คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Broken Throne || Ch 3 - season finale
|| B R O K E N
T H R O N E ||
----------------------------------------------
CHAPTER 3
S E A S O N F I N A L E
‘เด็จน้องเล็กแห่งแอสการ์ดฟื้นคืนสติในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
หลังจากที่จัดการเย็บทำความสะอาดแผลที่ท้องเธอเรียบร้อย
สคาดิก็รีบโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รุ่น GPX CR5 200 (แน่นอนว่าผ่านกระบวนการปรับแต่งตามสไตล์โทนี่
สตาร์คมาแล้ว)ตามทีมที่เหลือไป
เธอมาถึงตอนที่พวกอเวนเจอร์สกำลังทยอยลงจากรถมาที่ลานเล็กๆในสวนสาธารณะแถวนิวยอร์คพอดี
โลกิ--ผู้ซึ่งถูกปิดปากแน่นหนาและคุมตัวโดยธอร์
ถูกลากออกมากลางวง
เธอวิ่งเข้าไปหาทันที
พี่ชายคนรองหันมาหา
ชั่วขณะหนึ่ง
สคาดิแทบจะสาบานได้ว่าเห็นแววตาเจือความสำนึกผิดพาดผ่านดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้น
มือเรียวเอื้อมไปรั้งต้นคอพี่ชายเข้ามาใกล้
หน้าผากเนียนจรดกันและกัน
ดวงตาสีฟ้าซีดเจือไปด้วยน้ำตา
มือซีดของเขาเอื้อมขึ้นมากุมมือซ้ายที่แตะอยู่หลังต้นคอพลางหลับตา
ทิ้งน้ำหนักเข้าหาน้องสาว
“ข้าขอโทษ
พี่ข้า...ข้าขอโทษ” พร่ำบอกเสียงเครือ
...ขอโทษที่สู้กับคนของพี่...
...ขอโทษที่ไม่ได้ออกตามหาในทันที...
...ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง...
ขอโทษสำหรับทุกอย่าง...พี่ข้า
“ไม่เป็นไร
สคาดิ อย่าร้องเลยนะ” เสียงอันเป็นเอกลักษณ์เจือความเอ็นดูเหมือนดังเก่าก่อนทุกระเบียดนิ้วของโลกิดังขึ้นในหัว
“ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า
ของข้าคนเดียว”
“ไม่
เจ้าไม่ผิด”
“ข้าควรจะหาตัวท่านให้เจอเร็วกว่านี้
เรื่องบ้าๆนี่มันจะได้ไม่เกิดขึ้น” จบคำก็สะอื้นออกมา น้ำตากลิ้งลงอาบแก้ม
“อดีตมันผ่านไปแล้วน้องข้า
ขณะนี้คือเรื่องของปัจุบันและอนาคต”
“พระบิดาโอดินจะลงโทษท่านหนักแน่ๆ
ไอ้พี่บ้าเอ้ย” ด่าทั้งน้ำตานองหน้า ทำเอาโลกิหลุดหัวเราะในลำคอ
“ทำอะไรก็ไม่เคยบอก
แกล้งตายก็ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกคนอื่น รู้ไหมธอร์ซึมไปเป็นเดือน
รู้ไหมว่าข้านั่งตาแฉะอยู่กับกองหนังสือเป็นอาทิตย์กว่าจะรู้ว่าเจ้ายังไม่ตาย”
ปาดน้ำตาออกลวกๆแล้วตั้งหน้าตั้งตาด่าต่อ
“ดูเจ้าสิสคาดิ
พอร้องเสร็จก็ด่าข้าเฉยเลย”
“ข้าหวังว่าข้าจะได้อยู่เคียงข้างเจ้าตอนที่เจ้าไปถึงแอสการ์ด”
เจ้าหญิงแห่งแอสการ์ดผละออกมา มองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า
“ข้าก็หวังเช่นนั้น
น้องข้า...แต่ตอนนี้ เจ้าต้องพักรักษาตัวอยู่ที่มิดการ์ดเสียก่อน...จะว่าไป
สภาพเจ้าก็ไม่ได้จืดนักหลังถูกแทงทะลุ”
“ท่านเองก็ดูไม่จืดนักหลังถูกเดอะฮัลค์อัดแหลก”
ฉีกยิ้มตอบอย่างเจ็บแสบ
โลกิหัวเราะ...แม้จะมีที่ปิดปากแต่เสียงหัวเราะของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม
“เจอกันที่แอสการ์ด...น้องข้า”
“เช่นกัน...พี่ข้า”
“แล้วเธอจะเอาไงต่อ?”
เสียงของแบล็ควิโดว์ปลุกเธอจากการเหม่อมองไปบนท้องฟ้า--ที่ซึ่งพี่ชายทั้งสองเพิ่งใช้เทสเซอแรคท์วาร์ปขึ้นไป
“ฉันน่ะเหรอ?”
“แบบว่า...จะอยู่ที่นี่อีกนานมั้ย?
จะทำอะไรระหว่างรอแผลสมานรึเปล่า?” สตีฟช่วยขยายความ
“เอาเป็นว่า...ตอนนี้ฉันยังไม่มีอะไรทำ
คงต้องขออยู่รบกวนมิสเตอร์สตาร์คอีกสักพักแล้วกัน”
“งั้นเอางี้ดีกว่า...”
คนที่ถูกกล่าวถึงรีบแทรกกลางบทสนทนา
“ฉันยอมให้เด็จน้องอยู่ในตึกฉันได้...ตราบใดที่จะไม่มีปัญหาตามมา
โอเค้?”
“โอเคค่ะคุณสตาร์ค”
ทีมอเวนเจอร์สแยกย้ายกันออกไปทีละคนๆ
จนถึงเธอ,โทนี่และแบนเนอร์
ร่างเพรียวในเสื้อฮู้ดสีเทายังคงยืนรับลมอยู่แถวนั้นจนมหาเศรษฐีเจ้าของรถเรียก
“เฮ้
ตกลงจะมาด้วยกันมั้ยหนู?”
“ขอเวลาอีกซักสองสามนาทีก็ดีนะสตาร์ค
ฉันขอทำใจกับการอยู่ร่วมชายคาเดียวกับนายต่อไปก่อน” ตะโกนตอบพลางโยนกุญแจรถมอเตอร์ไซค์เล่น
“พูดเป็นเล่นน่า!!!” โทนี่กางแขนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ขอแค่เธอทำอะไรอร่อยๆให้กินครบสามมื้อฉันก็โอเคแล้วเฟ้ย!!!”
สคาดิอมยิ้ม
“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะนะสตาร์ค”
พึมพำแล้วเคลื่อนตัวลงบันไดสั้นๆเพื่อสตาร์ทมอ’ไซค์ลูกรัก
“พร้อมรึยังโทนี่?!!!” เธอร้องถาม
“โอ้ว...ตั้งแต่เกิดแล้ว”
รถสปอร์ตเปิดประทุนสีแดงของไอรอนแมนสตาร์ทขึ้นมาโดยอัตโนมัติ(จะว่างั้นก็ไม่เชิง
เพราะจาร์วิสตะหากที่เปิดมันขึ้นมา)
“ขับดีๆแล้วกันนะ
ฉันขี้เกียจเซ็นใบสั่ง” แว่วเสียงปรามเนือยๆของบรูซ แบนเนอร์
เทพีแห่งเหมันต์ฉีกยิ้ม
“ไม่รับปากนะแบนเนอร์”
สคาดิตรวจสอบลูกธนูในแล่งจนแน่ใจว่ามีครบทุกดอก
ผ่านมาเกือบอาทิตย์
แผลตรงท้องสมานจนเหลือเพียงรอยสีน้ำตาลอ่อนจางประมาณสองนิ้วพาดผ่านใต้ชายโครงซ้าย
โชคดีที่เธอเป็นพวกถือคติมาแต่ตัว
ไปแต่ตัว
ฉะนั้น
สิ่งเดียวที่เธอเอาติดตัวกลับแอสการ์ดคือชุดและอาวุธที่ใส่ลงมาที่นี่
ส่วนไอโฟนกับข้าวของที่เหลือของเธอน่ะเหรอ?
ถือว่าเป็นของดูต่างหน้า(ของเล่น)สำหรับเจ้าของตึกก็แล้วกัน
...เอาไว้ถ้าได้กลับมาอีกทีค่อยทวงคืนทีหลัง...
“ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเบื่อโลกไวขนาดนี้”
สตาร์คที่กอดอกมองอยู่ไม่ไกลพูดขึ้น
“ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าคุณจะมาส่งฉัน”
สวนกลับพลางขยับสายสะพายแล่งธนู
มหาเศรษฐีตัวเล็ก(แต่จำนวนทรัพย์ไม่เล็ก)ถอนหายใจยาวพลางเดินเข้ามากอด
“ฉันคงคิดถึงเธอ
สคาดิ”
เธอโอบตอบพลางตบบ่าเขาแรงๆ
“ฉันก็คงจะคิดถึงคุณเช่นกันโทนี่”
ทั้งสองผละออกจากกันในที่สุด
โทนี่ถอยออกไปขณะที่ร่างเพรียวแหงนหน้าขึ้นบนฟ้า
“ไฮม์ดัล!!!”
“ตาแก่กล้ามดก!!! ข้ารู้ท่านเห็น พาข้าออกจากที่นี่ที!!”
ตูม!!!!
...ทันใจดีแท้...
ลำแสงหลากสีพุ่งปิ้วๆลงมาที่เธอ
ออร่าความสว่างของมันกระจายไปทั่วบริเวณ
มุมปากบิดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ
ดวงตาสีฟ้าเทาเปล่งประกายด้วยความคะนึงหา
บ้าน...
ดวงตาสีดำสนิทไร้แววคล้ายซากศพลืมขึ้น
ริมฝีปากซีดของผู้ที่อยู่เคียงข้างเอื้อนเอ่ยถ้อยวจีด้วยภาษาแห่งเผ่าพันธุ์
“มีสิ่งใดรึนายท่าน?”
“ข้าสัมผัสได้ถึงพลังของสิ่งที่ควรถูกกวาดล้างไปนานแล้ว...”
“ท่านหมายถึงเอล์ฟน้ำแข็ง?”
ปลายเสียงแหบห้าวนั้นเจือความฉงนอยู่ไม่น้อย
“เกรงว่าจะใช่
ขุนพลของข้า”
“มันต้องการอันใด?”
“ข้าเองก็มิอาจทราบได้
แต่ลางสังหรณ์ของข้ามันเตือนว่าจะเกิดการต่อสู้กับเอล์ฟตนนี้แน่นอน”
ร่างขาวซีดในเกราะสีดำเดินออกไปที่บริเวณที่เป็นหน้าต่างของยาน
ดวงตาแข็งทื่อเหม่อมองออกไปที่ห้วงสสารด้านนอก
ความต้องการครอบครองคืบคลานไปทั่วร่าง
กายอันใหญ่โตของนักรบคู่ใจเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหลัง
“ให้มันมา!!!”
ร่างนั้นคำราม
“วางใจข้าเถิดนายท่าน
ข้าจะเป็นคนทุบกระดูกมันให้แหลกละเอียด ลากมันมากองไว้แทบเท้าแห่งท่าน ให้มันจ้องดูเปลวไฟกลืนกินแอสการ์ดช้าๆ
แล้วค่อยบั่นคอมันทิ้งด้วยมือของข้าเอง!!!”
ผู้เป็นนายแย้มยิ้ม
“เย็นไว้ก่อนเถิด”
“เรายังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของเผ่ามัน
และไม่มีผู้ใดจะให้ข้อมูลนั้นได้ชัดเจนและยอดเยี่ยมไปกว่าเจ้าหญิงอย่างมันอีกแล้ว”
“ท่านมาเลคิธช่างฉลาดยิ่งนัก”
ขุนพลร่างยักษ์ว่าเสียงแหบกระด้างแฝงไปด้วยความยินดี
TALK
WITH FM
และในที่สุดดดดดดด
BT
ก็ดำเนินมาถึงซีซั่นฟินาเล่แล้วนะคะ
ต้องขอขอบคุณกำลังใจที่รีดเดอร์ทุกท่านส่งมาให้ไรท์ด้วยค่ะ
ตอนต่อไปจะเป็นคู่ของใครกันน้าาาาา?
เปิดรีเควสเลยค่ะ
ไรท์ร่างธีมไว้หลายคู่แล้ว แต่ยังไม่รู้จะเอาคู่ไหนก่อนดี
ต้องขอความคิดเห็นด้วยนะคะ
ด้วยรักและถุงกาวเ
เฟิงมี่ค่ะ >3<
ความคิดเห็น