ในบางเวลาหลังจะที่นั่งหยุดพักกับการประกอบอาชีพ หรือดิ้นรน เพื่อให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้าบางครั้งก็เคยนั่งคิดน่ะว่า ทำไมเราต้องทำงานอะไรขนาดนี้ หรือบางครั้งเราทำไปทำไม มันยังไม่พออีกเหรอ
บางครั้งเหนื่อยเหลือเกิน จนไม่อยากทำอะไร ช่วงที่ได้ว่างได้อยู่กับตัวเอง เคยคิดถึงสมัยก่อน สมัยที่ยังเป็นนักเรียน
ช่วงที่มีเพื่อน ช่วงวัยเรียน มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจัง ไม่ต้องดิ่นรน ไม่ต้องต่อสู้ ไม่ต้องแสวงหา ทุกอย่างมีพ่อ แม่ จัดการให้ เรามีหน้าที่แค่เรียน เรียนให้จบแค่นั้นเอง
ยัง จำได้ ครั้งหนึ่งเป็นวีรกรรมที่ยังประทับใจไม่เคยลืม วันนี้ไปโรงเรียนแต่เช้า เลยแวะหาเพื่อนที่บ้านก่อนเพราะบ้านเขาอยู่ใกล้โรงเรียน พอใกล้ถึงเวลา ที่เขาแถวแถวกัน เราก็พากันปีนรั้วโรงเรียนเขามา สมัยนั้นหลังโรงเรียนยังเป็นป่าไผ่อยู่เลย รั้วก็ทำพอให้มองดูว่านี้คือเขตของโรงเรียนน่ะ ยังจำได้ดี ฉันกับเพื่อนหลายคน ปีนรั้วเข้ามาตอนนั้นสนุกมาก ทั้งต้องคอยดูครูว่าท่านจะเห็นเรามั๊ย ทั่งโดยรวดหนามแกะกระโป่รง ต้องคอยไม่ให้โป๊ พอลอดรั้วเข้ามาให้ เดินผ่านกอไผ่มาได้ ครูปกครองยืนถือไม้เรียวรอแล้ว ครูพาไปหน้าเสาธง โดดตียกแก๊งค์โทษฐาน มาโรงเรียนสาย ปีนรั้วโรงเรียนอีก โดดตีทั่วหน้า ต่างคนต่างก็ก้มหน้าก้มตา ยอมรับว่าตัวเองทำผิด ตอนอยู่หน้าเสาธงก็คิดในใจน่ะ อย่างน้อยเราก็มีเพื่อนที่โดดด้วยกัน เป็นการร่วมทุกข์ร่วมสุข ในแบบที่สนุกไปอีกแบบ แต่แปลกตะกอนโดดครูตีไม่เห็นมีใครโทษกันเลยว่าเป็นเพราะอีกคนที่ทำให้มาสาย ที่ทำให้โดดตี แต่ถ้าเ็ป็นช่วงผู้ใหญ่ วัยที่ต้องดิ้นรน ต่างก้อโทษกันไปโทษกันมา เป็นความผิดของคนนั้นบางคนนี้บาง คอยแต่โทษกันไปกันมา ไม่ยอมมองเลยว่า สิ่งที่ผิดพลาดนั้นเป็นเพราะเราหรือเปล่าและเป็นเพราะอะไร เพื่อจะได้ย้อนดูการกระทำ และหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น