ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #37 : HAPPY BIRTHDAY TO ME

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 62


    2.10.2019

    วันนี้เป็นวันเกิดของไรท์เองเน้อออ
    เอ้า จุดพลุ!!!! อิไรท์มันได้เป็นนางสาวละ 555+
    ไรท์ร่างๆบทพิเศษไว้ให้แล้วแหละ แต่ช่วงนี้สอบปลายภาค(วันนี้สอบวันสุดท้ายพอดีT-T)ก็เลยไม่มีเวลามาโฟกัสอะไรมาก//ฮรือออ เค้าขอโต๊ดดดด เค้าต้องอ่านหนังสือจิงจิงงงงง

    ฉะนั้น
    ไรท์จะรีบปั่นแล้วนำมาลงให้รีดที่น่ารักทุกคนภายในเวลา 7 วันนับจากนี้นะคะ
    ขอบคุณสำหรับทุกแรงสนับสนุนเน้อ







    7.10.2019

    มาแล้วจ้าาาา เอามาส่งแล้วเน้อออ

















    BIRTHDAY SPECIAL

    h a p p y   b i r t h d a y

    t  o

    M E











           เสียงโทรศัพท์ที่ดังเสียดแทงโสตประสาทไม่หยุดทำให้โลกิคำรามสบถเบาๆแล้วยื่นมือออกจากเตียงไปคลำหามันด้วยดวงตาที่ปิดสนิท

     

           “อืมมมม ฮัลโหล?”

     

           [พี่ชาย นี่ฉันเองนะ] เสียงปลายสายตอบกลับมา

     

           ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย

           “...ใครนะ?”

     

           “สคาดิ”

     

           ความทรงจำไหลกลับเข้ามาในหัว เขาทำเสียงอ้อเบาๆพลางนึกอยากจะตบหัวตัวเองที่จำน้องสาวไม่ได้

     

           “อ้อ ไงแคด” เขาหาวอีกรอบ

           “โทรมาทำไมตั้งแต่เช้าฮะ? แกก็รู้ว่าฉันยังไม่ตื่น”

     

           [เช้าบ้าอะไร นี่เก้าโมงแล้ว]

     

           “นั่นแหละ” ดวงตาสีเขียวลืมขึ้นในที่สุด ชายหนุ่มกลิ้งตัวกลับไปนอนบนเตียงพร้อมกับมืออีกข้างที่ยกขึ้นก่ายหน้าผาก

     

           [นี่พี่จำไม่ได้จริงดิว่าวันนี้วันอะไร] สคาดิทำเสียงไม่อยากเชื่อ

     

           “ก็วันอะไรเล่า?” เขาคำรามอย่างประสาทเสีย

           “บ้าอะไรวะเนี่ย? โทรมาปลุกฉันแต่เช้าให้อารมณ์บูด แล้วยังถามหน้าซื่อๆอีกว่าวันนี้วันอะไร”

     

           เขาพักหายใจ

     

           “ก็วันที่ 2 ตุลาคมไงฟะ ทำไม ไอ้หนุ่มวีดาร์มันทิ้งแกไปเมื่อคืนรึยังไง?”

     

           [เหลวไหล] หญิงสาวปลายสายด่า

           [เขากับฉันเป็นเพื่อนกัน]

     

           “แล้วโทรมาทำเพื่อ?”

     

           [2 ตุลา พี่ชาย] เสียงเธอเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา

     

           “เออ ก็ 2 ตุลาไง...” ทันใดนั้น ความตระหนักรู้บางอย่างก็แล่นปรู๊ดกลับเข้ามาในหัว ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างแล้วเด้งตัวขึ้นมาจนผ้าห่มร่นลงไปถึงใต้แผงอกเปลือยเปล่า

     

           “ฉิบแล้ว”

     

           [เออ ฉิบแล้ว] น้องสาวแหวกลับ

           [เราลืมเตรียมของขวัญให้ไรท์เตอร์]

     

           “โอ๊ย” โลกิสบถ

           “วันนี้นางอายุเท่าไหร่แล้วนะ?”

     

           [ไม่รู้ดิ ถามธอร์ดู]

     

           “มันยังไม่ตื่นเลยมั้ง” เขายีหัวตนเอง

           “ฉันจะโทรหาทีชัลล่าแทนละกัน ขานั้นดูจะรู้เรื่องกว่า”

     

           [รวมสายให้ฉันด้วย]

     

           “เออๆๆ”

     

           เขาดึงไอโฟนออกมาจากหู แล้วกดโทรออกหาเพื่อนชายสายเนิร์ดอย่างทีชัลล่า โดยไม่ลืมกดรวมสายให้น้องสาวด้วย

     

           [ว่าไง] เสียงทุ้มแหบสำเนียงแปร่งๆดังขึ้น

     

           “วันนี้วันเกิดไรท์เตอร์”

     

           เสียงเครื่องมือตกกระทบพื้นกราวทำให้โลกิรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนคนนี้ก็ลืมนับวันเหมือนกัน

     

           [ฉันลืมว่ะ]

     

           [พวกเราก็ลืม] สคาดิชิงตอบ

           [นายคงไม่ได้นับใช่ป่ะว่าวันนี้ไรท์อายุเท่าไหร่?]

     

           [จะบ้าเหรอ แม้แต่วันเกิดฉันยังลืม อายุเจ้าของวันเกิดฉันจะไปรู้ได้ไง] นักวิทย์คนเก่งแหวตอบ

     

           “ถามใครดีล่ะวะ?” ชายหนุ่มย่นจมูก

     

           [เฮ้ อะไรกัน ฉันก็อยู่แถวนี้นะ ไม่คิดจะถามกันบ้างเลยรึไง?] เสียงแจ๋วๆของเด็กสาวผู้น้องของทีชัลล่าดังขึ้นมาแทรก

     

           “อ้าวชูรี ตื่นแล้วเรอะ?”

     

           [จ้า กู๊ดมอร์นิ่ง]

     

           “แล้วอย่างนี้จะเอาอะไรไปเซอร์ไพรส์นางดีล่ะเนี่ย? เวลาจะเตรียมปาร์ตี้ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว” โลกิทำหน้าครุ่นคิด ลูบคางตัวเองเบาๆ

     

           [ใครว่าแทบไม่เหลือ?] ชูรีถามย้อน

           [นี่ฉันใคร?]

     

           “อ่า...เด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่ยังเรียนอยู่ไฮสคูล”

     

           [ไม่ใช่] เสียงของเธอตวัดปลายประโยค

           [อย่าลืมนะว่าฉันเนี่ยแหละ ฝ่ายกิจกรรมของสภานักเรียน เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย]

     

           [แล้วเธอมีแผนยังไง?] สคาดิถาม

     

           [เรียกบิ๊กทีมาฟังด้วย จะได้ช่วยกัน]

     

           [มาแล้วๆ] เสียงของทีชัลล่าคล้ายห่างจากโทรศัพท์ไปในระยะไกล

     

           “เมื่อกี้เขาทำ’ไรอยู่?” ชายหนุ่มผมดำขยับแขนออกจากเตียง เอื้อมไปหยิบผ้าขนหนู

     

           [จะทำอะไรอีกล่ะ] เสียงของชูรีทำให้เขาสามารถจินตนาการภาพเธอกรอกตามองบนได้อย่างแม่นยำ

     

           [ก็ไปขันน็อตประกอบสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่น่ะสิ ชื่ออะไรนะ...แพนๆอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ]

     

           เสียงโวยวายอู้อี้แก้ชื่อของทีชัลล่าดังขึ้นเป็นแบ็คกราวด์

     

           “สรุปแผนคือยังไง ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว จะได้รีบออกไปซื้อของ”

     

           [โลกิ พี่ไปซื้อกระดาษมานะ เอาใหญ่กว่า A4 หน่อย ประมาณ 80 แกรม หลายๆสี แล้วก็เอาแบบสีขาว มีเส้นมาด้วย]

     

           “อ่า”

     

           [สคาดิ บ้านพี่มีปริ๊นเตอร์หมึกอิ๊งค์เจ็ทป่ะ?]

     

           [มีๆๆ จะให้ปริ๊นอะไรอ่ะ?]

     

           [เดี๋ยวฉันจะส่งรูปของแก๊งเราแต่ละคนไปให้ พี่มีรูปถ่ายรวมตอนที่เราไปเที่ยวไทยด้วยกันมั้ย?]

     

           [มีสิ จะให้ฉันปริ๊นให้ชะ?]

     

           “ก็เขาถามขนาดนี้แล้ว แกยังจะไปทายปริศนาอะไรอีกวะ?” เขากระดกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

     

           [ปากไม่ดีจังวะโลกิ]

     

           “ปากไม่ดีจะเป็นพี่แกเหรอวะ”

     

           [พี่นี่มัน...]

     

           มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ชายหนุ่มเสยผมสีดำที่ยาวระบ่าของตนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจจบบทสนทนา

     

           “งั้นฉันไปก่อนนะ ถ้าได้ของแล้วจะไปเจอกันที่ที่ไหนดี”

     

           [บ้านฉันเนี่ยแหละ] เสียงชูรีตอบ

           [บ้านเธอบ้าบออะไร นี่บ้านฉันซื้อนะ!!] เสียงของบิ๊กทีดังแว่วๆขึ้นมา ทำเอาเขาหลุดขำ

     

           “โอเค แล้วเจอกัน”

     

           [เจอกันจ้า]

     

     

     

     

     





     

     

     

     

           อ้าว สวัสดีค่ะทุกคน เรากำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย

     

           [ไงคะไรท์เตอร์] ชูรีทักกลับเสียงใสผ่านโทรศัพท์

           [ฮายครับ/ค่ะ] เสียงของเดอะแก๊งดังขึ้นตาม

     

           แล้ววันนี้โทรมามีอะไรรึเปล่าคะเนี่ย?

     

           [คือว่า...ไรท์ช่วยมาที่บ้านธอร์ตอนนี้เลยได้มั้ยคะ?] เสียงของสคาดิว่า

     

           เอิ่ม...เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?

     

           [ธอร์มันเมาอ่ะดิ] เสียงนิ่งๆเนือยๆสำเนียงนิวออร์ลีนส์ของอีริค สตีเว่นส์ดังขึ้น

     

           ตายจริง อีกแล้วเหรอ? งั้นเดี๋ยวไรท์ไปนะ

     

           [รีบมาเลยนะไรท์ นางจะเผาบ้านอีกแล้ว!!] แว่วเสียงตะโกนอู้อี้ปนกันของทั้งโลกิและสคาดิ

     

           แย่จริงๆเลย...

     

           สาวน้อยผุดลุกขึ้นแล้วรีบรุดออกจากห้องไป

     

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา...

     

           ประตูบ้านขนาดที่ควรจะเรียกได้ว่าคฤหาสน์อันเป็นมรดกล้ำค่าของตระกูลโอดินสันถูกเปิดออก ดวงตาสีดำของไรท์เตอร์สอดส่องไปทั่วอย่างฉงน

     

           ทำไมไม่เห็นพวกพ่อบ้านแม่บ้านบ้างเลยล่ะ?

     

           เธอก็เข้าใจนะว่าธอร์รำคาญพวกนี้จนเอาออกไปเกือบหมด

           แต่...มันก็ไม่ควรจะเงียบสงัดวังเวงแบบนี้ป่ะ?

     

           เอ่อ...หวัดดีค่ะ มีใครอยู่มั้ย?

     

           เงียบ...

     

           ธอร์? โลกิ?

     

           ยังคงเงียบ

     

           อะไรกัน?

     

           สาวน้อยเดินมาเรื่อยๆจนถึงตรงโถงห้องนั่งเล่น ภายในคฤหาสน์พลันมืดสนิท เธอสะดุ้งแล้วสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิด

     

           เชี่ย!!

     

           เจ้าของชื่อเล่นไรท์เตอร์ขนลุกชัน กระแสเย็นเยียบแล่นขึ้นมาตามสันหลัง ดวงตาสีดำค่อยๆสอดส่ายไปรอบๆ

     

           เอ๊ะ?

     

           ทันใดนั้น เสียงตบมือเป็นจังหวะก็ดังขึ้น สาวน้อยสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง มือคว้าจับโซฟาใกล้ตัวโดยอัตโนมัติ

     

           “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทูยู”

     

           แสงเทียนดวงเล็กๆสีส้มหลายดวงส่องสว่างขึ้นตรงช่องประตู เสียงของหลายๆคนที่คุ้นเคยประสานกันเป็นท่วงทำนองเพลงหลากหลายคีย์

     

           “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทูยู” ดวงตาสีฟ้าเทาของสคาดิที่กำลังถือเค้กเดินเข้ามาเป็นประกายด้วยแสงบนขนมนั้น เงาหน้าของโลกิ, ธอร์, สตีฟ, เอริค, ทีชัลล่า, ชูรี, โทนี่และสตีเฟ่น เสตรนจ์ที่กระเตงกีตาร์อยู่ตามเข้ามา

     

           เพิ่งได้ยินเสียงกีตาร์ที่ถูกคุณหมอคนเก่งเกาเบาๆคลอตามมาด้วย

     

           ท-ทุกคน นี่มัน...

     

           “แฮปปี้ เบิร์ธเดย์, แฮปปี้ เบิร์ธเดย์...”

     

           หญิงสาวผมสีเข้มยิ้มกว้าง ยื่นเค้กมาให้แล้วร้องท่อนสุดท้ายพร้อมๆกันกับดวงตาที่เปล่งประกายความสุข

     

           “แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ ทู...ยู”

     

           เดอะแก๊งที่เหลือปรบมือแล้วหัวเราะขณะที่ไฟในห้องเปิดอีกครั้ง

     

           “สุขสันต์วันเกิดนะไรท์เตอร์!!”

     

           ลูกสาวบุญธรรมของตระกูลเจ้าของสถานที่แห่งนี้ก้าวออกมาข้างหน้า

           “ขอให้ไรท์มีความสุข แข็งแรงๆ เรียนเก่ง เป็นที่รักของทุกคนนะ”

     

           สาวน้อยเบิกตากว้าง คล้ายไม่รู้จะพูดยังไงดี

     

           ข-ขอบคุณนะ

     

           “เอ้า รออะไรอยู่?” หมอแปลกถาม

           “เป่าเทียนซะสิ”

     

           เธอยิ้มแล้วทำตาม ควันสีเทาลอยว่อนไปทั่วเมื่อไฟบนเทียนถูกเป่าจนดับ

     

           “ไรท์คะ นี่คือของขวัญจากพวกเราทุกคน” ชูรีหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากในกระเป๋า

     

           สมุดทำมือขนาดใหญ่กว่าปกติถูกยื่นออกมา ตรงปกเขียนตัวอักษรเล็กๆว่าให้ไรท์เตอร์ หน้าต่อไปเป็นรายชื่อของเดอะแก๊งที่ช่วยกันทำสมุดเล่มนี้

     

           นิ้วมือของสาวน้อยเปิดหน้าต่อไป มันมีรูปของโลกิและเธอที่เขาน่าจะแอบถ่ายไว้ตอนที่เธอหลับปุ๋ยในวันนอนค้างอพาร์ตเมนต์หรูของเขาแปะไว้

     

           บนกระดาษเขียนด้วยลายมือหวัดๆเป็นระเบียบ

     

           ขอให้มีความสุขมากๆนะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เธอทำให้ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงวันนี้...แถมขอบคุณไปถึงอนาคตด้วย

    รักและหวังดีเสมอ,

    ล. ล. อ.

     

           หน้าถัดมาเป็นของสคาดิ รูปที่ติดตรงนั้นคือรูปของพวกเธอสองคนที่เซลฟี่ด้วยกันตอนไปเที่ยวนอร์เวย์เมื่อปีกลาย

     

           รักเธอมากๆเลย มีอะไรก็บอกฉันได้เสมอนะ แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้ะ

           ปล. วีดาร์ฝากคำอวยพรมาด้วย เขาขอให้เธอสมหวังทุกประการนะ...อย่าถือสาเขาเลยที่บางครั้งเขาไม่พูด เขาเป็นคนแบบนั้นแหละ

     

           เมื่อเปิดไปถึงหน้าของเสตรนจ์ที่บอกว่าไม่ต้องเครียดกับการเรียนให้มาก เรียนให้สนุก ดวงตาสีดำก็รื้นขึ้นมา

     

           ทุกคน...

     

           ไรท์เตอร์ยกมือขึ้นปิดปาก สคาดิทำเสียงโอ๋ยาวๆออกมาคำหนึ่งแล้วเข้ามากอดเธอเอาไว้ ตามด้วยเดอะแก๊งคนอื่นๆ

     

           ขอบคุณมากเลยนะ

     

           “รักไรท์นะ” ชูรีว่า

     

           เธอกอดตอบ สูดจมูกแล้วค่อยๆเอ่ยประโยคต่อมา

     

           ...ไรท์ก็รักทุกคนเลยค่ะ

     






     

     

    TALK WITH FM

    เรารู้สึกว่าบทนี้มันขัดๆยังไงไม่รู้ แต่ในที่สุดเราก็ปั่นออกมาให้ทุกคนจนได้5555

    ถ้าขัดใจอะไรก็ข้ามไปเลยนะคะ

    ตอนนี้เราปิดเทอมละ มีเวลาปั่น แต่เดี๋ยวก็ต้องไปสอบทฤษฎีกับปฏิบัติดนตรีอีก ก็ได้ฤกษ์หายไปอีก 555555(ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่)

    ขอบคุณกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ

    เจอกันตอนหน้าเน้อ

    ด้วยรักและถุงกาว

    เฟิงมี่ค่ะ>3<

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×