A B R A C A D A B R A - นิยาย A B R A C A D A B R A : Dek-D.com - Writer
×

    A B R A C A D A B R A

    เธอวางสัญญาไว้บนโต๊ะ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันรีบจรวดปลายปากกาแล้วตวัดไปมาเป็นลายเซ็นของฉัน ก่อนเธอจะเอาไปพิจารณาแล้วเดินมาส่งฉันที่ประตูหน้าบ้านบานใหญ่ เธอปิดประตูเสียงดังสนั่น ฉันจึงวิ่งไปที่รถ ด้วยเพราะตอนนี้ฝนกำลังตกอย่างหนัก อยู่ในบ้านไม่มีทางรู

    ผู้เข้าชมรวม

    106

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    106

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    A B R A C A D A B R A

    A B R A C A D A B R

    A B R A C A D A B

    A B R A C A D A

    A B R A C A D

    A B R A C A

    A B R A C

    A B R A

    A B R

    A B

    A


    บทที่ 1 ก้าวแห่งหายนะ

    "

    "

    "

    "

    "

    "

    "

    "

    "

    "

    "ใช่ เราซื้อบ้านหลังนั้นได้แล้ว เธอช่วยโทรหาเซบาสเตียลกับไรอัลด้วยล่ะ" เมื่อบทสนทนาจบลง ก็เหลือเพียงความเงียบ นอกหน้าต่างรถเริ่มมีสีดำเข้าปกคลุม เหมือนทุกอย่างถูกกลืนให้หายไป ฉันมองนาฬิกา ตอนนี้ปาเข้าไป 6 โมงเย็นแล้ว ฉันรีบเร่งรถให้เร็วขึ้นเพื่อกลับไปเก็บข้าวของให้ทันวันพรุ่งนี้

    ประวัติ

    แคโรลีน แมคโคเวอร์ (Karoline Mc Cover)

    เกิดวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.. 1973

    อายุ 25 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ

    ระดับปริญญาตรีด้านจิตเวทย์ศาสตร์

    อาชีพ แพทย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ป่วยพิเศษ

    สถานภาพ โสด บิดา-มารดา หย่าร้าง อาศัยอยู่กับมารดา

    ซูซาน อากิลลาร์ (Suesan Aguilar)

    เกิดวันพุธที่ 31 มีนาคม ค.. 1973

    อายุ 25 ปี จบการศึกษาจากอายุ 25 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ

    ระดับปริญญาตรีด้านจิตเวทย์ศาสตร์

    อาชีพ แพทย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ป่วยพิเศษ

    สถานภาพ โสด บิดา-มารดา อยู่ด้วยกัน

    เซบาสเตียล เชลเนอร์ (Sebastial Chelner)

    เกิดวันพุธที่ 31 มิถุนายน ค.. 1973

    อายุ 25 ปี จบการศึกษาจากอายุ 25 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ

    ระดับปริญญาตรีด้านจิตเวทย์ศาสตร์

    อาชีพ แพทย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ป่วยพิเศษ

    สถานภาพ โสด บิดา-มารดา อยู่ด้วยกัน

    ไรอัล สเกลเตอร์ (Ryeal Scareter)

    เกิดวันพุธที่ 31 มกราคม ค.. 1973

    อายุ 25 ปี จบการศึกษาจากอายุ 25 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ

    ระดับปริญญาตรีด้านจิตเวทย์ศาสตร์

    อาชีพ แพทย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ป่วยพิเศษ

    สถานภาพ โสด บิดา-มารดา อยู่ด้วยกัน

    บทที่ 2 มุ่งหน้าสู่ขุมนรก

    ละอองฝนกระทบกระจกรถยนต์ที่กำลังขับเคลื่อนมุ่งหน้าเข้าสู่คฤหาสน์หลังนั้น ความมืดเริ่มปกคลุมทั่วท้องฟ้า ลมพัดแรง จนรถที่แล่นมาก่อนหน้าหลายคันต้องหยุดพักกลางทาง ติดยาวเกือบไมล์ สาเหตุมาจากข้างหน้ามีอุบัติเหตุ ทำให้รถต้องติดท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้ายนี้

    แมคเคอดี้ (Mercredi) ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส

    "

    เซบาสเตียล แมคเคอดี้ แปลว่าอะไรเหรอ?" ฉันเอ่ยถามเพราะเซบาสเตียลเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส น่าจะรู้ความหมายดีกว่าใคร

    "

    แปลว่า วันพุธ ชื่อคฤหาสน์เหมือนมีอาถรรพ์เลยนะ" เขาตอบ

    "

    หุบปากซะ ฉันไม่ชอบอาถรรพ์" ซูซานตะเบ็งเสียงด้วยความโมโห

    "

    โรคกลัวกำเริบอีกแล้วนะซูซาน" ไรอัลพูด

    เวลา 12 นาฬิกา

    ท้องฟ้ายังตกอยู่ในมืด ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงไหวไปตามสายลมอย่างช้าๆ ยานพาหนะทั้งหลายเริ่มจางหายไปทีละคันๆ รถของฉันแล่นไปบนถนนกลางป่าเพียงคันเดียว ฉันขับตรงไปตามถนนเรื่อยๆ แสงสว่างค่อยๆส่องมาทางกระจกหลัง อากาศที่แปรปรวนในขณะนั้น เริ่มหายไปทีละนิด ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางซะที คฤหาสน์หลังนี้ยังคงเปิดต้อนรับพวกเราอยู่เสมอ

    "

    "

    เฮ้ ตื่นได้แล้ว"ฉันปลุกทุกคน หลังจากที่พวกเขาตื่นและลงจากรถ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราคือ...มีอะไรหรือคะ คุณตำรวจ?" ซูซานถามด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

    "

    ผมไมเคิลครับ มีผู้ชายคนหนึ่งบุกรุกเข้ามาในบ้านหลังนี้ ทำให้ข้าวของในบ้านซะหายนิดหน่อย" เขายักคิ้วเล็กน้อยเพื่อให้เราสบายใจ

    "

    เขาเข้ามาทำอะไรคะ" ซูซานถามต่อไป เธอยังไม่รู้สึกดีขึ้น

    "

    เขาบอกเราว่า...สวดส่งวิญญาณ...เอ่อ ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เราจัดการทุกอย่าเรียบร้อยแล้ว" เขาเดินผ่านซูซานไปเมื่อพูดจบ พวกเราหันตามเขาไป

    "

    งั้นผมขอตัวก่อน ยินดีที่ได้รู้จัก" เขากล่าวก่อนจะปิดประตูรถและค่อยๆขับออกไป

    "

    บ้านหลังนี้ชักจะทำให้ฉันรู้สึกขนลุกซะแล้วสิ" ซูซานบอก

    "

    ไม่มีอะไรหรอกซูซาน ผู้ชายคนนั้นเขาบ้าไปเอง" ฉันปลอบใจซูซาน

    "

    นั่นสิ เราเข้าไปดูข้างในกันเถอะ" ไรอัลพูด

    ฉันและพรรคพวกก้าวเข้าไปในคฤหาสน์หลังนั้น ความรู้สึกแรกในตอนนั้น คือเย็นวาบไปทั้งตัว มึนงง และสับสนไปหมด เหมือนมีบางสิ่งคลุมรอบตัวฉันอยู่

    "

    "

    โอ้โห ดูมันอลังการมากเลย"ซูซานพูด ตกลงมันมีกี่ห้องห้องกันล่ะ" เซบาสเตียลเอ่ยถาม

    "

    มี 5 ห้องน้ำ 6 ห้องนอน ห้องเก็บของชั้นใต้ดิน ห้องทำงาน 2 ห้อง ห้องครัว 1 ห้องโถงที่เรายืนอยู่ 1 ห้อง สุดทางเดินนี้มีอีกห้องหนึ่ง แต่ฉันหากุญแจห้องนี้ไม่เจอ" ฉันอธิบาย

    จากนั้นพวกเราก็ช่วยกันทำความสะอาดและเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เหลือเข้ามาข้างใน ในที่สุดก็สำเร็จไปด้วยดี

    บรรยากาศเริ่มขมุกขมัว เมฆครึ้มเริ่มมาเยือนเมืองสเพนโดนาอีกครั้ง ทั้งที่เม็ดฝนตกกระทบหลังคาอย่างหนัก แต่ภายในบ้านกลับเงียบอย่างประหลาด

    "

    เฮ้อ...ถ้าอากาศแปรปรวนอย่างนี้บ่อยๆ มีหวังฉันต้องอกแตกตายก่อนแน่ๆเลย" ซูซานถอนหายใจและพูดขึ้น

    ท้องฟ้าที่มืดครึ้มทำให้อากาศเย็นยะเยือก อาทิตย์ลับขอบฟ้าไปอย่างช้าๆ ทุกอย่างเงียบกริบ ไม่ได้ยินกระทั่งเสียงนกที่กำลังบินกลับรัง เหลือเพียงดวงไฟดวงน้อยๆ ส่องสว่างอยู่อย่างโดดเดี่ยวคล้ายกลับดวงดาว ความมืดเข้าปกคลุมทุกสิ่งจนมองไม่เห็นสิ่งใดแล้วในขณะนี้

    "

    เฮ้ หนุ่มๆ อาบน้ำได้แล้ว รีบเข้านอนซะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะ" จบคำพูดไม่นาน แสงไฟดับลง เหลือเพียงแสงของดวงจันทร์ที่ส่องประกายสะท้อนมายังหน้าต่างมุกของห้อง ฉันค่อยๆหลับตาลงช้าๆ และผล็อยหลับไป

    12.31 Pm

    ครืน โครม เปรี้ยง !!!เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น จนฉันตกใจตื่น แต่ทว่าทำไมมีแต่ฉันที่ตื่นขึ้นมา เหงื่อฉันทำให้เสื้อเปียก ฉันค่อยๆชันเข่าขึ้นและกอดมันจนแน่น สายตาชำเลืองไปทีหน้าต่างมุกบานใหญ่อีกครั้ง ฉันค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง เดินไปยังริมหน้าต่าง ขอบหน้าต่างที่ตกอยู่ในเงามืด ทำให้ฉันต้องจ้องเขม็ง มันสลักรูปสามเหลี่ยมและมีคำว่า ROSE อยู่ตรงกลาง

    "

    กรี๊ดดดดดดดดดดดด" เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนทำให้ฉันตกใจ ฉันหันกลับและรีบเดินไปยังต้นเสียง

    ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง รถหลายคันเริ่มเคลื่อนออกไป ฉันจึงรีบมุ่งหน้าไปเมืองสเพนโดนา คฤหาสน์
    วันอาทิตย์ เวลา 9 โมงเช้า

    อย่าบอกนะ แคโรลีน" เธอกรี๊ดลั่นด้วยความดีใจ
    ฮัลโหล ซูซาน ฉันมีข่าวดีจะบอก" ซูซานรับโทรศัพท์พร้อมกับเสียงงัวเงียที่เหมือนกับเพิ่งตื่น
    เอาเป็นว่าเธอเซ็นสัญญานี้ก่อน อาทิตย์หน้ากลับมาเอาโฉนดที่นี่ก็แล้วกัน" เธอวางสัญญาไว้บนโต๊ะ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันรีบจรวดปลายปากกาแล้วตวัดไปมาเป็นลายเซ็นของฉัน ก่อนเธอจะเอาไปพิจารณาแล้วเดินมาส่งฉันที่ประตูหน้าบ้านบานใหญ่ เธอปิดประตูเสียงดังสนั่น ฉันจึงวิ่งไปที่รถ ด้วยเพราะตอนนี้ฝนกำลังตกอย่างหนัก อยู่ในบ้านไม่มีทางรู้เลยว่า ข้างนอกเป็นอย่างนี้ มันเงียบซะจนชาไปทั้งตัว ฉันถอยรถออกมาอย่างรวดเร็วแม้ว่าแถวนั้นบรรยากาศไม่ค่อยดีนัก แต่เพราะมีกลิ่นไอของธรรมชาติฉันจึงตัดสินใจเลือกมัน ออกถึงปากทางเข้า กลับไม่สบอารมณ์ฉันสักเท่าไหร่ มันเป็นไร่ข้าวโพดแห้งๆ สีน้ำตาลกรอบของต้นข้าวโพดช่างเข้ากันดีกับหุ่นไล่กา ดวงตาสีน้ำตาลดำคล้ายกับกำลังจ้องมองฉันอยู่ ฉันขับรถไปเรื่อยๆ ฝนที่ตกหนักเริ่มซาลงแล้ว ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและต่อเบอร์หาซูซาน อากิลลาร์ เพื่อนสนิทของฉัน
    ยอดไปเลย ฉันคิดว่ามันจะแพงกว่านี้ซะอีก" ฉันพึงพอใจกับราคาที่เธอเสนอมามาก
    ใจร้อนจังเลยนะ 5 ล้านดอลลาร์เป็นยังไง" เธอหัวเราะแหบๆ ก่อนจะเสนอราคา
    ในกรณีของฉัน คงจะไม่เป็นไร เพราะมีเพื่อนมาพักด้วยถึง4คน เอาเป็นว่าคุณจะขายมันเท่าไหร่คะ?" ฉันถามด้วยความรีบร้อน
    อันที่จริงแล้ว ที่นี่คฤหาสน์ เธอตาถึงมาก ส่วนใหญ่แล้วคนที่เข้ามาอยู่ จะอยู่ได้ไม่นานหรอก" เธอพูดพร้อมกับสูบซิกก้า ตอนนี้เธอเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นซิกก้าฉุนเตะจมูกจนแทบจะสติแตก
    ใช่ค่ะ คุณนายเกรดดี้? คือฉันสนใจบ้านหลังนี้มาก ไม่ทราบว่าคุณตกลงขายให้ฉันได้หรือเปล่า?" ฉันพูดอย่างรวบรัดที่สุดเท่าที่จะทำได้
    ฮัลโหล คุณนายเกรดดี้ มีใครอยู่ไหมคะ?" ผู้หญิงที่ฉันตามหาอยู่คือเจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่ฉันติดต่อเอาไว้เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ฉันยืนมองนาฬิกาและกวาสายตาไปรอบๆระหว่างรอ ผนังดูเก่าแก่ มีอายุมานานอาจจะเป็นร้อยๆปี สิ่งของประดับตกแต่งดูโบราณ ทุกอย่างดูหยุดนิ่งเหมือนต้องมนต์ แคโรลีน แมคโคเวอร์ ใช่ไหม?" คุณนายเกรดดี้แปลกกว่าที่ฉันคิด ดวงตาสีขุ่นดูลึกลับ เสียงที่สั่นด้วยความชราทำเอาใจหายวาบ และซิกก้าบนมือของเธอทำเอาฉันเหงื่อตก เธอเดินลงบันไดหินอ่อนช้าๆพร้อมกับพ่นควันสีขาวฟุ้งไปทั่ว

    คฤหาสน์ต้องคำสาป

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น