ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Marvel || Broken Throne (OC feat. Thorki, Stony, Spideypool, etc.)

    ลำดับตอนที่ #20 : Broken Throne S2 || Ch 5

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 62


    || B R O K E N T H R O N E ||

    s e a s o n 2

    ----------------------------

    CHAPTER 5

     

     

           สคาดิมีกลิ่นของดอกสายน้ำผึ้งและต้นกฤษณาอ่อนๆ

           หอมและเย็นสบาย

     

           ไม่โดดเด่นเท่าดอกกุหลาบหรือลาเวนเดอร์

     

           แต่น่าค้นหาและชวนใจสงบอย่างน่าพิศวงเมื่อได้ดอมดม

     

           นั่นคืออีกสิ่งหนึ่งที่วีดาร์ได้เรียนรู้จากการรับเอาผ้าเช็ดหน้าที่ซักเสร็จแล้วมาจากหญิงสาวในวันรุ่งขึ้น

     

           ชายหนุ่มผมสีสว่างค่อยๆยกผ้าในมือขึ้นมาจรดที่ปลายจมูกโด่งอีกครั้ง สูดเอากลิ่นหอมเย็นที่เริ่มรู้สึกว่าขาดไม่ได้เข้าไปเต็มปอด

     

           “ทำหน้าอย่างกับหนุ่มน้อยเจอรักแรก” เพื่อนของเขา เอเธลฟอร์ธเดินมาข้างๆและเหวี่ยงแขนมาพาดรอบบ่าเขา

     

           “ผ้าหอมดี ขอยืมหน่อยสิ”

     

           เขาดึงผ้าเช็ดหน้าสีเทาอ่อนกลับมาและกำมันไว้อย่างหวงแหน

           “ไม่”

     

           ชายหนุ่มผมสีเข้มทำปากยื่น

     

           “แค่ผ้าผืนเดียว อะไรที่ทำให้มันพิเศษขนาดนั้น?”

     

           วีดาร์เลียริมฝีปากล่าง

           “มีคนให้ข้ากลับมา”

     

           มือแกร่งค่อยๆเหน็บมันกลับเข้าไปใต้เสื้อเกราะสีทอง วางมันไว้ตรงตำแหน่งใกล้หัวใจ

     

           มารดาของเขา เกอร์เซมี เป็นชาววานาไฮม์ นางเลี้ยงเขามาด้วยความช่วยเหลือจากตายายและสหายอีกหลายคน

     

           ส่วนบิดานั้น...เขาไม่รู้

     

           ชาววานาไฮม์เกือบทุกคนมีสายเลือดเอลฟ์ นั่นทำให้พวกเขาสามารถเข้ากับชาวอัลฟ์ไฮม์ได้...รวมถึงครอบครัวของวีดาร์ด้วย

     

           ญาติผู้พี่สาวนามเฟรยาเคยบอกเขาว่าพวกเขามีบางสิ่งที่พวกเอลฟ์มี...เรียกว่าโซลเมต

     

           และนั่นทำให้เขาที่ยังเป็นเทพเด็กเกิดสนใจในคำๆนี้ขึ้นมาดื้อๆ

     

           ตั้งแต่เด็ก เขามักจะฟังเรื่องเล่าปรัมปราที่กล่าวถึงโซลเมต และหวังว่าสักวันก็อยากจะมีใครที่คอยอยู่ข้างกายแบบที่ตัวละครในนิทานมีบ้าง

     

           แต่ความฝันแบบเด็กๆนั้นก็ถูกกลบฝังลงไปท่ามกลางความทะเยอทะยานและกลยุทธ์ที่ได้เรียนมาเมื่อมารดาส่งเขาไปฝึกเป็นทหารในวังของลุงคนหนึ่งที่ปกครองวานาไฮม์นามนยอร์ดในอีกไม่กี่สิบปีต่อมา

     

           ตั้งแต่นั้น ในหัวของวีดาร์ก็ถูกแทนที่ด้วยเรื่องของดาบ, มีดสั้น, ชุดเกราะและตำราพิชัยสงคราม

     

           เมื่อเขาได้เลื่อนยศกลายเป็นหัวหน้ากองทัพวาเนียร์รักษาดินแดนของนยอร์ด ชายหนุ่มก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวหน้าหน่วยทัพขนาดใหญ่ที่สุดในวานาไฮม์ที่เด็กที่สุดที่เคยมีมาด้วยวัยเพียงหนึ่งพันสองร้อยปี

     

           นั่นมันก็ผ่านมากว่าสองร้อยปีแล้ว

     

           เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะกลับมาคิดเรื่องนี้อีกครั้ง

     

           วีดาร์จำตอนที่สบตากับสคาดิในท้องพระโรงได้

           มันคุ้นเคยเหลือเกิน...

     

           เขานึกถึงเด็กหญิงผมสีเข้มที่เขาเห็นในนิมิตครั้งนั้น

     

           หลังจากที่ขอคำแนะนำจากเฟรยาและแฝดผู้พี่ของเธอ เฟรย์ เขาก็ได้รับคำตอบมาว่านั่นคือสัญญาณของการที่จะได้พบโซลเมต

     

           จะเป็นเธอรึเปล่านะ?

     

           เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาจะดีใจมากเลยล่ะ

     

           มุมปากบิดเป็นรอยยิ้มที่สามารถทำให้หญิงทั้งเก้าโลกลงไปนอนดิ้นตายด้วยความต้องการได้

     

           สคาดิ...

           ขอให้ใช่เถอะ

     

           “วีดาร์ นั่นรุ่นพี่เราว่ะ” เอเธลฟอร์ดตบบ่าและชี้ไปทางธอร์ที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับมโยลเนียร์

           “ไปทักทายกันหน่อย”

     

           ชายหนุ่มเสยผมสีบลอนด์สว่างราวกับทองคำสีซีดกว่าปกติและพยักหน้า ร่างสูงที่อยู่ในเกราะสีทองประจำตำแหน่งลุกขึ้นพลางเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งอีกครั้ง

     

           “เสียใจด้วยนะ เรื่องมารดาท่านน่ะ” เขาว่ากับเจ้าชายรัชทายาทแห่งแอสการ์ด

     

           คู่สนทนาเม้มปากและตบบ่าเขาสองสามที

           “ขอบใจเจ้ามากนะ วีดาร์”

     

           รุ่นพี่ยังมือหนักไม่เปลี่ยน

     

           เขาแทบซี้ดปากด้วยความปวดหน่วงตรงกล้ามเนื้อบ่า

     

           ...สคาดิจะมีขี้ผึ้งคลายกล้ามเนื้อมั้ยนะ?...

           ถ้ามี เขากะจะไปยืมซะหน่อย

     

           “พวกเจ้าจะกลับวานาไฮม์กันเมื่อไหร่เนี่ย?”

     

           “เราอาจอยู่เที่ยวอีกซักพัก” เอเธลฟอร์ดตอบ

           “ว่าแต่...เรื่องเอลฟ์มืดน่ะ จะเอายังไงต่อรึ?”

     

           ดวงตาสีฟ้าของธอร์ทอประกายครุ่นคิด

     

           “...อาจออกไปจัดการมันหลังในอีกไม่นานนี้”

     

           วีดาร์รู้สึกหวั่นใจ

           แต่ไหนแต่ไร รุ่นพี่ก็ไม่ค่อยได้ทบทวนการตัดสินใจของเขาอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อคนในครอบครัวถูกฆ่าด้วยแล้ว...

     

           เขากลัวว่าโทสะและความแค้นจะผลักดันให้ธอร์ทำอะไรที่ไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองออกไป

     

           ธอร์ ไอพี่โง่

     

           เสียงใครน่ะ?

     

           คุ้นหูเหลือเกิน

     

           อยู่ๆมันก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา

     

           หรือว่า...

     

           โซลเมต

     

     




     

     

     

           วีดาร์มีกลิ่นของต้นซีดาร์และแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ

     

           สคาดิรู้สึกว่าใจหายว้าวุ่นอย่างประหลาดเมื่อผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแตะซับเข้าที่ใบหน้า

     

           อดรู้สึกใจหายไม่ได้เมื่อต้องคืนมันให้กับเจ้าของในวันรุ่งขึ้น

     

           จู่ๆความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว

     

           ถ้า...ถ้าเขาเป็นโซลเมตของเธอล่ะ

     

           เผลอหลุดยิ้มออกมาในชนิดที่ว่าถ้าไม่อยู่ในห้องชุด คนอื่นคงคิดว่าเธอเป็นบ้า

     

           ถ้าเป็นแบบนั้น...

     

           อืม...

           ถ้าเป็นแบบนั้นคงดี

     

           วันนี้เธอขออยู่เฉยๆ ไม่ออกไปรับแขกบ้านแขกเมืองจากที่อื่น เธอจึงใส่แค่ชุดสบายๆอันประกอบไปด้วยกางเกงขาสั้น เสื้อยืดตัวโคร่งและผมที่ทำเป็นหางม้าต่ำ

     

           ร่างเพรียวนอนเอกเขนกราวกับในโลกนี้มีเพียงแค่เธอกับหนังสือนิยายเล่มหนาในมือ

     

           หญิงสาวยกขาเรียวขึ้นพาดบนพนักโซฟา มือเรียวสะบัดเรียกเอาแก้วทรงสูงใส่ช็อกโกแลตเย็นๆโปะด้วยวิปครีม มาร์ชเมลโลและคาราเมลมาดูดอย่างชิลใจ

     

           ฮืมมมม อร่อยจริง

     

           นิ้วเรียวสอดเข้าไปในหนังสือและพลิกหน้ากระดาษที่มีกลิ่นหนังสือที่เธอชอบ

     

           ไว้ถ้ามีเวลากลับไปมิดการ์ด เธอจะไปข่มขู่จอร์จ อาร์ อาร์ มาร์ตินสักหน่อย

     

           กล้าดียังไงเขียนเกม ออฟ โธรนส์ช้า

           เธอรอดูซีรี่ส์ซีซั่นแปดและหนังสือเล่มที่ห้าจนเหงือกแห้งแล้วเนี่ย

     

           หนังสือเล่มล่าสุดอย่างมังกรประลองเชิงหรือแดนซ์ ออฟ ดรากอนส์ก็อ่านเสร็จเป็นรอบที่ร้อยแล้วเนี่ย

     

           ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

     

           เธอเหยียดกายและลุกขึ้นจากที่นั่ง วางหนังสือและแก้วช็อกโกแลตในมือลง

     

           “กำลังไป รอสักครู่”

     

           มือเรียวเอื้อมไปแตะมือจับประตู

     

           ตอนนี้ก็ตกเย็นแล้ว จะมีใครเอาอะไรกับเธออีก?

     

           ทันทีที่บานประตูไม้ถูกเปิดออก สคาดิก็แทบจะกรอกตามองบน

     

           “จะเอาอะไรอีก พี่ข้า?”

     

           ธอร์ยืนอยู่ตรงนั้น มือถือค้อนสุดรักสุดหวง ผ้าคลุมสีตุ่นๆพันรอบอกเขา ปกปิดเกราะสีเงินฟ้าไว้

     

           “เจ้า...” เขากวาดตามองตัวเธออีกครั้ง

     

           ถามจริง?

           ยังไม่ชินที่น้องติดใจวัฒนธรรมมิดการ์ดอีกรึไง?

     

           ฝ่ามือแกร่งตวัดรอบเอวและขาเธอ อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวและเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูตามหลัง

           แต่เจ้าของมือนั้นดันไม่ใช่พี่ชาย

     

           “วีดาร์?” ดวงตาสีฟ้าเทาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ฉงนและแปลกใจ

     

           เขาไม่พูดอะไร ใบหน้าดูถมึงทึงกว่าปกติ

     

           ชายหนุ่มผมสีสว่างวางเธอกลับลงบนโซฟาและดึงผ้าห่มแถวนั้นมาคลุมร่างเธอตั้งแต่เอวลงไป

     

           “อะไรเนี่ย?”

     

           “เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น...มันไม่ดีต่อท่าน” เขากระซิบ ใบหูขึ้นสีแดงเล็กน้อย

           “...หวง...”

     

           ประโยคท้ายเบาราวสายลมจนสคาดิแทบไม่ได้ยิน

           “ว่าไงนะ?”

     

           “ไม่...ไม่มีอะไร” ดวงตาสีฟ้าหรุบลง ซ่อนความเขินอายพ้นจากสายตาของหญิงสาว

     

           บ้าจริง นี่เขาพูดอะไรออกไป

     

           “อ่า...” เธอขมวดคิ้ว

           “แล้ว...มีอะไรถึงมาหาข้าเนี่ย?”

     

           ธอร์กอดอก

     

           “เราจะไปช่วยโลกิกัน”

     

           อะไรนะ?

     

           บทสนทนาระหว่างเธอกับสกูลด์แล่นกลับเข้ามาในหัวอย่างฉับพลัน

     

           เจ้าจะไม่พาโลกิออกมาจากคุก เขาจะไปกับชายอีกคนหนึ่ง

           ชาย...คนไหน?

           ผมทอง ถือค้อน

     

           นี่สินะ...

     

           “อ่าฮะ” เทพีแห่งเหมันต์พยักหน้า

     

           มือเรียวสะบัด ส่งกระแสสีฟ้าออกไปเก็บหนังสือและแก้วช็อคโกแลตให้เข้าที่

     

           “ข้ามาขอให้เจ้าช่วย น้องข้า” พี่ชายว่า เอนกายลงพิงขอบโต๊ะ

     

           เธอทำเสียงอืมในลำคอ

           “รอสักครู่ ข้าไปเปลี่ยนเกราะก่อน”

     

           ในเมื่อสกูลด์กำหนดมันเอาไว้แล้ว เธอก็จะช่วยพวกนอร์นสักหน่อยละกัน

     

           ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในห้องนอน

     

           ประมาณห้านาทีต่อมา สคาดิก็ปรากฏตัวอีกครั้งที่ช่องประตู ชุดเกราะสีเทาที่มักใส่ประจำถูกสวมลงบนตัว

           มือเรียววางเกราะเกล็ดสีทองเงินแวววาวลงบนไหล่และบ่าทั้งสองข้างขณะที่เดินมายืนหน้าพี่ชาย

     

           “แล้ว...เขา?” พยักเพยิดไปทางร่างสูงเจ้าของดวงตาสีฟ้าอ่อนที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก

     

           “วีดาร์จะช่วยด้วย”

     

           เอาจริง?

     

           “พี่ข้า ท่านต้องไม่อยากทำแบบนี้แน่” หญิงสาวส่งสายตาเตือนสุดชีวิตให้พี่ชาย

     

           “เราต้องการผู้ช่วยอีกคนหนึ่งในการแหกคุก รุ่นน้องข้าคนนี้แทบไม่เคยเหยียบเข้าแอสการ์ดเลย การจะตามรอยหรือการที่จะมีใครจำเขาได้นั้นมีโอกาสน้อยมาก”

     

           วีดาร์พยักหน้าเบาๆ

           “ถ้ามีอะไรที่ข้าสามารถช่วยพวกท่านได้ ข้าจะทำ”

     

           ดวงตาสีฟ้าเทาแฝงแววกังวล หญิงสาวผมสีเข้มเม้มปากและหยิบดาบยาวสีเงินยวงมาคาดเอว เข็มขัดสีน้ำตาลถูกพันรอบเอวและดึงให้แน่น

     

           สคาดิถอนหายใจยาว ปากอิ่มเม้มเข้าหากันเล็กน้อยอย่างชั่งใจ เธอหลับตาคิดสักพัก ก่อนจะกล่าวออกมาในที่สุด

     

           “แผนว่าไง?”

     

           เอาล่ะ...

           เธอจะทำเป็นมองไม่เห็นรอยยิ้มบ้าๆของพี่ชายกับสายตาเป็นประกายชวนใจเต้นของวีดาร์สักครั้ง

     

     

     

    TALK WITH FM

    ฮาโหลววววว เทสๆ

    ยังไม่หายไปไหนกันเนาะ

    เราเสร็จงานศพยายแล้วค่ะ วันนี้เพิ่งฝัง

    เดี๋ยวตอนหน้าทุกอย่างจะค่อนขางดราม่าขึ้นนะทุกคน

    ขอบคุณสำหรับทุกแรงสนับสนุนนะคะ

    เฟิงมี่ค่ะ >3<

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×