บทที่ 11
หน่วยช่วยเหลือ
เกาะสวรรค์แดนใต้วันที่ 2 [ 12.07 น. ]
ห้องพักมิซากิ
" อืมม... "
เจ้าของห้องพักส่งเสียงครางเบา ๆ ในลำคออย่างไม่สบอารมณ์ทำให้ร่างสูงที่นั่งเฝ้าไข้อยู่ข้าง ๆ ต้องละสายตาจากหนังสือในมือเพื่อมองมายังเจ้าของห้องที่กำลังนอนหลับบนเตียงเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว
" โทคุระ ? "
เสียงทุ้มเอ่ยเรียกทันทีเพื่อเช็คว่าคนตรงหน้าเขาตอนนี้รู้สึกตัวจริงหรือเปล่า
หลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกตัวเธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพลางใช้แขนบังแสงแดดที่กำลังกระทบลงบนใบหน้าก่อนที่ตัวเธอจะชันกายลุกนั่งพิงกับพนักเตียง
" ไค ? "
หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาในทันทีหลังจากที่เธอเห็นว่าคนที่อยู่ในห้อง ณ ตอนนี้เป็นเขาไม่ใช่คุณชิน
" ทำไมถึง.. มาอยู่ห้องนี้ได้ล่ะ ? "
" เข้าประตูมา "
" . . . . . "
ทันทีที่ฝ่ายชายตอบกลับมาหญิงสาวก็แทบอยากจะคว้าอะไรสักอย่างมาเพื่อปาอัดหน้าเขาจริง ๆ
" จะไปเอาข้าวต้มมาให้แล้วกัน ผู้จัดการเขาทำไว้ให้เธอน่ะ "
ว่าจบร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนออกจากเก้าอี้ในทันที พร้อมเดินไปที่ชั้นหนังสือเพื่อเก็บหนังสือเข้าชั้นเช่นเดิม
หญิงสาวที่นั่งพิงอยู่พนักเตียงได้แต่มองตามทุก ๆ อิริยาบถก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากห้องพักไป ในเวลาไล่เลี่ยกันเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เจ้าของห้องอย่างเธอถึงกับต้องรีบหันมอง .. เมื่อประตูห้องถูกเปิดออกจนกว้างก็เผยให้เห็นร่างสูงของชายหนุ่มอีกคนที่มีเรือนผมสีเหลืองและนัยน์ตาสีเทา
" ตื่นแล้วสินะพี่สาว โย่! "
เสียงใสเอ่ยทักเจ้าของห้องพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนที่เขาจะปิดประตูห้องลงและเดินมานั่งข้าง ๆ เตียงที่มีเก้าอี้วางอยู่
" ไงมิวะ "
" เรื่องเมื่อคืนผมต้องขอโทษจริง ๆ นะที่ปล่อยให้พี่สาวอยู่คนเดียว "
เขาเอ่ยพลางก้มหัวลงให้กับคนตรงหน้าอย่างรู้สึกผิดและยิ่งอีกฝ่ายต้องมาเป็นไข้ด้วยแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวรู้สึกผิดมากกว่าเดิม
" ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้วนี่ไง "
เมื่อมิวะได้ยินดังนั้นเขาก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะเอ่ยตอบกลับไป
" แต่ว่า.. ที่พี่สาวต้องมาป่วยแบบนี้ก็เป็นเพราะผมส่วนหนึ่งด้วยนี่นา ... "
" ไม่หรอกเพราะฉันเองก็ดื้อไม่รีบกลับด้วยล่ะนะ ขนาดหมอนั่นเตือนแล้วแต่ฉันก็ไม่ฟังเอง "
มิซากิยิ้มออกมาเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้
" ฮ่ะ ๆ งั้นเหรอ อืมม.. จะว่าไปเจออะไรแปลก ๆ หรือเปล่าก่อนที่เจ้าไคจะไปเจอน่ะ ? "
" ถ้าถามว่าเจออะไร .. ไม่มีหรอกเพียงแต่ฉันแค่นึกอดีตเก่า ๆ ออกน่ะนะ "
" หืม ? อดีต.. อย่าบอกนะว่าพี่สาวจำเรื่องสัญญาที่ว่าได้แล้ว ?! "
" ก็นะ ทีแรกฉันก็ตั้งใจจะบอกหมอนั่นอยู่หรอกแต่พอมานึก ๆ ดูแล้วก็ไม่รู้จะปรับตัวยังไงดีเหมือนกัน "
มิวะที่ได้ฟังก็คิ้วขึ้นอย่างสงสัยในทันที .. หลังจากนั้นมิซากิก็ได้สรุปย่อ ๆ เกี่ยวกับอดีตที่เธอนึกออกให้มิวะได้ฟัง ตั้งแต่คราวก่อนแล้วที่ตอนมีปัญหาก็เป็นมิวะที่เธอเล่าให้ฟังถึงแม้ว่าตอนนั้นเธอจะไม่อยากเล่าให้ใครฟังก็ตาม แต่กับมิวะเธอรู้สึกมาได้ตลอดว่าเขาเหมือนมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นเธอถึงยอมเปิดใจที่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง ไม่ใช่ว่าแค่กับเธอ เธอเชื่อเหมือนกันว่าสำหรับทุกคนแล้วที่ได้รู้จักกับมิวะคงคิดไม่ต่างจากเธอสักเท่าไร
" อืืมมม เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง "
มิวะพยักหน้ารับทันทีหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวแบบสรุปรวบรัดขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นว่าฝ่ายหญิงดูไม่ค่อยจะสดชื่นดีสักเท่าไรทั้ง ๆ ที่ตัวเธอก็นึกถึงอดีตที่ว่าออกแล้ว
" ตะกี้พี่สาวบอกว่า ไม่รู้จะปรับตัวยังไงดีเหมือนกัน สินะ ? "
" อืม.. "
" ไม่เห็นต้องใส่ใจเลยนี่ ! "
" เอ๊ะ ? "
" ทำตัวปกติก็พอแล้วล่ะ จะเรียกชื่อหมอนั่นตอนนี้ก็คงแปลก ๆ แต่มันก็ไม่สำคัญเท่าความรู้สึกในตอนนี้หรอกนะ !! .. ชอบหรือเปล่าล่ะ ? "
" อะ --- เดี๋ยวสิ ! ถามแบบนี้ฉันก็ ... "
" มิวะ "
ขณะเดียวกันก็มีเสียงทุ้มต่ำแทรกดังขึ้นมาจากทางประตูห้อง แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นใดนอกจาก ไค โทชิกิ ที่เจ้าตัวได้ขอตัวลงไปยกข้าวต้มมาให้กับหญิงสาวเมื่อไม่นาน
" โย่ ! "
" ไม่ได้ออกไปเล่นน้ำกับคนอื่นหรือไง "
" อะไรกันจะให้ฉันออกไปเล่นน้ำโดยปล่อยให้นายทำแต้มคนเดียวแบบนี้ฉันก็เสียเปรียบสิ "
" ทำแต้ม ? "
เสียงหวานเอ่ยขัดขึ้นอย่างสงสัย ทำแต้ม ที่ว่าของทั้งสองคนคืออะไรหรือว่าจะหมายถึงเกมอะไรสักอย่าง ?
" ไม่ต้องใส่ใจหรอกน่าพี่สาวก็แค่เกมสนุก ๆ สำหรับพวกเราน่ะ "
มิวะเอ่ยอย่างขบขันก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเพื่อนของตนพลางตบบ่าอย่าง ๆ
" หมดธุระของฉันแล้วล่ะนะเชิญคุณชายทำแต้มต่อเลยครับผม "
หลังว่าจบมิวะก็ได้โบกมือลาให้กับฝ่ายหญิงก่อนที่เขาจะออกจากห้องไป ส่วนทางด้านไคเองหลังจากที่เพื่อนสนิทของเขาได้ออกจากห้องแล้ว เขาก็ตรงดิ่งไปยังหญิงสาวเพื่อนำข้าวต้มร้อน ๆ ไปให้กับเธอ
" คุยอะไรกับหมอนั่นล่ะ ? ได้ยินอะไรชอบ ๆ ด้วยนี่ "
" อะ --- !? ดะ -- ได้ยิน ..งั้นเหรอ ? "
มิซากิถึงกับออกอาการเขินจัดจนใบหน้าสวยเปลี่ยนสีไปราวกับลูกมะเขือเทศ
" หือ ? อะไรกันหน้าแดงเชียวไข้ยังไม่หายอีกหรือไง "
ทันทีที่ฝ่ายหญิงตอบกลับมาด้วยคำพูดที่เชิงติดอ่างถึงกับทำให้ฝ่ายชายต้องคิ้วมองเธออย่างสงสัยก่อนจะพบว่าใบหน้าของเธอตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีแดงไปซะแล้ว
" ม--- มะไม่ใช่อย่างงั้นหรอกฉันหายดีแล้วล่ะน่า .. แล้วได้ยินอะไรอีกหรือเปล่า ? "
" ก็ไม่หนิ "
" ร..เหรอ "
หลังว่าจบก็มีข้าวต้มร้อน ๆ วางอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ เตียงของหญิงสาว แน่นอนว่าเธอเองก็ไม่ได้เป็นอะไรมากจึงไม่ต้องยืมมือใครมาให้ช่วยป้อน ซึ่งพอเธอลองมานึกดูดี ๆ แล้วเหมือนว่าจะเคยเห็นภาพแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งแต่ว่าตอนนั้นคนที่ป่วยเพราะพิษไข้หนักมันไม่ใช่หล่อนแต่กับเป็นอีกคนที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ โต๊ะที่วางถ้วยข้าวต้มอยู่
เวลาผ่านไปได้พักใหญ่ มิซากิก็ทานข้าวต้มที่ได้มาจนหมด พร้อมกันนั้นทางด้านไคเองก็ได้เตรียมยาและน้ำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
“ ต้องทานยาด้วยเหรอ ? ”
“ ไม่น่าถามเลยนะเธอเนี่ย ”
“ … ”
ใบหน้าสวยกระตุกยิ้มเล็ก ๆ อย่างหงุดหงิดก่อนที่จะยื่นมือไปรับยาและน้ำมาดี ๆ
“ ทานยาแล้วก็พักผ่อนซะนะฉันจะเฝ้าเธอจนกว่าจะหายนั้นแหละ ”
“ ไม่ต้องหรอกน่า อุตส่าห์มาพักผ่อนทั้งที ขืนมานั่งเฝ้าฉันทั้งวันก็ไม่มีความหมายสิ ”
“ มีอยู่แล้วล่ะ เพราะเป็นเธอนั้นแหละ .. ”
หลังสิ้นสุดเสียงร่างสูงก็ลุกออกจากเก้าอี้ไปในทันทีพร้อมกับยกถาดข้าวต้มออกจากห้องไปด้วยเช่นกัน
“ คนบ้า .. ”
ณ ริมชายหาด [ 13.24 น. ]
“ อาจัง ~ ดูนี่สิ ๆ ผมไปเก็บหอยมาได้ล่ะ สวยไหมล๊า ~ ”
“ แหม ท่านเร็นสุดยอดไปเลยค่ะเก็บหอยสวย ๆ ได้มาเยอะเลยนะคะ ”
“ ผมให้อาจังนะ ! ”
“ ท..ท่านเร็น ”
ใบหน้าสวยขึ้นสีเล็กน้อยก่อนที่น้ำใสจากดวงตาจะเอ่อล้นออกมาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ
“ โอ๊ะ ! อยู่นี้เอง ๆ หาตัวตั้งนานแหน่ะ ”
มิวะเอ่ยทักขึ้น
“ อ้าว มิวะคุงสนใจมาเล่นหาหอยด้วยกันไหมครับ ? ”
“ หืม ? ฮ่ะ ๆ ไม่ดีกว่าฉันแค่จะมาอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเฉย ๆ น่ะ ”
“ งั้นอาจัง ผมขอไปคุยกับมิวะคุงก่อนนะ "
“ ค่า ~ ท่านเร็น ”
หลังสิ้นสุดเสียงของหญิงสาวทั้งเร็นและมิวะต่างก็ปลีกตัวพากันเดินขึ้นบ้านพักระหว่างทางเองก็ได้สวนทางกับทุก ๆ คนที่กำลังสนุกสนานบนชายหาด และเป็นเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินที่เป็นคนเอ่ยปากทักทั้งสองเสียก่อน
“ อะ ! มิวะคุง คุณเร็นมาเล่นวอลเลย์บอลชายหาดด้วยกันไหมครับ ? ”
เสียงใสของเด็กหนุ่มที่ว่าก็คือไอจิ เขาเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ พร้อมกับปาดเหงื่อบนใบหน้าออก
“ ไว้เดี๋ยวพวกฉันคุยธุระเสร็จแล้วจะมาขอจอยแล้วกันนะ "
“ อื้ม พวกไอจิคุงอย่าพึ่งเลิกเล่นกันไปก่อนล่ะ ”
“ ฮ่ะ ๆ ครับท่าทางจะอีกยาวเลยล่ะเพราะผลัดกันเล่นผลัดกันแข่ง อะ ? จะว่าไปมิวะคุงคุณมิซากิเขาอาการเป็นยังไงบ้างครับ ? ”
“ อ๋อ ~ ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะไม่ต้องเป็นห่วงนะ ”
“ ค่อยยั่งชั่ว ตอนแรกพวกผมก็กะจะขึ้นไปเยี่ยมสักหน่อยแต่ว่าไคคุงมาห้ามไว้ซะก่อน ”
“ หมอนั่นคงคิดว่าขืนไปกันหมดพี่สาวคงไม่ได้พักผ่อนกันพอดี.. ยังไงเดี๋ยวพวกฉันมาเล่นด้วยแล้วกันนะ ”
“ ครับ ไว้จะรอนะทั้งสองคน ”
ไอจิระบายยิ้มออกมาทันทีหลังจากที่ลาทั้งสอง
หลังจากที่ทั้งสองต่างแยกตัวออกมาจากกลุ่มของไอจิพวกเขาก็มุ่งหน้าเดินขึ้นบ้านพักไปพร้อมกับเดินไปยังโซนนั่งเล่น
“ ว้าว นั่งดูวิวตรงนี้สวยจริง ๆ ด้วยแฮะ ”
เร็นเอ่ยขึ้นขณะที่เขากำลังนั่งบิดขี้เกียจเล็กน้อย
“ แล้วยังไงล่ะ ? คงได้ไปคุยอะไรกับมิซาคิวมาสินะ ”
“ ก็นิดหน่อย ตอนนี้ที่แน่ ๆ ดูเหมือนมิซากิจังจะจำเรื่องราวในอดีตได้แล้วล่ะ ”
“ เห ~ แบบนั้นก็ดีเลยสิครับถ้าไครู้จะต้องดีใจมากแน่ ๆ ”
“ ก็คงดีใจล่ะนะ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไรสำคัญเท่าปัจจุบันนี่ ? ถ้าพี่สาวเขาไม่ยอมบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตอนนี้ฉันเกรงว่าเจ้าไคจะหายหัวไปเลยนี่สิ .. ”
“ โอ๊ะ ? จะว่าไปก็ใกล้เรียนจบแล้วนี่เนอะพวกเราน่ะ .. ไคเองก็คงมีอะไรให้คิดเยอะแต่ว่าตัวผมเองก็ดันมีโควต้าเนี่ยสิเลยไม่ต้องคิดอะไร ~ "
“ ถ้าฉันฆ่าแกแล้วทิ้งไว้บนเกาะก็คงไม่มีใครรู้สินะ ? ”
“ มิวะคุงใจร้าย ”
ว่าจบเร็นก็ลุกขึ้นยืนจนส่วนสูงเท่าเดิมก่อนจะเอ่ยอะไรขึ้นต่อเล็กน้อย
“ ผมว่านะ พวกเราน่ะควรปล่อยให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้กันเองจริง ๆ แหละถึงพวกเราจะยื่นมือไปช่วยแต่เรื่องของความรู้สึก .. มันเป็นเรื่องของคนสองคนอยู่ดีเขาจะบอกชอบบอกรักกันตอนไหนถ้าพวกเขาเกิดมาเพื่อคู่กันก็ไม่มีคำว่าสายหรอกครับ ”
“ …. นั้นสินะ ”
มิวะหลุดยิ้มเล็กน้อยหลังจากที่ฟังคำพูดของเร็นแน่นอนว่าตัวเขาเองก็ฉุดคิดอะไรต่าง ๆ ได้มากมาย เขาลืมไปเลยว่าเรื่องแบบนี้แทนที่จะเข้าไปช่วยปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคนก็คงจะดีกว่า อาจเป็นเพราะความรู้สึกที่อยากจะช่วยของตัวเขาเองมันคอยบดบังอีกมุมมองหนึ่ง เพราะอย่างไรก็ตามการปล่อยให้ทั้งสองจัดการก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเข้าช่วยเหลือเหมือนกัน
จบบทที่ 11
จะจบกี่ไรด์ก็จะอ่านอยู่ดีเพราะผมชอบคู่ Kai x Misaki ด้วยอยากให้ทำต่อไปนะครับ