ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟูจิวาระ

    ลำดับตอนที่ #24 : บทส่งท้าย Part 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 259
      9
      8 พ.ค. 63


    ฟูจิซากิ อาคาริ (นักศึกษาปี 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮิโตะสึบาชิ)

    อาคาริในวัย 20 ยังคงอ่อนหวาน อ่อนโยน และอยู่เคียงข้างฮิคารุตลอดมาดังที่เธอได้ให้คำสัญญาไว้

    สี่ปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเธอกับฮิคารุไม่ได้เรียบง่าย ซ้ำยังขึ้นๆ ลงๆ ราวกับเล่นรถไฟเหาะ วัยมัธยมของเธอผ่านไปโดยไม่มีฝ่ายไหนเอ่ยปากสารภาพรักก่อน ฮิคารุมุ่งมั่นกับโกะและอาคาริก็มุ่งมั่นกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

    จุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์คือตอนที่เธอเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย อาคาริได้พบโลกกว้าง โลกที่หนุ่มสาวคบหากันแบบผู้ใหญ่ พวกเขามีความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของตัวเอง กล้าแสดงออกถึงสิ่งต้องการ กล้ารักแม้ว่าจะเจ็บปวด กล้าฝันถึงอนาคตร่วมกัน นั่นทำให้ความรู้สึกของอาคาริตกตะกอน ดังนั้น วันหนึ่ง ในเวลาที่เธอเห็นว่าเป็นโอกาส เธอจึงสารภาพรักออกไป

    “เป็นแฟนกันนะ ฮิคารุ”

    “เอ๋? ” ฮิคารุแทบหงายหลังกับการจู่โจมของเธอ แต่อาคาริสู้ไม่ถอย

    “ชั้นชอบฮิคารุมาตลอด ไม่เคยชอบน้อยลงเลย”

    “อ่า….”

    “ชั้นน่ะ อยากเป็นคนพิเศษของฮิคารุ อยากทำทุกอย่างที่คนรักกันเขาทำกัน”

    “เธอพูดอะไรของเธอเนี่ยยัยบ้า! ทำไมฟังแล้วมันติดเรทแปลกๆ ” ฮิคารุแสดงออกด้วยอารมณ์แบบเด็กๆ แต่อาคาริดูออกว่าเขาแค่กลบเกลื่อนความเขิน

    ฮิคารุไม่ได้ตอบรับ ไม่ได้พูดปฏิเสธ แต่หลังจากวันนั้นเขาก็ปฏิบัติกับอาคาริอย่างคนเป็นแฟนกัน เป็นช่วงเวลาที่อาคาริมีความสุขที่สุด

    แต่ช่วงเวลานั้นอยู่ได้ไม่นาน พออาคาริขึ้นปีสอง ฮิคารุเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นและยุ่งอยู่แต่กับการแข่งโกะ อาคาริเข้าใจว่าเขาไม่ค่อยมีเวลาจึงพยายามสนับสนุนอย่างเต็มที่ในฐานะแฟน แต่ฮิคารุกลับรำคาญที่อาคาริชอบมาเยี่ยมที่ชมรมศึกษาโกะของเขา และดูจะไม่ค่อยชอบที่เธอโผล่ไปตามงานแข่งต่างๆ ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปดูเกมได้ ทั้งสองคนทะเลาะกันบ่อยขึ้น ฮิคารุหงุดหงิดง่าย ส่วนอาคาริก็มีความน้อยใจสะสมเป็นระเบิดเวลา

    อาคาริไม่เข้าใจเลย พวกหนุ่มนักกีฬาที่มหาลัยของเธอต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่แฟนสาวของพวกเขามาเชียร์ให้กำลังใจติดขอบสนามกันทั้งนั้น แต่ฮิคารุกลับไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เธอทำเลยสักนิด

    ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน อาคารินึกอยากทำข้าวกล่องเป็นอาหารกลางวันให้ฮิคารุ แต่เธอคงกะเวลาไปถึงสมาคมโกะผิดพลาด และฮิคารุก็คงไม่ได้เช็คโทรศัพท์ อาคาริชะแง้มองอยู่ที่ประตูหน้า รู้ตัวว่าคลาดกันกับฮิคารุเมื่อเธอเจอเข้ากับโทยะคุง

    “สวัสดีครับ คุณฟูจิซากิ” โทยะเป็นฝ่ายทักก่อนและพอทราบคำถามของเธอเขาก็ตอบคำถามทันที “ชินโดออกไปทานข้าวข้างนอกกับเพื่อนๆ ของเค้าน่ะครับ”

    “อา_ จริงสินะคะ”

    “คุณฟูจิซากิจะเข้ามาก่อนไหมครับ? เดี๋ยวอีกไม่นานชินโดก็กลับมาแล้ว”

    เธอเดินตามโทยะต้อยๆ เข้าไปในตึกสมาคมโกะ ตึกเก่า ตกแต่งเรียบง่ายสะอาดตาชวนให้นึกถึงสถานที่ราชการ โทยะพาเธอมาที่ชั้นสองซึ่งเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาเล่นโกะได้ กลางวันวันธรรมดามีคนนั่งอยู่บางตา แต่ถึงอย่างนั้นสายตาทุกคู่ก็จับจ้องที่โทยะทันที

    อาคารินั่งตัวแข็งเกร็ง ที่นี่ไม่มีอะไรเหมือนชมรมกีฬาที่มหาลัย บรรยากาศวังเวงเงียบขรึม ทุกคนอยู่ในอิริยาบถที่ใช้สมาธิ

    เธอกับโทยะพูดคุยเรื่องทั่วไปอยู่ครู่หนึ่ง สองปีผ่านไปโทยะยังคงอ่อนโยนและให้คำแนะนำดีๆ เสมอ แม้เขาจะดูเศร้าๆ ตอนที่เธอถามถึงคุณทาคาสึคาสะ หลังจากนั้นฮิคารุก็โทรกลับมา และมาพบเธอที่นั่งคอยอยู่กับอากิระ

    “อาคาริ มานี่” ฮิคารุเรียกเธอด้วยเสียงต่ำ กอดอกทำหน้าถมึงทึง ไม่แม้แต่จะทักทายคู่แข่งตลอดกาล

    อาคาริเดินตามฮิคารุออกไปจากตึกสมาคม ฮิคารุโกรธจนเงียบ และนั่นทำให้อาคาริใจเสีย ปกติฮิคารุเป็นคนอารมณ์ดี โวยวายใส่เธอบ้างยามหงุดหงิดตามประสา แต่ไม่สักครั้งที่ฮิคารุจะโกรธ

    “เธอคิดยังไงถึงมาที่นี่ นี่มันที่ทำงานของชั้นนะ ทุกคนเค้าจริงจังกันทั้งนั้น ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมาเที่ยวเล่น” ฮิคารุตำหนิรุนแรง จากนั้นทั้งคู่ก็ทะเลาะกันใหญ่โต

    ความน้อยใจพรั่งพรูออกมา อาคาริตัดพ้อยืดยาวถึงพฤติกรรมของฮิคารุ เขาไม่ใส่ใจ ไม่เคยมีเวลาให้เธอ อาคาริเสียอีกที่ทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียว ไหนจะพวกสาวๆ ในวงการที่ตีเนียนจีบโดยอาศัยความเป็นกันเองของฮิคารุอีก

    “งั้นเลิกกันดีกว่ามั้ยถ้าเธอรู้สึกลำบากขนาดนั้น? ” ฮิคารุเอ่ยเสียงดุดัน “ชั้นเสียเวลากับเธอไม่ได้แล้ว แข่งรอบบ่ายกำลังจะเริ่ม” เขาหมุนตัวหันหลังจากไป ในมือกำพัดประจำกายไว้แน่น

    งั้นเลิกกัน…..

    จริงอย่างที่เขาว่ากัน ความอกหักจากรักครั้งแรกนั้นเจ็บปวดที่สุด ช่างน่าเจ็บใจเหลือเกินที่ถึงฮิคารุจะหายไปดื้อๆ เธอก็ยังคงเฝ้าคิดถึง เฝ้าติดตามข่าวของเขาตลอด ยังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นชื่อของฮิคารุในรายการโกะทางทีวี เธอรักฮิคารุมากเกินกว่าจะโกรธ

    อาคาริจำไม่ได้ว่าเธอเลิกกับเขาไปนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีเธอก็ขึ้นปีสาม และฮิคารุก็กลับมา

    วันนั้นเป็นช่วงที่ฮิคารุกำลังจะเดินทางไปแข่งขันรายการ Samsung cup ที่เกาหลีพอดี น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เขายุ่งมากด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่หอพักของเธอ โวยวายเสียงดังจนแทบจะตะโกน

    “เธอหายไปไหนมาตั้งนาน? ชั้นไม่ได้จะเลิกกับจริงๆ ซะหน่อย ยัยโง่! ” ฮิคารุคว้าเธอเข้ามากอดและจูบร้อนแรงอย่างที่อาคาริไม่ทันตั้งตัว อาคาริร้อนผ่าวไปทั้งตัว แทบละลายลงไปกับพื้น เขาไม่เคยจูบแบบนี้มาก่อนเลย จูบแบบผู้ใหญ่……

    นึกถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมาทีไรหญิงสาวก็อดอมยิ้มทุกที

    หลังจากนั้นฮิคารุก็ชนะเลิศการแข่งขันรายการนั้น อาคาริกับครอบครัวชินโดน้ำตาซึมด้วยความดีใจและภูมิใจในตัวฮิคารุ พิธีรับใบประกาศเกียรติคุณในฐานะนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศญี่ปุ่นจัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม ฮิคารุดูสง่างามในชุดยูกาตะสีดำ-ชุดพิธีการของนักเล่นโกะ พร้อมเหน็บพัดประจำกายของเขาไว้ที่เอว ขณะที่ก้าวขึ้นไปรับใบประกาศฯ จากมือของรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและกีฬา

    อาคาริในชุดกิโมโนสีฟ้าอ่อนถ่ายรูปร่วมกับครอบครัวชินโด จากนั้นก็รูปคู่ของเธอกับฮิคารุที่ยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข รูปคู่ที่เธอใส่กรอบไว้อย่างดีพร้อมคาดหวังว่าครั้งหน้าที่เธอใส่กิโมโนถ่ายรูปคู่กับฮิคารุอีกคงเป็นวันแต่งงาน

    ‘เพ้อฝันไปเรื่อยอีกแล้วเรา ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกน่ะ’ อาคาริทอดถอนใจกับตัวเอง

                                                      

    ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านคากุระซากะ

    ชื่ออีเวนต์-ปาร์ตี้คริสต์มาสของโปรโกะสายเที่ยว

    เป็นธรรมเนียมในหมู่มืออาชีพหนุ่มสาวว่าโปรโกะที่ทำรายได้สูงสุดจะเป็นเจ้าภาพจัดงานคริสต์มาสปาร์ตี้เพื่อปลดปล่อยความเครียดจากการเคี่ยวกรำตัวเองต่อหน้ากระดานโกะมาตลอดทั้งปี ซึ่งในปีนี้ตำแหน่งเจ้าภาพตกเป็นของคุณคุราตะสายเปย์ที่ปีนี้ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านเยนต่อเนื่องเป็นปีที่สอง

    ฮิคารุ คิคุนะกับเพื่อนแก๊งอินเซย์มาถึงที่ร้านเป็นกลุ่มแรกๆ คุณคุราตะสั่งเนื้อย่างเกรดหรูกับเบียร์ไม่อั้น บรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเองอย่างที่ถ้าคนนอกมองเข้ามาไม่มีทางรู้ว่านี่คือนักเล่นโกะที่ห้ำหั่นกันอย่างไร้น้ำใจในยามหันหน้าเข้าหากระดานโกะ

    วายะพาเพื่อนคนนอกมาร่วมปาร์ตี้ด้วยคนหนึ่งที่ช่างจ้อไม่หยุด ฮิคารุไม่ได้ตั้งใจฟังนักแต่ก็จับใจความได้ว่าหมอนี่กำลังทำให้คอมพิวเตอร์เล่นโกะเก่งเท่ามือหนึ่งโลก พาลให้คุณคุราตะกับนักเล่นโกะบางคนที่ชักจะกึ่มได้ที่ก็ถกเถียงกันออกรสออกชาติเรื่องอนาคตของวงการโกะ

    ‘ไร้สาระชะมัด จะเป็นคนหรือคอมก็มาเถอะ พร้อมเสมอ’ ฮิคารุคิดในใจขณะที่นั่งลุ้นว่าเหตุการณ์จัดฉากให้
    อากิระกับคิคุนะเจอกันจะออกมาเป็นแบบไหน หัวหรือก้อย และเขาจะโดนโกรธมั้ยนะ

    เขาโทรชวนคิคุนะมาแบบกะทันหัน ซึ่งตอนแรกเธอก็อิดออดว่าจะไม่เหมาะสมรึเปล่าเพราะเธอเป็นคนนอกวงการ แต่อาจารย์คุราตะจอมเล่นใหญ่เป็นฝ่ายยืนกรานแกมบังคับว่าอดีตแชมป์โลกมือสมัครเล่นและสปอนเซอร์รายใหญ่ยักษ์อย่างคิคุนะน่ะวงในสุดๆ ต่างหาก เพราะฉะนั้นต้องมา ส่วนฮิคารุก็สำทับลงไปอีกทีให้เธอสบายใจว่าอากิระไม่มางานสังสรรค์พรรค์นี้หรอก

    เป็นคำโกหกคำโต อาจจะใช่ถ้าเป็นอากิระวัยสิบหกที่หยิ่งยโสจนไม่มีเพื่อนสักคน แต่อากิระในตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว อาจจะไม่ได้ถึงขั้นเฮฮาไปไหนไปกันแบบคนเพื่อนเยอะอย่างฮิคารุ แต่ถ้าเป็นรุ่นพี่ที่หมอนี่ยอมรับนับถืออย่างคุณคุราตะล่ะก็...

    ในที่สุดอากิระก็โผล่มาพร้อมกับโอจิและพวกศิษย์สำนักโทยะ คู่แข่งตลอดกาลของฮิคารุชะงักตั้งแต่เปิดประตูร้าน คิคุนะในชุดเดรสสีขาวกับผ้าพันคอลายดอกเบญจมาศผืนโปรดของเธอยืนพูดคุยอยู่กับกลุ่มผู้หญิง อากิระเป็นฝ่ายเห็นคิคุนะก่อนแต่ก็ยังเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารเงียบๆ อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    จากนั้นก็เป็นตาของคิคุนะที่สังเกตเห็นอากิระ ถึงตรงนี้ฮิคารุลุ้นหัวใจแทบวาย กลัวยัยคิคุนะจะผลุนผลันวิ่งหนีออกจากร้านไป แต่ก็ไม่ เธอหันกลับไปฟังมืออาชีพสาวๆ พูดคุยเรื่องซุบซิบในวงการกันต่อ

    นับว่าฮิคารุเดาถูกครึ่งหนึ่ง คิคุนะอยากจะทำแบบนั้น ความรู้สึกทั้งหลายประดังประเดเข้ามาราวกับทำนบแตกเมื่อเห็นหน้าอากิระ แต่เธอไม่ใช่เด็กอายุสิบหกอีกแล้ว 

    'มันก็แค่คำสัญญาโง่ๆ ตอนวัยรุ่น' หญิงสาวคิดในขณะที่พยายามโฟกัสกับบทสนทนาว่าด้วยการแต่งงานสายฟ้าแลบของอาจารย์โองาตะ ไม่หันไปมองอากิระที่ก็ดูพยายามจะไม่มองมาทางเธอเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว

    “ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” คิคุนะลุกหายไปหลังร้าน เธอไม่ได้ไปห้องน้ำแต่เดินทะลุออกมาที่ตรอกแคบด้านหลัง โคมไฟสีส้มสลัวของบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณแขวนเรียงกัน กำแพงไม้มีกระถางต้นไม้เล็กๆ แซมเป็นระยะเหมือนเธอกำลังอยู่บนถนนกิออนขนาดย่อส่วนกลางกรุงโตเกียว

    หญิงสาวหลับตาสูดหายใจลึกยาวราวกับต้องการให้อากาศหนาวของเดือนธันวาคมแช่แข็งความรู้สึกในใจให้ด้านชาไปซะ

    เสียงคนกระชากประตูไม้เปิดออก

    “คิคุนะซัง”

    เสียงของอากิระ หญิงสาวในชุดเดรสตัวบางยืนตัวสั่นเพราะความหนาวอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าหันกลับไปเพราะเกรงว่าเขาจะเห็นสีหน้าของเธอ

    อากิระรีบถอดเสื้อโค้ตของตัวเองมาคลุมให้คิคุนะจากข้างหลัง

    “อย่า_ชั้นหมายถึง_ขอโทษด้วยอากิระซัง ชั้นไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง มันไม่ง่ายเลย” คิคุนะเสียงสั่น

    “แล้วเธอคิดว่ามันง่ายสำหรับชั้นเหรอ?”

    คิคุนะหันหลังกลับไปเจ้าของเสียงเย็นชา

    อากิระเปลี่ยนไปมาก เขาตัวสูงขึ้น ไหล่กว้าง เปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนการแต่งตัว แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือดวงตาสีมรกตที่มองเธอด้วยสายตาอ่อนโยนปนเศร้า เธอเกลียดสายตาของอากิระ

    “ไม่รู้สิ” เธอรู้สึกดวงตาร้อนผ่าวเหมือนกำลังจะร้องไห้ “นายเลือกทิ้งชั้น ก็เพราะมันง่ายกว่าไม่ใช่เหรอ?”

    “ไม่ใช่” อากิระเอ่ยเสียงเบา

    “ชั้นคิดมาตลอดว่าถ้าชั้นเจออากิระซังอีก ชั้นจะพูดว่าอะไรดี แต่สุดท้ายก็คิดไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าจะทักทายหรือบอกลา ขอบคุณ...หรือขอโทษถ้าชั้นทำอะไรผิดไป แต่ชั้นคิดไม่ออกจริงๆ ตอนนี้ชั้นแค่รู้สึกแย่มาก..” เสียงของเธอขาดเป็นห้วงๆ

    อากิระมองร่างโปร่งบางตรงหน้าด้วยสายตาเจ็บปวดไม่แพ้กัน เขาอยากบอกคิคุนะว่า ไม่ใช่เลย เธอไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่ผิดคือเขาเองทั้งหมด

    เพราะเขาอยากเป็นคนที่คู่ควร เขาจึงตั้งเงื่อนไขว่าจะคบกับคิคุนะเมื่อเขาได้เป็นเมย์จิน แต่เมื่อเวลาผ่านไป
    อากิระก็ตระหนักได้ว่าการที่คิคุนะต้องรอเขา...คนที่อยู่ห่างไปครึ่งโลก คนที่ไม่สามารถอยู่เคียงข้างได้ยามที่เธอรู้สึกเหงาหรือเป็นทุกข์นั้นคือความเห็นแก่ตัว และยิ่งอากิระทะเยอทะยานจะประสบความสำเร็จมากเท่าใด เขาก็ตระหนักได้อีกข้อว่าต่อให้วันพรุ่งนี้เขาได้เป็นเมย์จินและได้คบหากับคิคุนะดังปรารถนา เขาจะไม่ใช่แฟนที่ดีของคิคุนะเลย

    ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คิคุนะอ่อนไหวเปราะบางและเป็นผู้ตาม เธอปล่อยให้อากิระมีอิทธิพลเหนือเธอมากเกินไป การเล่นโกะกับเขาถึงกับทำให้เธอทิ้งความฝันที่จะเป็นมืออาชีพ คำพูดของเขาทำให้เธอคิดมากเสมอ แล้วถ้าอากิระอยู่ในสถานะคนรัก ตัวตนของเขา ความไม่สนใจ ความเย็นชา ความทุ่มเทกับโกะอย่างไร้เส้นแบ่งเวลา จะทำร้ายคิคุนะ ทำให้เธอเป็นทุกข์ได้มากขนาดไหนกัน?

    และนั่นทำให้อากิระตัดสินใจเงียบหายไปเฉยๆ

    “แต่ที่ชั้นโกรธที่สุด คือนายทำให้ชั้นเจ็บปวดขนาดนี้ แต่ความรู้สึกของชั้นกลับไม่เปลี่ยนไปเลย…” คิคุนะพูดอะไรไม่ออกอีก ได้แต่ยกมือปิดปากกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ

    หญิงสาวพยายามไม่ร้องไห้แต่น้ำตาก็ไหลพรากออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทำไมกัน ทำไมเธอต้องกลายเป็นคนอ่อนแอเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าอากิระ

    อากิระใจสลายที่เห็นเธอร้องไห้ กำแพงในใจที่แข็งดังหินผาเหมือนถล่มลงมาต่อหน้า ใช่ ชินโดพูดถูก เขาทำผิดพลาดที่สุดในชีวิต เขาเลือกปล่อยคิคุนะไปโดยไม่ต่อสู้กับอุปสรรคอะไรก็ตามที่รออยู่ข้างหน้า ทิ้งให้เธอเจ็บปวดอยู่ลำพัง แล้วยังมีหน้ามาบอกกับตัวเองอีกหรือว่ารักผู้หญิงคนนี้?

    ชายหนุ่มคว้าหญิงสาวเข้ามากอดปลอบ รู้สึกถึงน้ำตาอุ่นๆ เปื้อนที่อกเสื้อ ลมหนาวของเดือนธันวาคมกรีดผ่านร่างของทั้งคู่

    “ชั้นขอโทษ” อากิระกอดเธอแน่นขึ้น กระซิบด้วยเสียงแผ่วเบานุ่มนวล “ยกโทษให้ชั้นนะ”

    คิคุนะค่อยๆ สงบลง ดวงหน้าอ่อนหวานแดงก่ำเลอะคราบน้ำตาแหงนมองเขาด้วยความหวั่นไหว

    อากิระสัญญากับตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันหายไปไหนอีก ถึงแม้ในอนาคตเขาอาจจะทำร้ายความรู้สึกของคิคุนะ ทำให้เธอต้องเจ็บปวดเสียน้ำตาอีกกี่ครั้งก็ตาม เขาจะแก้ไข จะรับผิดชอบ จะปกป้องทะนุถนอมเธอให้สมกับที่เธอมอบความรู้สึกอันแสนมีค่าให้กับเขา

    “เธอจะให้โอกาสชั้นอีกครั้งไหม?”

    ดวงตาคมโตสีม่วงสวยมีแววหวาดหวั่นลังเล อากิระไม่โทษเธอเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวหลับตาสูดหายใจเหมือนเรียกความเป็นตัวเองกลับมา เมื่อเธอลืมตาขึ้น คิคุนะที่ร่าเริงและมั่นใจในตัวเองก็กลับมาอีกครั้ง

    “ไม่ จนกว่านายจะเป็นเมย์จิน”

    อากิระยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เขามีให้คิคุนะเพียงคนเดียวเท่านั้น

    ทั้งสองจับมือกัน โดยไม่ได้เอ่ยคำใด ต่างฝ่ายต่างสัญญากับตนเอง แม้ว่าจะมีวันที่ทะเลาะกัน วันที่ไม่เข้าใจกัน วันที่ภาระหน้าที่ในชีวิตบดบังความสำคัญของอีกฝ่ายไป ก็จะไม่ยอมปล่อยมือคนคนนี้ไปง่ายๆ เด็ดขาด

                                                   

    โทยะกับคิคุนะหายไปจากงานปาร์ตี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จังหวะที่ฮิคารุกำลังจะกลับนั่นเอง อากิระก็เป็นฝ่ายโทรมา

    “นายเป็นใคร? โจรลักพาตัวรึไง? ” เขาแหย่เล่น

    “ถ้าชั้นเป็นโจรลักพาตัว นายก็เป็นคนบงการ” อากิระต่อปากต่อคำ โปรโกะหนุ่มรู้อยู่ในทีว่านี่คือการแสดงความขอบคุณและสำนึกผิดแบบโทยะ

    เขาไม่ถามอะไรอีกฝ่ายต่ออีก คนอย่างหมอนั่นคงยอมกัดลิ้นตายมากกว่าจะยอมเปิดเผยรายละเอียดอะไรออกมา คู่แข่งตลอดกาลของเขาอวยพรปีใหม่ล่วงหน้าและกล่าวลาก่อนจะวางสายไป

    หลายวันต่อมา ฮิคารุมาเห็นทีหลังจากตารางแข่งว่าอากิระแคนเซิลรายการทัวร์นาเมนท์และขอเลื่อนตารางแข่งช่วงต้นปีทั้งหมด เรียกว่าลาหยุดยาวเป็นเดือนๆ อย่างไม่แคร์สายตาใครทั้งสิ้นด้วยเหตุผลว่าเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งไปประเทศไหนกับใครนั้นก็ไม่ต้องสืบ

    เจ้าคนชื่อชิบาโนะที่กำลังสร้างสมองกลมาเป็นหัตถ์เทวะยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าร้าน เขาร้องทักเมื่อเห็นฮิคารุกำลังจะกลับ

    “ผมทราบจากคุณวายะว่าคุณรู้จักกับซาอิ” ชิบาโนะเริ่มต้น เมื่อเห็นฮิคารุทำหน้าดุใส่ก็รีบพูดต่อ “แหะๆ คือไม่มีอะไรหรอกครับ แค่วันนึงถ้าผมพัฒนา AI ขึ้นมาเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ ผมอยากเชิญมือที่เข้าใกล้หัตถ์เทวะที่สุดอย่างซาอิมาประลองกับ AI เท่านั้นละคร้าบ”

    ฮิคารุมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังขึ้นมาทันที รู้สึกถึงน้ำหนักของพัดประจำกายในกระเป๋าเสื้อสูท เขาเหยียดยิ้ม

    “ถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ก็ส่งคำเชิญมาได้เลย ผมจะเป็นคนที่เข้าใกล้หัตถ์เทวะที่สุดในฝั่งมนุษย์เอง” คำทิ้งท้ายที่อหังการจนชิบาโนะยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

    ไม่ต้องเป็นห่วงนะซาอิ ต่อจากนี้ไปชั้นคือตัวแทนของนาย

                                              

    มหาลัยที่อาคาริเรียนอยู่นอกตัวเมืองโตเกียว ใช้เวลาขับรถราวสี่สิบนาที เป็นคืนวันคริสต์มาสที่โตเกียวหิมะตก ฮิคารุหอบของขวัญและดอกไม้ช่อใหญ่ไปเซอร์ไพรซเธอกลางดึก

    “เฮ้! อาคาริ! อาคาริ!” เขายืนตะโกนเรียกเธอจากทางหน้าต่างห้องของหอพักสตรีเหมือนฉากในหนังรักวัยรุ่น ซึ่งเขาคงเสียงดังไปหน่อยเพราะห้องอื่นเปิดหน้าต่างออกมาชะโงกดูกันเป็นแถบๆ

    อาคาริในชุดวอร์ม หัวฟูเพราะกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการท่องหนังสือเปิดหน้าต่างออกมา เธอตะโกนกลับ

    “ฮิคารู้~~ ทำไมไม่โทรมาก่อนล่า”

    กลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่ท่องหนังสืออยู่กับเธอส่งเสียงแซววี้ดว้าย หญิงสาวรีบคว้าเสื้อกันหนาวที่ใกล้มือที่สุด ฉวยลิปมันทาปากขณะวิ่งลงลิฟท์มาหาเขา

    “หายไปหลายวันอีกแล้วนะ” อาคาริทำเสียงงอนแต่ดวงตานั้นส่องประกายสดชื่นแจ่มใสเหมือนแสงดาวในคืนเดือนหนาว

    “ก็ยุ่งหลายเรื่อง ชั้นไปจัดการเรื่องเจ้าโทยะกับยัยคิคุนะมาด้วย สองคนนั้นนี่จริงๆ เลยทำให้ท่านชินโดต้องออกแรง”

    อาคาริตาโตเป็นไข่ห่าน สีหน้าตื่นเต้นดีใจสุดขีด “จริงหรอ ดีจัง ในที่สุดโทยะคุงก็ไม่เศร้าแล้วเนอะ”

    ฮิคารุยื่นช่อดอกไม้หลากสีสันให้เธอต่อหน้านักศึกษาหญิงคนอื่นๆ ที่ส่งเสียงเชียร์ทั้งคู่จากทางหน้าต่างเป็นแบคกราวน์อยู่ข้างหลัง

    “ให้ดอกไม้อย่างเดียวได้ไง ต้องจูบด้วยสิ! ” คนหนึ่งที่ดูแสบๆ หน่อยตะโกนออกไป

    อาคาริหน้าแดงซ่าน รีบโบกไม้โบกมือร้องห้าม แต่สาวๆ บนตึกหอพักก็ไม่หยุด ตะโกนเชียร์กันใหญ่ “จูบเลย! จูบเลย! จูบเลย! ”

    “อ๋า~~น่าอายจัง ขอโทษแทนเพื่อนๆ ชั้นด้วยนะ เด็กมหาลัยก็แบบนี้ล่ะ เรียนหนังสือหนักจนบ๊องกันไปหมด” อาคาริก้มหน้างุด หน้าแดงจนถึงหู

    ฮิคารุอมยิ้ม อยากให้เล่นใหญ่ไฟกระพริบงั้นเหรอ? เขากระชากอาคาริเข้ามาในอ้อมแขนโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวก่อนจะประทับจูบหวานละมุนที่ริมฝีปากเธอต่อหน้าธารกำนัลที่ส่งเสียงฮือฮา กรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่ สาวๆ ทั้งหลายอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถบที่อาคาริมีแฟนเป็นหนุ่มฮอทโรแมนติกราวกับหลุดมาจากการ์ตูนโชโจ

    เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก ทั้งคู่สบตากัน ฮิคารุมองลึกเข้าไปในแววตาที่ไม่เคยเปลี่ยนไปของเธอ พลันภาพความทรงจำดีๆ ทั้งหลายที่อาคาริทำให้เขาก็หลั่งไหลเข้ามา

    ใช่ เขาเป็นคนโชคดีที่ได้รับพรมากมาย เทพเจ้าแห่งโกะทั้งประทานพรสวรรค์ให้ ประทานซาอิมาเป็นผู้นำทางสู่หัตถ์เทวะ ประทานชัยชนะทั้งหลายให้จนเขาได้ยืนอยู่แถวหน้าในวงการ แต่อาคาริ อาคาริคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด เธอคือคนที่ร่วมชื่นชมและทำให้พรทั้งหลายเหล่านี้มีความหมายขึ้นมา

    เธอคือคนที่เขาจะอยู่เคียงข้างไปตลอดชีวิต 

                                                 

    Writer's talk: จบจริงๆ แล้วค่ะ พาร์ทนี้ลงรายละเอียดความรักของสองคู่หลักแบบเคลียร์ๆ 

    คิคุนะxอากิระ: คู่นี้จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้คบกันจริงจังค่ะ คิคุนะอุตส่าห์ร้องไห้เสียน้ำตาจนผู้ชายใจอ่อนยอมทุกอย่างแล้วดันเอาเงื่อนไขเดิมมาย้อนเค้าซะอย่างนั้น ก็ทนรอต่อไปจนกว่าอากิระจะได้เป็นเมย์จิน แค่ไม่ต้องรอแบบเคว้งคว้างเหมือนเดิมแล้วเพราะฝ่ายชายปักธงว่าต่อจากนี้คือเดินไปด้วยกัน 

    เราไม่เขียนให้คู่นี้มีเลิฟซีนเพราะ คิคุนะxอากิระ เป็นประเภทใช้สมองนำหัวใจค่ะ บอกรักยังไม่บอกเลยเลิฟซีนก็รอไป ถึงในใจจะรักกันขนาดไหนก็ไม่กล้าคิดไปก่อนว่าอีกฝ่ายเป็น the one จนกว่าจะเคลียร์ทุกเงื่อนไขค่ะ เอาเป็นว่ามองไปข้างหน้าไกลๆ คือ end game แต่คงได้ไปงานแต่งฮิคารุxอาคาริก่อน

    ฮิคารุxอาคาริ: คือเขียนสนุกมาก เราเขียนให้อาคาริบอกชอบฮิคารุก่อนเพราะเราตีความว่าเธอเป็นฝ่ายนำในความสัมพันธ์มาตลอดค่ะ อาคาริเป็นสาวจิตใจมั่นคงแบบคนอ่อนนอกแข็งใน สังเกตได้จากมังงะเลยว่าฮิคารุชอบข่มชอบว่าแต่อาคาริไม่สะเทือนเลย เป็นสาเหตุที่ถึงแม้ฮิคารุจะนิสัยไม่ดี ไม่สนใจเธอบ้างแบบนิสัยเด็กผู้ชายอาคาริก็เข้าใจและประคองความสัมพันธ์มาได้ 

    ส่วนฮิคารุก็คือเสร็จอาคาริค่ะ เจอผู้หญิงแบบนี้ วันที่รู้ตัวว่าขาดไม่ได้นี่วิ่งกลับมาง้อแทบไม่ทัน ฮิคารุเป็นประเภทใช้สัญชาตญาณนำค่ะ ถ้าใจบอกใช่คือใช่ อาคาริก็ตัดชุดแต่งงานรอได้เลย คู่นี้ happy ending 

    เลิฟซีน-ภาพฮิคารุตอนโตนี่หนุ่มฮอทแบบพระเอกมังงะโชโจเลยนะคะ ประสบความสำเร็จตอนอายุน้อย มีชื่อเสียง หน้าตาดี เฟรนด์ลี่ ขี้เล่น แต่บทจะจริงจังก็เข้มเลย และอย่างที่บอกว่าโกะของฮิคารุเต็มไปด้วย
    เซอร์ไพรซ เลิฟซีนก็ต้องตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้โกะค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×