ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Logazelพลิกชะตาคืนบัลลังก์

    ลำดับตอนที่ #2 : โลก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.07K
      21
      2 ก.ย. 64

    ตอนที่ 2 โลก

    "เดลล์ ผอ.เรียกพบจ้ะ"อาจารย์บรรณารักษ์เอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะของเด็กหนุ่มผู้ซึ่งดูจะสนใจอ่านหนังสืออย่างเอาจริงเอาจัง พลางส่ายหน้าน้อยๆเมื่อเห็นว่าเป็นหนังสืออะไร

    "ขอบคุณครับอาจารย์ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะครับ"เดลล์เจ้าของร่างสูงโปร่งเอ่ยขึ้น พร้อมกับพับหนังสือเพื่อจะนำไปยืมอ่านต่อ

    "ถ้าขยันอ่านหนังสือเรียนแบบนี้บ้าง เรื่องชิงทุนเรียนต่อที่ดีๆก็คงไม่ยากนักหรอกนะ"ผู้เป็นอาจารย์อดเปรยขึ้นไม่ได้

    "โธ่ อาจารย์ครับปล่อยให้ผมอ่านพวกนี้ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวขึ้นม.ปลายแล้วค่อยอ่านหนังสือเรียนก็ได้นี่ครับ”

    เดลล์พูดพร้อมกับยิ้มอ้อนๆไปให้ผู้เป็นอาจารย์เมื่อเขายิ้มนั้นช่างส่งให้ใบหน้าดูสดใสร่าเริงราวกับเด็กน้อยแสนซนที่อ้อนขอของเล่น หากเมื่อไม่ยิ้มก็หาได้ทำให้ความน่ามองนั้นลดน้อยถอยลงไป ใบหน้าที่คมคายแม้ไม่เท่ากับเทพบุตรแต่ก็รับกับเส้นผมสีนิลและดวงตาสีเดียวกันอย่างลงตัว ส่งผลให้เจ้าของร่างนั้นดูน่ามองไม่ว่าอยู่ในกริยาเช่นใด แม้แต่ผิวที่ขาวกว่าผู้หญิงหลายคนนั้นก็ทำให้เขาดูโดดเด่นสะดุดตายามเมื่อได้พบเจอ

    "อาจารย์ว่าเธออ่านจนน่าจะเบื่อแนวนี้บ้างได้แล้วนะ"

    "โอ้ อาจารย์ เราจะเปลี่ยนความชอบเป็นความเบื่อได้ยังไงกันครับ ผมมันคนรู้จักพอใจในสิ่งที่เป็นนี่ครับ" เดลล์ยังคงแย้งอาจารย์ไม่เลิก

    "พอเลย พ่อคนรู้จักพอ ไปเถอะเดี๋ยวผอ.รอนาน" อาจารย์พูดพร้อมกับโบกมือไล่ให้ออกไปซักที ตอนนั้นแหล่ะที่เธอได้มองตามแผ่นหลังของลูกศิษย์ที่เดินจากไปหลังจากที่ก้มคำนับเธอเมื่อตอนเดินผ่าน เบื้องหลังนั้นดูห่างไกลออกไปราวกับจะไม่ได้พบเจอกันอีกนั่นทำให้รู้สึกใจหายอย่างประหลาด

    หลังจากที่เดลล์ได้ทำเรื่องยืมหนังสือเรียบร้อยเขาก็เดินออกมาจากห้องสมุดพลางยกหนังสือขึ้นดูอีกครั้งพร้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดี…อาณาจักรมนตรา…คือชื่อของหนังสือเล่มนี้แนวนวนิยายที่เขาชื่นชอบนักหนาจนอาจารย์ผู้ที่เห็นเดลล์มาห้องสมุดทุกวันอดเตือนไม่ได้เกี่ยวกับความไม่ค่อยขวนขวายหาความรู้ใส่ตัว ความเป็นห่วงของอาจารย์นั้นเขาเข้าใจดี สำหรับเด็กกำพร้าอย่างน้อยการได้ทุนเรียนต่อย่อมหมายถึงอนาคตที่ดี เดลล์เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้นิดหน่อย เพราะเขาคิดว่าเมื่อเกิดมาเป็นภาระคนอื่นแล้วก็อย่าสร้างปัญหาให้คนอื่นมากนัก เขาจึงวางตัวได้ดีมาโดยตลอด มารยาททุกอย่างรวมถึงหน้าที่ต่างๆนั้นเดลล์สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยมจนได้เป็นตัวแทนฝ่ายนักเรียนยามมีแขกมาเยี่ยมชม ซึ่งวันนี้เดลล์เองก็คิดว่าที่ผอ.เรียกพบก็คงเป็นเรื่องตัวแทนที่รับผิดชอบอยู่เป็นประจำ

    ก็อก ก็อก ก็อก!!

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ผอ.ผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนเงยหน้าออกจากกองเอกสารบนโต๊ะพร้อมกับขยับแว่นหนาให้เข้าที่เข้าทางกว่าเดิม

    "เข้ามา"เสียงแหบจากคนโหมงานหนักดังขึ้น ไม่นานนักบุคคลที่ผอ.รอคอยก็มาถึง เป็นเดลล์นั่นเองเขาเดินเข้ามาหยุดยืนเบื้องหน้าพร้อมก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อม

    "นั่งลงซะสิ"สิ้นเสียงผอ.แล้วเดลล์จึงได้เลื่อนเก้าอี้นั่งลง

    "เดลล์ นี่คือของที่ผูกติดกับตัวเธอมาตอนที่ฉันพบเธอครั้งแรก ถึงจะค่อนข้างกะทันหัน แต่เพราะงานที่ยุ่งๆมันจวนตัวจริงๆนะ"ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นผอ.เอ่ยขึ้นเมื่อหยิบบางอย่างในลิ้นชักขึ้นมาวางต่อหน้าของเดลล์

    "…"เดลล์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยพลางยื่นมือออกไปเลื่อนเจ้าสิ่งที่ว่าให้เข้ามาใกล้ ก่อนหน้านี้ที่เขาเริ่มจำความได้ผอ.ก็บอกเรื่องเกี่ยวกับชื่อว่าเป็นชื่อที่เขียนมาให้ในจดหมายที่อยู่ในห่อผ้าที่หุ้มตัวเขาไว้ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้ยินรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมเลย

    "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าข้างในเป็นอะไร มีเพียงจดหมายเท่านั้นที่ฉันสามารถเปิดดูได้ และนี่คือข้อความทั้งหมด"ผอ.หยิบจดหมายมาวางลงเบื้องหน้าอีกครั้งและกล่าวว่า

    "นำของทั้งหมดไปเถอะมันเป็นของเธอ หมดธุระของฉันแล้ว"ผอ.เอ่ยปากอีกครั้งทั้งยังลุกขึ้นเดินมาตบไหล่เดลล์เบาๆ

    "ขอบคุณท่านมากสำหรับทุกอย่าง ผมจะไม่ลืม"เดลล์กล่าวออกไปอย่างไม่รู้ตัวแต่ความรู้สึกเขากับเป็นเช่นนั้น

    …รู้สึกราวกับจะจากที่แห่งนี้ไปจนต้องเอ่ยคำพูดที่สมควรต้องพูดออกมา…

    "เดลล์ ชื่อของเธอก็แปลก แม้แต่ตัวเธอก็ดูแปลกสำหรับที่นี่ แต่เธอรู้มั้ย เธอเป็นลูกและศิษย์ที่รักของเราทุกคนที่นี่"

    "ขอบคุณครับ ผมก็รักที่นี่นะครับ"เดลล์เอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยกมือไว้ผอ.ผู้ที่ทำงานนี้มาตลอดด้วยความรัก

    "รู้แล้วน่า"ผอ.เอ่ยพร้อมกับดึงตัวเดลล์ไปกอด หวังว่าความอบอุ่นนี้จะเป็นกำลังให้ยามเมื่อต้องเผชิญปัญหา

    ที่ห้องพักหลังจากที่แยกจากห้องผอ.แล้วเดลล์ได้ตรงดิ่งกลับมายังห้องปกติจะมีเพื่อนนอนอยู่ด้วยกันหลายคน แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดและคนอื่นๆไปเล่นข้างนอกจึงทำให้เขาสามารถดูของสิ่งนั้นด้วยความสบายใจ สิ่งแรกที่ถูกตรวจสอบเป็นจดหมายที่มีเนื้อกระดาษแปลกตาทั้งเนื้อกระดาษที่ดูหนาและเหนียวราวกับไม่มีทางฉีกขาดหรือทำลายทิ้งได้อย่างง่ายๆ สีกระดาษที่นวลตาคล้ายดังสีของเทียนไขและลวดลายตราประทับที่ปรากฏอยู่ก็วิจิตรงดงามและน่าเกรงขามไปในตัว

    'คนที่เขียนจดหมายนี้คงต้องมีเงินมากแน่ๆ'

    "เอาล่ะได้เวลาอ่านจดหมายแล้ว"เขาพึมพำคนเดียวเบาๆก่อนที่จะไล่สายตาไปแต่ละตัวอักษร

    …ถึงท่านผู้ที่กรุณา…ข้ามีนามว่าวาเอลหากท่านได้เจอจดหมายนี้ก็แปลว่าท่านได้เจอบุตรชายของข้าแล้ว อยากจะรบกวนท่านช่วยเลี้ยงดูและตั้งชื่อเขาตามนี้ด้วย…เดลล์…ที่แปลว่าสดใสมันคือชื่อของเขา…ข้ามีเหตุผลจำเป็นมากมายที่ไม่อาจสาธยาย และมันคงไม่ดีนักเมื่อคนเช่นข้าที่ทอดทิ้งลูกนั้นมาแก้ตัวตอนนี้ เอาล่ะข้าคงต้องขอบคุณท่านซักทีสินะขอบคุณท่านมากไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ฝากให้ท่านมอบหีบสลักที่มาพร้อมกับลูกข้า เมื่อเขามีอายุ 15 ปีด้วย

    โชคดีที่ข้าเจอคนใจดีเช่นท่าน

    …วาเอล…

    เดลล์เงยหน้าขึ้นจากจดหมายเมื่ออ่านจบเขาไม่ได้โกรธเคืองวาเอลที่น่าจะเป็นพ่อของเขานัก เพราะจากที่อ่านแล้วเหมือนคนคนนี้จะพยายามทำเพื่อเขาอยู่ถึงแม้จะน่าหมั่นไส้ข้อความยียวนเหล่านี้ในจดหมายที่นำลูกมาทิ้งก็ตาม หลังจากที่ไตร่ตรองเสร็จสิ้น เขาจึงพับจดหมายเก็บตามเดิมและหยิบหีบสลักสีน้ำตาลไหม้ขนาดเท่าสองฝ่ามือขึ้นมาดู ลวดลายที่ประดับไว้เป็นลายเถาวัลย์บางประเภทคล้ายกับในตราของจดหมาย เมื่อสำรวจดูจะพบรอยต่อที่ด้านบนหีบแต่เป็นรอยเพียงน้อยนิดเท่ากับรอยนิ้วมือ…มิน่าล่ะผอ.ถึงได้บอกว่าเปิดไม่ได้ แล้วเขาล่ะจะเปิดมันยังไง…เมื่อครุ่นคิดไปครู่หนึ่งเดลล์ก็คิดว่าสิ่งนี้มันสร้างขึ้นไว้ให้เขามันก็หมายความว่ามีเพียงแต่ตัวเขาที่เปิดได้ ไม่รอนานกว่านั้นเดลล์หยิบหีบมากุมไว้พร้อมกับนั่งขัดสมาธิทำใจให้สงบครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า

    "จงเปิดออก"

    เงียบไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เดลล์มองไปยังประตูและหันซ้ายหันขวาจนเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นอีก

    "จงเปิดออกโอมเพี้ยง……ขอสั่งให้เปิดออกเดียวนี้"

    (……)ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเช่นเดียวกับครั้งแรก

    เพียงแค่นั้นเดลล์ก็หยิบหีบดังกล่าวขว้างออกไปปะทะกับกำแพงด้วยความโมโห หีบที่ไร้ทีท่าเมื่อซักครู่ได้บังเกิดแสงจ้าขึ้นลอดผ่านช่องและกลไกที่คล้ายกับตัวต่อเครื่องกล ทำให้เดลล์อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงว่าทำไมจึงคิดวิธีเปิดไว้ด้วยวิธีการเช่นนี้หนอ เขาค่อยๆเดินไปที่หีบและนำของข้างในออกมาดู มีจดหมายอยู่ภายในอีกหนึ่งฉบับ กริช 1 เล่ม หนังสืออะไรซักอย่าง 1 เล่ม ม้วนกระดาษ และถุงผ้าเท่าอุ้งมืออีกถุงหนึ่ง เขาหยิบจดหมายนั้นมาอ่านก่อนที่จะสนใจสิ่งอื่น

    …ถึง ลูกของพ่อ

    หากพ่อคาดไม่ผิดลูกคงจะชื่อเดลล์สินะ พ่อดีใจที่ลูกสามารถอ่านจดหมายฉบับนี้ได้กลไกของพ่อมันไม่ซับซ้อนนักหากลูกวิเคราะห์อย่างดีและเรียนรู้เรื่องในโลกนั้นได้ดีพอลูกคงสามารถเปิดได้โดยง่าย เพราะเพียงแค่แตะลายนิ้วมือของลูกบนหีบเท่านั้น ตั้งแต่เมื่อลูกเกิดพ่อได้นำนิ้วมือลูกแปะเป็นกลไกด้านบนหีบ พ่อฉลาดใช่มั้ยล่ะ แต่ว่าถ้าหากลูกหงุดหงิดทนไม่ได้จริงๆลูกก็สามารถเปิดได้อีกวิธีคือขว้างไอ้เจ้าหีบนี่ซะก็ได้เช่นกัน คงงงล่ะสิว่าพ่อต้องบอกอีกทำไมในเมื่อลูกเปิดได้แล้ว

    …เฉลย…เพราะว่ามันเป็นของหายากมากเลยรู้มั้ย นี่ถือเป็นของขวัญวันเกิดของลูกที่พ่อมอบให้ตั้งแต่ที่ลูกเกิดมา มันสามารถเก็บสิ่งของได้มากมายเมื่อมันเปิดออกเต็มที่ถึงแนวระนาบตรงลูกเพียงวางสิ่งของลงไปมันจะรวบรวมทุกอย่างเมื่อตอนปิดตัวเอง ทึ่งล่ะสิแหงล่ะก็มันเจ๋งซะขนาดนี้นี่นา หุหุหุ เอาล่ะมาเข้าเรื่องซักที ลูกอย่าตื่นเต้นเกินไปนักล่ะเรื่องราวต่อไปนี้อาจทำให้ลูกเตรียมใจไม่ทัน งั้นพ่อให้ลูกพักแปปหนึ่งแล้วค่อยอ่านแผ่นต่อไปก็แล้วกัน …………????

    "เฮ้อ…"เสียงทอดหายใจดังขึ้นราวกับว่าเหนื่อยมากมายกับการอ่านจดหมายของผู้ที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อของเขา จดหมายแผ่นแรกถูกนำไปด้านหลังเพื่อที่จะเลื่อนแผ่นต่อไปขึ้นมาอ่านต่อ

    …ต่อ ต่อ เดลล์ลูกที่น่ารักของพ่อหลังจากลูกเกิด พ่อได้มองดูลูกเพียงชั่วแปปเดียวเท่านั้น เพราะต้องรีบเตรียมการแต่แม่ของเจ้านางกับโชคร้ายยิ่งกว่าได้เพียงรับรู้ว่าเจ้าคลอดออกมาอย่างปลอดภัยนางก็ต้องหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย รายละเอียดคงไม่สามารถเล่าอะไรได้มากนักแม้พ่อจะเขียนจดหมายได้เร็วเพียงใดก็คงจะไม่ทันการณ์แน่ๆ เอาล่ะตอนนี้สิ่งที่ลูกเจอในจดหมายคงเห็นแล้วว่าเป็นอะไรบ้าง แต่ให้ลูกใช้ม้วนเวทกับหยดเลือดของลูกในการกลับมายัง…โลกาเซล…นี่เป็นเรื่องสำคัญที่ลูกต้องยอมรับ พ่อให้เวลาทำใจหนึ่งวัน หวังว่าลูกจะกลับมายังที่นี่ ที่ที่เป็นมิติอีกมิติหนึ่งนอกเหนือจากโลกที่ลูกอยู่ในตอนนี้ ขอให้ลูกเชื่อในสิ่งที่พ่อได้เขียนไปและยอมรับมันซะ เตรียมของที่ลูกจะนำมาให้พร้อมแล้ววางลงบนหีบสลัก ที่พ่อต้องมอบให้ในเวลานี้เพื่อที่ว่าเวทเรียนฝันจะทำงานได้แล้วอย่างสมบูรณ์นั้นคือเวทที่ค่อยๆให้ลูกได้ซึมซับภาษาพูดและเขียนของโลกาเซลได้ทีละนิดตั้งแต่ลูกเกิดเป็นการเรียนของจิตใต้สำนึกในเวลาลูกหลับน่ะ แต่ข้อจำกัดของมันคือใช้ได้แค่การสอนภาษา และสบายใจได้นะเมื่อ 15 ปีเวท จะคลายและเผยความรู้ที่เรียนเอาไว้ออกมา รวมถึงพลังเวทในตัวลูกที่พ่อปิดกั้นไว้ด้วย เมื่อลูกมาถึงที่นี่จะคงทำให้ลุกเข้าใจหลายอย่างมากขึ้น สงสัยอีกล่ะสิทำไมพ่อถึงเขียนภาษาของโลกนี้ได้

    …มันเป็นความลับ…อีกอย่างที่พ่อต้องบอกก็คือชื่อเต็มของพ่อ วาเอล เรอัล เวมาเนีย กษัตริย์แห่งเวมาเนีย และแม่ของลูกนารีเซีย เรอัล เวมาเนีย พ่อรู้ว่าลูกคงรู้วิธีมาหาพ่อ รักลูกเสมอ

    วาเอล เรอัล เวมาเนีย

    เดลล์พับจดหมายเก็บด้วยท่าทางที่นิ่งสงบเขาสำรวจดูของอื่นๆที่เหลือทุกอย่างล้วนประทับตราลายเถาวัลย์นั่นคงเป็นตราประจำราชวงศ์ น่าแปลกที่เขายอมรับเรื่องเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย คงเป็นเพราะลึกๆแล้วเป็นสิ่งที่เขาหวังให้มันเกิดขึ้นอยู่เสมอ ความพิเศษและเวทมนตร์

    'มันจะใช่โลกที่มีเวทมนต์รึเปล่านะ ถ้าใช่คงจะดีมากเลย คงจะช่วยอำนวยความขี้เกียจของเราได้มากแน่ๆ เดลล์คิดพลางเทถุงที่น่าจะเป็นเงินออกมาดูมีแต่เหรียญทองทั้งนั้น ดวงตาสีนิลเบิกกว้างทอประกายวิบวับ มือที่สั่นเล็กน้อยรีบเก็บเข้าไปตามเดิม

    'นี่เราจะรวยกับเขาบ้างแล้วสิเนี่ย เอาไปแลกซื้อของไปที่นั่นเยอะๆดีกว่า ต้องเอาเจ้านี่ไปเก็บของด้วยสินะ'เดลล์รีบเก็บของและวิ่งออกไปขออนุญาติออกนอกสถานที่ทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×