[SF] 2JUN ]} We Found Love
ทำไมที่ที่เจอกัน...มันไม่เคยจะสวยงาม แล้วไงล่ะ..
ผู้เข้าชมรวม
1,071
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
SF เรื่องนี้ได้ไอเดียมาตอนปีใหม่(พอดิบพอดี?) เนื้อเรื่องแน่นอนน !!
มันงงอยู่แล้วล่ะครับ ฮ่า~~~~ อีกอย่าง คำผิด คำหยาบ ค่อนข้างจะมีน่ะนะ
**ฟิคเรื่องนี้เป็นแนว ชาย รัก ชาย รับไม่ได้ [x] มุมขวาขอบคุณครับ ^^
คู่จิ้นเรื่องนี้เป็น 2JUN so Beast!! รับไม่ได้ [x] มุมขวาเช่นกัน ขอบคุณคร้าบบ !! ^^**
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แสงไฟสาดส่องแบ่งแยกเป็นสี ๆ แกว่งไปตรงนู้นทีตรงนี้ทีอย่างน่าปวดหัว กลางฟลอร์ที่คนเต้นท่าอะไรไม่รู้เต็มไปหมด เสียงเพลงกระหึ่มอยู่ข้างหู เสียงเบสหนักหน่วง จังหวะดนตรีพาให้ศีรษะโยกตามไปด้วย ปลายนิ้วงามหมุนวนรอบขอบแก้วทรงสูงของมาร์คาดี้สีสดใสที่พร่องไปกว่าครึ่งแก้วไม่ได้ช่วยให้คนที่ลิ้มลองมันลืมเรื่องที่เพิ่งผ่านมาไปได้เลยสักนิด
ยงจุนฮยองผู้ชายที่เพิ่งถูกแฟนบอกเลิกมามาด ๆ นี่ก็ปีใหม่แล้ว ให้ตายสิ...เค้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแฟนทุกสิ้นปีเลยหรือยังไงกัน? ไอ้เหล้าสีสดใสก็ไม่ได้ช่วยอะไรเค้าเลย กลับมานั่งตรงนี้ที่เดิม ท่าทางเดิมๆ สั่งเหมือนๆเดิม เหตุผลก็เหมือนเดิม ......กูถูกแฟนทิ้ง!!. ชัดเจนทุกถ้อยคำเวลาเพื่อนถาม อีกอย่างสิ้นปีแบบนี้ ไม่มีหมาตัวไหนมานั่งฟังเค้าปรับทุกข์หรอก ขนาดจะโทรไประบายยังมีหน้ามาตอบว่า กูไม่ว่าง แค่นี้นะ!!! มันช่างน่าน้อยใจนัก !!!!! =_______=
“ผมเห็นคุณมานั่งที่นี้ทุกปี ไม่เบื่อบ้างหรอ? แถมยังมาคนเดียวอีกต่างหาก พอจะมีที่ว่างให้ผมนั่งเป็นเพื่อนมั้ยครับ?”
ร่างบางไม่ตอบ แต่เปลี่ยนเป็นหันไปตามต้นเสียง ชายหนุ่มใบหน้าคม เสียงนุ่ม รอยยิ้มที่จริงใจและดวงตาที่อบอุ่นกำลังจดจ้องเค้าอย่างรอคอยคำตอบ
“จะเป็นเกียรติอย่างมาก ถ้าแนะนำตัวสักเล็กน้อย” เมื่อได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มหยัดยิ้มเล็กน้อยแล้วเลื่อนเก้าอี้ข้างๆอีกคนพร้อมกับนั่งลง
“ผมชื่อ ยุนดูจุน เหตุผลที่ทำให้เรามาที่นี้ก็คงเพราะเหตุผลเดียวกัน... ทุกปีของคุณอาจจะเหมือนทุกปีของผม เผลอๆแฟนของเราทั้งคู่อาจจะทิ้งเราไปอยู่ด้วยกันเองก็เป็นได้ ว่ามั้ย?” ฉีกยิ้มมากขึ้น นี่แหละ วิธีการของยุนดูจุน.
“เหอะ!” ร่างบางตอบเพียงแค่นั้นแล้วกระดกน้ำสีสดลงคอจนหมด.. พร้อมไปด้วยสายตาที่ยังคงจดจ้องริมฝีปากอิ่มนั่นอยู่
“ฉันชื่อ จุนฮยอง เหตุผลที่มาที่นี้ทุกปีของฉัน นายจะรู้ได้ยังไงฉันไม่สนใจมันหรอก แต่ถ้ารู้แล้วก็ดี ฉะนั้นก็เลี้ยงฉันด้วยละกัน ในเมื่อนายเป็นคนบอกเองว่า เรามาเพราะเหตุผลเดียวกัน”
หมอนี่...กวนไม่น้อย... ในหัวของยุนดูจุนคิดแบบนั้นแต่ต้องซ่อนมันเอาไว้ภายใต้ใบหน้าอบอุ่น
“จะว่าอะไรก็ว่ามา ฉันพอจะรู้ว่านายคิดว่าฉันกวนตีน.” สะอึก... ให้ตายสิ ทำไมถึงได้โดนดักขนาดนี้
ร่างบางสั่งคามิกคาเซ่ของโปรดพร้อมกับรินให้คนข้างๆด้วย “แก้วนี้เป็นของนาย แต่ราคาตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังคงเป็นของนาย คงไม่ถือสาอะไรคนเมาและโดนเพื่อนทิ้งอย่างฉันหรอกนะ” ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าน้อยๆแล้วรับมา
“อันที่จริง... ผมไม่ค่อยชอบคามิกฯเท่าไรหรอก มันหวานจะเลี่ยน.” ร่างสูงจงใจเน้นประโยคหลังพร้อมกับแอบเลื่อนเก้าอี้ให้ใกล้อีกคนมากขึ้น
“มันอาจจะซ่อนความซาบซ่าและขมอมเปรี้ยวไว้ในนั้นก็ได้ นายต้องลองดื่มด่ำมันเอาเอง.”
ร่างสูงได้ฟังก็ได้แค่เลิกคิ้วและอดที่จะอมยิ้มน้อยๆไม่ได้ หมอนี่ มีกำแพงกั้นไว้ไม่น้อย หรือเค้าเองที่กำลังถูกยั่วยวน.
“ไม่ทราบว่าแฟนเก่านาย เป็นชายหรือหญิงกัน” “จะอยากรู้ไปทำไม มันไม่ใช่ธุระกงการณ์อะไรของนาย.”
บางทีวันนี้เค้าอาจจะต้องสงบศึกไปก่อนซะแล้ว...ยังไม่อยากถกเถียงอะไรด้วยตอนนี้ เกร็งว่าคนตรงหน้ากำลังหงุดหงิดที่ถูกก่อกวนเลยก่อกวนกลับ ร่างสูงเลื่อนเงินพร้อมกับนามบัตรไว้ตรงนั้นแล้วลุกจากไป.
“เหอะ!!.. ผู้ชายเห็นแก่ได้.” จุนฮยองหยิบนามบัตรขึ้นมาดูแล้วลุกออกจากร้านไปเช่นกัน.
.
.
.
.
*
ตราบจนนาฬิกาตีเป็นเวลาเที่ยงคืนของปีใหม่ สายตาก็หาร่างตรงเคาว์เตอร์ไม่เจอเสียแล้ว... ไม่คิดจะอยู่เคาว์ดาวน์กันเลยหรือยังไง? จะรีบไปไหนนักหนา? ถึงจะถูกก่อกวนมาให้เสียอารมณ์แต่ก็ยังที่จะอดหน้าตางามงดนั้นไม่ได้ ตัวเค้าเองรู้สึกผูกพันกับหมอนั้นมาตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว... มันเป็นเวลานานมาก ที่ได้แต่จดจ้องไม่กล้าเดินเข้าไปทัก เพิ่งได้รับรู้วิธีการจีบสาว(?)ที่กำลังนั่งเหงาคนเดียวจากเพื่อนมาไม่นานก็ต้องพลาด เมื่อคนที่ไปจีบดันเป็นผู้ชายนี่หว่า ก็ที่เพื่อนสอนมันจีบสาว เหอะ. ก็สมควรอยู่ล่ะมั้ง
“ไงมึง จีบสาวไปถึงไหน”
“สาวก็ผีอะไรล่ะ ถูกกวนประสาทมาซะกูอยากจะเอาเหล้าเทใส่แถมเสียเงินไปอีกต่างหาก”
“มึงเผลอจีบกระเทยหรือไงวะ?” ดูจุนไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยกยิ้มน้อยๆให้เพื่อน
ทำไมเค้าจะไม่รู้ว่าจุนฮยองได้คว้านามบัตรเค้าไปด้วย. แค่นั้นก็มากพอแล้วแหละมั้ง ถึงจะพอรู้ว่า หมอนั่นไม่มีทางติดต่อมาก็ตาม.
Rrrrrr Rrrrr Rrrrr
เพราะเสียงโทรศัพท์จำเป็นที่จะต้องออกไปคุยข้างนอกในคืนวันปีใหม่แบบนี้ หรือจะเป็นคนที่เค้าป้อไปเมื่อกี้โทรมา.
“ครับ.” “ว่าแล้วเชียว นายต้องรับสายด้วยคำคำเดียว. คิดว่าฉันจะโทรมาจริงๆสินะ”
ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรพลางส่งยิ้มน้อยๆ ถึงจะรู้ว่าอีกคนไม่มีทางเห็นก็เถอะ.
“ไม่ได้โทรมาให้เงียบหรอกนะ เอาเถอะ ขอบคุณมากสำหรับค่าเหล้า ยุนดูจุน.”
“ครับ ผมยินดีไม่เป็นไร แต่....” “ไว้วันไหนถ้านายว่างก็โทรมาบอกล่ะกัน ฉันจะเลี้ยงข้าวขอบคุณ แต่ขอเป็นเวลากลางวัน กลางคืนจะหากิน.” น้ำเสียงติดตลกของอีกคนทำให้เค้ากล้าที่จะหยอดมุขใส่.
“ตอนกลางคืนทำไมไม่มาหากินกับผมล่ะครับ?” ปลายสายไม่ได้ตอบอะไรมา... แต่คาดว่าคงกร่นด่าเค้าในใจ.
“ถ้าภรรยาของนายไม่ว่านะครับคุณยุน.” จุนฮยองพูดจบก็วางสายไป.
แค่นี้ก็เกินพอ... หมอนี่มันง่าย หรือว่าเค้าเป็นคนง่ายเองกันแน่ ใครเป็นฝ่ายอ่อยใคร คงต้องไปหาเอาคำตอบข้างหน้าล่ะมั้ง
.
.
.
.
*
ตอนนี้ก็แปดโมงเช้า... วันนี้เค้าตื่นสายเกินไปใช่ไหม... อา มีนัดประชุมตอน เจ็ดโมงครึ่ง ให้ตายสิ ยงจุนฮยอง.. สงสัยเมื่อคืนจะหนักไปหน่อย แล้วบริษัทบ้าอะไรมานัดประชุมตอนเทศกาลปีใหม่วะเนี้ย!!! ด้วยความเร่งรีบทำให้เค้าเร่งทำกิจวัตรตอนเช้าด้วยความรวดเร็วและ... มอ’ไซต์คือสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนั้น...
“เจ้านายครับ..ผม...”
“มาก็ดีแล้ว คุณยง ในปีนี้จะมีหัวหน้าแผนกคนใหม่ของแผนกคุณมาช่วยงานคุณ เพราะบางที การที่ดริ้งท์กับเพื่อนมากเกินไป อาจจะทำให้หัวหน้าแผนกคนเก่าอยากจะลาพักร้อน. มีอะไรก็ช่วยแนะนำเค้าบางก็ดี ตอนนี้เค้าไปรอคุณที่ห้องทำงานแล้ว เชิญ..”
มาถึงบริษัทก็โดนเรียกตัวพร้อมกับโดนด่าทางอ้อมนิดหน่อย มาสายวันเดียวจะไล่กูออก ให้ตายสิบริษัทเฮงซวย!!.
ร่างบางเปิดประตูห้องทำงานตนเองแล้วปิดมันด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว. ก่อนจะต้องหันมาสะดุ้งกับใครสักคนที่นั่งหันหน้าหาเก้าอี้ของเค้าซึ่งมันว่างเปล่า.. ก็คนมันยืนอยู่ตรงนี้ ผีที่ไหนจะไปนั่งตรงนั้น.
“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี้นะครับ หงุดหงิดอะไรแต่เช้าเชียวคนสวย.”
“เหอะ!. ไงคุณ หัวหน้าแผนกคนใหม่สินะ” จากน้ำเสียงก็รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร.. ยุนดูจุน ..ร่างบางเดินไปนั่งตรงข้ามกับอีกคนพร้อมกับหน้าตาบูดบึ้ง.
“ฮ่ะๆๆ ให้ตายสิ” “ขำอะไรของนายไม่ทราบ!!!!” ร่างบางวีนใส่อีกคนพร้อมกับปากล่องทิชชู่ที่อยู่ใกล้มือที่สุด.
“เปล่า... ผมแค่คิดว่า เราเจอกันตอนคุณอารมณ์หงุดหงิดอีกแล้ว มันทำให้คุณดูน่ารักมากขึ้นเลยทีเดยีวนะเนี้ย”
“งั้นนายก็อย่ากวนประสาทได้ไหม !! ไปทักทายคนในแผนกไป!!!!” จุนฮยองไล่เค้าออกมาพร้อมกับรอยยิ้มของดูจุนที่เปิดประตูหนีไปทักทายคนอื่นตามที่ร่างบางบอก
เสียงซุบซิบดังขึ้นระงมไปทั่ว ...อะไรกันก็แค่เค้าเดินยิ้มออกมาจากห้องหัวหน้าแผนกพร้อมกับเสียงตะโกนไล่หลังแค่นั้นเอง
‘เธอ...หัวหน้ายงน่ากลัวเนอะ ยิ่งเวลาหงุดหงิดละ ไม่กล้าเข้าใกล้..’
จริงๆน่ะหรอ... เค้าได้แต่ค้านถามอยู่ในใจ..
‘อุ๊ย ! คนนั้นใช่ไหมที่บอสใหญ่บอกว่าจะมาดูแลพวกเราแทนหัวหน้ายง หล่อจังเลยอ๊าเธอ.’
อะไรนะ... ไม่เห็นมีใครบอกว่าจะไล่จุนฮยองออก...จำเป็นต้องเปิดประตูไปถามคนข้างในอีกรอบ
“อะไรทำให้นายหงุดหงิดบอกมาได้ไหม... ” ร่างบางเงยหน้ามามองอีกคนทั้งๆที่คิ้วยังขมวดอยู่. เห็นได้ชัดว่ายังคงหงุดหงิด
“
..” เพราะอะไรถึงอยากจะระบายทุกเรื่องกับคนคนนี้.... หรือเพราะดวงตาที่จดจ้องมาอย่างจริงจังและแสดงถึงความเป็นห่วงนั้น.
“ฉันตื่นสาย ทำให้มาสายครั้งแรก พลาดการประชุมไป 45 นาที มีหัวหน้าแผนกคนใหม่เข้ามา และ บอสใหญ่อยากไล่ฉันออก แค่นั้นแหละดูจุนอา...” พูดจบก็ส่งสายตาที่คล้ายคลึงเหมือนอยากจะร้องไห้ออกไปหาอีกคนอย่างไม่รู้ตัว...
สะอึก... คนคนนี้ทำไมถึงได้รู้สึกน่าปกป้องขนาดนั้น... ร่างสูงได้แค่คิดแต่ก็นะ...การกระทำมักไปไว ขาทั้งสองขาสั่งงานเท้าให้เดินไปอยู่ด้านหลังแล้วสวมกอดหลวมๆ พลางโยกไปมาหน่อยๆ
“ใจเย็นๆนะ ยงกุน.. ฉันไม่มีทางให้ใครหน้าไหนมาไล่นายออกไปหรอก นายต้องเป็นหัวหน้าแผนกข้างๆฉันนี่แหละ”
ร่างบางครางในลำคอตอบกลับหน่อยๆ พร้อมกับผ่อนคลายอารมณ์หงุดหงิดเมื่อกี้ลง... มีคนคนนี้อยู่ก็สบายใจดีแฮะ.. เป็นเพราะอะไรกันแน่นะ..
.
.
.
.
*
“ดูจุนอา... นายอย่าดูบอลจนดึกนะ เดี๋ยวก็ได้ตื่นสายกันพอดี!!” เสียงวีนๆของภรรเมียพูดสั่งก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป
“จ้าๆๆ นอนฝันดีนะครับบอส!!” ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เค้าก็ชอบหยอกด้วยคำคำนี้จริงๆ
ในตอนนั้น... พอผ่านไปสามเดือน ดูจุนก็ถูกแต่งตั้งให้กลายเป็นหัวหน้าแผนกเต็มตัว ส่วนจุนฮยองเองก็มีทางเลือกแค่ไม่กี่ทางเท่านั้น แต่ในที่สุด เค้าก็ตัดสินใจที่จะทำเรื่องขอเป็นรองแผนกให้ได้.. จนในที่สุดก็ได้มา ในสายตาคนอื่น จุนฮยองเป็นรองหัวหน้าแผนกที่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาวันๆ เดินตามหลังหัวหน้าแผนก และถือแฟ้มเอกสารเป็นกอง คอยเตือนนู้นนี่นั่นให้กับดูจุน แต่ถ้าเค้าอยู่ในห้องกันสองคนละ.... จุนฮยองเปรียบเสมือนหัวหน้าแผนกแทนที่ดูจุนด้วยซ้ำ. ปากอวบอิ่ม(ตามแรงโน้มถ่วงของโลก)คอยบ่นนู้นบ่นนี้ตามประสา คอนด่าคอนเตือนในทุกเรื่อง เผด็จการ...คนส่วนมากมองในรูปแบบนั้น แต่เปล่าหรอก... เมียของเค้าคนนี้ใจดีจะตาย.
เวลาโดนด่ามักจะโดนด่าพร้อมกันเสมอ โดยเฉพาะในตอนนั้นที่ดูจุนฝึกงาน จุนฮยองยอมโดนด่าแทนเค้าทุกเรื่อง แต่ผลสุดท้ายก็ต้องปลอบประโลมกันอยู่ดี... ไม่ว่าจะทำอะไร.. ไม่มีจุนฮยองก็ไม่มีดูจุน ไม่มีดูจุนก็ไม่มีจุนฮยอง ก็นะ พวกเค้าเจอกันในที่ที่มีแต่ความเฮงซวย ต่างคนต่างถูกแฟนทิ้ง... เจอกันด้วยมาดกวนๆของแต่ละคน ทำงานในบริษัทเฮงซวยที่โบนัสไม่มีเงินเดือนหักได้หักดี เอะอะก็ไล่ออก. แต่ก็ผ่านมันมาได้ทั้งคู่ ....ตัดสินใจมาอยู่ด้วยกันแล้วนี่...ทำไงได้ล่ะ
บางที...สิ่งที่ทั้งสองคนรอคอยให้มาเติมเต็ม ก็อาจจะครบถ้วนเพราะเพียงชายคนนึง...ยุนดูจุนต้องการยงจุนฮยอง และ ยงจุนฮยองก็ต้องการยุนดูจุน มีกันแค่นี้ ก็ผ่านทุกอย่างไปได้โดยไม่เกร็งกลัวต่ออะไรทั้งนั้น. ความเป็นจุนฮยองเป็นที่น่าเกรงขามและความเป็นดูจุนก็เป็นที่พังพิง พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน อะไรที่ทำที่นำเสนอออกมา ก็นับเป็นประสบความสำเร็จทุกอย่าง... ถึงจะไม่มีใครรู้ว่าคบกันแบบไหน แต่ใครจะไปรู้ว่าความสัมพันธ์ของเค้าทั้งคู่... ใกล้จะเข้าพิธีวิวาห์ใน 1 มกรา ปีหน้าแล้วล่ะ... HAPPY NEW YEAR
เราจะอยู่ด้วยกันทุกปี ทุกปี...
ผลงานอื่นๆ ของ iSWAG ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ iSWAG
ความคิดเห็น