ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #23 : Broken Throne S2 || Ch 8 - season finale

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 62


    || B R O K E N T H R O N E ||

    s e a s o n 2

    ----------------------------

    CHAPTER 8

    S E A S O N F I N A L E

     

     

     

           “โลกิล่ะ?” นั่นคือคำถามแรกหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาในแอสการ์ด

     

           พี่ชายผมทองก้มหัวลง ไม่ยอมตอบคำถาม

     

           คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน

           ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นจากเตียงในห้องนอนของตนขณะที่วีดาร์ดึงหมอนนุ่มขึ้นมารองหลังให้เธอ

     

           “ธอร์?”

     

           “เขาช่วยข้าเอาไว้” เทพสายฟ้าเอ่ยขึ้นเบาๆท่ามกลางความเงียบ

     

           สคาดิถอนหายใจ

     

           อย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยนะ

           ได้โปรดล่ะ

     

           ดวงตาสีฟ้าเทาหรุบลง ร่างสูงด้านข้างวางมือแกร่งลงบนหลังมือของเธอ พยายามคลายความยุ่งเหยิงในจิตของโซลเมต

     

           ข้าเองก็ไม่ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เขาว่า

           ตอนนั้นข้าเอาแต่จะไปช่วยเจ้า

     

           ขออย่าให้เป็นอย่างที่ข้าคิดเถอะ สคาดิเม้มปาก

     

           ดวงตาสีฟ้าใสเบนมาทางเธอ

     

           เจ้าคิดว่าอะไร?

     

           ข้าคิดว่า... เธอพยายามเค้นมันออกไป

           เขาตายแล้ว

     

           ชายหนุ่มข้างกายหายใจออกและรวบตัวเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา กดท้ายทอยให้เธอแนบใบหน้าเข้ากับอก สูดกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์เข้าไปจนหัวใจที่เต้นรัวแรงสงบลง

     

           “ขออย่าให้เป็นเช่นนั้น” เขากระซิบ

     

           “เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของข้า?” เธอผละออกมาและหันไปหาธอร์ที่ดูงงว่าทำไมอยู่ๆน้องสาวกับรุ่นน้องถึงได้กอดกันกลมโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันซักคำ

     

           “เอ่อ...”

     

           “เกิดอะไรขึ้น?” เธอถามย้ำเมื่อเห็นเขานิ่งไป

     

           ดวงตาสีฟ้าราวท้องนภาที่สดใสที่สุดหม่นลงและหลบตาเธอ

     

           สคาดิมีสีหน้านิ่งเรียบ เธอค่อยๆลงจากเตียงโดยมีวีดาร์ช่วยประคอง และเมื่อทรงตัวได้ หญิงสาวก็เดินตรงไปที่ร่างบึกบึนของพี่ชายด้วยความเร็วอันไม่น่าจะทำได้ของคนที่เพิ่งถูกแทงสองแผลแถมถูกซ้อมโดยพลังมืด

     

           มือเรียวตะปบเข้าที่ใบหน้าทั้งสองข้างของเทพสายฟ้า เธอจ้องเข้าไปในนั้น คิ้วและเครื่องหน้ากระตุกเล็กน้อยเมื่อส่งพลังเข้าไปความหาความทรงจำของเขา

     

           ภาพต่างๆหลั่งไหลเข้ามาในหัว

     

           อัลกริม...เอลฟ์เฮงซวยไซส์บิ๊กเบิ้มนั่นยืนตระหง่านอยู่เหนือร่างของพี่ชายคนโต เตรียมจะอัดเขาให้แหลกเหลวจมพื้นพสุธา

     

           โลกิเข้ามาทางด้านหลังอย่างเงียบเชียบและใช้ดาบเล่มเขื่องสีดำจากที่ไหนก็ไม่รู้แทงทะลุอกมันและถอยออกมาเล็กน้อย จ้องดูผลงานด้วยใบหน้าซีดเผือด

     

           ...ทำไมพี่ชายคนรองถึงหน้าซีดแบบนั้นนะ?...

     

           เอลฟ์มืดนั่นหันกลับไป พบกับเทพมุสา ทั้งคู่สบตากันครู่เดียวก่อนที่อัลกริมจะคว้าร่างบางๆของชายหนุ่มผมดำเข้ามาใกล้

     

           ปลายดาบที่ทะลุออกมาจากท้องของมันเสียบผ่านโลกิไปด้วย

     

           ธอร์ร้องดังลั่นราวกับที่ถูกเสียบนั้นคือตนเอง

     

           เจ้าชายแห่งแอสการ์ดล้มลง และระหว่างนั้นก็แปะระเบิดสุญญากาศไว้กับเอวของร่างใหญ่โตราวกับสัตว์ร้ายกลายพันธุ์นั้น

     

           เจอกันในนรกนะ ไอ้ปีศาจ

     

           อัลกริมถูกระเบิดกลืนหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และชายหนุ่มก็หายใจแผ่วลงเรื่อยๆ

     

           เทพอสนีบาตรีบรุดไปอยู่ข้างกายของน้องชาย ประคองหัวเขาไว้ด้วยมือกร้านสากคู่นั้น ทิ้งค้อนมโยลเนียร์ลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี

     

           ข้าจะบอกท่านพ่อว่าเจ้าทำอะไรในวันนี้

     

           ดวงตาสีเขียวที่ดูเป็นประกายเจิดจ้าเด่นชัดมากขึ้นอ่อนระโหยโรยแรง มือซีดและบางอย่างคนที่ขลุกอยู่กับหนังสือมากกว่าอาวุธนั้นยกขึ้นมาอย่างสั่นไหว มันถูกแตะอย่างรวดเร็วโดยคนตัวใหญ่กว่า

           ตามใบหน้าของพี่ชายผมดำนั้นเริ่มมีรอยและปื้นสีดำคล้ำปรากฎขึ้น

     

           “...ข้าไม่ได้ทำเพื่อเขา...”

     

           ข้าทำมันเพื่อเจ้า

           นั่นคือประโยคที่ยังไม่ได้พูดออกไป

     

           มือของโลกิตกลง และดวงตาของเขาก็ล่องลอยไปไกลแสนไกล

     

           เทพีแห่งเหมันต์ชักมือออก ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ร่างเพรียวเซถลาไปเกาะโต๊ะใกล้ๆ

     

           “เขาอยู่ที่ไหน?” เสียงสั่นสะท้านถูกเปล่งออกมา

     

           เงียบสนิท

     

           เธอกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปเนื้อ เจ็บจนเลือดซิบแต่เธอก็หาได้สนใจไม่

     

           โลกิอยู่ที่ไหน?” เธอคำรามในลำคอ ดวงตาวาวเรือง

     

           เจ้าของเรือนผมสีทองเข้มเม้มปากและส่ายหน้า

     

           “...ข้าไม่รู้”

     

           เทพแห่งการล้างแค้นแตะไหล่โซลเมตของเขาเบาๆ

           “สคาดิ”

     

           เขาพยายามทำให้เธอสงบลงผ่านทางสายสัมพันธ์ทางจิตของทั้งคู่ สคาดิถอนหายใจและหลับตาลง

     

           “โอดินรู้เรื่องรึยัง?”

     

           พี่คนโตพยักหน้า

           “ข้าบอกเขาแล้ว”

     

           เธอพยักหน้ารับอีกครั้ง ยกท่อนแขนเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นชายแขนเสื้อสีขาวขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ปริ่มอยู่ในกระบอกตาออก

     

           “แล้วไงต่อ?”

     

           ดวงตาสีฟ้าสดหันมาหาน้องสาว

     

           “เจ้าหมายความว่า...”

     

           “พวกเพื่อนๆสุดที่รักของท่าน แล้วไหนจะนางมนุษย์ทูนหัวของท่านอีก” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น

     

           ธอร์โคลงหัวไปมา

     

           “ซิฟ, เฟนดรัลและโฮกันปลอดภัยจากความพิโรธของท่านพ่อ ส่วนเจน...ข้าจะไปส่งนางพรุ่งนี้เช้า”

     

           สคาดิขมวดคิ้วและหยัดกายขึ้นเต็มความสูงจากการพิงขอบโต๊ะอยู่ ใบหน้างามนิ่งเรียบไร้อารมณ์ดังเดิม

     

           “งั้นเจอกันวันพรุ่งนี้นะ...พี่ข้า”

     

     

     





     

     

           รองเท้าบู๊ทหนังสีเข้มเคลื่อนตัวมาในโถงทองคำหน้าสะพานไบฟรอสต์ ทำให้ร่างทั้งห้าที่อยู่ตรงนั้นหันขวับมา

     

           “...สคาดิ” ซิฟค่อยๆกัมหัวทักทาย วอร์ริเออร์ส ทรีที่เหลือเริ่มทำตาม

     

           “ตามสบาย” หญิงสาวเดินลากขาเข้าไปยืนหลังธอร์ที่กำลังแสดงสีหน้าตกใจอย่างปิดไม่มิด

     

           “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะพี่ชาย?” มุมปากกดยิ้ม เธอยกแขนขึ้นกอดอกและเอนกายพิงแท่นดาบของไฮม์ดัลโดยไม่สนใจเจ้าตัวที่มองตาเขียวอยู่ไม่ไกลนัก

     

           “ก็...ข้านึกว่าเจ้า...”

     

           “ข้าทำไม?” เอียงคอมอง แววตาของสคาดิวิบวับไปมาด้วยความหรรษาอันลึกลับ

     

           “แค่มาส่งแขกเนี่ยผิดรึไง? จะหวงหญิงเกินไปแล้วนะพี่ข้า”

     

           “จะเริ่มกันได้รึยัง? ได้ข่าวว่าเจนมีธุระต่อที่มิดการ์ดนี่?” ดวงตาสีฟ้าเทาเบนไปยังร่างบางข้างกายพี่ชาย คล้ายกับว่าความห่างเหินที่เคยมีเลือนหายไป

     

           เทพสายฟ้าพยักหน้าและลุกขึ้น ส่งผลให้ชาวมิดการ์ดสาวขยับตาม

     

           “ไฮม์ดัล”

     

           เทพอารักษ์เคลื่อนกายมาและทำท่าปัดมือชิ่วๆใส่เธอ

           “เกะกะจริงองค์หญิง”

     

           เทพีแห่งเหมันต์เบะปาก

     

           “เงียบเหอะน่าตาแก่”

     

           ร่างเพรียวขยับออกมาและกอดอกจ้องมองตาแก่ตาเดียวกล้ามล่ำที่เสียบดาบลงไปในร่องตรงแท่นสีทองและหมุนมัน ทำให้สะพานไบฟรอสต์เปิดออก

     

           ซิฟและโฮกันพยักหน้าให้เจน นักรบสาวตบบ่าเธอเบาๆและเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งสามคนที่เหลือมีเวลาส่วนตัว

     

           ธอร์หันมามองน้องสาว

     

           สคาดิเอียงคอและคลายมือ บู๊ทหนังสีน้ำตาลเข้มยาวคลุมหน้าแข้งสาวเข้าไปหาเจน เสียงส้นรองเท้ากระทบกับพื้นสีทองดังกังวาน

     

           “เดินทางปลอดภัย เจน ฟอสเตอร์” หญิงสาวกล่าวเรียบๆและยื่นมือออกไป

     

           หญิงสาวชาวมนุษย์มองมันและยื่นมือออกไปจับตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ ดวงตาสีน้ำตาลช้อนขึ้นมามองน้องสาวของคนรัก

     

           มุมปากของเทพีแห่งเหมันต์กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวชอบกล

     

           โน้มตัวลงไปกอดร่างที่เล็กกว่า ดวงตาสีฟ้าเทาวาวโรจน์ขึ้นมาวูบหนึ่ง

     

           เธอสูดหายใจลึกและหันใบหน้าเขาหาท้ายทอยของเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อน อดไม่ได้ที่จะยิ้มในขณะที่กรอกเสียงกระซิบเข้าไปในหลังหู

     

           “รู้ไหม...พี่ชายข้าตายแล้ว และมันเป็นเพราะเจ้า” เสียงของเธอยังคงเบาและรื่นหู

     

           ก่อนที่อยู่ๆมันจะแข็งกร้าวขึ้นจนเจนสะดุ้ง

     

           “และถ้าข้าพบว่าเจ้าก่อเรื่องอีกครั้ง แม้ว่าธอร์จะอยู่คุ้มกะลาหัวเจ้า...ข้าก็จะไม่ลังเลเลยที่จะสังหารเจ้าในทันที”

     

           สคาดิดันหญิงสาวออกจากอ้อมกอด ใบหน้าของเธอเย็นชาอย่างน่ากลัว และในวินาทีต่อมา เจนก็พบว่าใบหน้างดงามนั้นกำลังยิ้มราวกับไม่เคยพูดด้วยเสียงสังหารนั้นมาก่อน

     

           และนั่นมันน่ากลัวยิ่งกว่าเอาธนูมายิงเธอให้พรุนเสียอีก

     

           เจนรู้สึกราวกับเป็นกวางน้อยที่กำลังถูกราชสีห์ต้อนให้กลัวเล่น รอเพียงเวลาที่จะเข้าขย้ำฉีกร่างให้สิ้นซาก

     

           “ข้าไปล่ะธอร์” สคาดิว่าเสียงร่าเริงและเดินออกไปจากบริเวณนั้น

     

           “เจ้าโอเคนะ?” เทพสายฟ้าถาม เดินเข้ามาหาคนรัก

     

           หญิงสาวชาวมิดการ์ดพยักหน้า กระชับเสื้อโค้ตเข้ากับกายแน่นขึ้นและหันไปสบตากับเขา

     

           “ถึงเวลาแล้วเหรอ?”

     

           ธอร์ถอนหายใจและรวบตัวเธอเข้ามาจูบ ลึกซึ้งและเนิ่นนาน

     

           เจนวางมือลงกับแก้มสากและจูบตอบ แต่ภายในหัวนั้นยังคงมีเสียงของสคาดิวนเวียนอยู่

     

           และตั้งแต่วันนั้น ความรู้สึกของเจน ฟอสเตอร์ที่มีต่อธอร์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

     

     

     

           หญิงสาวผมสีเข้มเก็บดาบเข้าฝักและคาดมันไว้กับเอว เธอเหวี่ยงถุงที่ขยายพื้นที่และใส่เสื้อผ้าไว้เรียบร้อยแล้วขึ้นบนหลัง เธอมองห้องของตนเป็นครั้งสุดท้ายและเดินออกไป

     

           เธอต้องหาคำตอบให้ได้

     

           “เจ้าจะไปไหน?” เสียงทุ้มของร่างที่นอนอยู่บนเตียงเรียกเธอไว้

     

           ดวงตาสีฟ้าเทาเบนมองคนตัวสูงที่ค่อยๆเคลื่อนกายขึ้นมาจากที่นอน ทำให้ผ้าห่มหล่นลงไปกองอยู่ตรงเอวจนเห็นกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบบนอกแกร่ง

     

           ให้ตาย

           บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้นอนใส่เสื้อผ้า แค่บางๆก็ดี

     

           เดี๋ยวนี้ข่าวซุบซิบในแอสการ์ดน่ะเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งเสียอีก

           เธอขี้เกียจไปจัดการพวกปากหอยปากปู

     

           “ทำไมไม่ใส่เสื้อ?” หญิงสาวถามกลับ

     

           “ร้อน” วีดาร์พยายามหลบตาเหมือนเด็กทำความผิด

     

           “ร้อนหรือลืมกันแน่ วีดาร์?” สคาดิกรอกตา

     

           “เจ้าก็รู้ ข้ามีเชื้อสายเอลฟ์แสง ข้าต้องใช้แสงแดดเป็นพลังงานเสริมจะได้สดชื่นหน่อย”

     

           ชายหนุ่มผมทองเริ่มมาขอค้างในห้องนอนตั้งแต่กลับมาจากสวาร์ตอัลฟ์ไฮม์ ตอนแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าห้องตนเองก็มี เกิดอารมณ์บ้าอะไรขึ้นถึงหอบผ้าหอบผ่อนมาซุกเตียงชาวบ้านนอน

     

           ...ถึงแม้ชาวบ้านที่ว่าน่ะคือโซลเมตก็เหอะ...

     

           เธอตะล่อมถามไปเรื่อยๆจนได้ความว่า

           ตั้งแต่รู้ว่าเธอเป็นโซลเมต เขาก็เกิดอาการแปลกๆขึ้นมา

     

           วีดาร์ติดกลิ่นเธอ

     

           เขาต้องหาอะไรที่มีกลิ่นเธอมากอดนอนจะได้หลับสบาย

           นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับโซลเมต พวกเขาจะเสพติดกันและกัน

     

           ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียง และสคาดิก็พบว่าเขาสวมกางเกงผ้าบางๆอยู่

     

           อย่างน้อยก็ใส่กางเกง

     

           “จะไปไหน?” ชายหนุ่มถามย้ำ

     

           ร่างเพรียวโคลงหัวไปมา

           “อัลฟ์ไฮม์”

     

           “จะไปตามหาญาติเจ้าที่มาเลคิธบอกว่าหลบซ่อนอยู่?”

     

           พยักหน้าเบาๆ หญิงสาวกลืนน้ำลาย

     

           “ข้าอาจไปนานหน่อย ต้องฝากเจ้าดูแลห้องแล้วล่ะ”

     

           วีดาร์ประคองซีกหน้าของเธอและหัวเราะเสียงนุ่มในลำคอ ไล้ปลายนิ้วไปกับแก้มเนียน

     

           “ดูแลตัวเองด้วยนะ”

     

           เขาประทับริมฝีปากเข้ากับขมับของเธอและเลื่อนมือมากดท้ายทอยให้ซุกเข้าหาซอกคอของเขา

     

           สคาดิยิ้มและกอดเอวสอบเป็นการตอบรับ

     

           ก่อนจะออกจากห้อง เธอประคองใบหน้าคมมาใกล้และกดจูบเข้าที่มุมปากของเขาเบาๆ

     

           ดวงตาสีฟ้าใสที่แข็งค้างด้วยความตกใจสบกับดวงตาสีฟ้าเทาราวกับเมฆฝนงดงาม

     

           สคาดิยิ้มเห็นฟันขาวให้กับชายหนุ่มผมสีทองและหันหลังออกมาจากห้องชุด ตรงไปที่ไบฟรอสต์เพื่อเริ่มการเดินทาง

     

           เธอจะทำเป็นไม่เห็นใบหูที่ขึ้นสีแดงแปร๊ดของเขาแล้วกันนะ :)

     













     

    TALK WITH FM

    ซีซั่นฟินาเล่ลลลลลลลล

    ฮือออออ ดีใจมากกกกก ในที่สุดก็จบซีซั่นสอง(ไรท์นึกว่าจะไม่จบหรือต้องดอง เพราะตอนมันเยอะมากมาย)

    ขอบคุณทุกคนสำหรับแรงสนับสนุนมากเลยนะคะ

    ตอนนี้เราก็จะมีเวลาลุยฟิคสั้นย่อยหรือวันช็อตต่อละ 55555

    เจอกันซีซั่นหน้านะคะ

    ด้วยรักและถุงกาว

    เฟิงมี่ค่ะ>3<

         
    Z y c l o n
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×