ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟูจิวาระ

    ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องราวหลังจากนั้น

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 63





    เดือนพฤษภาคม

    1 วันหลังจากความพ่ายแพ้ของทีมญี่ปุ่น

    เสียงเปิดประตูบวกกับเสียงฝีเท้าของวัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่ง ทำให้ชาวเกาหลีในร้านเล่นหมากล้อมถึงกับชะงักหยุดมือไป

    “มาก่อนเวลานะ ชินโด” ฮอง ซูย่ง พูดขึ้นด้วยเสียงอันดัง สีหน้าจริงจังขึงขังเหมือนจะแข่งชิงถ้วยโฮคุโตะอีกรอบก็ไม่ปาน

    “อรุณสวัสดิ์ ซูย่ง” ฮิคารุยิ้มรับ แม้สีหน้าจะอิดโรยจากศึกหนักเมื่อวาน แต่ดวงตานั้นเปล่งประกายเจิดจ้า “โทษทีที่มีแขกไม่ได้รับเชิญมากไปหน่อย” เขาพยักพเยิดไปทางกลุ่มคนข้างหลัง อันประกอบด้วยทีมญี่ปุ่นคืออากิระกับยาชิโร่ พ่วงด้วยคุณอิสึมิ วายะ และโอจิ

    เป็นข้อตกลงระหว่างซูย่งกับฮิคารุว่าทั้งสองจะมาเจอกันนอกรอบที่ร้านเล่นโกะเดิม 1 วันหลังการแข่งขันชิงถ้วยโฮคุโตะเสร็จสิ้น

    “ไม่เป็นไร ชั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเหมือนกัน” ซูย่งชี้ไปที่มุมด้านในสุดของร้านที่เป็นมุมหลบสายตา ร่างสูงโปร่งของโคยงฮาปรากฏขึ้น ตามด้วยอิมอิลวานกับเด็กผู้หญิงเค็งคิวเซย์อายุพอๆ กับซูย่งที่ฮิคารุไม่รู้จัก

    ‘เอาล่ะสิ มันจะแข่งกันนอกรอบยกทีมรึเปล่านะ’ วายะคิดในใจ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่สนหรอก เขามาที่นี่เพื่อกระดานของฮิคารุกับซูย่งเท่านั้น

    โคยงฮายังมีท่าทียโสโอหังไม่เปลี่ยน คงยังรู้สึกเคืองๆ ฮิคารุไม่หาย เขากระซิบบอกกับซูย่งว่า

    “ชั้นอยากแข่งกับโทยะ อากิระ”

    “นี่ โทยะ….” ซูย่งแปลไม่ทันจบประโยค

    “ชั้นรู้แล้ว” โทยะตอบกลับเป็นภาษาเกาหลีทันที “ตกลง”

    “รีบตอบทันทีเชียว คงเครียดกับข่าวลือในเนทที่ว่า โทยะ อากิระ มือ 1 ทีมญี่ปุ่น กลัวเสียหน้าที่ต้องมาแพ้ให้ชั้น ถึงให้ชินโดมาเป็นมือ 1 เอาล่ะๆ เพื่อรักษาหน้าให้นาย ถ้าชนะชั้นวันนี้จะไปแก้ข่าวลือให้” โคยงฮาเอ่ยเป็นภาษาเกาหลีซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นมีแต่อากิระเท่านั้นที่เข้าใจ แต่คนอื่นก็พอจะเดาๆ ได้ว่าเป็นคำท้าทายจากท่าทางและสายตายียวนน่าหมั่นไส้ของเขา

    "มันพูดว่าอะไร?" ยาชิโร่ถาม

    โทยะไม่ตอบ แต่ตรงรี่ไปที่เก้าอี้ว่างตัวหนึ่งทันที บรรดาลูกค้าแตกฮือเป็นวง รุมล้อมชมการดวลหมากของคู่เด็ด โทยะ อากิระ VS โคยงฮา

    ‘ฮึ่ม เจ้าบ้าโทยะ ชอบขโมยซีนชั้นเรื่อย’ ฮิคารุนั่งลงตรงข้ามซูย่ง ทั้งสองหันหน้าเข้ากระดานโกะแล้วเริ่มแข่งขัน ลูกค้าในร้านแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มใหญ่ล้อมรอบกระดานของโคยงฮากับโทยะ กลุ่มเล็กยืนรอชมกระดานของเขากับซูย่ง

    อิมอิลวานเดินเข้ามาสะกิดยาชิโร่ ด้วยภาษาใบ้ที่เข้าใจกัน ทั้งสองก็นั่งลงเล่น เปิดวงดวลหมากขึ้นอีกวง โอจิก็ไปขอเด็กผู้หญิงชาวเกาหลีคนนั้นเดินหมากด้วย

    วายะนั่งลงข้างๆ ฮิคารุ จับจ้องทุกตาที่ 1 ดั้งผู้เป็นม้ามืดแห่งวงการเดินตอบโต้อีกฝ่าย คุณอิสึมิก็เช่นเดียวกัน

    ช่วงกลางเกม

    เพียะ ฮิคารุวางเม็ดหมากดำให้หมากขาวต้องถอยร่นเข้าไปปกป้องพื้นที่ตนเอง ซูย่งวางมือครุ่นคิดอยู่เนิ่นนานทันที

    เพียะ! แทนที่จะถอย ซูย่งกลับหนีบโจมตี ทำให้ช่วงกลางเกมเข้าสู่การ fighting ทันที

    หนึ่งชั่วโมงผ่านไป การแข่งขันจบลง

    “ชั้นชนะครึ่งแต้ม” ฮิคารุเงยหน้าขึ้นมา สายตามุ่งมั่นนั้นแทบจะซ่อนความดีใจไว้ไม่มิด ซูย่งขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจนิดหน่อย

    “ถ้าต่อหกแต้มครึ่งแบบเกาหลีนายก็แพ้ไปแล้ว” ซูย่งยักไหล่ ทั้งสองเติบโตขึ้นมากพอที่จะทิ้งอารมณ์โกรธแบบเด็กๆ แล้วหันมาเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากความพ่ายแพ้มากกว่า

    “เอาเป็นว่าถ้าเป็นในญี่ปุ่นนี่ยังไงชั้นก็ชนะนาย” ฮิคารุยิ้มกวน “แล้วไว้แข่งกันต่อปีหน้า” เขายื่นมือออกไป ซูย่งลังเลนิดหนึ่งก่อนจะจับมือด้วย

    “ฮื่อ ไว้เจอกันปีหน้า”

    ฮิคารุชะโงกหน้าไปดูกระดานระหว่างอากิระที่ถือหมากดำกับโคยงฮาที่ถือหมากขาว หลังจากปะทะแลกหมากกันแบบบู๊แหลกทั้งกระดานแล้ว หมากขาวกำลังเล่นโคะเพื่อดิ้นรนเอาชีวิตรอดในพื้นที่ของหมากดำ ในสายตามืออาชีพทุกคนต่างมองออกว่า ถ้ามองให้ทั่วกระดานแล้ว กลุ่มหมากดำอยู่ในสภาพล่อแหลมให้หมากขาวขู่โคะได้มากกว่า เพราะฉะนั้นโคยงฮาจะชนะโคะทิ้งห่างหมากดำไปอีกหลายแต้ม อากิระเองก็รู้ดี ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นครุ่นคิดหนักเหมือนเครื่องยนต์ที่ทำงานเต็มสูบ โคยงฮาก็ยังดูไม่ค่อยมั่นใจว่าจะชนะ เพราะยังคงจ้องกระดานตาไม่กระพริบ

    “แพ้แล้วครับ” ในที่สุดอากิระก็โยนหมากยอมแพ้

    “อ๋อย~~ ลงท้ายก็มีแต่คุณอิสึมิกับชินโดที่ชนะเหรอ?” วายะเอ่ยขึ้น ในขณะที่ทุกคนนั่งเรียงแถวกินราเมนกันอย่างตั้งอกตั้งใจ

    “นายเองก็แพ้ วายะ” โอจิพูด วายะแอบกัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ ซูย่งชวนเขาเล่นหลังจากชินโดผละไปดูโทยะ ผลคือเขายอมแพ้กลางกระดาน ยิ่งย้ำเตือนความรู้สึกที่ว่าชินโดกำลังจะก้าวห่างออกไปจนเขาตามไม่ทัน

    “นายไม่หนักกว่าวายะเหรอ แพ้เด็กผู้หญิงเกาหลีที่เป็นแค่เค็งคิวเซย์” ฮิคารุย้อนโอจิกลับแทนเพื่อนรัก

    “อินเซย์ของเกาหลีกับจีนระดับสูงมากนะ ไม่แปลกหรอกที่โอจิจะแพ้” คุณอิสึมิกล่าว

    “แต่คุณอิสึมิก็ชนะมาได้สบายๆ นี่ฮะ เป็นผมน่ะไม่มีทางแพ้ผู้หญิงหรอก ต่อให้ผู้หญิงที่เป็นมืออาชีพก็เหอะ” ฮิคารุพูดอย่างคะนองปาก เพราะนึกภาพผู้หญิงเล่นโกะทีไรก็นึกถึงหน้าเอ๋อๆ ของยัยอาคาริทุกที

    “เฮ้อ….วันนี้เหนื่อยเป็นบ้าเลย ว่ามั้ย โทยะ?” ยาชิโร่ที่เป็นคนนอกกลุ่มอินเซย์หันไปชวนโทยะคุย แต่เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทไม่ตอบ “เฮ้ โทยะ! ” ยาชิโร่ขึ้นเสียงเรียกอากิระกลับคืนมาจากอาการเหม่อลอย

    “….อะไรนะ” กว่าจะรู้ตัวก็ถูกสายตา 5 คู่จับจ้อง

    “เจ้ายาชิโร่มันถามว่านายเหนื่อยรึเปล่า เป็นอะไร? นึกถึงหน้าเจ้าโคยงฮามันอยู่รึไง??” ฮิคารุถาม

    “เปล่านี่” โทยะ ปฏิเสธ ตีสีหน้าเฉยสนิท

    “แพ้ก็ไม่เป็นไรหรอกน่า มันก็แค่โกะกระดานนึง เจ้าโคยงฮามันก็ไม่ได้จริงจังอะไรซักหน่อย” คำปลอบของวายะที่ใช้กับอากิระแล้วดูเป็นคำซ้ำเติมเสียมากกว่า

    ก็จริงอยู่ ทุกคนเสียดายที่อากิระแพ้โคยงฮา แต่ในใจลึกๆ แล้วไม่มีใครสงสารหรอก ให้มันแพ้ซะมั่งแหละดี เพราะถ้าเก่งกว่านี้คงหมดหวังไล่ตามทันแล้ว

    __________________

    ‘ซาอิ….ชั้นคิดถึงนาย คิดถึงนายมาก’ ทุกครั้งที่เปิดประตูห้องนอน ฮิคารุหวังไว้ลึกๆ ว่าจะพบซาอินั่งรออยู่เสมอ แม้วันเวลาจะผ่านไปร่วมครึ่งค่อนปีแล้วก็ตาม แต่ฮิคารุไม่เคยถอดใจ หลังจากที่พ่ายแพ้โคยงฮา ฮิคารุกลับยิ่งนึกเสียใจภายหลังทุกครั้งที่คิดถึงซาอิ ในตอนนั้น เหตุผลที่เขาต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างอดกลั้นไม่อยู่นั้นคือ……

    “แม้แต่คนที่ดูถูกนายชั้นยังโค่นไม่ได้เลย...แม้แต่ปกป้องชื่อเสียงนายชั้น ยังทำไม่ได้...” ฮิคารุพึมพำ นึกย้อนไปถึงเมื่อวานที่ตัวเองนั่งซึมกะทือไม่ขยับเขยื้อน ฝ่ายโทยะกับยาชิโร่ต้องออกไปรับรางวัลบนเวทีกันแค่สองคน ภาพทุกภาพพร่าเลือน เสียงทุกเสียงเหมือนลอยมาจากที่ไกลแสนไกล.... เสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวมีแต่เสียงของซาอิ

    ‘ฮิคารุยังเอาชนะข้าไม่ได้เลยนะขอรับ ฮิคารุยังเอาชนะข้าไม่ได้เลย....’

    อีกไม่นานข้าก็จะหายไปแล้วนะ ฮิคารุ!

    แต่เขากลับหัวเราะเยาะคำพูดของซาอิ คิดว่ามันไร้สาระ

    กว่าเราจะเห็นคุณค่าของสิ่งสิ่งหนึ่ง ก็ต่อเมื่อมันหายไปสินะ กว่าเราจะรู้ตัวมันก็สายเกินไป___

    ด้วยสภาพจิตใจที่ดูบอบช้ำหนักเกินเบอร์ไปมาก คืนนั้นฮิคารุถูกอากิระบังคับเก็บข้าวของออกจากโรงแรมให้ไปนอนที่บ้านโทยะ เขารู้ว่าอากิระมีจุดประสงค์แอบแฝง รู้ว่าโทยะเกือบจะหลุดปากถามเรื่องซาอิหลายครั้งแล้ว รู้ว่าหมอนั่นอึดอัดแทบบ้า แต่ก็ช่วยไม่ได้ คนคนเดียวที่รู้สึกถึงการมีอยู่ซาอินอกจากฮิคารุแล้วก็มีแค่โทยะ

    “ชั้นเล่นโกะเพื่อเชื่อมโยงอดีตอันไกลโพ้นกับอนาคตอันแสนไกล” ฮิคารุเอ่ยขึ้นมาลอยๆ “แล้วต่อจากนั้นโคยงฮามันพูดว่าอะไร แปลให้ฟังที ชั้นรู้ว่านายจำได้”

    “เราทุกคนก็เหมือนกัน” อากิระเอ่ยเบาๆ

    “หึหึ มันพูดถูก” ฮิคารุเหยียดยิ้ม “เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของชั้น เพื่อเชื่อมโยงอดีตกับอนาคต ฟังแล้วน้ำเน่าเป็นบ้า”

    “......ซาอิสินะ” ดูเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มาจะทำให้อากิระปะติดปะต่อเรื่องราวได้เองอีกหน่อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ปริศนาจะไม่มีวันสมบูรณ์ตราบใดที่ฮิคารุไม่เอ่ยปากเล่าเรื่องราวทั้งหมด

    'ชั้นเล่นโกะเพื่อรักษาความมีตัวตนของซาอิไว้ เหมือนที่โทราจิโร่เคยทำไว้ในอดีต ในอนาคตก็จะต้องมีผู้สานต่อภารกิจนี้’  ฮิคารุค้นพบว่าโชคชะตาที่ดลบันดาลให้เขาพบกับซาอิ และเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนไปอย่างสิ้นเชิงนั้นช่างยิ่งใหญ่นัก มนุษย์เรานั้นเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ตัวหนึ่งของกงล้อที่เรียกว่า ‘กาลเวลา’

    กาลเวลาเดินไปข้างหน้าไม่มีวันถอยกลับ

    ซาอิ....ชั้นอยากเจอนายอีกครั้ง....

    อยากเจออีกครั้ง...........

    _____________________



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×