คาบาเรต์เล่ห์รัก - นิยาย คาบาเรต์เล่ห์รัก : Dek-D.com - Writer
×

    คาบาเรต์เล่ห์รัก

    หนุ่มน้อยหัวหน้าคณะคาบาเร่ต์ กับบอสหนุ่มเจ้าของโรงละคร ที่ต้องโคจรมาพบกันบนพื้นฐานของความรู้สึกที่ต่างคนก็ต่างไม่ชอบ แต่เมื่อทุกอย่างมีความรักเป็นองค์ประกอบมันจึงเกิดเป็นความชอบโดยไม่ทราบสาเหตุ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,362

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    14

    ผู้เข้าชมรวม


    1.36K

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    16
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  29 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  2 พ.ย. 67 / 19:02 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ปัญพัฒน์เจ้าของโรงละครคนใหม่ที่มารับช่วงดูแลต่อจากลุงซึ่งเสียชีวิตไป เป็นสิ่งนำพาให้เขาได้มาพบเจอกับศิลป์ทวีหัวหน้าคณะคาบาเร่ต์ที่เขามารับช่วงต่อจากลุงที่เป็นสาวประเภทสอง เมื่อทั้งคู่ได้มาพบกันจึงเกิดความไม่ลงรอยเพราะปัญพัฒน์เกลียดสาวประเภทสองเกลียดการแสดงคาบาเรต์ ส่วนศิลป์ทวีก็ไม่ชอบหน้าปัญพัฒน์ที่เป็นคนเอาเอาแต่ใจและชอบดูถูกคณะคาบาเรต์ของตน ทั้งที่ปัญพัฒน์ไม่ชอบคาบาเรต์ไม่ชอบสาวประเภทสองแต่ก็ต้องจ้างคณะคาบาเรต์ของศิลป์ทวีให้เปิดทำการแสดงในโรงละครต่อไปเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำรายได้ให้กับโรงละครอย่างเป็นกอบเป็นกำ ศิลป์ทวีจึงต้องอดทนอยู่ต่อจนกว่าจะครบสัญญาเป็นเวลาห้าปี 


    ศิลป์ทวีรู้ว่าปัญพัฒน์นั้นเกลียดสาวประเภทสองเข้าไส้ศิลป์ทวีจึงแกล้งทำตัวเป็นสาวประเภทสองเข้าไปยั่วยวนปัญพัฒน์เพียงเพื่อจะแกล้งดัดหลังและสร้างความรำคาญให้กับปัญพัฒน์แต่พอนานวันเข้าปัญพัฒน์เกิดมีใจให้ศิลป์ทวีเข้าจริงๆ ความรักหลังม่านโรงละครจึงเกิดขึ้น ร้อนไปถึงอลิษาผู้เป็นคู่หมั้นของปัญพัฒน์ที่ทั้งสองได้หมั้นหมายกันเพราะความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะองอาจพ่อของอลิษาผู้มีฉายาว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งธุรกิจสถานบันเทิงและบ่อนการพนันเขาต้องการเกี่ยวดองกับครอบครัวของปัญพัฒน์ก็เพราะว่า เขาต้องการยึดเอาโรงละครซึ่งเป็นที่ดินทำเลทองมาสร้างเป็นบ่อนการพนัน


    ถึงแม้ว่าปัญพัฒน์จะเป็นทายาทนักธุรกิจผู้มั่งคั่งแต่ก็ไช่ว่าชีวิตของเขาจะราบรื่นสวยงาม พ่อของเขาเคยติดการพนันจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัวมาแล้วแต่ก็ยังมีใครคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาเอาไว้นั้นก็คือศักดิ์ดาลุงของเขานั้นเองศักดิ์ได้นำรายได้จากโรงละครมาช่วยเหลือครอบครัวของปัญพัฒน์จนลืมตาอ้าปากได้ นอกจากปัญพัฒน์จะเกลียดสาวประเภทสองแล้วการพนันก็คือสิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดเพราะสิ่งนี้มันเคยทำให้ครอบครัวของเขาเกือบหายนะมาแล้ว และการที่เขาเข้ามารับช่วงดูแลโรงละครต่อนั้นก็เพราะปัญพัฒน์สำนึกในบุญคุณของลุงนั้นเอง 


    ชีวิตของศิลป์ทวีเขาก็มีปมไม่ต่างกันเพราะตั้งแต่เขาเกิดมา เขาก็ไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อ ศิลป์ทวีมีเพียงแม่ที่คอยเลี้ยงดูและมีลุงร่างชายใจหญิงชื่อว่าเมธีเจ้าของคณะคาบาเรต์ที่คอยส่งเสียให้เรียนหนังสือ และยังมีอีกคนที่ศิลป์ทวีให้ความเคารพนับถือดั่งพ่อแท้ๆนั้นก็คือศักดิ์ดาลุงของปัญพัฒน์ ศิลป์ทวีเติบโตและผูกพันธ์กับโรงละครและคณะคาบาเรต์ ศิลป์ทวีจึงไม่อาจที่จะทอดทิ้งสองสิ่งนี้ไปได้ ยิ่งศิลป์ทวีมารู้ว่าอลิษากำลังจะใช้ความเป็นคู่มั่นของปัญพัฒน์เข้ามายึดครองเอาโรงละครไปให้ผู้เป็นพ่อสร้างเป็นบ่อนการพนัน ศิลป์ทวีจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องมิให้โรงละครที่เขารักไปตกอยู่ในเงื้อมือของคนเลว ศิลป์ทวีจึงแกล้งทำทีไว้จริตเป็นสาวประเภทสองยั่งยวนศิลป์ทวี จนอลิษาเกิดความหึงหวงและด่าทอศิลป์ทวีสารพัดแต่มันก็ไม่ทำให้ศิลป์ทวีสะทกสะท้านแต่อย่างใด วันเวลาผ่านไปนานเข้าปัญพัฒน์เริ่มเบื่อหน่ายพฤติกรรมของอลิษา ที่วันๆไม่เคยช่วยเขาทำงานเลยปัญพัฒน์ให้อุตสาห์ให้อลิษาเข้ามาเป็นผู้จัดการโรงละครหวังเพื่อจะให้อลิษามาช่วยบริหารงานในฐานะคู่หมั้นแต่อลิษาก็กลับสร้างแต่ปัญหาให้ปัญพัฒน์หนักใจไม่ได้หยุดหย่อน  ปัญพัฒน์จึงเริ่มมีจิตใจที่เอนเอียงไปหาศิลป์ทวี จนวันหนึ่งที่ปัญพัฒน์ได้มารู้ว่าพ่อของอลิษาได้ชักชวนให้พ่อของปัญพัฒน์เข้ามาเล่นการพนันอีกครั้งเพื่อหวังที่จะได้ครอบครองโรงละครได้ง่ายขึ้น เมื่อปัญพัฒน์ได้รู้ความจริงเขาจึงตัดสินใจถอนหมั้นอลิษาและเปลี่ยนใจมาคบหากับศิลป์ทวีอย่างจริงจัง และเปิดใจยอมรับสาวประเภทสองมากขึ้น  เพราะพื้นนิสัยโดยแท้จริงของปัญพัฒน์ไม่ได้รังเกียจสาวประเภทสองแต่เป็นเพียงเพราะถูกพ่อปลูกฝั่งสั่งสอนให้มาเป็นอย่างนั้น ด้วยสาเหตุที่มาจากเรื่องราวความหลังของพ่อที่ไปหลงรักสาวประเภทสองโดยที่เข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้หญิงพ่อของปัญพัฒน์จึงเกิดความอับอายเขาจึงฝั่งใจเกลียดสาวประเภทสองและความเกลียดชังนี้ได้ถูกส่งต่อมาถึงปัญพัฒน์ และสาวประเภทสองที่พ่อของปัญพัฒน์หลงรักในวัยหนุ่มก็ไม่ไช่ใครที่ไหนก็คือเมธีลุงของศิลป์ทวีนั้นเอง


    เมื่อศิลป์ทวีและปัญพัฒน์ตัดสินใจคบหากันทั้งสองคนได้ช่วยกันทำงานบริหารโรงละครมาด้วยดี แต่ก็ยังมีเรื่องจุกจิกกวนใจอยู่เนืองๆเพราะแม่ของปัญพัฒน์มักจะมาขอเงินกับปัญพัฒน์อยู่บ่อยครั้ง ครั้งละหลายสิบล้านโดยอ้างว่าธุรกิจที่พ่อของปัญพัฒน์ทำอยู่เงินหมุนไม่ทันแต่แท้ที่จริงหมดไปกับการพนันซึ่งแม่ของปัญพัฒน์ก็ไม่รู้ แม่ของปัญพัฒน์จึงมาขอความช่วยเหลือจากปัญพัฒน์โดยเอาเงินผลกำไรที่ได้จากโรงละคร แต่ทว่าเงินที่ได้มานั้นเป็นหยาดเหงื่อแรงกายของศิลป์ทวีและคณะคาบาเรต์ทั้งสิ้น ศิลป์ทวีและคณะคาบาเรต์ต้องทำงานอย่างหนักโดยการเพิ่มให้มากขึ้นจนศิลป์ทวีนั้นไม่ได้พักผ่อนและล้มป่วยลง  ประจวบเหมาะกับแผนการยึดเอาโรงละครที่พ่อของอลิษาวางเอานั้นประสมผลสำเร็จ เพื่อแก้แค้นให้ลูกสาวที่ถูกปัญพัฒน์ถอนหมั้นอย่างไม่ใยดี พ่อของอลิษาได้เอาหลักฐานการเป็นหนี้ที่พ่อของปัญพัฒน์ก่อเอาไว้ในบ่อนการพนันของตนมาเปิดเผยและเขาต้องยึดเอาทรัพย์สินทั้งหมดที่ครอบครัวเขามีอยู่รวมทั้งโรงละครเพื่อเป็นชดใช้หนี้ทั้งหมด เพราะพ่อของอลิษาต้องการเพียงแค่โรงละครเท่านั้นเพื่อเขาจะได้เอาไปทำเป็นบ่อนการพนัน พ่อของอลิษาในฐานะเจ้าหนี้จึงยื่นข้อเสนอว่าถ้าปัญพัฒน์ยอมแต่งงานกับอลิษาเขาจะไม่ยึดทรัพย์สินอย่างอื่นไปเขาจะยึดเอาแต่เพียงโรงละครเท่านั้น ชีวิตของปัญพัฒน์เริ่มจมดิ่งลงเหวเมื่อพ่อของเขาได้เสียชีวิตลงเพราะตรอมใจเรื่องหนี้สินและเรื่องความรักระหว่างปัญพัฒน์กับศิลป์ทวีซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อของศิลป์ทวีรับไม่ได้ว่าลูกชายเป็นเกย์ไปรักผู้ชายด้วยกัน


    วันสุดท้ายของการแสดงคาบาเรต์ ก่อนที่โรงละครจะปิดตัวลง ก็ได้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นทำเอาทุกคนประหลาดใจ และก็ทำเอาอลิษาและพ่อของเขาตกใจจนแทบช็อค นั้นก็คือการปรากฏตัวของศักดิ์ดาที่ทุกคนเข้าใจว่าเขาได้ตายไปแล้วจากอุบัติเหตุพลัดตกจากเรืออยู่กลางทะเลโดยไม่มีใครศพ แต่วันนี้เขากลับมาและเปิดเผยความจริงให้ทุกคนได้รู้ถึงเรื่องราวความชั่วของนายองอาจพ่อของอลิษา และความจริงที่ทำเอาปัญพัฒน์ตกใจไม่น้อยนั่นก็ศักดิ์ดาคือลุงของปัญพัฒน์ผู้สร้างโรงละครเป็นพ่อแท้ๆศิลป์ทวี ศิลป์ทวีคือเจ้าของโรงละครที่แท้จริง


    พ่อของอลิษาถูกจับกุมด้วยคดีร้ายแรงหลายคดี ทั้งคดีจ้างวานฆ่า ฉ่อโกง และลักพาตัว และอีกมากมายหลายคดีซึ่งล้วนแล้วแต่มีที่มาคือความโลภอยากจะครอบครองโรงละคร อลิษาพยายามที่จะดิ้นรนช่วยพ่อของต้นให้ได้แต่สุดท้ายเธอก็ทำอะไรไม่ได้ อลิษาจึงตัดสินใจอย่างขาดสติลอบวางเพลิงเผาโรงละครหมายใจที่จะให้ปัญพัฒน์และศิลป์ทวีถึงแก่ความตายให้ได้แต่ทั้งคู่ก็รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด อลิษาถูกจับเข้าคุกข้อหาลอบวางเพลิงเมื่ออลิษาได้ทราบข่าวว่าพ่อของเธอถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเธอกลายเป็นคนเสียสติใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำอย่างอนาถา


    โรงละครได้กลับมาเปิดทำการแสดงอีกครั้งแต่ทว่าปัญพัฒน์ต้องถอยออกมาจากการเป็นผู้บริหารโรงละคร เพร่ะตอนนี้ศักดิ์ลึงของเขาได้กลับมาแล้วและจากนี้ไปโรงละครจะต้องเป็นของศิลปทวีมิไช่ของเขาอีกต่อ ปัญพัฒน์เตรียมเก็บของเพื่อที่จะออกโรงละครและศักดิ์ดาผู้เป็นลุงขอร้องให้อยู่บริหารโรงละครต่อ ศักดิ์ดาบอกกับปัญพัฒน์ว่าเขายกโรงละครนี้ให้กับปัญพัฒน์แล้วเขาก็จะไม่เอาคืนและศิลป์ทวีก็ไม่ต้องการที่จะครอบครองโรงละครนี้ ศักดิ์ดาจึงมอบโรงละครให้กับปัญพัฒน์ได้ดูแลต่อไป พร้อมกับพูดคุยกับปัญพัฒน์อย่างเปิดอกเรื่องของศิลป์ทวี ศักดิ์ดาเข้าใจในความรักของปัญพัฒน์และศิลป์ทวีเขาจึงปล่อยให้ทั้งสองคนคบหากันอย่างเปิดเผย จนความรักของทั้งสองสุกงอมปัญพัฒน์จึงขอศิลป์ทวีแต่งงานบนเวทีโรงละครต่อหน้าผู้เข้ามาชมการแสดงคาบาเรต์นับหลายร้อยคน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น