ทะเลจันทร์ ตะวันวาด - ทะเลจันทร์ ตะวันวาด นิยาย ทะเลจันทร์ ตะวันวาด : Dek-D.com - Writer

    ทะเลจันทร์ ตะวันวาด

    โดย Tor Layman

    ความรักที่โดนแบ่งชนชั้นวรรณะ จากแม่ที่มีหน้ามีตาในสังคม

    ผู้เข้าชมรวม

    199

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    199

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.ย. 56 / 23:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

        ตะวันทาญาติคนเดียวของตระกูลบดินทร์ภัทรที่ไม่เคยเจอกับความลำบากเลยสักครั้งในชีวิต เป็นคนชอบเดินทางรักการวาดภาพทะเลจนมาพบกับจันทร์ฉายลูกสาวชาวประมงที่ได้แอบชอบกันแต่ความรักมักมีปัญหาเข้ามาเสมอเรื่องราวจะเป็นอย่างไร...

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ทะเลจันทร์  ตะวันวาด

       

       

       

      คนรวยมักทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง หลายครั้งที่เราเห็นว่าคนรวยเห็นคนจนเป็นของเล่นและสร้างความย่ำแย่ให้กับคนอื่นๆ เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะถ่ายทอดการกระทำบางอย่างที่อาจจะมีอยู่จริงในสังคมปัจจุบัน

      ณ....จังหวัดกระบี่ จันทร์ฉาย และพ่อแม่นั่งดูนักข่าวแห่รุมสัมภาษณ์คุณหญิงเลอลักษณ์ในงานประมูลเพชรบดินทร์ภัทร ถึงเรื่องลูกชายคนเดียวอย่างคุณตะวันที่กำลังบินกลับเมืองไทยว่าจะมีแผนงานอะไรให้คุณตะวันได้สานกิจการต่อบ้าง

      จันทร์ฉายนั่งดูทีวี  "พ่อ แม่ ตะวันนี่เขาเป็นใครทำไมนักข่าวถึงต้องมาสนใจอะไรมากขนาดนั้นด้วย"

      พร มองหน้าจันทร์ฉายแล้วยิ้มพร้อมพูดว่า

      "ลูก...เขาเป็นถึงลูกของนายก แม่เป็นถึงเจ้าของกิจการค้าเพชรทำไมเขาไม่สนใจละลูก แล้ว           ตระกูลนี้เป็นคนดีทั้งนั้น ทั้งการเข้าไปช่วยเหลือตามชนบท การบริจาคเงินเยอะแยะมากมาย นี่พ่อก็  รอว่าเมื่อไหร่ โครงการของบดินทร์ภัทรจะมาถึงหมู่บ้านเราบ้าง ฮ่าๆ ปิดไฟนอนเถอะลูกพรุ่งนี้เรา ต้องออกทะเลแต่เช้า"

      ในเวลานั้นก็เป็นเวลาที่ตะวันกำลังนั่งเครื่องบินกลับมาประเทศไทยพร้อมกับการอยากไปวาดรูปทะเลในเมืองไทยเป็นอีกหนึ่งความฝันของตะวัน เวลา 7.00 น. ตะวันถึงเมืองไทยพร้อมกลับบ้านบดินทร์ภัทรและได้สอบถามคุณแม่ของเขาเรื่องทะเลในเมืองไทยว่ามีที่ไหนสวยๆบ้าง ซึ่งทางคุณหญิงเลอลักษณ์ก็ไม่ได้ขัดใจแต่อย่างใด จึงบอกตะวันไปว่าจังหวัดกระบี่เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าไปและอยากให้ตะวันเข้าไปทำความรู้จักกับการใช้ชีวิต และไปคอยดูวิถีชีวิตเพื่อที่จะทำโครงการบริจาคของโครงการบดินทร์ภัทรนั้นเองตะวันก็ไม่รอช้า รีบเก็บของไปสนามบินเพื่อที่จะบินลงจังหวัดกระบี่ทันที เวลา 9.00 น. ตะวันก็ได้มาถึงจังหวัดกระบี่ และได้เดินทางมาเรื่อยๆโดยที่คนท้องถิ่นแถวนั้นไม่รู้เลยว่านี่คือคุณตะวัน แห่งตระกูลบดินทร์ภัทร เพราะตะวันไม่เคยอยู่เมืองไทยเลย จึงทำให้เขาชอบใจใหญ่ที่ไม่มีใครรู้จักเขา ตะวันเลยปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อน และรับวาดภาพตามงานวัดต่างๆ จนวันหนึ่งได้มาเจอทะเลที่เต็มไปด้วยวิถีชาวบ้าน การประมงและตะวันก็ได้นั่งวาดภาพอย่างบรรจง และหันไปเห็นจันทร์ฉายพอดีจึงวาดรูปเรือลำของจันทร์ฉายไปเรื่อยๆ 

      จันทร์ฉายก็เห็นเข้าเลยเดินมาทักว่า

      "แกเป็นใคร  มาวาดรูปฉันทำไม"

      ถามด้วยความสงสัยเพราะจันทร์ฉายไม่เคยเห็นหนุ่มหน้าใสคนนี้มาก่อนเลยเหมือนจะไม่ใช่คนใต้ซะด้วยซ้ำ ตะวันก็นึกตกใจพร้อมกับยิ้ม แล้วตอบว่า

       "ผมชื่อตะวันผมโดนทิ้ง ผมเร่ร่อนรับจ้างวาดรูปไปเรื่อย เห็นคุณสวยดีผมเลยวาด "

      ทางด้านจันทร์ฉายก็ยังงงๆแล้วก็เดินจากไปแบบงงๆ ว่าหมอนี่คือใครแล้วแถวนี้มีคนวาดรูปรับจ้างด้วยหรอ  ซึ่งจันทร์ฉายไม่รู้เลยว่านี่คือคุณตะวันคนที่เขาถามพ่อกับแม่เมื่อคืนนั้นเอง  ต่อมาไม่นานตะวันก็ได้ไปรับจ้างวาดรูปในงานวัดต่างๆซึ่งไม่ได้มีรายได้เลย เหมือนจะไม่มีคนสนใจซะด้วยซ้ำ แต่จันทร์ฉายเป็นอีกหนึ่งคนที่มาจ้างตะวันให้วาดรูปด้วยความสงสารตะวันที่ดูสกปรก และเหมือนจะอดๆอยากๆ จึงถามตะวันไปว่า

      "ชอบวาดภาพจริงๆเหรอ ไม่คิดจะหางานอื่นทำบ้างเหรอไง แบบว่าออกเรือหาปลาอะไรแบบนี้ชอบเปล่า"

       ตะวันได้ยินจันทร์ฉายถามแบบนั้นด้วยนิสัยที่ชอบการเผชิญบวกกับความอยากรู้อยากเห็นของตะวันแล้ว ตะวันจึงตอบตกลงทันที จันทร์ฉายจึงยื่นข้อตกลงว่าให้มาช่วยงานที่บ้านจะมีข้าวให้กินพร้อมกับที่พักให้ แต่ต้องตื่นมาช่วยทำงานทุกวัน ตะวันจึงถามจันทร์ฉายไปว่า

      "นี่...เราต้องออกทะเลด้วยใช่เปล่า"

      ซึ่งจันทร์ฉายก็ตอบว่าใช่พร้อมกับหัวเราะแล้วถามว่า

      "ทำไมเมาเรือเหรอ"

       ตะวันเลยหัวเราะแล้วตอบว่า

      "ขอบคุณมากๆนะ ที่มาช่วยเหลือเรา ขอบคุณจริงๆ"

      จากนั้นจันทร์ฉายก็ได้พาตะวันไปนอนในโรงเก็บเรือหลังบ้าน ตะวันตกใจมากจึงถามจันทร์ฉายแบบงงๆว่า "นี่..เธอจะให้เรานอนในนี่จริงๆเหรอ"

      จันทร์ฉายเลยมองหน้าตะวันแล้วตอบเบาๆว่า  "อืม"  ตะวันอึ้งอยู่สักพักแล้วหัวเราะแล้วบอกจันทร์ฉายว่า

      "ดีเหมือนกัน แปลกดีชอบๆ"

       จันทร์ฉายเดินกลับไปอมยิ้มไปพร้อมกับถอนหายใจไป  ตื่นเช้ามารุ่งขึ้นอีกวันเป็นการลงเรือประมงครั้งแรกของคุณตะวัน บดินทร์ภัทร นับได้ว่าตะวันได้รับประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมากและชอบใจมากเลยทีเดียว ตะวันก็ไม่ลืมที่จะพกกระดาษ ดินสอลงเรือมาด้วยเพื่อที่จะเก็บภาพวิถีชีวิตชาวประมง กับทะเลที่งดงาม จันทร์ฉายได้หันมามองตะวันวาดภาพแล้วก็ถามว่า

      "ทำไมถึงชอบวาดภาพ ไปเรียนวาดภาพมากจากไหน แล้วนี่พ่อแม่ไปไหนกันหมด"

      จันทร์ฉายถามไปเพราะความเพิ่งนึกสงสัย ทำให้ตะวันนิ่งไประยะหนึ่งจึงตอบจันทร์ฉายไปว่า

      "อ๋อ เราเรียนมาจากวัด ส่วนพ่อแม่เราเขาทิ้งเราไปนานแล้วเราโตมาก็อยู่กับลุงในซอกตึกแล้ว ตอนนี้ลุงเราก็ทิ้งเราไปแล้ว แกติดการพนันจนต้องโดนยึดบ้าน ทุกวันนี้แกก็ทิ้งเราไปแล้ว"

       ตะวันตอบไปแบบไม่ได้คิดแล้วตีหน้าเศร้าไป ทั้งๆที่ในใจสนุกอยู่มากที่ตีบทแตกไปเลย ทำให้จันทร์ฉายสงสารตะวันมากยิ่งขึ้น และตะวันกับจันทร์ฉายก็สนิทสนมกันมากขึ้น โดยบ้านของจันทร์ฉายก็ไม่ได้รังเกียจตะวันแต่อย่างใดจึงให้ตะวันมานอนในบ้านได้ แล้วเหมือนกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยใช้เวลาแค่ 5 วันเท่านั้น  ตะวันรู้สึกผูกพันกับครอบครัวของจันทร์ฉายมาก และรู้สึกมีความสุขที่ได้เป็นตะวันในแบบที่เขาอยากเป็นจนลืมนึกถึงคฤหาสน์บดินทร์ภัทรไปเลย  เวลาผ่านไปไม่นานนักทั้งคู่ก็รู้จักกันมากขึ้นและด้วยความสนิทสนมกันจนเกิดอาการเขินต่อกัน ซึ่งคนแถวบ้านจันทร์ฉายก็ไม่มีใครรู้เลยว่านี่คือคุณตะวัน ลูกชายคนเดียวของคุณเดียวของคุณหญิงเลอลักษณ์ บดินทร์ภัทร บุคคลที่ชาวบ้านหลายคนศรัทธาในความดีงานของเขา จนกระทั้งวันนี้ ที่ทางคุณหญิงเลอลักษณ์ได้ติดต่อจะมาถามข่าวคราวของลูกชายที่ลงใต้มาแบบปิดข่าวเงียบ แต่ไม่สามารถติดต่อได้เพราะตะวันได้เปิดห้องโรงแรมไว้เป็นเวลาถึงหนึ่งเดือนและไม่ได้กลับห้องเลย จนทำให้คุณหญิงเลอลักษณ์ คิดมาก หวาดกลัวกับสิ่งที่ไม่อยากคาดคิด จึงบินด่วนมาแบบเงียบๆในจังหวัดกระบี่ทันที และได้ให้คนสนิท ออกตามหาตะวันอย่างเร่งด่วน จึงไปเจอกับโรงแรมที่ตะวันมาเปิดห้องพักไว้นั้นเองทางพนักงานโรงแรมก็ได้บอกกับคนสนิทของคุณหญิงเลอลักษณ์ว่า

      "ก็มีชายในรูปคะ มาเปิดห้องไว้แต่ดูแปลกๆมากเพราะไม่มาพักเลย"

       ทำให้คุณหญิงเลอลักษณ์รู้สึกแย่ขึ้นไปอีก ในขณะที่คุณหญิงเลอลักษณ์กำลังรู้สึกเศร้าโศกเสียใจอยู่นั้น ตะวันก็ได้ใช้ชีวิตแบบที่เขามีความสุขและไม่มีลายของตระกูลบดินทร์ภัทรหลงเหลืออยู่เลย  จู่ๆ...ตะวันก็นึกลองใจถามจันทร์ฉายขึ้นมาว่า

      "จันทร์ฉาย...สมมุติว่าเรากลายเป็นคนลูกของคนรวยๆแล้วมาปลอมตัวมาอยู่กับเธอ เธอจะโกรธเราเปล่า"

      จันทร์ฉายหัวเราะพร้อมกับบอกว่า

      "แกคงดูหนังมากไปแล้วแหละ ไม่มีคนรวยคนไหนอยากจะมาจมดินอยู่แบบนี้หรอก มันมีแค่ในหนังเท่านั้นแหละคนแบบนั้น"

      ตะวันจึงถามตื้อจันทร์ฉายไปอีกว่า

      "แล้วจะโกรธเปล่า"

       จันทร์ฉายจึงหันมามองหน้าตะวันแล้วบอกว่า

       "ฉันคงเสียใจไปตลอดชีวิตถ้า คนๆนั้นเป็นแก ตะวัน...ตะวัน...ตะวัน เหมือนฉันจะเคยได้ยินที่ไหนสักที่น่า ชื่อตะวันเป็นลูกคนรวยเหมือนชื่อแกเลย แต่ต่างกันตรงที่ว่าแกไม่รวย ฮ่าๆ"

      ตะวันอึ้งไปพักใหญ่ แล้วถามจันทร์ฉาย ว่า

      "เธอรู้จัก ตะวันลูกของคุณหญิงเลอลักษณ์ด้วยเหรอ"

       จันทร์ฉายก็เลยตอบไปว่า

      "ใช่ๆฉันจำได้ละก่อนที่ฉันจะเจอแกคืนนึง ไอ้ตะวันลูกของคุณหญิงไฮโซนั้นกำลังบินมาไทยพอดี คนแห่กันไปสัมภาษณ์ เยอะมากไม่รู้มีดีอะไรเนอะ อยากเห็นหน้าจริงๆจะหล่อเท่าเธอได้หรือเปล่าก็ไม่รู้"

      ในขณะที่จันทร์ฉายตอบตะวันเสร็จก็จับพิรุธแปลกๆจากตะวันได้เลยถามตะวันว่า

      "แกรู้ได้ไงว่า ตะวันลูกของใคร"

      เจอคำถามนี้ตะวันถึงกับหน้าซีดไปเลย

      "อ๋อ...ข่าวออกจะดังนะ ทำไมจะไม่รู้"

      จันทร์ฉายก็มองหน้าตะวันพร้อมกับหัวเราะไปอย่างมีความสุขแล้วชวนตะวันไปตลาด

      "ไปหาผักมาทำกิบข้าวกินกัน"

       ทางด้านของคุณหญิงเลอลักษณ์ก็รู้ข่าวมาแล้ว่าตะวันนั้นได้ไปอาศัยอยู่กับชาวประมงแถวๆชายทะเล จึงทำให้เกิดอาการไม่พอใจอย่างมากที่ตะวันได้ไปอยู่ในสภาพแบบนั้น เลยบันดาลโทสะสั่งเผาบ้านจันทร์ฉายในทันที ในขณะที่บ้านของจันทร์กำลังโดนเผานั้นชาวบ้านก็ได้ไปตามจันทร์ฉายที่ตลาดให้มาที่บ้าน แล้วชาวบ้านส่วนหนึ่งก็รุมทำร้ายลูกน้องของคุณหญิงเลอลักษณ์ได้รับบาดเจ็บหนึ่งคน ซึ่งไม่สามารถหนีไปได้ ทางตะวันได้เห็นลูกน้องของแม่ตัวเองถึงกับเข่าอ่อนลงทันที และไม่คิดไม่ฝันว่าแม่ที่แสนดีของเขาจะเป็นคนสั่งให้ทำร้ายกับคนที่ไม่มีทางสู้แบบนั้นจึงตัดสินใจที่จะพาครอบครัวของจันทร์ฉายหนีออกมาอยู่ชานเมืองแล้วบอกความจริง ว่าเขาคือตะวัน ของตระกูลบดินทร์ภัทรและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเรื่องที่เขาโกหกว่าพ่อแม่เขาทิ้งเขาไปนานแล้ว

      "ผมขอโทษทุกๆคนจริงๆนะครับ ผมไม่คิดเลยว่าคุณแม่ผมจะมาทำอะไรบ้าๆแบบนี้เลย ผมเสียใจจริงๆแต่ผมสัญญาว่าจะช่วยครอบครัวของจันทร์ฉายฟื้นฟูอีกครั้ง"

      จันทร์ฉายรู้สึกแย่มากที่ตะวันมาโกหกกันแบบนี้ทั้งที่จันทร์ฉายและครอบครัวก็ไม่เคยทำร้าย

      ตะวันเลยแต่กลับต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆที่นับได้ว่าร้ายที่สุดที่เคยเจอมา ทางด้านพ่อแม่ของจันทร์ฉายก็ซึมเศร้าไปเลย เพราะหมดแล้วทุกสิ่งอย่างโดนเผาไปต่อหน้าต่อตา

      "นี่เราจะทำอะไรกันต่อแล้ว แม่ของเธอมาทำอย่างนี้จริงๆเหรอ เธอคือลูกของคุณหญิงเลอลักษณ์จริงๆเหรอ" ประภาสงสัยตะวันอย่างมาก เพราะในใจลึกๆก็เริ่มไม่เชื่อตะวันแล้ว เพราะ พรกับประภาก็รู้ดีว่าคุณหญิงเลอลักษณ์เป็นคนดีขนาดไหน ตะวันได้แค่พูดเพราะตอนนี้หลักฐานทั้งหมดทั้งสินของตะวันก็โดนคุณหญิงเลอลักษณ์นำกลับคฤหาสน์บดินทร์ภัทรหมดแล้ว

      "ผมขอโอกาสอีกสักครั้ง อยากให้คุณลองเชื่อใจผมบ้าง อีกสักครั้ง ผมจะช่วยคุณทำงาน คุณก็ทำงานของคุณผมก็จะช่วยทุกอย่าง" ตะวันพูดออกไปแบบดูจริงใจแบบไม่เคยเจอมาก่อน

      ทางบ้านของจันทร์ฉายก็ยังตกใจกับเหตุการณ์ก่อนที่จะไปแจ้งความว่าโดนวางเพลิงโดยคุณหญิงเลอลักษณ์เป็นคนออกคำสั่ง และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ แถมยังขู่ พรกับประภาอีกด้วยว่าระวังจะโดนแจ้งความกลับนะ มากล่าวหาท่านแบบนี้ จะทำให้ท่านเสียชื่อเสียง และไม่มีหลักฐานอะไรด้วย คนที่จับมาได้นั้นก็บอกว่ามาทำด้วยตนเองเพราะไม่ชอบบ้านของพรกับประภาแค่เท่านั้น ทำให้คดีความไม่มีการคืบหน้า

      พรกับประภาก็ได้ ย้ายมาเช่าห้องอยู่ชานเมือง ประภาได้รับจ้างเป็นแม่บ้านของเศรษฐีรายหนึ่งในกระบี่ ในขณะที่เขาทำงานอยู่นั้นก็ได้ดูทีวี และพบกับข่าวที่ตกใจว่า คุณหญิงเลอลักษณ์ไม่สบายหนักแถมลูกชายคนเดียวก็โดนลักพาตัวไปอีกด้วย พร้อมกับรูปของคุณตะวัน ซึ่งทำให้ประภาอดอั้นร้องไห้ออกมาไม่ไหว ถึงกับร้องโหออกมาเลย ทำให้รู้สึกแย่ไปอีก กลับไปบ้านพร้อมกับเรียกตะวันมาคุย

      "คุณตะวันคะ ดิฉันรู้ความจริงแล้วว่าคุณเป็นลูกของคุณหญิงเลอลักษณ์ กลับบ้านของคุณไปเถอะคะ ขอร้องฉันไม่อยากต้องมาพบอะไรแย่ๆอีก ฉันเสียใจที่คุณมาทำให้ครอบครัวฉันแต่แต่เรื่องร้ายๆ ขอบคุณที่เข้ามา แต่จะขอบคุณกว่านี้ถ้าออกไป"

      ตะวันถึงกับตกใจและเสียใจมาก เดินก้มหน้าเดินออกไปจากบ้านอย่างช้าๆ

      "ไอ้ตะวัน ฉันเกลียดแก" จันทร์ฉายพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโหมาก และเผลอร้องไห้ออกมา ทำให้ตะวันถึงกับเก็บน้ำตาไว้ไม่ไหว เดินร้องไห้ออกไป   เมื่อตะวันถึงโรงแรมก็เจอกับคนของคุณแม่ และได้ส่งให้คนเก็บข้าวเก็บของเพื่อที่จะบินไปคฤหาสน์บดินทร์ภัทร ในทันที เมื่อถึงคฤหาสน์แล้วก็ได้ โวยวายกับแม่ตัวเอง

      "แม่ทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร....!!!! ทำไมแม่เลวแบบนั้น ผมเสียใจที่เจอแม่แบบนี้ เสียใจและผิดหวังจริงๆ"

      ตะวันตะหวาดใส่คุณแม่อย่างเสียงดัง จนทำให้คุณหญิงเลอลักษณ์โมโหแล้วตอบไปว่า

      "ฉันไม่มีทางยอมเด็ดขาดที่ลูกชายคนเดียวของตระกูลบดินทร์ภัทรต้องไปใช้ชีวิคนพรรค์นั้นไม่ได้"

      "ทำไมละแม่ คนแบบนั้นเขาผิดอะไร เขาไม่ดีตรงไหนที่ผมไปอยู่รวมกับเขาไม่ได้ ผมก็มีความสุขของผมดี เขาก็ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนใคร แม่ทำแบบนั้นมันไม่มากไปหน่อยรึไง"

      "ตะวันฟังแม่นะลูก ลูกคือทาญาติคนเดียวของตระกูลบดินทร์ภัทร ลูกจะมาทำตัวเป็นไพร่ได้ไง เราเป็นถึงพญาหงส์จะมาทำตัวเป็นลูกนกลูกกาไม่ได้นะลูก"

      "ทำไมแม่ถึงแบ่งชนชั้นแบบนั้น เสียใจมากที่เกิดมาเป็นลูกแม่ผมเสียใจ เสียใจที่แม่ตีสองหน้าเก่งเหลือเกิน งั้นเวลาแม่ลงไปหาชาวบ้านใจแม่คงไม่อยากไปหรอกใช่รึเปล่า แม่แค่เอาหน้าไปวันๆเท่านั้นเองเหรอ "

      ตะวันตอบโต้แม่ไปด้วยอารมณ์ที่โมโหมาก จึงทำให้คุณหญิงเลอลักษณ์ทนไม่ไหวตบหน้าตะวันเข้าอย่างจัง

      "แกนี่มันหัวรั้นจริงๆ แกมองสิ แกเกิดมายังไง แกนึกบ้างสิ ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนยกย่องในตระกูลเรา ตระกูลเราไม่เคยลดตัวไปอยู่กับคนพรรค์นั้นเลย แล้วนี่ถ้าคนอื่นเขารู้ว่าทาญาติของบดินทร์ภัทรต้องมาอยู่กับคนแบบนั้นคนจะพูดยังไง เคยคิดหรือเปล่า" คุณหญิงเลอลักษณ์พูดไปถึงกับร้องไห้ที่ลูกชายคนเดียวของเขากำลังต่อต้านคำสั่งของเขาอยู่

      "โอเค ครับแม่ ผมเข้าใจแล้วว่าคนชั้นสูง.....อย่างเราจะไปอยู่กับคนชั้นต่ำไมได้ แล้วสั่งวันแม่จะเขาใจว่าคนที่แม่ดูถูกนี่แหละ เขารักแม่มากขนาดไหน เขาศรัทธาแม่มากขนาดไหน ขนาดบ้านเขาถูกเผา พวกเขายังไม่เชื่อเลยว่าไอ้คนที่เขาศรัทธานั้นแหละมาทำร้ายพวกเขาเอง ถ้าเขารู้ แม่คงได้แบ่งชนชั้นสมใจแน่ๆ"

      "โธ่ เด็กน้อย ใครมันจะเชื่อว่าคุณหญิงเลอลักษณ์จะมาทำร้ายประชาชน คนที่ไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคมเลยใครมันจะเชื่อ คิดสิคิด...ตะวัน"

      ตะวันเดินกลับห้องไปพร้อมกับโมโหแม่มาก  หลายวันต่อมาคุณหญิงเลอลักษณ์ก็ได้มีโครงการพัฒนาหมู่บ้านที่ตะวันเคยไปใช้ชีวิตอยู่  จนทำให้ชาวบ้านดีใจจนลืมข่าวลือที่ว่า คุณหญิงเลอลักษณ์เผาบ้านของ พรกับประภาแล้ว พร้อมทั้งยังสัญญาว่าสมัยหน้าก็จะเลือก ฯพณ อโณทัย อีก ตามาชาวบ้านก็มองว่า พรกับประภา กล่าวหาคุณหญิงเลอลักษณ์ในทางเสียๆหายๆ นั้นเอง

      "เธอเห็นรึยังละ ว่า เงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง"

      คุณหญิงเลอลักษณ์ หันกลับมาถามตะวัน พร้อมทั้งยิ้ม แล้วหันกลับไปกล่าวทักทายกับประชาชน

      ตะวันก็มองหา จันทร์ฉายและครอบครัว แต่กลับมองไม่เจอใครที่เขารู้จักเลย สุดท้ายเรื่องราวความรักของ จันทร์ฉาย กับ ตะวัน ก็กลายเป็นแค่เรื่องราวที่อยู่ในใจของทั้งสองตลอดมา โดยมันไม่สามารถเป็นจริงได้แน่นอน เพราะทั้งคู่ที่มองโลกในแง่ดีก็พอรู้อะไรบางอย่างแล้วว่า โลกใบนี้มันแบ่งชนชั้นกันจริงๆ มันไม่ใช่หนังที่ลูกอภิหึมามหาเศรษฐีจะมารักกับคนธรรมดาได้เสมอ  บทเรียนนี้ตะวันคงได้รู้จักโลกมากขึ้นแน่ๆว่าคนไม่จริงใจมันอยู่รอบตัวเราไปซะหมด ส่วนจันทร์ฉายคงได้รับบทเรียนที่หนักมากที่เคยเจอมาเพราะเพียงแต่ความเมตตาที่เขามีให้กับคนที่คิดอะไรไม่เป็น รักสนุกไปวันๆ  

      ผมเชื่อครับว่าคนหลายคนชาวบ้านและคนแก่ๆ หลายคนที่มองคนแต่การให้ จนไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาให้เขาหวังอะไรหรือเปล่า เช่นการเลือกตั้งชาวบ้านที่ศรัทธาในตระกูลบดินทร์ภัทร ก็จะตั้งคำถามก่อนว่า บดินทร์ภัทร หรือเปล่า  คนในเครือของบดินทร์ภัทร หรือเปล่า  บริษัทนี่ของบดินทร์ภัทรหรือเปล่า เพราะในเมื่อ บดินทร์ภัทร สามารถซื้อใจคนเกือบทั้งประเทศได้แล้ว เขาก็กลายเป็น มนุษย์ที่เหนือกว่ามนุษย์นั้นเอง

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×