คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : Broken Throne S3 || Ch 3
|| B
R O K E N T H R O N E ||
s e a
s o n 3
----------------------------
CHAPTER 3
สคาดิมองร่างเล็กของน้องชายเขม็ง
เจ้าต้องแก้ไขเรื่องนี้
เขาอ้าปากพะงาบๆ
ก่อนจะรีบละล่ำละลัก
“พ-พวกเจ้าทำอะไรกัน?”
“นางจะฆ่าพระองค์”
เจ้าตัวหัวโจกว่าพลางค้อมหัวทำความเคารพ
“เหลวไหล!”
เบรดิมีสีหน้ามืดครึ้ม เขาหยิบดาบไม้ขึ้นมาราวกับพร้อมเหลือเกินที่จะเอามันฟาดหน้าเอลฟ์ร่างสูงใหญ่นั้น
“ใครกันที่บอกเจ้าแบบนั้น?”
“ฝ่าบาท
หม่อมฉัน...”
ดวงตาสีฟ้าเทาของร่างเพรียวที่ยืนอยู่กลางวงเหลือบไปเห็นชายกระโปรงสีทองของใครบางคนที่มุมเสา
หญิงสาวขบกรามแน่น
ก่อนจะซัดมือออกไป
ส่งลิ่มน้ำแข็งไปปักที่บริเวณนั้นเป็นแถวและทำให้เจ้าของประโปรงสะดุ้งโหยง
“โผล่หัวออกมาคุยกันหน่อยซิอิดุนน์”
เธอว่า น้ำเสียงที่เย็นเยียบและดวงตาที่เรืองวาวคงจะน่ากลัวจนทำให้น้องชายต่างมารดาและบรรดาทหารถึงกับชะงักไป
ใบหน้าของสนมคนนั้นปรากฎออกมาจากหลังเสา
“ทำไม?”
สคาดิกอดอก เอียงคอจ้องเธอ
“กลัวข้าจะฆ่าน้องข้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เราพบยาพิษในพระกระยาหารเช้าของราชา”
อิดุนน์ตอบ น้ำเสียงสั่นน้อยๆ
เธอนิ่งไป
“...ยาพิษ?”
“ยาพิษแบบไหนกัน?”
หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆพลางยกมือขึ้นมากอดอกถาม
“แบบที่มีใบต้นโอ๊คผสมอยู่”
“ที่นี่ไม่มีต้นโอ๊ค”
เธอขมวดคิ้ว
“ก็...นั่นแหละ”
สายตาของสนมคนนั้นทำให้เธอรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่คืบคลานเข้ามาบนสันหลัง
“เดี๋ยวนะ...เจ้าจะบอกว่าเจ้าคิดว่าข้าวางยาน้องชายตัวเองงั้นรึ?”
“จากหลักฐาน
องค์หญิง” หญิงงามในชุดทองกอดอก
“เกรงว่าต้องตอบว่าใช่”
สคาดิแทบอยากกรีดร้อง
“ใครเจอยาบ้าๆนั่นล่ะ?”
“นางกำนัลคนหนึ่งของเรานำอาหารเหลือเมื่อเช้าไปให้หมีที่เลี้ยงไว้จัดการ
มันตายหลังจากกินเข้าไปภายในไม่ถึงชั่วโมง”
“งั้นทำไมข้ายังไม่เป็นอะไรเลย?”
เด็กชายผมทองขมวดคิ้ว
“คงจะเป็นเพราะหินก้อนนั้น”
ดวงตาสีฟ้าเทามองไปที่ข้อมือของน้องชายต่างมารดา
“หิน?”
เบรดิยกมือขึ้นมา เผยให้เห็นสร้อยข้อมือที่ทำจากเชือกถักสีเข้ม
มีหินขัดมันรูปร่างประหลาดก้อนหนึ่งผูกอยู่
“เดี๋ยวนะ
เมื่อเช้ามันไม่ใช่สีนี้นี่”
“มันคือหินอาร์ทรัม
น้องชาย” เธอทำท่าจะขยับไปหาเขา แต่ถูกทหารบังไว้ จึงถอยเข้ามากอดอกแทน
“มีสรรพคุณดูดพิษจากตัวผู้สวมออกมา
ทำให้คนนั้นไม่เป็นอันตราย”
ดวงหน้างดงามหันกลับไปที่อิดุนน์
“เจ้าคิดว่าข้า...องค์หญิงแห่งแอสการ์ดและรัชทายาทแห่งบัลลังก์เยือกแข็งจะทำอะไรโง่เง่าแบบนี้รึ?”
เธอกวาดตามองไปรอบบริเวณ
“ข้าเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่ถึงสองวันเลยนะ
เห็นแก่นอร์นเถอะ” มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ
“ยาพิษที่มีส่วนผสมพิเศษอย่างต้นโอ๊คเนี่ย
จริงอยู่ว่าหาได้แค่ในแอสการ์ดเท่านั้น แต่มันจะไม่เป็นการบอกใบ้เกินไปหน่อยรึไงว่าเป็นข้า?”
ทั่วลานเงียบฟังขณะที่เธอสูดหายใจลึก
“อย่างข้า
ทำได้แนบเนียนกว่านี้เห็นๆ...ไม่ได้จะอวดนะ”
พระพันปีในชุดเลื่อมทองนิ่งไป
ก่อนจะถาม
“ถ้าอย่างนั้น
เจ้าคิดว่าใครทำล่ะ?”
“ก็จะใครล่ะ”
เธอบิดปาก
“คนที่อยากให้เบรดิตายและป้ายความผิดมาที่ข้า
คนนั้นแหละ”
“พวกเจ้ารออะไรอยู่?
ถอยไปสิ!” ราชาแห่งอาณาจักรน้ำแข็งสั่ง อาศัยช่วงที่ทุกคนกำลังสับสนทำให้วงทหารที่ล้อมอยู่ค่อยๆถอยออกไป
“ครั้งต่อไปที่เจ้าทำแบบนี้กับพี่ข้าโดยที่ไม่มีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาพอ
ฟินนิค” เด็กชายพูดด้วยเสียงดังพอที่จะทำให้ทั้งลานได้ยิน ทำให้เจ้าตัวหัวโจก(ที่รู้สึกว่าจะชื่อฟินนิค)หันมา
“ข้าจะไม่ห้ามนางเลยถ้านางจะหักกระดูกเจ้า”
“ขอฝ่าบาทโปรดประทานอภัยให้กระหม่อมด้วย
กระหม่อมผิดไปแล้ว” เขาคุกเข่าลงตรงหน้าน้องชายของเธอ
“ไม่ใช่ข้าที่เจ้าต้องขอโทษ”
ดวงตาสีฟ้าเทาเหลือบมาทางเธอ
“ไปพูดมันกับสคาดิเถอะ”
เอลฟ์หนุ่มตนนั้นหันมาหาเธอ
ก่อนจะโค้งด้วยท่วงท่าราวกับหุ่นยนต์
“อภัยให้หม่อมฉันด้วย
องค์หญิง”
แต่ในน้ำเสียงนั้นมีแววของความไม่ยอมแพ้อยู่
สคาดิย่นหัวคิ้วเล็กน้อย
...ก็ได้วะ
“ตามสบายเถอะ”
ฟินนิคลุกขึ้น
แล้วหันไปทำความเคารพอิดุนน์
“หม่อมฉันจะไปสืบสวนเพิ่มเติม”
“ไปเถอะ”
คนชุดทองพยักหน้าให้ และถ้ามองไม่ผิดเธอเห็นรอยยิ้มบางๆบนนั้น
“ขอบใจท่านมาก”
“พร้อมรับใช้เสมอ
ฝ่าบาท”
เธอและน้องชายสบตากันขณะที่เหล่าคนในชุดเกราะสีเงินเดินแถวออกไปจากลานหิมะ
และสิ่งที่สื่อออกมาผ่านดวงตาก็มีความหมายคล้ายกัน
เราต้องหาตัวใครก็ตามที่ทำแบบนี้โดยเร็วที่สุด
“คนนั้นแหละ
แม่ทัพ” อิกอร์กระซิบบอกเธอขณะที่เขากำลังเดินไปส่งเธอที่ห้อง
เบรดิเดินนำอยู่ข้างหน้า
“เจ้าหนวดเฟิ้มนั่นน่ะนะ?”
“ใช่”
เอลฟ์หนุ่มพยักหน้า
“ราชินีเลือกฟินนิคมาด้วยพระองค์เอง
ไม่มีใครรู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร...ก่อนจะมาถึงขั้นสูงขนาดนี้เขายังเป็นแค่นายกองธรรมดาอยู่เลย”
“ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?”
เธอขมวดคิ้ว
“จากนายกอง
อยู่ๆก็ก้าวกระโดดไปถึงแม่ทัพแห่งอาณาจักรเลย”
“ทุกคนก็คิดเหมือนเจ้านั่นแหละ
สคาดิ” เขาว่า
“แต่เมื่อพันปีก่อนราชินีเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุด
ตอนนั้นน่ะฝ่าบาทยังพูดไม่คล่องเลย พระนางก็เลยต้องแบกรับหน้าที่ราชาทุกอย่างแทนรอให้พระองค์โตพอ”
ร่างเพรียวกุมคางเล็กน้อย
“แล้วนางก็เลือกเอลฟ์จากไหนไม่รู้ขึ้นมาแทนที่พ่อเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านพ่อไม่ไหวแล้ว”
อิกอร์ส่ายหน้า
“แม้แต่ข้าเองยังเห็นด้วยเลย
พวกมันเล่นงานท่านซะจนยับ”
เธอก้มหน้าลง
ไม่ทันไร
พวกเขาก็มาถึงโถงที่อยู่หน้าห้องบรรทมของเจ้าน้องชายเธอเรียบร้อย
“หม่อมฉันคงต้องทูลลาก่อน”
เขาพูดขณะที่ร่างของเบรดิหันมาหา
“ท่านพ่อคงกำลังรออยู่ที่บ้าน”
“ไปเถอะลอร์ดอิกอร์...ฝากความหวังดีของข้าให้แก่ท่านลอร์ดเฒ่าด้วย”
ร่างสูงก้มหัวทำความเคารพให้เขา
“ฝ่าบาท”
หลังจากนั้นก็ค้อมให้เธอตามธรรมเนียม
“องค์หญิง”
สองพี่น้องยืนดูเงียบๆขณะที่เขาหมุนตัวตรงแยกทางเดินแล้วเลี้ยวหายไป
ดวงตาสีฟ้าเทาที่เหมือนกับของเธอเปี๊ยบเบนมาหา
“เราต้องคุยกัน
สคาดิ”
“ดีใจที่เราคิดตรงกัน
น้องชาย”
พวกเขาเข้าไปในห้องทรงงานของราชาวัยเยาว์
เบรดิผายมือให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้บุกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มพลางทรุดตัวลงที่เบาะนั่งฝั่งตรงข้าม
หยิบเหยือกชาขึ้นมารินให้ทั้งเธอและตัวเขาเอง
เด็กชายถามเธอ
“คิดว่าใครทำ?”
“เจ้าคงไม่คิดว่าเป็นข้าหรอกใช่มั้ย?”
สคาดิเลิกคิ้ว เท้าคางมองถ้วยชาที่มีควันกรุ่น
“ไม่”
เขาส่ายหัว
“ท่านพูดถูก
มันโจ่งแจ้งเกินไป...และข้าเชื่อว่าถ้าท่านจะฆ่าข้าจริงล่ะก็คงไม่วางแผนหละหลวมแบบนี้โดยให้หลักฐานทุกอย่างชี้มาที่ตัวแน่”
“ข้าดีใจที่ในที่สุดก็มีคนที่ไม่สงสัยข้าแล้ว”
เขากระตุกยิ้ม
“ดูท่าท่านแม่ของข้าคงระแวงท่านมาก
พอสบโอกาสก็ถึงขนาดให้หน่วยราชองครักษ์กรูกันเข้ามาล้อมท่าน”
“ข้าไม่โทษนาง”
หญิงสาววางนิ้วลงบนภาชนะตรงหน้า สัมผัสอุณหภูมิของมันผ่านเนื้อกระเบื้องเคลือบชั้นดี
“นางเป็นสนม
ข้าเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทที่ถูกต้องตามกฎโบราณ...ข้ามีสิทธิจะชิงบัลลังก์จากเจ้าได้
ถ้านางไม่กลัวสิแปลก”
“ต้องทำยังไงถึงจะให้นางเชื่อว่าท่านมาดี?”
“ก็...”
คิ้วเรียวกดลงเล็กน้อย
“ไม่รู้เหมือนกัน
เพราะต่อให้ข้าลดตัวลงถอนสายบัวให้นางก็คงจะหาว่าเป็นการเสแสร้งเพื่อหาช่องกำจัดนางทิ้งอยู่ดี”
“ท่านคิดว่านางเป็นคนทำไหม?”
“ไม่มีทาง”
เธอตอบปฏิเสธแทบจะทันควัน
“ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น?”
เขาเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ ยกมือขึ้นมาดูหินอาร์ทรัมบนเชือกถักที่เปลี่ยนเป็นสีดำจากการดูดพิษ
“ต่อให้นางเกลียดข้าขนาดไหน
แต่นางจะไม่มีวันเอาเจ้าเข้ามาเสี่ยง” เธอยกถ้วยชาขึ้นมา
“เจ้าเป็นถึงแก้วตาดวงใจของนางเชียวนะ”
หญิงสาวหลับตาลง
เปิดประสาทรับกลิ่นขณะวนถ้วยชาไปรอบคางให้ไอร้อนของมันพลุ่งขึ้นมาโดนจมูก
“ชานี้ไม่มียาพิษ
ดื่มตามสบาย” เธอบอกเขาพลางยกชาขึ้นจิบ ดวงตาสีฟ้าเทาคมปลาบช้อนขึ้นมองสีหน้าครุ่นคิดของคนตรงข้าม
“สงสัยแม่ตัวเองอย่างนี้...ไปเจอความลับอะไรมาล่ะ
น้องชาย?”
เบรดิถอนหายใจ
“ข้าเคยคิดว่านางเป็นคนที่จริงใจกับข้ามากที่สุดในเก้าโลก
แต่สุดท้ายนางก็ไม่ต่างจากขุนนางพวกนั้น”
หญิงสาวเลิกคิ้ว
“ทำไมเจ้าคิดอย่างนั้น?”
“ท่านแม่แอบทำหลายอย่างลับหลังข้า”
เขาว่า
“สับเปลี่ยนขุนนางที่อยู่ฝั่งนางขึ้นมาแทนพวกที่มีประสบการณ์
บางครั้งก็ซื้อตัวพวกคนใช้ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของข้า
เผื่อข้าไปรู้ความลับดำมืดบางอย่างที่จนทุกวันนี้ข้าก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรของนางเข้า
ดุลย์อำนาจปั่นป่วนเละไม่เป็นท่าตั้งแต่ข้าอายุสามร้อยจนทุกวันนี้”
“อย่าเพิ่งมองนางในแง่ร้ายนัก”
เธอปราม
“หลายครั้ง
คนเราก็สามารถทำได้แม้กระทั่งฆ่าคนเพื่อลูกของตัวเอง”
“แค่ภาวนาว่าท่านแม่จะไม่ไปไกลถึงขั้นนั้น”
เบรดิพึมพำ สีหน้าหนักใจของเขาทำให้เธอนึกถึงท่านพ่อเวลานั่งอยู่เหนือกองฎีกา
“ทำใจร่มๆไว้ก่อน
เบรดิ” เธอวางถ้วยชาที่ว่างเปล่าลงบนโต๊ะ
“เราจะต้องหาความจริงได้แน่นอน”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
เขาเอามือปิดหน้าครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าขึ้น
“ขอบคุณสำหรับการซ้อมดาบวันนี้นะ”
หญิงสาวกระตุกยิ้มมุมปาก
“เจ้าจะเป็นนักดาบที่เก่งแน่ๆ...ข้าเห็นท่านพ่อในตัวเจ้า”
แล้วเธอก็ลุกขึ้น
กำลังจะเดินออกจากห้องแล้วถ้าไม่สะดุดสายตาเข้ากับหินอาร์ทรัมบนข้อมือของน้อง
มือเรียวตบลงบนไหล่ของเขา
“แล้วก็...ไอ้หินนี่น่ะ
อย่าเพิ่งทิ้งนะ”
“เอาไปแช่น้ำสักคืนมันก็จะคายพิษออกมา
พร้อมใช้ใหม่อีกรอบแล้วล่ะ”
เขามองเธอนิ่ง
แล้วทันใดนั้น
เบรดิก็ทำสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง
เด็กชายลุกขึ้น
แล้วกอดเธอ
สคาดิตัวแข็ง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยโดนกอดหรอกนะ
แต่ว่ากับน้องชายต่างแม่ที่คิดว่าตายไปเป็นพันปีแล้ว
แถมเพิ่งเจอกันอีกไม่ถึงสองวันเนี่ย...มันก็รู้สึกออกจะแปลกๆอยู่บ้าง
หญิงสาวยกมือขึ้นแล้วก็ตบหลังตบไหล่เขากลับอย่างเก้ๆกังๆ
“เคยใครบอกไหมว่าท่านเป็นพี่สาวที่เจ๋งที่สุด”
“เอ่อ...ข้ามีแต่พี่ชายมากว่าพันปี
ฉะนั้น...เท่าที่รู้ ไม่มีนะ”
“งั้นก็รับเป็นคำชมจากข้าแล้วกัน
ท่านพี่”
ท่านพี่...
เด็กนี่เรียกเธอว่าพี่
ต่อหน้าด้วย
ไม่ใช่แค่เพื่อยืนยันสถานะของเธอกับคนรอบๆ(เพราะไม่มีใครอยู่ในห้องนี้นอกจากเธอและเขา)
อดรู้สึกอบอุ่นในหัวใจไม่ได้
และในนาทีนั้น
เธอก็คิดถึงท่านพ่อขึ้นมา
อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าลูกชายของเขาโตขึ้นมาขนาดไหนแล้ว...
“แล้วเจอกันเย็นนี้
น้องชาย” เธออมยิ้มพลางผละออกมาจากเขาแล้วออกจากห้องทรงงานไป
ใครก็ตามที่คิดจะฆ่าน้องแล้วให้เธอเป็นแพะรับบาป...
เธอจะไม่ปล่อยมันไว้แน่
TALK WITH FM
ใครกันที่มันกล้าจะทำน้องเบรดิสุดน่ารักของช้านนนน
5555
เผลอแป๊บเดียวก็เดือนเมษาอีกแล้ว
ร้อนตับแล่บเลยอ่ะทุกคน
ที่บ้านเราไม่มีแอร์ด้วย(ไรท์จนมาก
สงสารไรท์ที 555//ขำค้าง)
ขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยเน้ออ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น