กาลนาน (Love Forever)
คุณเคยรู้สึกกับใครสักคนที่มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนไหม แล้วคุณจะแปลกใจไหม? ที่ความรู้สึกนั้นอยู่กับคุณมา 20 ปีและยังจะคงอยู่ตลอดไป..
ผู้เข้าชมรวม
118
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กาลนาน (Love Forever)
by Rinsai
คุณเคยรู้สึกกับใครสักคนที่มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟนไหม? สมัยนี้หลายๆ คนอาจจะใช้คำว่า “กิ๊ก” แต่คุณจะแปลกใจไหมถ้าความรู้สึกนั้นอยู่กับคุณมาตลอดเวลา 20 ปีและก็ยังคงอยู่ตลอดไป...
“ต้นตาล” หญิงสาววัย 25 ปี พื้นเพเป็นเด็กต่างจังหวัด (จังหวัดเล็กๆ ทางภาคเหนือ) แต่ได้เข้ามาเรียนและทำงานที่กรุงเทพฯ เหมือนหลายๆ คนทั่วไป ต้นตาลเลือกที่จะมาอยู่ที่นี่เพื่อหลีกหนีอะไรบางอย่างและหวังว่าจะมีชีวิตใหม่ มีสังคมใหม่ที่ดีขึ้น ต้นตาลไม่ค่อยได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดบ่อยนัก โดยเฉลี่ยก็ปีละครั้งได้ เธอได้กลับบ้านครั้งล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว เวลาที่ต้นตาลกลับไปที่บ้านเกิดเธอก็มักจะอยู่แต่ที่บ้านไม่ค่อยออกไปไหน และไม่ค่อยได้สุงสิงกับใคร ด้วยความคิดที่ว่าจะไปที่นั่นก็กลัวเจอคนนั้น จะไปที่นี่ก็กลัวเจอคนนี้ โดยที่ต้นตาลไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เธอไม่อยากเจอ สิ่งที่เธออยากหลีกหนี มันกลับอยู่ใกล้ๆ ตัวเธอ นั่นก็คือในห้องนอนเธอเอง...
ภายในห้องนอนของเธอทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิม ถึงแม้จะไม่ได้นอนมานานเกือบ 8 ปี ไม่ว่าจะเป็นรูปนักร้องที่แปะอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ตารางสอนชั้นม.4 ที่แปะอยู่ปลายเตียง หนังสือเรียนที่อยู่บนตู้ แม้กระทั่งรูปเพื่อน เฟรนชิพ หรือจดหมายของคนพิเศษที่อยู่ในลิ้นชัก ทุกอย่างทำให้ความทรงจำสีจางๆ ได้กลับมาเข้มขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับความคิดถึงเขาคนนั้น คนที่เราไม่ได้เจอมาหลายปี...
ต้นตาลได้กลับมาใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ ดังเดิม พร้อมกับเอาที่อยู่ของคนๆนั้นมาด้วย และก็ได้ตัดสินใจที่จะรื้อฟื้นความทรงจำนั้นขึ้นมาอีกครั้ง โดยการส่งโปสการ์ดไปยังที่อยู่ที่เค้าเคยให้ไว้ “กรุณาติดต่อกลับที่เบอร์ 01-906xxxx หรือ 02-922xxxx จากเพื่อนเก่า” เวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ระหว่างที่ต้นตาลกำลังจะขับรถกับบ้าน เมื่อเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่ามี 2 สายที่ไม่รับ เธอพยายามโทรกลับไปที่เบอร์แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะเดียวกันก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา ต้นตาลรับสาย...
ต้นตาล “สวัสดีค่ะ”
ชายคนหนึ่ง “สวัสดีครับ เออคือได้ส่งไปรษณียบัตรให้ผมติดต่อกลับรึเปล่าครับ”
ต้นตาล “อ๋อ...โต๋เหรอ เราต้นตาลเอง”
โต๋ “อ้าวเฮ้ย มึง...”
ต้นตาล รู้สึกงงๆ ว่าทำไมต้องพูดมึงกู หรือว่าเขาคิดว่าเราคือต้นตาลเพื่อนเขาที่บังเอิญชื่อเหมือนเราเหรอ เพราะเขาไม่เคยขึ้นมึงกับเรามาก่อน ความรู้สึกเราแย่มากแล้วคิดว่าเราไม่น่าพยายามที่จะติดต่อเขาเพื่อให้ได้ยินคำพูดแบบนี้เลย เลยถามเพื่อความแน่ใจ
ต้นตาล “เออ นี่รู้มั้ยว่าต้นตาลไหน”
โต๋ “ก็ต้นตาล...ไง” เขาก็พูดชื่อเราถูกต้องนี่นา
ต้นตาล แก้เก้อด้วยการบอกว่า “เราจะบอกว่าเราจะแต่งงานน่ะ”
แล้วต่างคนก็ต่างวางสายความรู้สึกของเธอตอนนั้นรู้สึกว่าเราคงไม่มีโอกาสได้ติดต่อกันแล้ว กาลเวลามันคงผ่านไปนานจนไม่สามารถทำให้ความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อกันไม่เหลืออีกแล้ว พร้อมกับบอกตัวเองให้ตัดใจลืมคนๆนี้ซะ แล้วก็กลับมาใช้ชีวิตต่อไป ก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่าไปคิดถึงคนในอดีตอีกเลย....
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนแม่ได้ส่ง “ต้นตาล” ให้ไปเรียนหนังสือชั้นเตรียมประถมที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด ณ ที่แห่งนั้นทำให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ขาวๆ หมวยๆ ขี้แยๆ คนหนึ่ง ได้พบกับ “โต๋” เด็กชายตัวกระเปี๊ยก ผมหยิกๆ ชอบเล่นมอมแมม โต๋กับต้นตาลเรียนชั้นเตรียมประถมคนละห้อง แต่เราก็ได้มาเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ชั้น ป.1-ป.4 มีเพื่อนมาบอกกับต้นตาลว่าโต๋แอบชอบต้นตาลอยู่ ฟังดูเธอก็ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่นักเพราะโต๋ชอบแกล้งเธอเหลือเกิน แกล้งให้สะดุดขาล้มบ้างหล่ะ วิ่งไล่บ้างหล่ะ แถมยังชอบเป็นพ่อสื่อให้เพื่อนมาจีบต้นตาลอีก ต้นตาลจะเป็นเด็กตั้งใจเรียน นั่งเรียนหน้าห้อง แต่โต๋ชอบเล่นซน เป็นนักกีฬา และชอบนั่งเรียนหลังห้อง (ข้างถังขยะ) แต่ตลอดเวลา 4 ปีที่เราเรียนห้องเดียวกันทุกครั้งที่ต้นตาลมองไปหลังห้อง ก็มักจะเห็นสายตาที่ของโต๋ที่จ้องมองเธอเสมอๆ แล้วต้นตาลก็มักจะชอบเดินไปทิ้งขยะหลังห้องบ่อยๆ จนโต๋ทักว่า ทำไมเธอมาทิ้งขยะบ่อยจัง ...
พอขึ้น ป.5-ป.6 มีการจัดห้องเรียนใหม่ ทำให้เราต้องแยกห้องเรียนกัน เขาได้อยู่ป.6/4 ส่วนต้นตาลอยู่ป.6/2 แต่การที่เราอยู่กันคนละห้องก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในที่เราจะเจอกันหรือแกล้งกันเลย ต้นตาลเดินผ่านห้องเรียนโต๋ก็จะคอยมองหาโต๋ โต๋เดินผ่านห้องเรียนต้นตาลก็จะคอยมองหาต้นตาล ทุกอย่างที่ผ่านมาตลอดที่เราเรียนที่นี่ด้วยกันมันทำให้เกิดความผูกพันกันโดยที่เราไม่รู้ตัว จนกระทั่งวันปัจฉิมนิเทศน์ ต้นตาลเอากล้องถ่ายรูปมาเพื่อถ่ายรูปเพื่อนๆเก็บไว้ดูต่างหน้า รวมทั้งรูปโต๋ด้วย แต่ฟ้าช่างไม่เป็นใจรูปทั้งหมดที่ถ่ายเสียหมดเลย ...
จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกัน โต๋ไปเรียนต่อมัธยมที่โรงเรียนชายประจำจังหวัด ส่วนต้นตาลก็ไปเรียนที่โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดเช่นกัน ทั้งคู่ไม่ได้เจอกันเลยจนเวลาผ่านไปประมาณ 2 ปี จู่ๆเสียงโทรศัพท์ที่บ้านต้นตาลก็ดังขึ้น
ต้นตาล “สวัสดีค่ะ”
วีระวัฒน์ “ต้นตาลเหรอ เราวีระวัฒน์เองนะ วันเกิดเธอเพิ่งผ่านไปใช่ไหม เราโทรมาอวยพรวันเกิด”
ต้นตาล “ขอบใจนะ ว่าแต่ทำไมจำได้เนี่ย”
วีระวัฒน์ “อ๋อโต๋มันบอก เนี่ยมันมาเที่ยวบ้านเรา”
การสนทนาระหว่างเธอกับวีระวัฒน์ใช้เวลาไม่นานนัก โดยที่เธอไม่ได้คุยกับโต๋สักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอรู้ว่าเขายังไม่ลืมเธอ.. เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่งโต๋ก็โทรมาหาต้นตาลที่บ้านอีก แล้วก็ได้ส่งโทรศัพท์ให้ต้นตาลได้คุยกับเพื่อนๆของเขา จนกระทั่งต้นตาลได้เป็นแฟนกับเพื่อนของเขาแทน เธอรู้สึกสับสนในใจว่าโต๋ชอบเธอจริงหรือไม่? แล้วถ้าโต๋ชอบเธอจริงทำไมจึงยอมให้เพื่อนของเขามาเป็นแฟนกับเธอ...
จากนั้นต้นตาลและโต๋ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย พอเรียนจบม.6 ต้นตาลก็สอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ต้นตาลไม่ได้เลือกมหาวิทยาลัยใกล้บ้านเลย เพราะอยากจะมาเรียนในที่ที่คนรู้จักเธอน้อยๆ จึงเลือกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯทั้งหมด แล้วเธอก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ เธอเจอสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ ไม่เจอใครที่เคยรู้จักเลย จนมาวันหนึ่งพี่จังหวัดได้นัดรับน้องประจำจังหวัด ต้นตาลไม่อยากไปเท่าไหร่นัก แต่ก็คิดว่าไปซักหน่อยก็ได้ จะได้รู้ว่ามีคนบ้านเดียวกันมาเรียนที่นี่มากน้อยแค่ไหน มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน และแล้วต้นตาลก็ได้เจอกับคนๆหนึ่ง คนซึ่งคุ้นเคยกันมานานก็คือโต๋นั่นเอง เธอรู้สึกแปลกใจมากและไม่อยากจะเชื่อว่าเธอและเขาจะได้มาเรียนที่เดียวกันอีกครั้ง... ระหว่างที่เรียนม.เกษตรฯ 4 ปี เธอและเขาก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าที่ควรจะเป็น แต่เธอและเขาก็มีโอกาสไปอ่านหนังสือ ไปกินข้าว เดินจูงมือ ไปปั่นจักรยานเล่นในมหาลัยยามค่ำคืนบ้าง โดยที่ระบุสถานะไม่ได้เพราะต่างคนก็ต่างมีแฟนของตัวเอง ชีวิตนิสิตช่างผ่านไปรวดเร็วนัก ปี 4 เธอกับเขาไม่ได้เจอกันเลยทั้งๆที่คณะอยู่ห่างกันแค่ 200 เมตร ต้นตาลเรียนจบ 4 ปีตามเกณฑ์ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ย้ายออกจากหอพักใกล้มหาวิทยาลัยมาเริ่มต้นชีวิตการทำงาน เธอได้ข่าวจากเพื่อนว่าโต๋ยังเรียนไม่จบเพราะไม่ได้ไปเรียนและทำงานอยู่ที่ร้านอินเตอร์เน็ตใกล้มหาวิทยาลัย...
หลังจากจบและทำงานได้ 2 ปี ต้นตาลก็เลือกเรียนต่อปริญญาโทที่ม.รามคำแหง เรียนไปได้สักครึ่งปีก็ได้รับการติดต่อจากโต๋ตามที่เธอได้ส่งไปรษณียบัตรเบอร์โทร.ไปให้เขา มันช่างบังเอิญเหลือเกินว่าโต๋ย้ายมาทำงานร้านอินเตอร์เน็ตแถวลาดพร้าว ซึ่งต้นตาลขับรถผ่านทุกวันหลังจากเลิกเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน จึงเข้าใจคำว่าอยู่ใกล้เหมือนไกลกันขึ้นมาทันที หลังจากนั้นเขาและเธอก็ได้เจอกันบ่อยขึ้นทำให้ต้นตาลรู้ว่าโต๋เพิ่งเลิกกับแฟน และรู้ว่าที่เขาจบช้าเพราะเอาเงินค่าลงทะเบียนไปให้แฟนลงทะเบียนเรียนแทน และเขาต้องทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงตัวเองและแฟนด้วย แต่สุดท้ายเมื่อเขาส่งแฟนเรียนจบ แฟนเขาก็ทิ้งเขาไปเพื่อไปหาผู้ชายคนใหม่ที่มีอนาคตที่ดีกว่า การที่เขาเลิกกับแฟนทำให้เขาไม่อยากอยู่กรุงเทพฯเลย เขาทำเรื่องขอจบด้วยเกรดเฉลี่ยที่ไม่ถึง 2.00 ทำให้เขาได้แค่วุฒิอนุปริญญาเท่านั้น ต้นตาลฟังแล้วก็รู้สึกอึ้งเพราะไม่คิดว่าผู้ชายที่หยาบกระด้างและดูไม่สนใจอะไรเลยอย่างเขาจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้ถึงเพียงนี้ ต้นตาลจึงบอกเขาว่าเธอจะดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเขาเอง จะทำให้เขาลืมผู้หญิงคนนี้ให้ได้ เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อลบล้างความเจ็บปวดให้เขาโดยที่ไม่นึกถึงจิตใจตัวเองเลย เธอและเขาได้เจอกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทำให้ความรู้สึกพิเศษๆของเธอที่มีต่อเขามากขึ้นด้วยเช่นกัน ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นอะไรที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเธอและเขาเป็นอะไรกัน ต้นตาลคุยกับโต๋ว่าเธอดูหนังเรื่องแฟนฉันแล้วเธอคิดถึงโต๋ โต๋ก็บอกว่าเขาดูแล้วก็นึกถึงต้นตาล ทั้งคู่จึงคุยกันว่าจะเป็นคนพิเศษของกันและกัน เวลาผ่านไปจิตใจของโต๋ก็เริ่มดีขึ้น แต่ความรัก ความห่วงใย ความใส่ใจที่ต้นตาลมีให้โต๋ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดของโต๋ได้ โต๋หมดศรัทธากับความรัก และไม่คิดว่าโลกนี้จะมีรักแท้ จึงอยากจะปิดโอกาสตัวเอง ไม่อยากเปิดใจคบกับใคร ความคิดของเขานั้นสวนทางกับความคิดของต้นตาลโดยสิ้นเชิง ต้นตาลคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ความรักไม่เคยทำร้ายใคร ความรักทำให้หัวใจคนชุ่มชื้น ความรักคือการให้และรักแท้ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และตอนนี้เธอก็คิดว่ารักแท้มันกำลังเกิดขึ้นกับเธอ...ต้นตาลมาเจอโต๋ขณะที่โต๋กำลังจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิดทำให้เวลาหนึ่งเดือนที่โต๋อยู่กรุงเทพฯ มันเป็นเวลาที่มีค่ายิ่งนัก จากนั้นโต๋ก็กลับไปอยู่ต่างจังหวัดหลายเดือนจึงจะมากรุงเทพฯสักครั้ง การมาแต่ละครั้งของโต๋จึงมีค่าสำหรับต้นตาลยิ่งนัก แต่ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคิด มันดูแย่ลง...
ต้นตาลทิ้งทุกอย่างเพื่อมาหาโต๋ แต่ โต๋เลือกทำทุกอย่างโดยทิ้งต้นตาล
ต้นตาลติดสายอยู่โต๋โทรเข้ามาต้นตาลเลือกที่จะวางสายมาคุยกับโต๋ แต่ โต๋เลือกที่จะวางสายกับต้นตาลไปรับสายของคนอื่น
ต้นตาลพยายามจะหาเวลามาเจอโต๋ แต่ โต๋พยายามหาเวลาที่จะทำงาน
สำหรับต้นตาล โต๋มาเป็นที่หนึ่ง แต่ สำหรับโต๋ ต้นตาลมาเป็นลำดับสุดท้าย
การรอคอยของต้นตาลที่จะได้เจอโต๋ มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับโต๋เลย จนวันหนึ่งต้นตาลตัดสินใจที่จะขับรถไปบอกกับโต๋ว่า “ต้นตาลคงไม่มีโอกาสที่จะดูแลโต๋แล้วนะ” โต๋พูดเพียงคำเดียวว่า “ขอโทษ” แล้วต้นตาลก็จากมา...
จากวันนั้นจนถึงวันนี้กาลเวลาก็แปรเปลี่ยนไป แต่ทำไมต้นตาลจึงลืมเขาไม่ได้สักที หรือว่าความรู้สึกนี้จะต้องอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต...ใครก็ได้ช่วยตอบทีเพราะมันช่างทรมานเหลือเกิน...
ผลงานอื่นๆ ของ รินทราย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รินทราย
ความคิดเห็น