Traitman: Codex of Power

ดร. เดวิด ธอมป์สัน นักพันธุศาสตร์ผู้ปราดเปรื่องผู้หลงใหลในตําราโบราณอย่างลับๆ มีชีวิตสองหน้า เขาเจาะลึกรหัสซับซ้อนของรหัสพันธุกรรม(DNA)เพื่อพยายามไขความลับของวิวัฒนาการ ในตอนกลางคืนเขาจมดิ่งตัวเองในตำราฝุ่นจับของห้องสมุดที่เขาทํางานค้นหาแรงบันดาลใจจากตํานานที่ถูกลืม

ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะเข้าใจศักยภาพที่ไม่ได้ใช้ภายในจีโนมมนุษย์ เดวิดจึงเริ่มทำการทดลองต้องห้าม เขาได้รับแรงบันดาลใจจากข้อความที่คลุมเครือในต้นฉบับที่หายากเขาสร้าง "ศิลาลักษณ์(Traitstone)" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อปลดล็อกภาษาสากลของรหัสพันธุกรรมที่จะทำให้เข้าถึงลักษณะทางพันธุกรรมใด ๆ ได้ทั้งหมด

แต่การทดลองกลับพลิกผันอย่างหายนะศิลาลักษณ์เกิดระเบิดหลอมรวมกับรหัสพันธุกรรมของเดวิด ในแสงวาบที่ทําให้ไม่เห็นอะไรเขาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปพร้อมกับพลังในการดูดซับและจัดการลักษณะของใครก็ตาม เขาไม่ใช่แค่เดวิดอีกต่อไป แต่เป็นเทรตแมน(Traitman)ผู้ซึ่งประมวลเป็นศักยภาพทางพันธุกรรมป็นที่เดินได้(codex of genetic potential)

ในตอนแรกเทรตแมนสนุกสนานในความสามารถที่เพิ่งค้นพบของเขา เขาสามารถรักษาคนป่วย เลียนแบบทักษะของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ และแม้แต่ใช้ประโยชน์จากความสามารถที่ซ่อนอยู่ของคนธรรมดา ความมืดก็คืบคลานเข้ามา กระซิบถึงความทรงจําที่ถูกลืมและสัญชาตญาณเบื้องต้น เขาเริ่มสูญเสียการควบคุมทําให้เส้นแบ่งระหว่างตัวเขากับคนที่เขาซึมซับพร่ามัว

ขณะที่เทรตแมนพยายามควบคุมพลังของเขา องค์กรเงาที่เรียกว่าโครมาคอร์บ(Chroma Corps)ได้เรียนรู้ถึงการมีอยู่ของเขา พวกมันเห็นเขาเป็นอาวุธและกุญแจสําคัญในการปลดล็อกพลังพันธุกรรมขั้นสูงสุด พวกมันตามล่าเขามุ่งมั่นที่จะควบคุมเขาและเปลี่ยนโฉมโลกในภาพของพวกมัันต้องการ

เทรตแมนถูกบังคับให้เลือกระหว่างความคิดทางวิทยาศาสตร์และพลังที่กําลังพัฒนาของเขา เริ่มต้นการเดินทางที่สิ้นหวังเพื่อค้นหาแหล่งที่มาของพลังของศิลาลักษณ์และปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของมัน เขาต้องถอดรหัสความลับที่ซ่อนอยู่ในรหัสพันธุกรรมของเขาเองและตําราโบราณที่กระตุ้นการวิจัยของเขา ทั้งหมดนี้ในขณะที่ต้องคอยหลบเลี่ยงโครมาคอร์ปและเผชิญกับผลข้างเคียงอันมหึมาของการเปลี่ยนแปลงของเขา

ภารกิจของเขาพาเขาข้ามทวีปต่างๆ ตั้งแต่ห้องทดลองที่พลุกพล่านของซิลิคอนวัลเลย์(Silicon Valley)ไปจนถึงซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณที่ถูกลืม เขาได้พบกับพันธมิตรที่แบ่งปันความอยากรู้อยากเห็นทางวิทยาศาสตร์และศัตรูที่กระหายพลังของเขา เขาได้เรียนรู้ว่าศิลาลักษณ์ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวาระของตัวเองและกุญแจที่แท้จริงในการปลดล็อกศักยภาพไม่ได้อยู่ที่วิทยาศาสตร์ แต่อยู่ที่การทําความเข้าใจจิตวิญญาณของมนุษย์

ในที่สุดท้ายเทรตแมนต้องเผชิญหน้าไม่เพียง แต่โครมาคอร์ปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมืดภายในตัวเขาด้วย เขาต้องเลือกว่าจะยอมรับพลังมหึมาที่เขาเป็นหรือหาวิธีควบคุมและใช้มันให้เกิดประโยชน์ ชะตากรรมของมนุษยชาติแขวนอยู่ในความสมดุลเมื่อเทรตแมนต่อสู้เพื่อไขปริศนาของศิลาลักษณ์และกําหนดอนาคตของการดํารงอยู่ของเขาเอง