คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : HAPPY BIRTHDAY TO ME
BIRTHDAY SPECIAL
h a p p y b i r t h d a y
t o
“M E”
เสียงโทรศัพท์ที่ดังเสียดแทงโสตประสาทไม่หยุดทำให้โลกิคำรามสบถเบาๆแล้วยื่นมือออกจากเตียงไปคลำหามันด้วยดวงตาที่ปิดสนิท
“อืมมมม ฮัลโหล?”
[พี่ชาย นี่ฉันเองนะ]
เสียงปลายสายตอบกลับมา
ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย
“...ใครนะ?”
“สคาดิ”
ความทรงจำไหลกลับเข้ามาในหัว เขาทำเสียงอ้อเบาๆพลางนึกอยากจะตบหัวตัวเองที่จำน้องสาวไม่ได้
“อ้อ ไงแคด” เขาหาวอีกรอบ
“โทรมาทำไมตั้งแต่เช้าฮะ?
แกก็รู้ว่าฉันยังไม่ตื่น”
[เช้าบ้าอะไร นี่เก้าโมงแล้ว]
“นั่นแหละ” ดวงตาสีเขียวลืมขึ้นในที่สุด ชายหนุ่มกลิ้งตัวกลับไปนอนบนเตียงพร้อมกับมืออีกข้างที่ยกขึ้นก่ายหน้าผาก
[นี่พี่จำไม่ได้จริงดิว่าวันนี้วันอะไร]
สคาดิทำเสียงไม่อยากเชื่อ
“ก็วันอะไรเล่า?” เขาคำรามอย่างประสาทเสีย
“บ้าอะไรวะเนี่ย?
โทรมาปลุกฉันแต่เช้าให้อารมณ์บูด แล้วยังถามหน้าซื่อๆอีกว่าวันนี้วันอะไร”
เขาพักหายใจ
“ก็วันที่ 2
ตุลาคมไงฟะ ทำไม ไอ้หนุ่มวีดาร์มันทิ้งแกไปเมื่อคืนรึยังไง?”
[เหลวไหล] หญิงสาวปลายสายด่า
[เขากับฉันเป็นเพื่อนกัน]
“แล้วโทรมาทำเพื่อ?”
[2 ตุลา พี่ชาย]
เสียงเธอเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา
“เออ ก็ 2
ตุลาไง...” ทันใดนั้น ความตระหนักรู้บางอย่างก็แล่นปรู๊ดกลับเข้ามาในหัว
ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างแล้วเด้งตัวขึ้นมาจนผ้าห่มร่นลงไปถึงใต้แผงอกเปลือยเปล่า
“ฉิบแล้ว”
[เออ ฉิบแล้ว] น้องสาวแหวกลับ
[เราลืมเตรียมของขวัญให้ไรท์เตอร์]
“โอ๊ย” โลกิสบถ
“วันนี้นางอายุเท่าไหร่แล้วนะ?”
[ไม่รู้ดิ ถามธอร์ดู]
“มันยังไม่ตื่นเลยมั้ง” เขายีหัวตนเอง
“ฉันจะโทรหาทีชัลล่าแทนละกัน
ขานั้นดูจะรู้เรื่องกว่า”
[รวมสายให้ฉันด้วย]
“เออๆๆ”
เขาดึงไอโฟนออกมาจากหู
แล้วกดโทรออกหาเพื่อนชายสายเนิร์ดอย่างทีชัลล่า โดยไม่ลืมกดรวมสายให้น้องสาวด้วย
[ว่าไง] เสียงทุ้มแหบสำเนียงแปร่งๆดังขึ้น
“วันนี้วันเกิดไรท์เตอร์”
เสียงเครื่องมือตกกระทบพื้นกราวทำให้โลกิรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนคนนี้ก็ลืมนับวันเหมือนกัน
[ฉันลืมว่ะ]
[พวกเราก็ลืม] สคาดิชิงตอบ
[นายคงไม่ได้นับใช่ป่ะว่าวันนี้ไรท์อายุเท่าไหร่?]
[จะบ้าเหรอ แม้แต่วันเกิดฉันยังลืม
อายุเจ้าของวันเกิดฉันจะไปรู้ได้ไง] นักวิทย์คนเก่งแหวตอบ
“ถามใครดีล่ะวะ?”
ชายหนุ่มย่นจมูก
[เฮ้ อะไรกัน ฉันก็อยู่แถวนี้นะ
ไม่คิดจะถามกันบ้างเลยรึไง?] เสียงแจ๋วๆของเด็กสาวผู้น้องของทีชัลล่าดังขึ้นมาแทรก
“อ้าวชูรี ตื่นแล้วเรอะ?”
[จ้า กู๊ดมอร์นิ่ง]
“แล้วอย่างนี้จะเอาอะไรไปเซอร์ไพรส์นางดีล่ะเนี่ย?
เวลาจะเตรียมปาร์ตี้ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว” โลกิทำหน้าครุ่นคิด ลูบคางตัวเองเบาๆ
[ใครว่าแทบไม่เหลือ?] ชูรีถามย้อน
[นี่ฉันใคร?]
“อ่า...เด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่ยังเรียนอยู่ไฮสคูล”
[ไม่ใช่] เสียงของเธอตวัดปลายประโยค
[อย่าลืมนะว่าฉันเนี่ยแหละ
ฝ่ายกิจกรรมของสภานักเรียน เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย]
[แล้วเธอมีแผนยังไง?] สคาดิถาม
[เรียกบิ๊กทีมาฟังด้วย จะได้ช่วยกัน]
[มาแล้วๆ]
เสียงของทีชัลล่าคล้ายห่างจากโทรศัพท์ไปในระยะไกล
“เมื่อกี้เขาทำ’ไรอยู่?”
ชายหนุ่มผมดำขยับแขนออกจากเตียง เอื้อมไปหยิบผ้าขนหนู
[จะทำอะไรอีกล่ะ]
เสียงของชูรีทำให้เขาสามารถจินตนาการภาพเธอกรอกตามองบนได้อย่างแม่นยำ
[ก็ไปขันน็อตประกอบสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่น่ะสิ
ชื่ออะไรนะ...แพนๆอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ]
เสียงโวยวายอู้อี้แก้ชื่อของทีชัลล่าดังขึ้นเป็นแบ็คกราวด์
“สรุปแผนคือยังไง ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว
จะได้รีบออกไปซื้อของ”
[โลกิ พี่ไปซื้อกระดาษมานะ เอาใหญ่กว่า A4 หน่อย ประมาณ 80 แกรม หลายๆสี แล้วก็เอาแบบสีขาว
มีเส้นมาด้วย]
“อ่า”
[สคาดิ
บ้านพี่มีปริ๊นเตอร์หมึกอิ๊งค์เจ็ทป่ะ?]
[มีๆๆ จะให้ปริ๊นอะไรอ่ะ?]
[เดี๋ยวฉันจะส่งรูปของแก๊งเราแต่ละคนไปให้
พี่มีรูปถ่ายรวมตอนที่เราไปเที่ยวไทยด้วยกันมั้ย?]
[มีสิ จะให้ฉันปริ๊นให้ชะ?]
“ก็เขาถามขนาดนี้แล้ว แกยังจะไปทายปริศนาอะไรอีกวะ?”
เขากระดกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
[ปากไม่ดีจังวะโลกิ]
“ปากไม่ดีจะเป็นพี่แกเหรอวะ”
[พี่นี่มัน...]
มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ชายหนุ่มเสยผมสีดำที่ยาวระบ่าของตนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจจบบทสนทนา
“งั้นฉันไปก่อนนะ
ถ้าได้ของแล้วจะไปเจอกันที่ที่ไหนดี”
[บ้านฉันเนี่ยแหละ] เสียงชูรีตอบ
[บ้านเธอบ้าบออะไร นี่บ้านฉันซื้อนะ!!]
เสียงของบิ๊กทีดังแว่วๆขึ้นมา ทำเอาเขาหลุดขำ
“โอเค แล้วเจอกัน”
[เจอกันจ้า]
อ้าว สวัสดีค่ะทุกคน
เรากำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย
[ไงคะไรท์เตอร์] ชูรีทักกลับเสียงใสผ่านโทรศัพท์
[ฮายครับ/ค่ะ] เสียงของเดอะแก๊งดังขึ้นตาม
แล้ววันนี้โทรมามีอะไรรึเปล่าคะเนี่ย?
[คือว่า...ไรท์ช่วยมาที่บ้านธอร์ตอนนี้เลยได้มั้ยคะ?]
เสียงของสคาดิว่า
เอิ่ม...เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?
[ธอร์มันเมาอ่ะดิ] เสียงนิ่งๆเนือยๆสำเนียงนิวออร์ลีนส์ของอีริค
สตีเว่นส์ดังขึ้น
ตายจริง อีกแล้วเหรอ? งั้นเดี๋ยวไรท์ไปนะ
[รีบมาเลยนะไรท์ นางจะเผาบ้านอีกแล้ว!!] แว่วเสียงตะโกนอู้อี้ปนกันของทั้งโลกิและสคาดิ
แย่จริงๆเลย...
สาวน้อยผุดลุกขึ้นแล้วรีบรุดออกจากห้องไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
ประตูบ้านขนาดที่ควรจะเรียกได้ว่าคฤหาสน์อันเป็นมรดกล้ำค่าของตระกูลโอดินสันถูกเปิดออก
ดวงตาสีดำของไรท์เตอร์สอดส่องไปทั่วอย่างฉงน
ทำไมไม่เห็นพวกพ่อบ้านแม่บ้านบ้างเลยล่ะ?
เธอก็เข้าใจนะว่าธอร์รำคาญพวกนี้จนเอาออกไปเกือบหมด
แต่...มันก็ไม่ควรจะเงียบสงัดวังเวงแบบนี้ป่ะ?
เอ่อ...หวัดดีค่ะ มีใครอยู่มั้ย?
เงียบ...
ธอร์?
โลกิ?
ยังคงเงียบ
อะไรกัน?
สาวน้อยเดินมาเรื่อยๆจนถึงตรงโถงห้องนั่งเล่น
ภายในคฤหาสน์พลันมืดสนิท เธอสะดุ้งแล้วสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิด
เชี่ย!!
เจ้าของชื่อเล่นไรท์เตอร์ขนลุกชัน
กระแสเย็นเยียบแล่นขึ้นมาตามสันหลัง ดวงตาสีดำค่อยๆสอดส่ายไปรอบๆ
เอ๊ะ?
ทันใดนั้น
เสียงตบมือเป็นจังหวะก็ดังขึ้น สาวน้อยสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง มือคว้าจับโซฟาใกล้ตัวโดยอัตโนมัติ
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์
ทูยู”
แสงเทียนดวงเล็กๆสีส้มหลายดวงส่องสว่างขึ้นตรงช่องประตู
เสียงของหลายๆคนที่คุ้นเคยประสานกันเป็นท่วงทำนองเพลงหลากหลายคีย์
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์
ทูยู” ดวงตาสีฟ้าเทาของสคาดิที่กำลังถือเค้กเดินเข้ามาเป็นประกายด้วยแสงบนขนมนั้น
เงาหน้าของโลกิ, ธอร์, สตีฟ, เอริค, ทีชัลล่า, ชูรี, โทนี่และสตีเฟ่น
เสตรนจ์ที่กระเตงกีตาร์อยู่ตามเข้ามา
เพิ่งได้ยินเสียงกีตาร์ที่ถูกคุณหมอคนเก่งเกาเบาๆคลอตามมาด้วย
ท-ทุกคน
นี่มัน...
“แฮปปี้ เบิร์ธเดย์, แฮปปี้ เบิร์ธเดย์...”
หญิงสาวผมสีเข้มยิ้มกว้าง ยื่นเค้กมาให้แล้วร้องท่อนสุดท้ายพร้อมๆกันกับดวงตาที่เปล่งประกายความสุข
“แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ ทู...ยู”
เดอะแก๊งที่เหลือปรบมือแล้วหัวเราะขณะที่ไฟในห้องเปิดอีกครั้ง
“สุขสันต์วันเกิดนะไรท์เตอร์!!”
ลูกสาวบุญธรรมของตระกูลเจ้าของสถานที่แห่งนี้ก้าวออกมาข้างหน้า
“ขอให้ไรท์มีความสุข แข็งแรงๆ เรียนเก่ง
เป็นที่รักของทุกคนนะ”
สาวน้อยเบิกตากว้าง
คล้ายไม่รู้จะพูดยังไงดี
ข-ขอบคุณนะ
“เอ้า รออะไรอยู่?” หมอแปลกถาม
“เป่าเทียนซะสิ”
เธอยิ้มแล้วทำตาม
ควันสีเทาลอยว่อนไปทั่วเมื่อไฟบนเทียนถูกเป่าจนดับ
“ไรท์คะ นี่คือของขวัญจากพวกเราทุกคน” ชูรีหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากในกระเป๋า
สมุดทำมือขนาดใหญ่กว่าปกติถูกยื่นออกมา
ตรงปกเขียนตัวอักษรเล็กๆว่าให้ไรท์เตอร์ หน้าต่อไปเป็นรายชื่อของเดอะแก๊งที่ช่วยกันทำสมุดเล่มนี้
นิ้วมือของสาวน้อยเปิดหน้าต่อไป มันมีรูปของโลกิและเธอที่เขาน่าจะแอบถ่ายไว้ตอนที่เธอหลับปุ๋ยในวันนอนค้างอพาร์ตเมนต์หรูของเขาแปะไว้
บนกระดาษเขียนด้วยลายมือหวัดๆเป็นระเบียบ
ขอให้มีความสุขมากๆนะ
ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เธอทำให้ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงวันนี้...แถมขอบคุณไปถึงอนาคตด้วย
รักและหวังดีเสมอ,
ล.
ล. อ.
หน้าถัดมาเป็นของสคาดิ
รูปที่ติดตรงนั้นคือรูปของพวกเธอสองคนที่เซลฟี่ด้วยกันตอนไปเที่ยวนอร์เวย์เมื่อปีกลาย
รักเธอมากๆเลย
มีอะไรก็บอกฉันได้เสมอนะ แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้ะ
ปล. วีดาร์ฝากคำอวยพรมาด้วย
เขาขอให้เธอสมหวังทุกประการนะ...อย่าถือสาเขาเลยที่บางครั้งเขาไม่พูด
เขาเป็นคนแบบนั้นแหละ
เมื่อเปิดไปถึงหน้าของเสตรนจ์ที่บอกว่าไม่ต้องเครียดกับการเรียนให้มาก
เรียนให้สนุก ดวงตาสีดำก็รื้นขึ้นมา
ทุกคน...
ไรท์เตอร์ยกมือขึ้นปิดปาก
สคาดิทำเสียงโอ๋ยาวๆออกมาคำหนึ่งแล้วเข้ามากอดเธอเอาไว้ ตามด้วยเดอะแก๊งคนอื่นๆ
ขอบคุณมากเลยนะ
“รักไรท์นะ” ชูรีว่า
เธอกอดตอบ สูดจมูกแล้วค่อยๆเอ่ยประโยคต่อมา
...ไรท์ก็รักทุกคนเลยค่ะ
TALK WITH FM
เรารู้สึกว่าบทนี้มันขัดๆยังไงไม่รู้
แต่ในที่สุดเราก็ปั่นออกมาให้ทุกคนจนได้5555
ถ้าขัดใจอะไรก็ข้ามไปเลยนะคะ
ตอนนี้เราปิดเทอมละ
มีเวลาปั่น แต่เดี๋ยวก็ต้องไปสอบทฤษฎีกับปฏิบัติดนตรีอีก ก็ได้ฤกษ์หายไปอีก 555555(ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่)
ขอบคุณกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าเน้อ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น