คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : The Blades and Greybeard - หนึ่งทางเลือกที่หลายคนกุมขมับ
paarthunax มังกรนักปรัชญา กับหนึ่งทางเลือกที่ตัดสินใจลำบากใน skyrim
The blades นักรบคู่บัลลังก์จากชาติปางก่อน (Oblivion เมื่อ 200 ปีที่แล้ว) มาถึงภาคนี้กลายเป็นพวกระหกระเหินเร่ร่อนหนีมาซ่อนตัวจากพวก Thalmor เสียอย่างนั้น เมื่อดูจากพื้นเพแล้วเหมือนน่าเห็นใจมาก ไอ่ tongfar เริ่มมาพอได้ยินเจ๊ Delphine บอกว่าตนคือ the blade ที่เหลือรอดอยู่ก็อยากช่วย แต่...เมื่อเล่นไปสักพักกลับรู้สึกว่า “ไหงมันเอาแต่ใจจังฟระ”
เอาแต่ใจอย่างไรล่ะ ? ก็ลองดูกันเลยดีกว่า...
การพบกันครั้งแรกเริ่มที่... Delphine เข้าไปขโมย Horn of Jurgen Windcaller ตัดหน้าเราซึ่งได้รับคำสั่งจาก Greybeards เป็นการทดสอบสุดท้าย โดย Delphine ทิ้งกระดาษไว้ให้แผ่นหนึ่งบอกว่าหากอยากพบกันให้ตามไปเช่าห้องพักที่ Riverwood
เมื่อไปถึงเจ๊แกคืน horn ให้ง่าย ๆ ความรู้สึกก็ยังดีอยู่ แต่คุยไปคุยมากลับเหมือนพยายามใช้งานเราหนักขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจากอยากให้เราพิสูจน์ตัวว่าเราเป็น dragonborn จริงหรือไม่ จะลากเราไปฆ่ามังกรแล้วดูดพลังให้ดูต่อหน้าต่อตาจึงจะยอมเชื่อ...จริงที่หลบ Thalmor จริงที่ต้องตรวจสอบอันนี้ก็ยังเฉย ๆ คิดไปว่ารอบคอบดี สมเป็น the blade (คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน)
แต่พอหลังจากกลับมาแผนเริ่มมั่วขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจากเดามั่วว่า thalmor เป็นผู้เรียกมังกรจะส่งเราเข้าไปสืบหาความจริง ให้เราฝากของมีค่าทั้งหมดไว้กับตน ค่ำคืนที่ลอบเข้าไปนั้น เราแทบจะไม่ได้อะไรกลับออกมาเลยนอกจากข่าวว่า “the blade อีกคนยังมีชีวิตอยู่ใน riften”
นั่นเป็นเหตุให้มีคำบัญชามาสู่เราอีกว่า...ให้ไปช่วย the blade ที่ว่า (Esbern) โดยด่วน เรื่องราวดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง “เรา” และ the blade เริ่มเข้าสู่ทางตัน ทำให้ต้องพึ่งพวก Greybeard อีกครั้ง
สำหรับ Esbern นั้นไม่เท่าไหร่แต่ Delphine นี่มีอคติกับพวก Grebeard มาก...มากจนเกินพอดี โดยให้เหตุผลว่า “ก็ greybeard มีพลังแต่ไม่ใช้ เป็นพวกเห็นแก่ตัว” แน่นอนไอ่ tongfar ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่จึงตอบกลับไปว่า “พลังที่มากเกินไปมีผลร้าย ของแบบนั้นมันน่ากลัว”
เจ๊แกตัดบท “คนที่กลัวพลังคือพวกที่ใช้พลังไม่เป็น” แล้วหันมาเขม่นเรานิดหนึ่ง
ในใจเริ่มคิด...ตกลงนี่ไม่ทำอะไรก็เป็นความผิดอีกเหรอนั่น ถ้าพลังมันมากพอจะพลิกโลกได้อ่ะนะ...
ด้วยความสับสนที่มีอยู่เริ่มสุมมากขึ้น ก็ทำให้ต้องกลับไปคุยกับ Greybeard อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เมื่อคุยกับ Arngeir “ปากเสียงของกลุ่ม greybeard” อีกครั้งพี่แกฉุนมากเมื่อรู้ว่ามี the blade มายุ่งกับเรื่องนี้ โชคยังดีที่คนอื่นเปิดปากเตือนสติจนปราสาทสั่นไหว เรียกให้ Arngeir กลับมาคุยกันต่อ
Arngeir ให้เหตุผลที่ตนเกลียด the blade ว่า “พวกนั้นมันป่าเถื่อน พยายามเชิดตัวเราให้ทำตามที่พวกนั้นต้องการเท่านั้น...”
เมื่อ...ลองคิดไล่ตามตั้งแต่ต้น...จะว่าไปมันก็อาจจะจริงก็ได้มั้ง แต่ก็ต้องรอดูไปก่อน (ยังไม่ใส่ใจอะไรมาก)
หลังจากได้รับการยอมรับจาก greybeard ทั้งสี่ให้ขึ้นไปพบกับ paarthunax ได้ เนื่องจาก paarthunax น่าจะเป็นเพียงผู้เดียวที่รู้จัก shout Dragonrend ซึ่งสามารถใช้ปราบ Alduin มังกรผู้ทำลายกาลเวลานี้ได้
Paarthunax อันที่จริงก็เป็นมังกรแก่ ๆ น้องของ Alduin เนื่องจากเกิดไล่กันมา จึงเป็นมือขวาของ Alduin มาก่อน แต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ parthunax เปลี่ยนความคิดตนเอง จากจอมทำลายกลายมาเป็นมังกรจำศีล และเฝ้ารอคอยการข้ามกาลเวลาของ Alduin อยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกเพียงตัวเดียว...ทั้งหมดเพื่อจะหยุดยั้ง Alduin โดย...จากการชี้ช่องของ paarthunax ทำให้เรารู้ว่า “จะต้องหา elder scroll เพื่อนำมาย้อนเวลากลับไปเรียน shout Dragonrend ลาก Alduin ให้ลงมาสู่พื้นให้จงได้”
...และช่วงตามหานี่แหละ สารภาพว่ามันอยู่ในดันที่ไกลนรก กว้างสุดยอด กว่าจะลงไปถึงได้เล่นเอาเหนื่อย แต่พอจะออกดันมีลิฟท์ทางลัดซะงั้น แทบคลั่ง...
*พวก greybeard ได้ให้เหตุผลในเรื่อง...ไม่สนับสนุนให้เราเรียน dragonrend ว่า “การใช้พลังมังกร หมายความว่าเราต้องเข้าใจความรู้สึกนั้น ๆ อย่างแท้จริงเสียก่อน นั่นหมายความว่า เมื่อเราจะเรียน shout ที่มีแต่ความชิงชังให้ฝูงมังกรทั้งหมด ก็อาจทำให้เราหลงทางได้
*อันนี้ก็ต้องชม Bethesda อีกอย่างคือ “ภาษามังกรไม่ได้มั่วนะครับ!” เพราะทาง Bethesda สร้างภาษามังกรขึ้นมาจริง ๆ มีเพลงที่ร้องออกมาครึ่งหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษ และอีกครึ่งเป็นภาษามังกร (พวก bard ในเกมบางตัวจะร้องกันได้ และใน youtube ก็มีชื่อเพลงว่า dragonborn come) ส่วนพวกตัวอักษรทั้งหมดก็มีความหมาย สามารถแกะออกมาเป็นคำ ๆ ได้ชัดเจน ซ้ำยังมี font ออกมาให้โหลดอีกต่างหาก !
ที่มา http://elderscrolls.wikia.com/wiki/Dragon_language
การดำเนินเรื่องช่วงนี้...เป็นช่วงที่เราต้องเลือกว่าจะเข้าข้างใคร จะอยู่กับพวก the blade หรือ greybeard ซึ่งผู้เขียนเลือกฝั่งมังกรแก่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย เลิกไปคุยกับพวก the blade นับแต่นั้น
ทว่า...มันก็ยังตามมาหลอกหลอนในช่วงทำสนธิสัญญาสงบศึก เพื่อจะจับมังกรลูกน้อง Alduin ไว้ที่ Whiterun หลังจากทำสนธิสัญญาจบ Delphine รีบเดินตรงมาหาเราทันที และโวยลั่นว่า “เรารู้เรื่องเกี่ยวกับ paarthunax แล้ว!!”
ไอ่เราก็งง ๆ อยู่พักนึงคิดว่า “นี่แกเพิ่งจะรู้เหรอ เขม่นมาตั้งนาน หนังสือก็อยู่กับตัวแต่เพิ่งโวยวาย paarthunax ก็เพิ่งช่วยปราบ alduin จนมันต้องหนีไปเมื่อไม่นานมานี่เองนี่หว่า”
เพราะงั้นจึงตอบกลับไปว่า “ถึงจะเป็นมังกร แต่เขาก็ช่วยเรานี่หว่า” (และอยากจะเสริมไปอีกว่า เพราะเห็นว่าเราได้ dragonrend แล้ว พวก greybeard และ paarthunax หมดประโยชน์แล้วเลยหาเรื่องได้งั้นเรอะ~!)
แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่หาเรื่องเมื่อ delphine โพล่งออกมาเต็มปากเต็มคำว่า “มังกรเชื่อไม่ได้ paarthunax มันโหดร้ายป่าเถื่อน เคยเป็นมือขวาของ alduin มาก่อน”
เจริญเลย... ยึดติดและเอาแต่ใจมากกกกก! แถมยังมีทิ้งท้ายอีกว่า “ไม่ฆ่าจะไม่ช่วยเราอีก” ทั้งที่ตอนแรก ๆ เหมือนสาบานว่าจะตามช่วยเราให้ถึงที่สุด... the blade หนอ the blade เรื่องแบบนี้มันต้องให้หัวหน้าตัดสินสิ และคนเป็นหัวหน้าไม่ใช่ตูที่เป็น dragonborn เรอะ!
จากนั้น delphine ก็เดินจากไป...
ไอ่ tongfar ในฐานะที่เป็นผู้เล่นขี้สงสัยก็เลยเอาไปคุยกับ arngeir พี่แกก็โกรธใหญ่ พูดประมาณ “ตูว่าแล้ว ไอ้พวกบาบาเรี่ยน” แล้วก็หันมาเขม่นเราทันที กดดันอยากให้ตอบว่าจะเอาไงกันแน่...ก็เลยตอบไปแบบหวาด ๆ ว่า “ไม่ฆ่าหรอก" เหตุผลหลัก ๆ ก็เพราะกลัวแกนั่นแหละ
หลังจากคุยกับ Arngeir แล้วก็ได้เวลามุ่งขึ้นไปหา paarthunax เพื่อถกกันอีกสักรอบ...คราวนี้พี่ท่านตอบกลับมาผิดคาดหมาย ออกแนวปรัชญาเช่นเดิม...ทั้งที่เราพูดไปตรง ๆ เลยว่า the blade จะให้มาเก็บแกแน่ะ
หลังจากได้คำตอบ (อันนี้ไม่แปลให้ ต้องลองหาอ่านเองล่ะนะ หึ หึ) ความคิดที่อาจจะฆ่ามังกรแก่ตัวนี้ ถ้ามันพูดจาขัดหูก็หายไปในบันดล จากนี้ไปผู้เขียนเลิกคุยกับ the blade เสียดื้อ ๆ โทษฐานคุยกันไม่รู้เรื่อง เควสค้างก็ช่างหัวมัน
สิ่งที่ได้รับกลับมาในท้ายที่สุด เมื่อเราไม่ฆ่า paarthunax ก็คือ... มังกรทั้งหลายหันมาอยู่กับ paarthunax ซึ่งตัว paarthunax ก็ตั้งใจจะสอน the way of voice ให้มังกรเหล่านั้นอยู่อย่างสงบแทนที่จะไล่ฆ่าแบบบ้าเลือดอย่าง the blade
ถึงแม้ว่าไม่ใช่มังกรทั้งหมดที่ยอมตาม paarthunax แต่ก็ไม่ใช่น้อย ส่วน Ohd-ah-ving ก็ทำตามสัญญาที่ให้กับเรา โดยที่เราสามารถเรียกมันมาช่วยได้ตลอดเวลา (เรียกมาช่วยตีป้อมในสงครามการเมืองสะใจมากกก)
สรุป...สิ่งที่เห็นจาก the blade ภาคนี้คือ “ไม่น่าเชื่อถือ” โดยเฉพาะ delphine ที่ดูไร้เหตุผลเอามาก ๆ ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เอาแต่ใจ และคล้าย ๆ จะใช้เราเป็นเบี้ยตัวหนึ่งในการฟื้นฟู the blade ให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมเสียมากกว่า ดูแล้วน่าหดหู่อยู่เหมือนกันที่กิลด์ใหญ่ ๆ สุดที่รักในภาคก่อนกลายมาเป็นอย่างนี้เสียได้...แต่อย่างว่า มีรุ่งมันก็ต้องมีเสื่อม สิ่งที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ย่อมไม่มีอะไรคงทนถาวร
dragonborn comes....
ป.ล. ซึ่งเรื่องนี้ไอ่ tongfar ได้บทเรียนสำคัญอย่างยิ่ง นึกไม่ถึงว่าการไม่ยึดติดกับแนวคิดเดิม ๆ ของตัวเองจะสร้างสรรค์ผลงานให้มันดียิ่งขึ้นไปอีกได้ขนาดนี้ และคงต้องนำมาปรับกับนิยายของตนเองเข้าสักวันอย่างแน่นอนครับ
ความคิดเห็น