คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #55 : [Short Fic.] How You Love Me || killchalla → ᴘᴀʀᴛ 2
Title
: How You Love Me
Author
: Fengmii
Pairing
: Killchalla
Genre
: Short Fiction (2/??)
Notes
: เราสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
แต่เขามั่นใจว่าพี่น้องกันไม่ทำแบบนี้แน่ๆ
เอริคไม่เคยตาย
แต่เขาค่อนข้างแน่ใจว่าสวรรค์จะไม่มีทางให้เขาตื่นขึ้นมาเจอกับเตียงใหญ่ๆในห้องแปลกๆนี่แน่
มันต้องกลับไปอยู่กับพ่อที่โอ๊คแลนด์สิ
และไอเดียที่ว่านี่มันไม่ใช่สวรรค์ก็ยิ่งชัดแจ้งขึ้นเมื่อเขามองไปที่ข้างเตียงแล้วพบกับหญิงสาวร่างสูงโปร่งในเกราะผ้าไวเบรเนี่ยมชั้นดีสีแดง
เธอคนนั้นกะพริบตาเมื่อรู้สึกได้ถึงดวงตาอีกคู่ที่จับจ้องอยู่ ก่อนจะหันมาจ้องเขากลับ
...ซวยแล้วไง
หอกยาวสีเงินในมือโดรา
มิลาเจกระแทกลงกับพื้นสองครั้ง ทำให้ประตูห้องบานใหญ่ของเขาเปิดออก ทหารหญิงอีกสองคนตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“รายงานฝ่าบาท
นักโทษของเราฟื้นแล้ว”
ฝ่าบาท?
ดวงตาสีนิลของคนในบทสนทนาแว้บขึ้นมาในหัว
เอริคแยกเขี้ยวให้กับมันเงียบๆขณะที่ยันตัวขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
เขาคำรามเบาๆ
มึนหัวชะมัด
มือใหญ่ยกขึ้นมาขยี้ตาตนเองและนวดขมับไปมา
ทำได้แต่ก้มลงมองผ้าห่มสีแดงเลือดหมูหรูหราอย่างไร้เรี่ยวแรง
เสียงประตูเปิดขึ้นอีกครั้ง
“อย่าเพิ่งลุก”
แรงผลักเบาๆที่ไหล่เป็นเชิงให้นั่งอยู่ที่เดิมทำเอาเขาหงุดหงิด
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองแว้บเดียว
ก่อนจะถูกแหวอีกรอบ
“เงยขึ้นมาทำไม
อยากหน้ามืดเป็นลมสลบไปอีกรอบรึไง?”
ยัยเด็กหัวหยอยนี่เอง
“เรื่องของฉัน
ยัยกุ้งแห้ง”
“โห
ปากดีจัง” เด็กสาวผิวเข้มเลื่อนจอในมือดูไปมาสองสามที ก่อนจะยื่นมือออกมา
“ไหนดูซิ
แรงจะดีเหมือนปากมั้ย”
เขามองมันนิ่งๆอย่างไม่เข้าใจ
“เอ้า
บีบสิ”
เอริคทำเสียงชิในลำคอ
ยื่นมือไปบีบมืออีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้
จะเอาให้มือหักไปเลย
ยัยกุ้งแห้งอวดดี
แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อชูรีไม่ได้มีอาการสะทกสะท้านกับแรงบีบของตน
มีบางอย่างผิดปกติ
เขาคลายมือออก
จ้องมองฝ่ามือที่สากด้านจากการจับอาวุธมานานปีนั้นด้วยความตกใจ
คู่สนทนาบิดปากยิ้ม
“แรงตกไปเยอะเหมือนกัน”
“เธอทำอะไรฉัน?”
ลูกพี่ลูกน้องทำหน้าแหยง
“ฉันอุตส่าห์ช่วยนายไว้นะ
จะทำร้ายนายทำไม?”
“เอาไว้ทดลองไง”
“ทัศนคตินายมันติดลบโคตรๆ”
ชูรีพ่นลมขึ้นจมูก
“ชูรี”
เสียงทุ้มนุ่มราวกำมะหยี่ราคาแพงทำให้จังหวะหายใจของคนเจ็บชะงักกึก
“ไม่หยาบคาย”
“ท่านพี่”
ยัยกุ้งแห้งมองบนใส่เขาแล้วหันไปทำเสียงงอแง
“ก็เขากล่าวหาน้องก่อน”
“เขาอายุมากกว่าเธอ”
เธอฮึดฮัดเล็กน้อย
ก่อนจะส่งแผ่นใสในมือให้กับผู้เป็นพี่ชาย
“เอ้า
ผลตรวจร่างกาย”
“ขอบใจ”
ราชาแห่งวากานด้าทำเสียงในลำคอ
“งั้นน้องไปก่อนนะ...อาโยกับโอโคเยอยู่ข้างหน้า
มีอะไรก็เรียกพวกเธอแล้วกัน”
“ไปเถอะ”
สายตาทิ่มแทงของเด็กสาวผิวเข้มตวัดมาอีกรอบก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
เอริคสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเงยหน้าขึ้น
ดวงตาสีเข้มล้ำลึกคือสิ่งที่จ้องกลับมา
ชายหนุ่มกระตุกหัวคิ้ว
ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ทีชัลล่าอ่านผลตรวจในมือเร็วๆ
ก่อนจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“บาดแผลสมานดีจนเกือบเหมือนเดิมแล้ว
เหลือแต่พวกสมรรถภาพทางร่างกายที่ยังต้องจับตาดูอีกนิดหน่อย”
เขานิ่งเงียบขณะที่ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องยังคงพูดถึงร่างกายเขาต่อ
“ไม่เป็นไรหรอก
ร่างกายนายแข็งแรงเป็นทุนเดิม คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่-”
“ฉันนอนมานานเท่าไหร่แล้ว?”
อีกฝ่ายชะงักไป
คงไม่คิดว่าเขาจะพูดทะลุกลางปล้องอย่างนี้
“ประมาณครึ่งเดือน”
เอริคกะพริบตาช้าๆ
“...นานขนาดนั้นเชียว”
“นายฟื้นก็ดีแล้ว”
ราชาวางแผ่นใสลงบนโต๊ะข้างเตียง
“คืนนี้พักผ่อน
พรุ่งนี้มีงานที่นายต้องทำ”
“ไว้ชีวิตฉันเพราะจะให้มาช่วยทำงานให้นายเนี่ยนะ?”
เขาขมวดคิ้ว
“คิดตื้นไปมั้ย?”
ร่างสูงสง่าในชุดคลุมสีเข้มปักดิ้นเงินนั้นนิ่งไป
ก่อนจะเผยยิ้มอ่อนจางที่มุมปาก
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้รู้กันว่าตื้นหรือไม่ตื้น”
เอ่ยเท่านั้นเขาก็หมุนตัวออกไปจากห้อง
ไม่ลืมหันมาบอกอะไรบางอย่างเพิ่มเติม
“อ้อ
ใช่...ข้างหน้าประตูน่ะมีพวกโดราเฝ้าอยู่ตลอดเวลา เพราะงั้นอย่าคิดจะหนีออกไปเที่ยวเชียวล่ะ”
...ทีชัลล่า
ไอ้บ้าเอ๊ย...
ชายหนุ่มเจ้าของรอยแผลเป็นนับร้อยขยี้ตาด้วยความง่วงงุนแล้วเงยหน้าขึ้นมองเหล่าสไตล์ลิสต์ประมาณห้าคนที่กำลังวุ่นวายอยู่ในห้อง
ดวงตาที่หรี่ปรือเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเห็นชุดบนหุ่นลองตรงกลางโถงนั้น
แม่เจ้าโว้ย
อลังการไปมั้ยวะ?
ร่างสูงใหญ่ค่อยๆพลิกตัวลงจากเตียงในตอนที่หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นโร่เข้ามาหา
“องค์ชายตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ?”
เอริคเลิกคิ้ว
เห็นเขาหลับอยู่รึไงฟะ?
แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางดีอกดีใจของพวกเธอ
เขาก็กลืนคำพูดร้ายกาจลงคอไปอย่างรวดเร็ว
ให้ตายสิ
พวกนี้ทำเขานึกถึงป้าๆแถวบ้านที่มักจะมาคอยดูแลหลังจากพ่อเขาตายและเขาถูกส่งไปอยู่สถานรับเลี้ยง
“อืม”
“งั้นเรามาเริ่มกันดีกว่านะเพคะ
เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์”
“เริ่ม...”
เขาทวนคำเบาๆ
“เริ่มอะไรนะ?”
“ตายจริง”
หญิงวัยกลางคนผิวเข้มพวกนั้นหัวเราะคิกคัก
“องค์ชายของเราขี้ลืมเหลือเกิน
วันนี้คือวันแรกวสันต์ เป็นวันเริ่มต้นฤดูเก็บเกี่ยวตามปฏิทินโบราณไงเพคะ”
แล้วไงต่อ?
“และตามธรรมเนียม
ราชนิกุลเผ่าทองคำต้องเข้าร่วมพิธีบวงสรวงเทพีบาสต์เพื่อให้ผลผลิตของปีนี้มีคุณภาพที่ดีและมีจำนวนเยอะพอแบ่งปันไปทั่วราชอาณาจักรน่ะสิเพคะ”
“อ่า...”
เขาชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“แล้วผมต้องเข้าร่วมด้วยจริงๆเหรอ?”
คนถูกถามเอียงคอเลิกคิ้ว
“เพคะ?”
“ผม...ที่เป็นทั้งลูกครึ่ง
เป็นทั้งกบฎ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ หัวใจเขาก็ปวดหนึบ
“ต้องเข้าร่วมด้วยเหรอครับ?”
ทั้งวงเงียบไป
ก่อนที่คนหนึ่งจะตัดสินใจหัวเราะออกมาดังๆ
“ต๊ายตาย
องค์ชายก็...ตรัสอะไรแบบนั้นเล่าเพคะ?” เธอว่า
“พระองค์เป็นเชื้อสายของท่านเอ็นโจบู
มีเลือดของชาวเราไหลเวียนอยู่ในตัว แถมเป็นเลือดนักรบศักดิ์สิทธิ์เสียด้วย...แน่นอนว่าเข้าร่วมได้สิเพคะ”
“จริงเพคะ”
อีกคนรีบเสริม
“แถมฝ่าบาทยังกำชับมาอีกด้วยว่าต้องให้องค์ชายไปยืนเคียงข้างพระองค์ในปะรำพิธี...ถึงขนาดนี้แล้ว
องค์ชายย่อมมีสิทธิ์เข้าร่วมเพคะ”
ฝ่าบาท...
ไอ้ลูกพี่ลูกน้องหน้าตากวนส้นนั่นน่ะนะ?
เอริคนิ่งไป
กรามขบกันแน่นจนเป็นสันนูนครู่เดียวก่อนจะผ่อนลมหายใจออก
“งั้นก็รีบเตรียมการให้เสร็จเถอะ
ฝ่าบาทจะได้ไม่รอนาน”
ทีชัลล่า...ชิ
มีด้านรักพี่รักน้องนอกไส้กับเขาเหมือนกันนะเนี่ย
ทำไมรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลกๆ
ขอถอนคำพูด...ขอถอนคำพูดอย่างด่วนที่สุด
ถ้าเอริครู้ว่าการเตรียมการเพื่อเข้าร่วมพิธีนี่จะหมายถึงการถูกจับอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณอย่างนี้ล่ะก็
เขาจะไม่มีวันชมไอ้ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นว่าเป็นแฟมิลี่กายแน่ๆ
ท่ามกลางน้ำอุ่นๆในอ่างขนาดใหญ่นั้น
แขนของเขาถูกดึงออกไปขัดด้วยอะไรหยาบๆ แถมหัวก็ถูกล้างสระอย่างดี
ทุกพื้นผิวบนร่างกายถูกล้างด้วยสบู่และเครื่องประทินผิวจนเขาหัวหมุน
เรียกได้ว่าทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมเลยทีเดียว
พอเนื้อตัวแห้งสนิท
เขาก็รู้สึกสะอาดแบบแปลกๆขึ้นมาทันที
เกิดมาไม่เคยอาบน้ำหนักขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“คุณพระช่วย!”
ป้าๆเหล่านั้นอุทานขณะที่เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้
“องค์ชายของเรานี่รูปงามจริงๆ”
“ถ้าไม่ติดเรื่องแผลเป็นเยอะเกินไปล่ะก็
คงจะตีคู่สูสีกับฝ่าบาทไปแล้ว” คนหนึ่งหัวเราะ
เอริคกลั้นยิ้ม
ให้มันรู้บ้างว่าใครเป็นใคร
ถ้าเขาไม่ทำแผลเป็นแบบพอประมาณ
ตอนนี้คงจะกลายเป็นหนุ่มฮอตของวากานด้าไปแล้ว
หลังพิธีชำระล้างร่างกาย(ไม่ได้ชื่อนี้จริงๆหรอก
เขาแค่ตั้งให้มันดูเล่นใหญ่เฉยๆ) เอริคก็ถูกพามาที่กลางห้องนอน
“นี่เป็นชุดพิธีการขององค์ชายเอ็นโจบูเพคะ”
ป้าคนหนึ่งหยิบเสื้อซับในผ่าอกสีทองมายื่นให้
“ฝ่าบาทสั่งให้มีการปรับบางจุดเพื่อความทันสมัย
แต่ก็ยังคงความดั้งเดิมอยู่ไม่น้อยเลยนะเพคะ”
เสื้อตัวนอกสีน้ำตาลซีดและกางเกงสีน้ำตาลเข้มคือสิ่งต่อมา
ตามด้วยเข็มขัดหนังประดับเขี้ยวหมาไนและเสื้อคลุมแขนยาวสีกาแฟ ก่อนจะปิดท้ายด้วยรองเท้าหนังปิดครึ่งแข้งเปิดปลายเท้า,
สนับแขนอละเครื่องประดับอีกเล็กน้อย
เขากำลังจัดสนับแขนตนเองให้เข้าที่ในตอนที่ได้ยินเสียงอุทานจากสไตล์ลิสต์คนหนึ่ง
“ขออภัยเพคะ”
เธอปาดน้ำตา
“แค่...พระองค์ดูเหมือนองค์ชายเอ็นโจบูเมื่อครั้งเยาว์วัยเหลือเกิน”
เขากะพริบตาปริบๆ
ชะงักค้างไปขณะที่คนอื่นๆเข้าไปปลอบเธอคนนั้น บางคนก็ขอบตาแดงๆ
ส่วนบางคนมีสีหน้าคล้ายจะร้องไห้
...ขนาดนั้นเชียว
“...ขอบใจ”
พูดได้แค่นั้น ก่อนจะแทบตบปากตัวเอง
อะไรวะ เอริค?
พูดได้แค่นี้เองรึไง?
“องค์ชาย...”
หญิงคนหนึ่งที่ดูเด็กสุดขยับเข้ามาช่วยจัดสร้อยคอและเครื่องประดับผมที่ตอนนี้เป็นหางม้าเดรดล็อคชี้ๆฟูๆของเขาให้เข้าที่
แล้วถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
“คือว่า...ฝ่าบาทให้เครื่องประดับอันหนึ่งมา
ตรัสว่าอยากให้องค์ชายใส่ไปงานพิธี จะรับไหมเพคะ?”
ก็ฝ่าบาทสั่งมา
ถ้าเขาจะตอบว่าไม่ มันจะไม่เป็นการเสียมารยาทรึไง?
“เอามาเถอะ”
เธอหยิบกล่องไม้ออกมาเปิดออกแล้วยื่นให้
เป็นเข็มกลัดรูปร่างคล้ายเสือจากัวร์
เอริคพ่นเสียงเหอะขึ้นจมูก
ไม่วายโดนล้อจนได้
เขาคว้ามันมาแล้วติดเข้ากับอกเสื้ออย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้วล่ะเพคะ”
เหล่าสไตล์ลิสต์ยิ้มแฉ่ง
“คราวนี้ก็ได้เวลาไปปะรำพิธีแล้ว”
คนหนึ่งเดินออกไปที่หน้าประตูแว้บเดียวก่อนกลับมาพร้อมกับโดราในชุดเกราะผ้าสีแดงสดสองคน
“เดี๋ยวโดราสองคนนี้จะนำทางพระองค์ไปเองเพคะ”
เธอเดินเข้ามา จับมือใหญ่ๆของเขาขึ้นมาถือไว้พร้อมกับส่งยิ้มอบอุ่น
“ขอให้พระองค์โชคดีนะเพคะ
องค์ชาย”
เขาหลับตา
สูดหายใจลึกๆ
“ขอบคุณพวกคุณทุกคนมาก”
“ยินดีรับใช้เสมอเพคะ”
ร่างสูงใหญ่ก้าวเดินตามทหารหญิงถือหอกเงินสองคนนั้นไป
ขอให้ทุกอย่างราบรื่นด้วยเถอะ...
TALK
WITH FM
ตาน้องแอบหวั่นไหวอ่ะสิ
เห็นนะ!! 55555555
ตาพี่ก็ดูแลดีเกิ๊นนน
จัดหาเสื้อ จัดหาเครื่องประดับ เปย์หนักอย่างนี้ต้องรักแล้วแหละ
ฉากตอนเอริคเพิ่งตื่นแล้วเจอฝ่าบาทนี่รู้สึกละมุนมากค่ะ
เขียนไปบิดไป
คือตาพี่เขาอบอุ่นมากกก
เป็นไรท์นี่ละลายนะ
ฟิคนี้ตอนแรกแพลนไว้ว่าซักสองสามตอนค่ะ
แต่ดูทรงแล้วน่าจะถึงสี่หรือห้าตอน
ถ้ารีดเดอร์อ่านไหว
เราก็เขียนไหวค่ะ 555 (ตัดภาพมาที่การบ้านซึ่งกองสุมทับหัวอยู่//วิ่งลั้นลาในดงหนังสือเรียน)
ปล.
คำว่างานทับหัวมีจริงค่ะทุกคน เหนื่อยเว่อร์ ควิซทีนึงนี่แทบขาดใจ
เร็วๆนี้จะเอาตอนพิเศษประจำเทศกาลมาลงต่อละเด้ออ
ไปล่ะ
งานยังคงรอเราอยู่ 55555 (//ปาดน้ามตา)
เจอกันตอนหน้าเน้อ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น