คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Broken Throne S2 || Ch 8 - season finale
|| B
R O K E N T H R O N E ||
s e a
s o n 2
----------------------------
CHAPTER 8
S E A S O N F I N A L E
“โลกิล่ะ?”
นั่นคือคำถามแรกหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาในแอสการ์ด
พี่ชายผมทองก้มหัวลง
ไม่ยอมตอบคำถาม
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน
ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นจากเตียงในห้องนอนของตนขณะที่วีดาร์ดึงหมอนนุ่มขึ้นมารองหลังให้เธอ
“ธอร์?”
“เขาช่วยข้าเอาไว้”
เทพสายฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆท่ามกลางความเงียบ
สคาดิถอนหายใจ
อย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยนะ
ได้โปรดล่ะ
ดวงตาสีฟ้าเทาหรุบลง
ร่างสูงด้านข้างวางมือแกร่งลงบนหลังมือของเธอ
พยายามคลายความยุ่งเหยิงในจิตของโซลเมต
ข้าเองก็ไม่ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาว่า
ตอนนั้นข้าเอาแต่จะไปช่วยเจ้า
ขออย่าให้เป็นอย่างที่ข้าคิดเถอะ
สคาดิเม้มปาก
ดวงตาสีฟ้าใสเบนมาทางเธอ
เจ้าคิดว่าอะไร?
ข้าคิดว่า...
เธอพยายามเค้นมันออกไป
เขาตายแล้ว
ชายหนุ่มข้างกายหายใจออกและรวบตัวเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
กดท้ายทอยให้เธอแนบใบหน้าเข้ากับอก สูดกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์เข้าไปจนหัวใจที่เต้นรัวแรงสงบลง
“ขออย่าให้เป็นเช่นนั้น”
เขากระซิบ
“เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของข้า?”
เธอผละออกมาและหันไปหาธอร์ที่ดูงงว่าทำไมอยู่ๆน้องสาวกับรุ่นน้องถึงได้กอดกันกลมโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันซักคำ
“เอ่อ...”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เธอถามย้ำเมื่อเห็นเขานิ่งไป
ดวงตาสีฟ้าราวท้องนภาที่สดใสที่สุดหม่นลงและหลบตาเธอ
สคาดิมีสีหน้านิ่งเรียบ
เธอค่อยๆลงจากเตียงโดยมีวีดาร์ช่วยประคอง และเมื่อทรงตัวได้
หญิงสาวก็เดินตรงไปที่ร่างบึกบึนของพี่ชายด้วยความเร็วอันไม่น่าจะทำได้ของคนที่เพิ่งถูกแทงสองแผลแถมถูกซ้อมโดยพลังมืด
มือเรียวตะปบเข้าที่ใบหน้าทั้งสองข้างของเทพสายฟ้า
เธอจ้องเข้าไปในนั้น คิ้วและเครื่องหน้ากระตุกเล็กน้อยเมื่อส่งพลังเข้าไปความหาความทรงจำของเขา
ภาพต่างๆหลั่งไหลเข้ามาในหัว
อัลกริม...เอลฟ์เฮงซวยไซส์บิ๊กเบิ้มนั่นยืนตระหง่านอยู่เหนือร่างของพี่ชายคนโต
เตรียมจะอัดเขาให้แหลกเหลวจมพื้นพสุธา
โลกิเข้ามาทางด้านหลังอย่างเงียบเชียบและใช้ดาบเล่มเขื่องสีดำจากที่ไหนก็ไม่รู้แทงทะลุอกมันและถอยออกมาเล็กน้อย
จ้องดูผลงานด้วยใบหน้าซีดเผือด
...ทำไมพี่ชายคนรองถึงหน้าซีดแบบนั้นนะ?...
เอลฟ์มืดนั่นหันกลับไป
พบกับเทพมุสา ทั้งคู่สบตากันครู่เดียวก่อนที่อัลกริมจะคว้าร่างบางๆของชายหนุ่มผมดำเข้ามาใกล้
ปลายดาบที่ทะลุออกมาจากท้องของมันเสียบผ่านโลกิไปด้วย
ธอร์ร้องดังลั่นราวกับที่ถูกเสียบนั้นคือตนเอง
เจ้าชายแห่งแอสการ์ดล้มลง
และระหว่างนั้นก็แปะระเบิดสุญญากาศไว้กับเอวของร่างใหญ่โตราวกับสัตว์ร้ายกลายพันธุ์นั้น
“เจอกันในนรกนะ
ไอ้ปีศาจ”
อัลกริมถูกระเบิดกลืนหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และชายหนุ่มก็หายใจแผ่วลงเรื่อยๆ
เทพอสนีบาตรีบรุดไปอยู่ข้างกายของน้องชาย
ประคองหัวเขาไว้ด้วยมือกร้านสากคู่นั้น ทิ้งค้อนมโยลเนียร์ลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี
“ข้าจะบอกท่านพ่อว่าเจ้าทำอะไรในวันนี้”
ดวงตาสีเขียวที่ดูเป็นประกายเจิดจ้าเด่นชัดมากขึ้นอ่อนระโหยโรยแรง
มือซีดและบางอย่างคนที่ขลุกอยู่กับหนังสือมากกว่าอาวุธนั้นยกขึ้นมาอย่างสั่นไหว
มันถูกแตะอย่างรวดเร็วโดยคนตัวใหญ่กว่า
ตามใบหน้าของพี่ชายผมดำนั้นเริ่มมีรอยและปื้นสีดำคล้ำปรากฎขึ้น
“...ข้าไม่ได้ทำเพื่อเขา...”
ข้าทำมันเพื่อเจ้า
นั่นคือประโยคที่ยังไม่ได้พูดออกไป
มือของโลกิตกลง
และดวงตาของเขาก็ล่องลอยไปไกลแสนไกล
เทพีแห่งเหมันต์ชักมือออก
ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ร่างเพรียวเซถลาไปเกาะโต๊ะใกล้ๆ
“เขาอยู่ที่ไหน?”
เสียงสั่นสะท้านถูกเปล่งออกมา
เงียบสนิท
เธอกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปเนื้อ
เจ็บจนเลือดซิบแต่เธอก็หาได้สนใจไม่
“โลกิอยู่ที่ไหน?”
เธอคำรามในลำคอ ดวงตาวาวเรือง
เจ้าของเรือนผมสีทองเข้มเม้มปากและส่ายหน้า
“...ข้าไม่รู้”
เทพแห่งการล้างแค้นแตะไหล่โซลเมตของเขาเบาๆ
“สคาดิ”
เขาพยายามทำให้เธอสงบลงผ่านทางสายสัมพันธ์ทางจิตของทั้งคู่
สคาดิถอนหายใจและหลับตาลง
“โอดินรู้เรื่องรึยัง?”
พี่คนโตพยักหน้า
“ข้าบอกเขาแล้ว”
เธอพยักหน้ารับอีกครั้ง
ยกท่อนแขนเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นชายแขนเสื้อสีขาวขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ปริ่มอยู่ในกระบอกตาออก
“แล้วไงต่อ?”
ดวงตาสีฟ้าสดหันมาหาน้องสาว
“เจ้าหมายความว่า...”
“พวกเพื่อนๆสุดที่รักของท่าน
แล้วไหนจะนางมนุษย์ทูนหัวของท่านอีก” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น
ธอร์โคลงหัวไปมา
“ซิฟ,
เฟนดรัลและโฮกันปลอดภัยจากความพิโรธของท่านพ่อ
ส่วนเจน...ข้าจะไปส่งนางพรุ่งนี้เช้า”
สคาดิขมวดคิ้วและหยัดกายขึ้นเต็มความสูงจากการพิงขอบโต๊ะอยู่
ใบหน้างามนิ่งเรียบไร้อารมณ์ดังเดิม
“งั้นเจอกันวันพรุ่งนี้นะ...พี่ข้า”
รองเท้าบู๊ทหนังสีเข้มเคลื่อนตัวมาในโถงทองคำหน้าสะพานไบฟรอสต์
ทำให้ร่างทั้งห้าที่อยู่ตรงนั้นหันขวับมา
“...สคาดิ”
ซิฟค่อยๆกัมหัวทักทาย วอร์ริเออร์ส ทรีที่เหลือเริ่มทำตาม
“ตามสบาย”
หญิงสาวเดินลากขาเข้าไปยืนหลังธอร์ที่กำลังแสดงสีหน้าตกใจอย่างปิดไม่มิด
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะพี่ชาย?”
มุมปากกดยิ้ม
เธอยกแขนขึ้นกอดอกและเอนกายพิงแท่นดาบของไฮม์ดัลโดยไม่สนใจเจ้าตัวที่มองตาเขียวอยู่ไม่ไกลนัก
“ก็...ข้านึกว่าเจ้า...”
“ข้าทำไม?”
เอียงคอมอง แววตาของสคาดิวิบวับไปมาด้วยความหรรษาอันลึกลับ
“แค่มาส่งแขกเนี่ยผิดรึไง?
จะหวงหญิงเกินไปแล้วนะพี่ข้า”
“จะเริ่มกันได้รึยัง?
ได้ข่าวว่าเจนมีธุระต่อที่มิดการ์ดนี่?” ดวงตาสีฟ้าเทาเบนไปยังร่างบางข้างกายพี่ชาย
คล้ายกับว่าความห่างเหินที่เคยมีเลือนหายไป
เทพสายฟ้าพยักหน้าและลุกขึ้น
ส่งผลให้ชาวมิดการ์ดสาวขยับตาม
“ไฮม์ดัล”
เทพอารักษ์เคลื่อนกายมาและทำท่าปัดมือชิ่วๆใส่เธอ
“เกะกะจริงองค์หญิง”
เทพีแห่งเหมันต์เบะปาก
“เงียบเหอะน่าตาแก่”
ร่างเพรียวขยับออกมาและกอดอกจ้องมองตาแก่ตาเดียวกล้ามล่ำที่เสียบดาบลงไปในร่องตรงแท่นสีทองและหมุนมัน
ทำให้สะพานไบฟรอสต์เปิดออก
ซิฟและโฮกันพยักหน้าให้เจน
นักรบสาวตบบ่าเธอเบาๆและเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งสามคนที่เหลือมีเวลาส่วนตัว
ธอร์หันมามองน้องสาว
สคาดิเอียงคอและคลายมือ
บู๊ทหนังสีน้ำตาลเข้มยาวคลุมหน้าแข้งสาวเข้าไปหาเจน
เสียงส้นรองเท้ากระทบกับพื้นสีทองดังกังวาน
“เดินทางปลอดภัย
เจน ฟอสเตอร์” หญิงสาวกล่าวเรียบๆและยื่นมือออกไป
หญิงสาวชาวมนุษย์มองมันและยื่นมือออกไปจับตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ
ดวงตาสีน้ำตาลช้อนขึ้นมามองน้องสาวของคนรัก
มุมปากของเทพีแห่งเหมันต์กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวชอบกล
โน้มตัวลงไปกอดร่างที่เล็กกว่า
ดวงตาสีฟ้าเทาวาวโรจน์ขึ้นมาวูบหนึ่ง
เธอสูดหายใจลึกและหันใบหน้าเขาหาท้ายทอยของเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อน
อดไม่ได้ที่จะยิ้มในขณะที่กรอกเสียงกระซิบเข้าไปในหลังหู
“รู้ไหม...พี่ชายข้าตายแล้ว
และมันเป็นเพราะเจ้า” เสียงของเธอยังคงเบาและรื่นหู
ก่อนที่อยู่ๆมันจะแข็งกร้าวขึ้นจนเจนสะดุ้ง
“และถ้าข้าพบว่าเจ้าก่อเรื่องอีกครั้ง
แม้ว่าธอร์จะอยู่คุ้มกะลาหัวเจ้า...ข้าก็จะไม่ลังเลเลยที่จะสังหารเจ้าในทันที”
สคาดิดันหญิงสาวออกจากอ้อมกอด
ใบหน้าของเธอเย็นชาอย่างน่ากลัว และในวินาทีต่อมา เจนก็พบว่าใบหน้างดงามนั้นกำลังยิ้มราวกับไม่เคยพูดด้วยเสียงสังหารนั้นมาก่อน
และนั่นมันน่ากลัวยิ่งกว่าเอาธนูมายิงเธอให้พรุนเสียอีก
เจนรู้สึกราวกับเป็นกวางน้อยที่กำลังถูกราชสีห์ต้อนให้กลัวเล่น
รอเพียงเวลาที่จะเข้าขย้ำฉีกร่างให้สิ้นซาก
“ข้าไปล่ะธอร์”
สคาดิว่าเสียงร่าเริงและเดินออกไปจากบริเวณนั้น
“เจ้าโอเคนะ?”
เทพสายฟ้าถาม เดินเข้ามาหาคนรัก
หญิงสาวชาวมิดการ์ดพยักหน้า
กระชับเสื้อโค้ตเข้ากับกายแน่นขึ้นและหันไปสบตากับเขา
“ถึงเวลาแล้วเหรอ?”
ธอร์ถอนหายใจและรวบตัวเธอเข้ามาจูบ
ลึกซึ้งและเนิ่นนาน
เจนวางมือลงกับแก้มสากและจูบตอบ
แต่ภายในหัวนั้นยังคงมีเสียงของสคาดิวนเวียนอยู่
และตั้งแต่วันนั้น
ความรู้สึกของเจน ฟอสเตอร์ที่มีต่อธอร์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หญิงสาวผมสีเข้มเก็บดาบเข้าฝักและคาดมันไว้กับเอว
เธอเหวี่ยงถุงที่ขยายพื้นที่และใส่เสื้อผ้าไว้เรียบร้อยแล้วขึ้นบนหลัง
เธอมองห้องของตนเป็นครั้งสุดท้ายและเดินออกไป
เธอต้องหาคำตอบให้ได้
“เจ้าจะไปไหน?”
เสียงทุ้มของร่างที่นอนอยู่บนเตียงเรียกเธอไว้
ดวงตาสีฟ้าเทาเบนมองคนตัวสูงที่ค่อยๆเคลื่อนกายขึ้นมาจากที่นอน
ทำให้ผ้าห่มหล่นลงไปกองอยู่ตรงเอวจนเห็นกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบบนอกแกร่ง
ให้ตาย
บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้นอนใส่เสื้อผ้า
แค่บางๆก็ดี
เดี๋ยวนี้ข่าวซุบซิบในแอสการ์ดน่ะเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งเสียอีก
เธอขี้เกียจไปจัดการพวกปากหอยปากปู
“ทำไมไม่ใส่เสื้อ?”
หญิงสาวถามกลับ
“ร้อน”
วีดาร์พยายามหลบตาเหมือนเด็กทำความผิด
“ร้อนหรือลืมกันแน่
วีดาร์?” สคาดิกรอกตา
“เจ้าก็รู้
ข้ามีเชื้อสายเอลฟ์แสง ข้าต้องใช้แสงแดดเป็นพลังงานเสริมจะได้สดชื่นหน่อย”
ชายหนุ่มผมทองเริ่มมาขอค้างในห้องนอนตั้งแต่กลับมาจากสวาร์ตอัลฟ์ไฮม์
ตอนแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าห้องตนเองก็มี เกิดอารมณ์บ้าอะไรขึ้นถึงหอบผ้าหอบผ่อนมาซุกเตียงชาวบ้านนอน
...ถึงแม้ชาวบ้านที่ว่าน่ะคือโซลเมตก็เหอะ...
เธอตะล่อมถามไปเรื่อยๆจนได้ความว่า
ตั้งแต่รู้ว่าเธอเป็นโซลเมต
เขาก็เกิดอาการแปลกๆขึ้นมา
วีดาร์ติดกลิ่นเธอ
เขาต้องหาอะไรที่มีกลิ่นเธอมากอดนอนจะได้หลับสบาย
นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับโซลเมต
พวกเขาจะเสพติดกันและกัน
ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียง
และสคาดิก็พบว่าเขาสวมกางเกงผ้าบางๆอยู่
อย่างน้อยก็ใส่กางเกง
“จะไปไหน?”
ชายหนุ่มถามย้ำ
ร่างเพรียวโคลงหัวไปมา
“อัลฟ์ไฮม์”
“จะไปตามหาญาติเจ้าที่มาเลคิธบอกว่าหลบซ่อนอยู่?”
พยักหน้าเบาๆ
หญิงสาวกลืนน้ำลาย
“ข้าอาจไปนานหน่อย
ต้องฝากเจ้าดูแลห้องแล้วล่ะ”
วีดาร์ประคองซีกหน้าของเธอและหัวเราะเสียงนุ่มในลำคอ
ไล้ปลายนิ้วไปกับแก้มเนียน
“ดูแลตัวเองด้วยนะ”
เขาประทับริมฝีปากเข้ากับขมับของเธอและเลื่อนมือมากดท้ายทอยให้ซุกเข้าหาซอกคอของเขา
สคาดิยิ้มและกอดเอวสอบเป็นการตอบรับ
ก่อนจะออกจากห้อง
เธอประคองใบหน้าคมมาใกล้และกดจูบเข้าที่มุมปากของเขาเบาๆ
ดวงตาสีฟ้าใสที่แข็งค้างด้วยความตกใจสบกับดวงตาสีฟ้าเทาราวกับเมฆฝนงดงาม
สคาดิยิ้มเห็นฟันขาวให้กับชายหนุ่มผมสีทองและหันหลังออกมาจากห้องชุด
ตรงไปที่ไบฟรอสต์เพื่อเริ่มการเดินทาง
เธอจะทำเป็นไม่เห็นใบหูที่ขึ้นสีแดงแปร๊ดของเขาแล้วกันนะ
:)
TALK WITH FM
ซีซั่นฟินาเล่ลลลลลลลล
ฮือออออ
ดีใจมากกกกก ในที่สุดก็จบซีซั่นสอง(ไรท์นึกว่าจะไม่จบหรือต้องดอง
เพราะตอนมันเยอะมากมาย)
ขอบคุณทุกคนสำหรับแรงสนับสนุนมากเลยนะคะ
ตอนนี้เราก็จะมีเวลาลุยฟิคสั้นย่อยหรือวันช็อตต่อละ
55555
เจอกันซีซั่นหน้านะคะ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ>3<
ความคิดเห็น