คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : Short Fic. || A Dragon's Affair (Thorki)→ ᴘᴀʀᴛ 4
Title
: A Dragon’s Affair
Author
: Fengmii
Pairing
: Thorki
Genre
: Short Fiction (4/??)
Notes
: เทพนิยายมักจบลงด้วยเจ้าชายฆ่ามังกรแล้วแต่งงานกับเจ้าหญิง
แต่ถ้า...มังกรที่ว่านี่ไม่ใช่สัตว์ร้ายบ้าคลั่งอย่างที่ทุกคนคิดล่ะ?
“อรุณสวัสดิ์”
เสียงอันคุ้นเคยทำให้ธอร์กระชากเปลือกตาขึ้นและทะลึ่งลุกขึ้นมานั่ง
ดวงตาสีฟ้าเข้มเหลียวมองไปรอบตัว
ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นหน้าของคนที่มาปลุก
“...ซิฟ”
“หลับสบายเชียวนะ”
เธอบิดปากเป็นการทักทายยามเช้า
“ทิ้งให้ข้านอนขดอยู่ตัวคนเดียวแล้วไปซุกโลกิ”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะหันกลับไปมองด้านหลังของตน
มังกรดำยังคงหลับใหลอยู่บนพื้น
ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
เขาพบว่าอุณหภูมิร่างกายของโลกิช่วยเขาจากการเป็นหวัดได้ดีทีเดียวเมื่อลุกขึ้น
เดินออกไปนอกถ้ำและตัวสั่นน้อยๆกับความเย็น
แขนแข็งแรงเอื้อมกอดรอบกายก่อนจะกลับเข้ามานั่งพิงสีข้างของมันดังเดิม
“ทำไมวันนี้หนาวกว่าเมื่อวาน?”
ซิฟยักไหล่
“ไม่รู้สิ ลมพัดไอความเย็นจากเทือกเขาอัลฟ์ไฮม์ทางเหนือลงมานี่แล้วมั้ง”
“แต่มันยังไม่ใกล้เคียงหน้าหนาวเลยนะ?”
หญิงสาวจิ๊ปาก
“ป่าโยธันคาดเดาไม่ออกขนาดไหนเจ้าเองก็น่าจะรู้”
ธอร์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมหยิบเสื้อคลุมสีตุ่นๆของตนขึ้นมาใส่
มือใหญ่แตะลงเบาๆที่พื้นผิวเป็นเกล็ดสีมะเมื่อมด้านหลัง
ไล้ขึ้นไปจนถึงบริเวณเขาคู่ใหญ่สีเดียวกัน
เมื่อเห็นว่าโลกิไม่มีทีท่าจะตื่น เจ้าชายแห่งแอสการ์ดจึงยื่นมือไปหาสหายสาว
เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงฉงน
เขากรอกตา
“ขอผ้าห่มหน่อย”
“เจ้าจะห่ม?”
ร่างเพรียวสูงยกผ้าหนานุ่มดูอุ่นน่าใช้ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ขึ้นมาแล้วเหวี่ยงให้
ธอร์รับมันไว้แล้วสะบัดสองสามทีก่อนจะห่มลง...
บนร่างใหญ่โตของมังกร
“บ้ารึไง?” ซิฟมองเขาตาเหลือก
“มังกรใช้ผ้าห่มที่ไหนกัน”
“แล้วผ้าห่มนี่เจ้าได้มาจากไหนล่ะ?”
เขาถามกลับ
“หนาขนาดนี้
ไม่น่าจะยัดมาในกระเป๋าหนังใบนั้นได้นะ”
เจ้าหญิงมองเขานิ่ง ชะงักค้าง
ร่างสูงหรี่ตา
ให้ตายเถอะ...
“มีอะไรที่เจ้ายังไม่ได้บอกข้า?”
เงียบ
“ซิฟ?”
เธอขบริมฝีปากล่าง
“ผ้านั่นเป็นของโลกิ”
“ไหนบอกมังกรไม่ใช้ผ้าห่ม?”
“ไม่ใช่ในร่างนี้” หญิงสาวพูดเสียงรัวเร็ว
ร่างนี้?
อะไรวะเนี่ย?
“ร่างอะไร?”
เธอสูดหายใจ นวดคลึงตรงหว่างคิ้ว
“ไม่น่าเลย...”
ร่างเพรียวจ้ำมาหาเขาแล้วดึงแขนออกไปจากโถงก่อนที่โลกิจะตื่น
เธอหันมาประจันหน้าทันทีที่พ้นบริเวณนั้น
ดวงตาสีเข้มยังคงกลอกไปมาราวกับกลัวว่าจะมีใครมาได้ยิน
“เคยได้ยินนิทานเรื่องซิกฟรีดมั้ย?”
“อ่าฮะ” เขาพยักหน้าช้าๆ ยัวไม่ค่อยเข้าใจว่านิทานก่อนนอนตอนเด็กกับเรื่องของมัวกรที่ว่านี่เกี่ยวข้องกันได้ยังไง
“ซิกฟรีดเป็นเด็กชาวบ้านที่มีพลังพิเศษในการควบคุมไฟ
เขาหยุดแผนการชั่วร้ายของพ่อมดฟาฟเนียร์และช่วยอาณาจักรนอร์มานจากการถูกทำลาย ราชาเรกินมอบลูกสาวที่ชื่อบรุนน์ฮิลด์ให้เขา
แล้วทั้งคู่ก็ครองคู่กันอย่างมีความสุขตลอดกาล”
“ซิกฟรีดเป็นลูกครึ่งมังกร
แม่เขาเป็นมนุษย์” เธอบอก
“ใครบอกเจ้า? พรายน้ำกระซิบรึไง?”
“เหอะ” ซิฟกอดอก
“ชาวบ้านแถบชายป่ามักเล่าเรื่องนี้ให้เด็กๆฟังในแบบที่บอกว่าซิกฟรีดมีเชื้อสายมังกร”
“มิน่าล่ะเขาถึงมีพลังควบคุมไฟ” ธอร์พึมพำ
ก่อนจะขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก
เดี๋ยวนะ...ลูกครึ่งมังกร...
มังกรจะมีลูกกับมนุษย์ได้ยังไง?
เว้นแต่ว่า...
“โลกิมีร่างมนุษย์?”
เจ้าหญิงแห่งวานาไฮม์พยักหน้า
“เขาบาดเจ็บหนัก
ตอนนี้เลยยังเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ไม่ได้...และจะยังเปลี่ยนไม่ได้ไปอีกสักพักจนกว่าแผลจะหายดี”
“เจ้าเคยเห็นเขาในร่างนั้น?”
“ก็...” เธอมองขึ้นไปในอากาศ
พยายามสรรหาคำพูด
“เคย...ประมาณสองสามครั้ง”
“แล้วเป็นไง?”
“เป็นไงคือ?” เธอเลิกคิ้ว
“แบบว่า...” ร่างสูงเม้มปาก
“หน้าตาเป็นยังไง?”
“ธอร์ จะสงสัยอะไรนักหนา”
คู่สนทนาพ่นลมหายใจ
“เขาก็หน้าตาเหมือนเราๆนี่ล่ะ
เอาไว้พอเขาหายก็ได้เห็น”
จากนั้น เธอก็ปลีกตัวไปจัดการเรื่องอาหารเช้า
ทิ้งธอร์ไว้กับจินตนาการร่างมนุษย์ของมังกรดำที่หลับใหลอยู่ด้านในห้อง
ชายหนุ่มกำลังเหลาไม้เตรียมย่างกระต่ายที่ซิฟเอามาในตอนที่ลมหนาววูบใหญ่พัดเข้ามาภายในถ้ำ
เขาสะดุ้งเมื่อไฟที่ก่อไว้ดับลงและยกมือป้องตาจากแรงลม
อะไรอีกเนี่ย?
บางสิ่งที่มีสัมผัสเย็นๆแตะค้างลงตรงปลายนิ้ว
และเมื่อเขาลดมือลงดูก็พบว่ามันคือปุยหิมะ
หิมะ ในหน้าร้อนของป่าโยธัน?
ไม่ล่ะ นี่มันไม่น่าจะปกติ
เสียงอะไรบางอย่างขยับแหวกอากาศดังออกมาจากด้านนอกถ้ำ
ธอร์เดินออกไปดู ก่อนจะพบว่าร่างเพรียวของซิฟก็อยู่หน้าถ้ำเหมือนกัน
“มันคืออะไร ซิฟ?”
“เจ้าถามข้าเหมือนข้ารู้ทุกเรื่องแน่ะ”
เธอบิดปาก
วัตถุบางอย่างขยับอยู่บนฟ้า
ค่อยๆเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนเห็นปีกขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง
...มังกรอีกตัว?
เกล็ดสีขาวสะท้อนล้อแสงแดดขณะที่มันร่อนลงตรงหน้า
ลมหนาวยะเยือกยิ่งกว่าครั้งก่อนพัดเส้นผมของทั้งสองจนปลิวไปด้านหลัง
ซิฟยกแขนขึ้นกอดตนเองในขณะที่หรี่ตาลงเพื่อปกป้องดวงตาจากลมเย็น
พื้นดินสั่นสะเทือนเมื่อร่างกายอันใหญ่โตของมันแตะลงบนพื้น
มังกรขาวสะบัดคอไปมาราวกับปวดเมื่อยจากการบินเป็นเวลานาน
มันหุบปีกที่มีทั้งขนและเกล็ดลงแนบตัวก่อนมองไปรอบๆ
ตาสีฟ้าเทาคู่นั้นหยุดลงที่ร่างของมนุษย์สองคน
มันหรี่ลงอย่างไม่ค่อยชอบใจนักแล้วกรอกขึ้นไปข้างบนราวกับเหนื่อยเต็มประดา
คิ้วเข้มของเขากดลง
อะไรคือการทำหน้าแบบนั้นฟะ?
มีแสงสว่างเรืองออกมาจากร่างของมัน
แผ่คลุมไปทั่วบริเวณ
เมื่อมันจางลง ร่างโปร่งของหญิงสาวคนหนึ่งก็กำลังยืนอยู่แทนที่มังกรตัวนั้น
เธอปัดกลุ่มผมสีเงินเพียงกลุ่มเดียวท่ามกลางเส้นผมสีเข้มเหล่านั้นที่ถูกถักเป็นเปียเล็กๆไปอยู่ด้านหลังหู
ลวดลายสีฟ้าเทาบนต้นคอด้านซ้ายและรอบดวงตาข้างเดียวกันซึ่งเด่นอยู่แล้วในร่างมังกรดูเด่นขึ้นไปอีกเมื่ออยู่บนผิวสีซีดของเธอ
มังกรขาวในร่างมนุษย์กอดอก
แล้วมองพวกเขาด้วยสายตานิ่งเนิบชวนขนลุก
“เดี๋ยวนี้โลกิมีรสนิยมเลี้ยงอาหารไว้ทานเล่นแล้วรึ?”
ธอร์เลิกคิ้ว
“เจ้ารู้จักโลกิ?”
เธอกระดกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ทำไม? จะถามนิสัยการกินของเขาเหรอ?
ไม่ต้องห่วง โลกิเป็นมังกรที่กินแบบผู้ดีมีตระกูล เลือดเจ้าจะไม่เลอะเทอะ
และการตายของเจ้าจะไม่ทรมาน”
“เหลวไหล” ซิฟนิ่วหน้า ท่าทางไม่ถูกใจมังกรตัวนี้อย่างแรง
“เราเป็นเพื่อนเขา
มาที่นี่เพื่อดูแลเขาในระหว่างที่เขาพักฟื้นจากการถูกทำร้าย”
“อ้อ” หญิงสาวว่า เสียงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“งั้นก็ดีแล้ว”
ท้ายประโยคเสียงตวัดและรัวเร็ว
เธอมองพวกเขาอีกเพียงครู่เดียวก่อนจะก้าวเดินเข้าไปในถ้ำ
ร่างในชุดพลิ้วสีฟ้าซีดนั้นเลี้ยวไปมาอย่างชำนาญทางราวกับเดินในนี้มากว่าร้อยครั้ง
ไม่นาน เธอก็เจอห้องโถงที่โลกิยังคงนอนพักอยู่ด้านใน
ธอร์และซิฟตามไปติดๆ
พวกเขามาถึงในตอนที่เธอคุกเข่าลงข้างร่างใหญ่โตสีมะเมื่อมของโลกิ
มือเรียวแตะลงบนข้างคอที่เต็มไปด้วยเกล็ด
ราวกับมังกรดำรับรู้ถึงการมาของเธอ
มันเปิดเปลือกตาขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนั้น
“ข้าเอง โลกิ” เสียงของมังกรขาวอ่อนลงมาก
เธอลูบเขาคู่นั้นเบาๆ
“ไม่เจอกันนานทีเดียว”
มันผงกหัวน้อยๆเป็นการทักทาย
หญิงสาวผมสีเข้มเลื่อนมือไปเลิกผ้าห่มออกจนเห็นรอยแผลที่ยังไม่สมานกันดีนัก
นิ้วเรียวลูบไปบนนั้นด้วยกิริยานุ่มนวลแผ่วเบาจนจ้างให้ก็ไม่เชื่อว่านี่คือคนเดียวกันกับมังกรแสนหยิ่งที่คุยด้วยหน้าถ้ำเมื่อกี้
“มันทำอะไรกับเจ้าบ้างนี่ ญาติข้า?”
เธอละจากแผลแล้วลูบหัวโลกิเบาๆ
“นอนพักอีกสักหน่อย
พออาหารเช้าเสร็จข้าจะมาปลุก”
มันผ่อนลมหายใจเป็นเชิงรับรู้แล้วหลับตา
เข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ต่อ
เธอมองมังกรดำนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยืนขึ้นแล้วหันมามองอีกสองชีวิต
“เอ้า รออะไรอยู่ล่ะ...ไปทำกับข้าวสิ”
“ไม่จนกว่าเจ้าจะบอกว่าเจ้าคือใคร
และมาทำอะไรที่นี่” ซิฟกอดอก ยืนขวางหน้าหญิงสาวไว้
ร่างโปร่งเลิกคิ้ว
ก่อนจะถอนหายใจแล้วมองบน
“เอาล่ะ คงต้องแนะนำตัวกันหน่อยสินะ”
มือเรียวสีซีดยื่นออกมา แขนเสื้อที่ยาวปิดหลังมือร่นขึ้นไปเล็กน้อย
เผยให้เห็นแหวนวงงามรูปมังกรที่ขดรอบข้อมือและนิ้ว
บนหัวของมันที่วางอยู่เหนือนิ้วชี้คือไพลินน้ำงามที่ตัดกับเกล็ดประกายเงินบนตัวแหวนมังกรได้เป็นอย่างดี
“ข้าสคาดิ มังกรแห่งเทือกเขาอัลฟ์ไฮม์”
ดวงตาสีฟ้าเทามีประกายขัดใจเล็กน้อยเมื่อต้องเค้นประโยคต่อไปออกมา
“...ยินดีที่ได้รู้จักแล้วกันนะ
มนุษย์ตัวจ้อย”
TALK WITH FM
และแล้ว
’เด็จน้องเล็กของเราก็ได้ปรากฎตัวววววว//ปรบมือสิคะรอไร5555
น้องมาในธีมมังกรหยิ่งค่ะ
แต่ก็แอบอ่อนโยนกับกิอยู่เด้อ
ช่วงนี้พระศุกร์เข้า
พระเสาร์แทรกมากค่ะ เดี๋ยวไรท์ต้องไปเข้าค่ายลูกเสือ(aka. สามวันสองคืนในค่ายทหาร) และหลังจากนั้นก็ถึงช่วงโค้งสุดท้ายของ ม.3 มีงานปัจฉิม งานพรีเซ้นต์ต่างๆนาๆ ไหนจะสอบไฟนอลอีก ฮรืออออออ
ไรท์คงต้องทิ้งช่วงไปเป็นเดือนเลยล่ะค่ะ
แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนนะคะที่สนับสนุนและให้กำลังใจไรท์
เจอกันตอนหน้าเน้อ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น