คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Broken Throne S2 || Ch 5
|| B
R O K E N T H R O N E ||
s e a
s o n 2
----------------------------
CHAPTER 5
สคาดิมีกลิ่นของดอกสายน้ำผึ้งและต้นกฤษณาอ่อนๆ
หอมและเย็นสบาย
ไม่โดดเด่นเท่าดอกกุหลาบหรือลาเวนเดอร์
แต่น่าค้นหาและชวนใจสงบอย่างน่าพิศวงเมื่อได้ดอมดม
นั่นคืออีกสิ่งหนึ่งที่วีดาร์ได้เรียนรู้จากการรับเอาผ้าเช็ดหน้าที่ซักเสร็จแล้วมาจากหญิงสาวในวันรุ่งขึ้น
ชายหนุ่มผมสีสว่างค่อยๆยกผ้าในมือขึ้นมาจรดที่ปลายจมูกโด่งอีกครั้ง
สูดเอากลิ่นหอมเย็นที่เริ่มรู้สึกว่าขาดไม่ได้เข้าไปเต็มปอด
“ทำหน้าอย่างกับหนุ่มน้อยเจอรักแรก” เพื่อนของเขา
เอเธลฟอร์ธเดินมาข้างๆและเหวี่ยงแขนมาพาดรอบบ่าเขา
“ผ้าหอมดี ขอยืมหน่อยสิ”
เขาดึงผ้าเช็ดหน้าสีเทาอ่อนกลับมาและกำมันไว้อย่างหวงแหน
“ไม่”
ชายหนุ่มผมสีเข้มทำปากยื่น
“แค่ผ้าผืนเดียว
อะไรที่ทำให้มันพิเศษขนาดนั้น?”
วีดาร์เลียริมฝีปากล่าง
“มีคนให้ข้ากลับมา”
มือแกร่งค่อยๆเหน็บมันกลับเข้าไปใต้เสื้อเกราะสีทอง
วางมันไว้ตรงตำแหน่งใกล้หัวใจ
มารดาของเขา เกอร์เซมี เป็นชาววานาไฮม์
นางเลี้ยงเขามาด้วยความช่วยเหลือจากตายายและสหายอีกหลายคน
ส่วนบิดานั้น...เขาไม่รู้
ชาววานาไฮม์เกือบทุกคนมีสายเลือดเอลฟ์
นั่นทำให้พวกเขาสามารถเข้ากับชาวอัลฟ์ไฮม์ได้...รวมถึงครอบครัวของวีดาร์ด้วย
ญาติผู้พี่สาวนามเฟรยาเคยบอกเขาว่าพวกเขามีบางสิ่งที่พวกเอลฟ์มี...เรียกว่าโซลเมต
และนั่นทำให้เขาที่ยังเป็นเทพเด็กเกิดสนใจในคำๆนี้ขึ้นมาดื้อๆ
ตั้งแต่เด็ก เขามักจะฟังเรื่องเล่าปรัมปราที่กล่าวถึงโซลเมต
และหวังว่าสักวันก็อยากจะมีใครที่คอยอยู่ข้างกายแบบที่ตัวละครในนิทานมีบ้าง
แต่ความฝันแบบเด็กๆนั้นก็ถูกกลบฝังลงไปท่ามกลางความทะเยอทะยานและกลยุทธ์ที่ได้เรียนมาเมื่อมารดาส่งเขาไปฝึกเป็นทหารในวังของลุงคนหนึ่งที่ปกครองวานาไฮม์นามนยอร์ดในอีกไม่กี่สิบปีต่อมา
ตั้งแต่นั้น ในหัวของวีดาร์ก็ถูกแทนที่ด้วยเรื่องของดาบ,
มีดสั้น, ชุดเกราะและตำราพิชัยสงคราม
เมื่อเขาได้เลื่อนยศกลายเป็นหัวหน้ากองทัพวาเนียร์รักษาดินแดนของนยอร์ด
ชายหนุ่มก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวหน้าหน่วยทัพขนาดใหญ่ที่สุดในวานาไฮม์ที่เด็กที่สุดที่เคยมีมาด้วยวัยเพียงหนึ่งพันสองร้อยปี
นั่นมันก็ผ่านมากว่าสองร้อยปีแล้ว
เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะกลับมาคิดเรื่องนี้อีกครั้ง
วีดาร์จำตอนที่สบตากับสคาดิในท้องพระโรงได้
มันคุ้นเคยเหลือเกิน...
เขานึกถึงเด็กหญิงผมสีเข้มที่เขาเห็นในนิมิตครั้งนั้น
หลังจากที่ขอคำแนะนำจากเฟรยาและแฝดผู้พี่ของเธอ
เฟรย์ เขาก็ได้รับคำตอบมาว่านั่นคือสัญญาณของการที่จะได้พบโซลเมต
จะเป็นเธอรึเปล่านะ?
เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาจะดีใจมากเลยล่ะ
มุมปากบิดเป็นรอยยิ้มที่สามารถทำให้หญิงทั้งเก้าโลกลงไปนอนดิ้นตายด้วยความต้องการได้
สคาดิ...
ขอให้ใช่เถอะ
“วีดาร์ นั่นรุ่นพี่เราว่ะ”
เอเธลฟอร์ดตบบ่าและชี้ไปทางธอร์ที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับมโยลเนียร์
“ไปทักทายกันหน่อย”
ชายหนุ่มเสยผมสีบลอนด์สว่างราวกับทองคำสีซีดกว่าปกติและพยักหน้า
ร่างสูงที่อยู่ในเกราะสีทองประจำตำแหน่งลุกขึ้นพลางเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งอีกครั้ง
“เสียใจด้วยนะ เรื่องมารดาท่านน่ะ”
เขาว่ากับเจ้าชายรัชทายาทแห่งแอสการ์ด
คู่สนทนาเม้มปากและตบบ่าเขาสองสามที
“ขอบใจเจ้ามากนะ วีดาร์”
รุ่นพี่ยังมือหนักไม่เปลี่ยน
เขาแทบซี้ดปากด้วยความปวดหน่วงตรงกล้ามเนื้อบ่า
...สคาดิจะมีขี้ผึ้งคลายกล้ามเนื้อมั้ยนะ?...
ถ้ามี เขากะจะไปยืมซะหน่อย
“พวกเจ้าจะกลับวานาไฮม์กันเมื่อไหร่เนี่ย?”
“เราอาจอยู่เที่ยวอีกซักพัก” เอเธลฟอร์ดตอบ
“ว่าแต่...เรื่องเอลฟ์มืดน่ะ
จะเอายังไงต่อรึ?”
ดวงตาสีฟ้าของธอร์ทอประกายครุ่นคิด
“...อาจออกไปจัดการมันหลังในอีกไม่นานนี้”
วีดาร์รู้สึกหวั่นใจ
แต่ไหนแต่ไร
รุ่นพี่ก็ไม่ค่อยได้ทบทวนการตัดสินใจของเขาอยู่แล้ว
ยิ่งเมื่อคนในครอบครัวถูกฆ่าด้วยแล้ว...
เขากลัวว่าโทสะและความแค้นจะผลักดันให้ธอร์ทำอะไรที่ไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองออกไป
ธอร์ ไอพี่โง่
เสียงใครน่ะ?
คุ้นหูเหลือเกิน
อยู่ๆมันก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
หรือว่า...
โซลเมต
วีดาร์มีกลิ่นของต้นซีดาร์และแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ
สคาดิรู้สึกว่าใจหายว้าวุ่นอย่างประหลาดเมื่อผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแตะซับเข้าที่ใบหน้า
อดรู้สึกใจหายไม่ได้เมื่อต้องคืนมันให้กับเจ้าของในวันรุ่งขึ้น
จู่ๆความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว
ถ้า...ถ้าเขาเป็นโซลเมตของเธอล่ะ
เผลอหลุดยิ้มออกมาในชนิดที่ว่าถ้าไม่อยู่ในห้องชุด
คนอื่นคงคิดว่าเธอเป็นบ้า
ถ้าเป็นแบบนั้น...
อืม...
ถ้าเป็นแบบนั้นคงดี
วันนี้เธอขออยู่เฉยๆ ไม่ออกไปรับแขกบ้านแขกเมืองจากที่อื่น
เธอจึงใส่แค่ชุดสบายๆอันประกอบไปด้วยกางเกงขาสั้น เสื้อยืดตัวโคร่งและผมที่ทำเป็นหางม้าต่ำ
ร่างเพรียวนอนเอกเขนกราวกับในโลกนี้มีเพียงแค่เธอกับหนังสือนิยายเล่มหนาในมือ
หญิงสาวยกขาเรียวขึ้นพาดบนพนักโซฟา
มือเรียวสะบัดเรียกเอาแก้วทรงสูงใส่ช็อกโกแลตเย็นๆโปะด้วยวิปครีม
มาร์ชเมลโลและคาราเมลมาดูดอย่างชิลใจ
ฮืมมมม อร่อยจริง
นิ้วเรียวสอดเข้าไปในหนังสือและพลิกหน้ากระดาษที่มีกลิ่นหนังสือที่เธอชอบ
ไว้ถ้ามีเวลากลับไปมิดการ์ด
เธอจะไปข่มขู่จอร์จ อาร์ อาร์ มาร์ตินสักหน่อย
กล้าดียังไงเขียนเกม ออฟ โธรนส์ช้า
เธอรอดูซีรี่ส์ซีซั่นแปดและหนังสือเล่มที่ห้าจนเหงือกแห้งแล้วเนี่ย
หนังสือเล่มล่าสุดอย่างมังกรประลองเชิงหรือแดนซ์
ออฟ ดรากอนส์ก็อ่านเสร็จเป็นรอบที่ร้อยแล้วเนี่ย
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เธอเหยียดกายและลุกขึ้นจากที่นั่ง
วางหนังสือและแก้วช็อกโกแลตในมือลง
“กำลังไป รอสักครู่”
มือเรียวเอื้อมไปแตะมือจับประตู
ตอนนี้ก็ตกเย็นแล้ว
จะมีใครเอาอะไรกับเธออีก?
ทันทีที่บานประตูไม้ถูกเปิดออก
สคาดิก็แทบจะกรอกตามองบน
“จะเอาอะไรอีก พี่ข้า?”
ธอร์ยืนอยู่ตรงนั้น มือถือค้อนสุดรักสุดหวง
ผ้าคลุมสีตุ่นๆพันรอบอกเขา ปกปิดเกราะสีเงินฟ้าไว้
“เจ้า...” เขากวาดตามองตัวเธออีกครั้ง
ถามจริง?
ยังไม่ชินที่น้องติดใจวัฒนธรรมมิดการ์ดอีกรึไง?
ฝ่ามือแกร่งตวัดรอบเอวและขาเธอ
อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวและเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูตามหลัง
แต่เจ้าของมือนั้นดันไม่ใช่พี่ชาย
“วีดาร์?” ดวงตาสีฟ้าเทาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
ฉงนและแปลกใจ
เขาไม่พูดอะไร ใบหน้าดูถมึงทึงกว่าปกติ
ชายหนุ่มผมสีสว่างวางเธอกลับลงบนโซฟาและดึงผ้าห่มแถวนั้นมาคลุมร่างเธอตั้งแต่เอวลงไป
“อะไรเนี่ย?”
“เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น...มันไม่ดีต่อท่าน”
เขากระซิบ ใบหูขึ้นสีแดงเล็กน้อย
“...หวง...”
ประโยคท้ายเบาราวสายลมจนสคาดิแทบไม่ได้ยิน
“ว่าไงนะ?”
“ไม่...ไม่มีอะไร” ดวงตาสีฟ้าหรุบลง
ซ่อนความเขินอายพ้นจากสายตาของหญิงสาว
บ้าจริง นี่เขาพูดอะไรออกไป
“อ่า...” เธอขมวดคิ้ว
“แล้ว...มีอะไรถึงมาหาข้าเนี่ย?”
ธอร์กอดอก
“เราจะไปช่วยโลกิกัน”
อะไรนะ?
บทสนทนาระหว่างเธอกับสกูลด์แล่นกลับเข้ามาในหัวอย่างฉับพลัน
เจ้าจะไม่พาโลกิออกมาจากคุก
เขาจะไปกับชายอีกคนหนึ่ง
ชาย...คนไหน?
ผมทอง ถือค้อน
นี่สินะ...
“อ่าฮะ” เทพีแห่งเหมันต์พยักหน้า
มือเรียวสะบัด
ส่งกระแสสีฟ้าออกไปเก็บหนังสือและแก้วช็อคโกแลตให้เข้าที่
“ข้ามาขอให้เจ้าช่วย น้องข้า” พี่ชายว่า
เอนกายลงพิงขอบโต๊ะ
เธอทำเสียงอืมในลำคอ
“รอสักครู่ ข้าไปเปลี่ยนเกราะก่อน”
ในเมื่อสกูลด์กำหนดมันเอาไว้แล้ว
เธอก็จะช่วยพวกนอร์นสักหน่อยละกัน
ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในห้องนอน
ประมาณห้านาทีต่อมา สคาดิก็ปรากฏตัวอีกครั้งที่ช่องประตู
ชุดเกราะสีเทาที่มักใส่ประจำถูกสวมลงบนตัว
มือเรียววางเกราะเกล็ดสีทองเงินแวววาวลงบนไหล่และบ่าทั้งสองข้างขณะที่เดินมายืนหน้าพี่ชาย
“แล้ว...เขา?” พยักเพยิดไปทางร่างสูงเจ้าของดวงตาสีฟ้าอ่อนที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก
“วีดาร์จะช่วยด้วย”
เอาจริง?
“พี่ข้า ท่านต้องไม่อยากทำแบบนี้แน่”
หญิงสาวส่งสายตาเตือนสุดชีวิตให้พี่ชาย
“เราต้องการผู้ช่วยอีกคนหนึ่งในการแหกคุก
รุ่นน้องข้าคนนี้แทบไม่เคยเหยียบเข้าแอสการ์ดเลย การจะตามรอยหรือการที่จะมีใครจำเขาได้นั้นมีโอกาสน้อยมาก”
วีดาร์พยักหน้าเบาๆ
“ถ้ามีอะไรที่ข้าสามารถช่วยพวกท่านได้
ข้าจะทำ”
ดวงตาสีฟ้าเทาแฝงแววกังวล หญิงสาวผมสีเข้มเม้มปากและหยิบดาบยาวสีเงินยวงมาคาดเอว
เข็มขัดสีน้ำตาลถูกพันรอบเอวและดึงให้แน่น
สคาดิถอนหายใจยาว
ปากอิ่มเม้มเข้าหากันเล็กน้อยอย่างชั่งใจ เธอหลับตาคิดสักพัก
ก่อนจะกล่าวออกมาในที่สุด
“แผนว่าไง?”
เอาล่ะ...
เธอจะทำเป็นมองไม่เห็นรอยยิ้มบ้าๆของพี่ชายกับสายตาเป็นประกายชวนใจเต้นของวีดาร์สักครั้ง
TALK WITH FM
ฮาโหลววววว
เทสๆ
ยังไม่หายไปไหนกันเนาะ
เราเสร็จงานศพยายแล้วค่ะ
วันนี้เพิ่งฝัง
เดี๋ยวตอนหน้าทุกอย่างจะค่อนขางดราม่าขึ้นนะทุกคน
ขอบคุณสำหรับทุกแรงสนับสนุนนะคะ
เฟิงมี่ค่ะ
>3<
ความคิดเห็น