในที่ที่ไปไม่ถึง สายไฟไม่ควรเสียบปลั๊กหรือวางทิ้งไว้ ป้องกันสายไฟซึ่งออกจากที่ไม่ได้หรือพบได้อาจหาซื้อได้ตามร้านขายของตกแต่งบ้าน การลงโทษในระยะยาวอาจจะได้ผล ลองพิจารณาสิ่งซึ่งเป็นที่ไม่พอใจ เช่น สเปรย์ที่ใช้ยับยั้งหรือตัวที่ทำให้ขมหรือเครื่องเตือนการเคลื่อนไหว มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะจัดหาสิ่งที่เป็นที่ยอมรับให้กับแมวเพื่อเคี้ยว หม้อเล็กๆจากข้าวสาลีแห้งหรือกระดูกอาจช่วยได้ เล่นกับของเล่น เบ็ดตกปลาอาจทำให้แมวเบื่อและหาสิ่งที่เหมาะสมเป็นทางออกในการเคี้ยวของลูกแมว
การเล่นแบบก้าวร้าว
แมวโดยเฉพาะลูกแมวต้องการทางออกของการเล่นอย่างเหมาะสม ถ้าการเล่นไม่เป็นที่พอใจ บางทีแมวอาจจะใช้เจ้าของเป็นเป้าหมายในการเล่น ถ้าแมวตื่นเต้นหรือถูกกระตุ้นมากเกินไปมันอาจทำให้คนอื่นบาดเจ็บ พฤติกรรมการเล่นที่ overexuberant ต่อสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นในบ้านอาจจะมีปัญหา ภายใต้การเล่นเจ้าของแมวอาจจะสังเกตส่วนประกอบของพฤติกรรมกัดสัตว์อื่น เมื่อมันเล่นกับลูกแมวตัวอื่นๆถ้าลูกแมวตัวหนึ่งกัดแรงๆลูกแมวที่เป็นเพื่อนเล่นอาจจะหยุดเล่นหรือมีปฏิกิริยาปกป้องแบบก้าวร้าว ดังนั้นเป็นการแจ้งให้รู้ว่าเป็นการเล่นแบบก้าวร้าว ลูกแมวซึ่งเติบโตตามลำพังตัวเดียว อาจจะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้และมีการยับยั้งน้อยเมื่อโตขึ้น
แมวซึ่งมีการเล่นแบบก้าวร้าวจำเป็นต้องมีการจัดการเล่นในแต่ละวันด้วยของเล่น เจ้าของแมวควรจะสอนระยะเวลาในการเล่น การเล่นใดๆก็ตามซึ่งส่งผลให้ตัวเจ้าของเป็นเป้าในการเล่นควรจะหลีกเลี่ยง เจ้าของแมวควรจะพยายามคาดล่วงหน้าว่าจะมีการเล่นงานและตรงเข้าหาของเล่น เจ้าของแมวควรจะหลีกเลี่ยงการให้รางวัลใดๆในการเล่นแบบก้าวร้าว การวิ่งและการส่งเสียงร้องเป็นเพียงการกระตุ้นพฤติกรรม เจ้าของแมวไม่ควรทำการลงโทษใดๆโดยตรงซึ่งมีผลกระทบ (เช่น การตี) เพราะว่ามันอาจจะสร้างความกลัวหรือเกิดความก้าวร้าว เจ้าของแมวขัดจังหวะการเล่นที่ไม่เหมาะสมได้ โดยการลงโทษในระยะไกล (เช่น การฉีดน้ำ , การเตือน) หรือทำให้ห้องน่าตกใจ ถ้าแมวเล่นไม่เหมาะสม การเพิ่มแมวอีกตัวหนึ่งซึ่งมีอายุและระดับเดียวกันกับเจ้าของบ้านเป็นเพียงตัวเลือกอีกตัวหนึ่ง
ที่นอนหญ้าสำหรับฝึก (Little-box training)
ความสุขอีกอย่างหนึ่งในการเป็นเจ้าของลูกแมวคือ การฝึกการข่วนของลูกแมวให้เป็นปกติง่ายกว่ามากในการกัดแบบสุนัข ลูกแมวส่วนใหญ่จะพอใจกับที่นอนหญ้าโดยธรรมชาติอยู่แล้วเพื่อการแยกแยะ เลือกวัสดุเพื่อความพอใจมากกว่าในการแยกแยะ ปัญหาน่าจะเกิดขึ้นเมื่อที่นอนหญ้าไม่ถูกใจ ไม่สะอาดหรือประทับใจ และบางครั้งลูกแมวยังพบทางเลือกที่น่าประทับใจเท่าๆกันในการแบ่งแยก เช่น ความสกปรกในกระถางต้นไม้ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาที่นอนหญ้ามากกว่าจะใช้มัน แมวส่วนใหญ่พอใจวัสดุที่อ่อนนุ่มสบายเช่นเดียวกับการแบ่งแยก substrate และกลุ่มของที่นอนหญ้าที่วางรวมกันไว้จะให้ชนิดของ substrate แมวทั่วไปชอบที่นอนหญ้าที่ไม่มีกลิ่น ที่นอนที่เล็กๆไม่ได้สะอาดมากจนเกินไป ที่ใส่อาหารและมีการล้างทุกวันด้วยสบู่และน้ำเป็นสิ่งที่ควรทำกล่องที่ปิดฝาจะเป็นที่เก็บกลิ่น เจ้าของแมวควรจะทำความสะอาดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีตะกอน
เจ้าของที่มีแมวหลายตัวควรจะมีที่นอนหญ้าหลายๆที่ กฎทั่วๆไป คือว่าอาจจะมีมากกว่า 1 ที่ต่อแมวหลายตัว ดังนั้นในบ้านที่แมว 3 ตัวควรจะมีที่นอนหญ้า 4 ที่
การขาดความสัมพันธ์กับแมวตัวอื่นๆอาจจะเป็นเหตุให้เกิดปัญหากับที่นอนหญ้าตัวอย่างเช่น ลูกแมวอาจจะไม่เต็มใจที่จะเดินข้ามทางเดินของสุนัขหรือของแมวตัวอื่นๆเพื่อไปยังที่นอนของตนหรือบางทีเด็กเล็กๆอาจจะคว้าลูกแมวในขณะที่มันอยู่ในกล่องหญ้าทำให้ลูกแมวไม่เต็มใจที่จะใช้กล่องนั้นอีก สถานการณ์เช่นนี้ควรจะถูกกำหนดและบันทึกไว้ รวมทั้งควรจะวางกล่องหญ้าไว้ใกล้ๆบริเวณที่อยู่ประจำของลูกแมวเพื่อว่าลูกแมวจะได้เข้าไปใช้ได้ง่ายๆ การคาดหวังว่าลูกแมวตัวเล็กๆจะปีนขึ้นไป 2 ขั้นเพื่อไปยังกล่องหญ้าอาจจะทำให้ลูกแมวทำไม่ได้ ภายใต้วิธีการนี้ควรจะแน่ใจว่าลูกแมวพอดีกับกล่องที่มันนอน ลูกแมวตัวเล็กๆไม่ควรให้อยู่ในกล่องที่สูง ในขณะที่ลูกแมวเจริญเติบโตขึ้นกล่องหญ้าต้องให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกแมวในเรื่องของที่ว่างที่เหลือ
ลูกแมวบางตัวจำเป็นต้องถูกจำกัดในบริเวณที่เล็กของกล่องหญ้าจนกว่ารูปแบบการใช้จะประสบผลสำเร็จ แน่นอนถ้าลูกตัวหนึ่งมีปัญหาทางการแพทย์ซึ่งเป็นเหตุจากการเพิ่มความเร่งรีบหรือความถี่ของการแบ่งแยก ปัญหาทางการแพทย์ควรจะรีบจัดการให้ประสบผลสำเร็จ
สรุป (conclusion)
ลูกแมวเป็นสัตว์มีเสน่ห์,น่าอัศจรรย์ซึ่งเป็นการเพิ่มความสุขอย่างมากให้กับผู้เป็นเจ้าของ แต่บางครั้งพฤติกรรมของมันก็ท้าทาย โดยการทำความเข้าใจและจดจำลักษณะที่เป็นพฤติกรรมการข่วนของมัน เราพัฒนาประสบการณ์ที่พิเศษนี้ได้สำหรับทุกๆคนโดยศึกษาในทางบวกกับความสัมพันธ์อันยาวนานตลอดชีวิต
การแก้ปัญหาทางพฤติกรรมโดยทั่วไปของลูกแมว
เมื่อคุณได้ลูกแมวเข้ามาในบ้านมันสนใจในลูกบอลน่ารักที่มีขน แต่มันจะพัฒนาจนเป็นความเคยชินเเละจะแสดงนิสัยการทำลายออกมามากกว่าที่คุณคิด เเต่ถ้าการเลี้ยงดูของคุณอยู่ในการควบคุมของสัตวแพทย์คุณจะสามารถควบคุมและกำจัดพฤติกรรมที่เป็นที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ได้
Inappropriate perches
แม้ว่าลูกแมวของคุณใน 2-3 เดือนแรก จะไม่สามารถแสดงพฤติกรรมหรือความสามารถเหมือนแมวที่โตแล้ว เช่น การกระโดดให้สูงหรือความสามารถด้านกายกรรมของมัน แต่มันจะถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ดังนั้นจากการพัฒนาในด้านต่างๆของมันคุณอาจจะพบพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆเมื่อมันอยู่ในบ้านของคุณ เมื่อคุณเห็นแมวรื้อค้นหรือสำรวจของต่างๆที่อยู่ใกล้ตัวมันรวมทั้งที่ว่างจนทุกซอกทุกมุม ก็ขอให้จงเข้าใจว่านั่นเป็นพฤติกรรมที่เป็นปกติของแมว ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยให้ลูกแมวเจริญเติบโตและมีสามารถให้มีอัตราการอยู่รอดสูง
ถ้าคุณต้องการให้ลูกแมวของคุณอยู่ในสถานที่ที่คุณจัดไว้เช่น ในห้องครัว หรือ ห้องนั่งเล่นโดยไม่ไปวิ่งเล่นทำความวุ่นวายในบ้าน อย่างแรกคุณต้องหาที่เกาะ หรือที่ให้ลูกแมวข่วน ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของลูกแมวและให้รางวัลมันเมื่อมันอยู่เป็นที่ นั่นคือ การให้อาหารมัน
ต่อมาคุณต้องกำจัดสิ่งที่เป็นที่สนใจของมันออกจากที่ที่คุณไม่ต้องการให้มันอยู่ เช่น อาหาร ดอกไม้ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของมันให้มันมาอยู่ในที่ที่นั้นๆ การใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยในการการเรียนรู้นี้ควรให้ด้วยความระมัดระวังเพราะมันให้ผลที่เป็นลบต่อพฤติกรรมของลูกแมวของคุณได้
The nighttime circus
"กิจกรรมต่างๆของลูกแมวจะถูกแสดงออกเมื่อคุณนอนหลับ" นี่คือสิ่งที่เจ้าของแมวกล่าวออกมาเมื่อมาปรึกษากับสัตวแพทย์ ลูกแมวส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลดีจากการที่มันมีกิจกรรมระหว่างวัน ขณะที่คุณทำงานอยู่ลูกแมวจะหลับและในตอนเย็นมันจะสนุกกับการเล่นกับเจ้าของ และมันจะมีกิจกรรมอย่างหนักในตอนกลางคืน การจัดการกับปัญหาเหล่านี้คือ คุณต้องฝึกเพื่อปรับเวลาการเล่นของมันให้ตรงกับกิจกรรมของคุณ นั่นคือ คุณต้องฝึกให้แมวมีการกระตุ้นการเล่นตอนกลางวัน และให้มันมีกิจกรรมที่น้อยลงตอนเย็น
คุณจะต้องไม่ดุหรือตะหวาดมันเมื่อมันแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คุณควรค่อยๆฝึกมันให้กำลังใจมัน และถ้าคุณสนใจในพฤติกรรมเหล่านี้ของมัน คุณก็จะสามารถควบคุมและบังคับพฤติกรรมเหล่านี้ของมันได้ ซึ่งถ้าคุณกำจัดพฤติกรรมเหล่านี้ได้ รับประกันได้เลยว่าคุณจะสามารถนอนหลับได้ตลอดคืน
คุณอาจจะลงโทษมันเมื่อมันแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ ซึ่งเป็นเสมือนการลงโทษมัน และให้รางวัลมันเมื่อมันแสดงพฤติกรรมตามที่เราสอนการทำเช่นนี้มันจะสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่การทำวิธีนี้คุณต้องมีความเข้าใจและธรรมชาติของพฤติกรรมของลูกแมวด้วย
Another fine mess
.
แม้ว่าลูกแมวจะมีน้ำหนักน้อยกว่า 5 lb คุณก็สามารถลงโทษมันได้ แต่การทำเช่นนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแมวกับเจ้าของเป็นไปในด้านลบ นั่นก็คือ มันจะไม่เชื่อฟังที่คุณสอนและอาจถึงขั้นทำร้ายคุณได้
การข่วนเป็นพฤติกรรมที่ปกติของแมว ซึ่งเป็นการจัดการกับเล็บของมันรวมถึงการแสดงอาณาเขตของมันด้วยวัตถุที่มันข่วนต้องเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของแมวและเป็นสิ่งที่มันชอบ ซึ่งคุณสามารถหาของเลียนแบบสิ่งของเหล่านั้นให้มันข่วนได้เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดในบ้านของคุณได้ แมวควรได้รับการตัดเล็บทุกสัปดาห์ถ้าเป็นไปได้ควรหายางที่คลุมเล็บของมันได้ด้วย
Not all fun and games
ลูกแมวของคุณของได้รับการเล่นที่เหมาะสม ถ้ามันไม่ได้เล่นและล่วงเลยได้ถึงช่วงวิกฤตแล้ว มันจะกลายเป็นแมวที่ตื่นเต้นง่าย การร่าเริง การควบคุมพฤติกรรม ทำให้ส่งผลถึงความสัมพันธ์หรือความอยู่ร่วมในสังคมกับแมวตัวอื่น ซึ่งรวมถึงการให้คุณได้รับบาดเจ็บด้วย
แมวแสดงปฏิกริยาร่วมกันในการเล่นกับการควบคุมของเล่น เริ่มต้นจากการให้มันเล่น โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ หลีกเลี่ยงการให้รางวัลที่ทำให้เกิดความเครียด ห้ามลงโทษมันโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวขึ้นได้ คุณสามารถหยุดพฤติกรรมได้โดยการจัดหาสิ่งที่ควบคุมการลงโทษ หรือออกไปจากห้องถ้าแมวแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ควรหาแมวที่มีอายุเท่ากันเข้ามาเป็นเพื่อนของมันด้วย
ผลทีได้รับจากการจัดการลูกแมวแรกเกิด
การจัดการลูกแมวที่เพิ่งเกิดไม่สามารถทำให้พฤติกรรมทางสังคมของมันพัฒนาได้ แต่มันจะพัฒนาในด้านร่างกายและระบบประสาทส่วนกลาง ใน 2 อาทิตย์แรกลูกแมวจะมีการพัฒนาด้านสายตาเพราะดวงตาจะเริ่มลืมตาในช่วงนี้ และเริ่มมีความกลัวมนุษย์ ลูกแมวที่มีการจัดการตั้งแต่ 5 นาทีของการเกิด จนกระทั่งถึง 45 วัน จะมีความกลัวมนุษย์น้อยกว่าแมวที่ไม่ได้รับการจัดการโดยมนุษย์ แมวที่ได้รับการจัดการจะสามารถเข้าใกล้ของเล่นที่แปลกตาและมนุษย์บ่อยกว่าแมวที่ไม่ได้รับการจัดการ ซึ่งแมวที่ไม่ได้รับการจัดการจะมีการหลีกเลี่ยงต่อสิ่งเหล่านี้ จากการศึกษาลูกแมวอายุ 5 ปีครึ่ง ถึง 9 ปีครึ่ง ลูกแมวที่ถูกจัดการโดย 0 , 1 , 5 คน ในลูกแมวที่ถูกเลี้ยงโดย 5 คน จะมีความกลัวต่อสิ่งของที่แปลก น้อยที่สุด ในการศึกษาอื่นๆ ลูแมวที่ถูกจัดการ ระหว่าง 3 สัปดาห์ ถึง 14 สัปดาห์ จะเรียนรู้ที่จะเข้าใกล้มนุษย์ ต้องใช้เวลานานกว่าแมวที่ได้รับการจัดการตั้งแต่แรกเกิดแต่เร็วกว่าลูกแมวที่ไม่ได้รับการจัดการอยู่มาก ในลูกแมวที่ได้รับการจัดการ ระหว่าง 7 สัปดาห์ ถึง 14 สัปดาห์ พวกมันจะไดรับการชี้นำความคิดทางสังคม และแมวที่มีอายุตั้งแต่ 7 สัปดาห์ขึ้นจะในช่วงนี้เป็นช่วงที่ได้รับการพัฒนาสังคมดีมาก เพราะฉะนั้นแมวที่ได้รับการจัดการในช่วงนี้จะมีพฤติกรรมทางสังคมดีมาก
อ้างอิง : http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/db_directory/cat/breed/cat_beavh.htm
ผลงานอื่นๆ ของ จอมเวทย์แห่งความมืด ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ จอมเวทย์แห่งความมืด
ความคิดเห็น