คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Broken Throne || Ch 1
-----------------------------------
CHAPTER 1
ดวงตาสีฟ้าราวท้องนภาคู่เดิมของพี่ยังคงจ้องมาด้วยความรู้สึกเช่นเดิม...
เอ็นดู
ห่วงใย
ห่วงหา
สคาดิกลืนน้ำลายลงคอ
“พี่ข้า...”
ย้อนไปเมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อน
เธอได้มีโอกาสพบกับฮีโร่รุ่นเก่าอย่างกัปตันอเมริกาผู้ซึ่งเพิ่งถูกขุดออกมาจากน้ำแข็งหมาดๆ
รวมไปถึงเจ้าแม่จารชนเจ้าของฉายาแบล็ควิโดว์,
ดอกเตอร์เจ้าของดีกรีปริญญากว่าสิบใบผู้สามารถเปลี่ยนสมองให้กลายเป็นมัดกล้ามได้อย่างไม่น่าเชื่อ--ดอกเตอร์แบนเนอร์
และพ่อหนุ่มตาดีดี๊ดีนามคลินท์
บาร์ตัน...หรือที่มีฉายาในวงการฮีโร่ด้วยกันว่าฮอว์คอาย
กำลังแนะนำตัวเองด้วยชื่อและนามสกุลที่โทนี่ตั้งให้--สคาดิ
แมคธยาสซี ตอนที่มีเจ้าหน้าที่สองสามคนเข้ามาแจ้ง ผอ.แห่งหน่วย...อะไรนะ...ชีลด์?
ว่ามีชายผู้หนึ่งบุกรุกเข้ามาอ้างตัวว่าชื่อธอร์ และบลาๆๆๆๆ อีกหลายอย่างที่เธอจับความไม่ได้
สมองเธอช็อตไปตั้งแต่คำว่า
‘ธอร์’ แล้ว
อยากจะสบถว่าเห็นแก่นอร์นเถิด
แต่มันก็...ไงๆอยู่
ไอ้พี่แสนโง่เง่าและซื่อบื้อผู้ควรจะยังคงนั่งซึมกะทือเป็นนกป่วยอยู่ที่แอสการ์ด...ไหงมาโผล่นี่ได้วะ?
ต่อมาไม่นานนัก ผอ.ก็ได้สั่งให้ปล่อยเขาออกมาจากคุกที่พวกชีลด์นำเขาไปขัง
ธอร์เดินออกมาพร้อมค้อนคู่ใจ--มยอลเนียร์
ทันทีที่เขาเห็นหน้าของน้องสาว(บุญธรรม)ที่หนีออกจากบ้านมาก็ถึงกับชะงักกึก
สคาดิขมวดคิ้วน้อยๆขณะที่เชิดหน้าขึ้นสบดวงตาสีฟ้าเทาของตนตอบ
เอาสิ...จ้องมันให้ทั้งวันเลย
ดูซิว่าท่านจะยังกะพริบตาได้อีกไหม
“สคาดิ...”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาในที่สุด
...คิดว่าได้ยินเสียงโทนี่หันขวับ
และทุกคนที่เหลือลืมหายใจไปสักเสี้ยววินึงนะ...
สูดหายใจลึกๆ
กลืนน้ำลายลงคอ แล้วเปล่งเสียงตอบกลับไป
“พี่ข้า...”
ร่างสูงโปร่งเดินเคียงข้างเชษฐา
ค่อยๆฟังเรื่องราวของพวกชิทอรีที่เขาเล่าพร้อมกับพยายามตัดเสียงจิ๊กๆแหลมๆของสตาร์คขี้บ่นออกไปจากโสตประสาท
“เขาต้องมานี่แน่ๆ”
นอกจากเรื่องของพลังตนเอง สคาดิไม่เคยมั่นใจอะไรในมิดการ์ดมากขนาดนี้มาก่อน
“ข้าเชื่อเจ้า น้องข้า”
“บอกฉันที
ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้นฮะสอง‘เด็จ?”
...จะทำเป็นไม่ฟังก็คงจะถูกเตะออกจากตึก
กลายเป็นเจ้าหญิงโฮมเลสแน่แท้...
“เรื่องส่วนตัวของครอบครัว...ไม่ต้องยุ่งได้ก็ดีนะคุณสตาร์ค”
ปรายตาไปมองจิกรอบหนึ่ง ทำเอานายคนรวยสะดุ้งโหยงไปหนึ่งที
แน่นอนว่าเธอรู้ว่าทำไมพี่คนกลางถึงมาบุกที่นี่
มีใครในแอสการ์ดบ้างที่ไม่รู้ว่าเจ้าชายทั้งสององค์นั้นแตกต่างกันขนาดไหน
แต่มีใครบ้าง...ที่รู้ว่าโลกิอยากเป็นคนสำคัญของครอบครัวเพียงใด
นอกจากเธอแล้วก็...คงมีแค่ฟริกก้าเท่านั้นแหละ
สคาดิรู้ว่าโลกิอยากเอาชนะธอร์...ในจิตใจของพี่มีแต่คำๆนั้น
เขาถึงมาถล่มโลกไง
ทุกๆอย่างที่ธอร์รัก
ทุกๆอย่างที่ธอร์แคร์อยู่ที่มิดการ์ด
โลกิอยากถล่มมันให้ราบเป็นหน้ากลอง...ด้วยสองมือ(และหนึ่งอภิมหากองทัพ)ของตนเอง
เธอเข้าใจ...
ความรู้สึกที่เหมือนไม่มีอะไรดีเลยในสายตาคนอื่น...
เธอเข้าใจดี
เพราะโอดินเองก็คาดหวังในตัวเธอไว้เยอะเหมือนกัน
เขาคงอยากให้เธอเหมือนกับซิฟ...
แข็งแกร่ง...กล้าหาญ
แต่เนื่องจากเผ่าพันธุ์ของเธอไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักรบผู้ห้าวหาญ
บุกตะลุยไปในแนวหน้าของสงคราม...เธอจึงไม่ฝืนสังขาร
เรื่องอะไรต้องมาสร้างกล้าม
ในเมื่อเอล์ฟน้ำแข็งอย่างพวกเธอเกิดมาเพื่อธนูโดยเฉพาะ
คนอย่างเธอจึงไม่เคยอยู่ในสายตาของโอดินในฐานะลูกรัก
และแน่นอนว่าไม่ใช่ลูกชัง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ดั่งใจเทพบิดร
แต่ก็ไม่เคยสร้างเรื่องหนักใจให้ต้องมาแก้ไขกันนานๆเลย
แต่ชาวแอสการ์ดนั้นชื่นชมราชนิกูลที่เป็นนักรบและกล้าหาญ
สคาดิจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่
โลกิเองก็ไม่ต่างจากเธอ
...ยิ่งกว่าด้วยซ้ำ...
เธอจึงสนิทสนมกับเขามากที่สุดไง
และนั่น...ทำให้เธอเข้าใจเขามากที่สุด
ไม่ว่าเขาจะมาสภาพไหน...เป็นยังไง...
เขาก็ยังคงเป็นพี่ชายที่เธอรักและไว้ใจมากที่สุดอยู่ดี
ไม่กี่วันต่อมาก็ได้ข่าวว่าเขาถูกคุมตัวได้แล้ว
ทำเอาเธอโล่งใจ
...แต่แม้ว่าจะอยู่ในห้องขัง
เทพแห่งกลลวงก็ยังคงเป็นเทพแห่งกลลวง...
ไม่ว่าจะโลกิ...หรือแม้แต่สิ่งของของเขาก็อันตรายพอๆกันนั่นแหละ
สคาดิไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าพี่ชายจะมอบตัวให้โดยดีโดยไม่คิดแผนสำรองหรือกลหลอกไว้
นั่นมัน...ไม่ใช่เขาเลย
เธอกำลังจะออกไปเยี่ยมเขาในคุกตอนที่ได้ยินเสียงระเบิดตูมตามมาจากฐานบัญชาการชีลด์ด้านบน
เนื่องจากอยู่ด้านล่างของยานเซเฟอร์จึงไม่แน่ใจนักว่าแรงระเบิดนั้นมากขนาดไหน
และมีใครติดอยู่ในชั้นนั้นบ้าง ทำเอาเธอกังวลไม่น้อย
สคาดิกุมจี้อัญมณีสีฟ้าใสลายจักรวาลไว้แน่น
มันเป็นสร้อยที่บิดาของเธอ--ธีอาสซีสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ
...มันเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนความทรงจำดีๆที่เธอมี
และให้กำลังใจเธอทุกครั้งที่รู้สึกกลัว หรือไม่มั่นใจ...
ร่างโปร่งร่ายมนตร์สั้นๆขึ้นมาบทหนึ่ง
แสงสีฟ้าอ่อนเรืองขึ้นมาห่อหุ้มตัวแล้วเคลื่อนย้ายพาไปถึงชั้นที่เกิดการระเบิด
เธอมาถึงทันที่จะเห็นหลังเดอะฮัล์คไวๆ
และนาตาชาที่นั่งจุกกุมท้องอยู่บนพื้น
หลังจากที่ตรงเข้าไปช่วยสาวสายลับผมแดงแล้ว
พวกเธอก็พากันไปที่บริเวณกรงขังของโลกิ เนื่องจาก ผอ.นิค
ฟิวรี่ได้แจ้งมาทางเครื่องรับสัญญาณของแบล็ควิโดว์เป็นการด่วนว่ามีผู้บาดเจ็บ
สังหรณ์ของสคาดิเตือนเธอว่าพี่ชายคนกลางน่าจะหนีไปแล้ว
และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ...
ตรงที่เคยมีกรงแบบทนทานอยู่นั้นว่างเปล่า
บนลานหน้ากรงนั้นคือร่างของเจ้าหน้าที่ฟิล
โคลสัน แห่งชีลด์ ซึ่งเธอเคยคุยด้วยสองสามครั้ง
เจ้าหญิงแห่งแอสการ์ดยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้ด้วยรู้ว่าชายคนนี้น่าจะไม่รอด
แต่ก็อดประหลาดใจไม่ได้เมื่อ ผอ.ฟิวรี่สั่งให้นำตัวโคลสันไปทำการรักษา...คืนชีพ?
เห็นแก่นอร์นเถิด...
คนพวกนี้ไม่รู้เลยรึไงว่าเล่นกับอะไรอยู่
การจะกลับมาจากความตายนั้นย่อมเป็นไปได้...
ขอเพียงแค่แลกอะไรบางอย่างไป
มรณทูตก็จะยินยอมให้ชีวิตของคนผู้นั้นกลับมา
ขอแค่มีอะไรให้แลก...ไม่ว่าจะสำคัญน้อยสำคัญมาก
ก็จะต้องเสียไป...โดยที่จะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
กำลังจะเอ่ยปากเตือน
แต่ก็ยั้งคำพูดไว้ทัน
ไม่ควรจะไปยุ่งกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง...
เรื่องของสกูลด์*ก็ให้นางตัดสินใจเองเถิด...
กวาดตามองไปไม่นานจึงค่อยรู้สึกถึงความผิดปกติ
ถ้าโลกิหนีไปได้...เขาต้องออกมาจากกรงนั่นก่อน
แล้วถ้าเขาออกมาแล้ว...
ใครอยู่ในแคปซูลที่เพิ่งถูกส่งลงไปโหม่งพื้นมิดการ์ดนั่นล่ะ?
“ธอร์...”
เร็วกว่าที่คิด สคาดิร้องออกมาเบาๆ
“มีใครเห็นธอร์มั้ย?”
เงียบ...เงียบสนิท
สติของเธอเริ่มแตก
ปากเริ่มตะโกนหาพี่ชาย ความรู้สึกชาวาบแล่นตรงขึ้นมาจากปลายเท้าจนถึงหัวใจ
“ธอร์?...ธอร์!!!!...ธอร์!!!!!!!!
ธอร์ข้าไม่เล่นนะ!!! พี่อยู่ไหน?!!!!!”
จากที่เรียกเสียงดัง...ค่อยๆกลายเป็นเสียงตะโกน...แปรเปลี่ยนกลายเป็นการกรีดร้อง
“แมคธยาสซี...ใจเย็นๆ”
แว่วเสียงท่าน ผอ.ตาเดียว
“อ้อเหรอ?!!!
ลองที่ตกลงไปเป็นพี่ชายของคุณแทนไหมห๊ะท่าน?!!!!!!”
ณ จุดนี้
สคาดิไม่อยากฟังอะไรทั้งสิ้น
พี่ชายของเธอตกลงไป...
ธอร์เป็นอมตะไม่ใช่เหรอ?
โอเค...อันนี้เธอรู้
แต่เป็นอมตะไม่ใช่ว่าจะคงกระพันนะ
เทพก็บาดเจ็บได้เหมือนกัน
ยานเซเฟอร์เองก็อยู่สูงจากพื้นมาก...
ถ้าธอร์เป็นอะไรไป
สคาดิจะไม่ให้อภัยตนเองอีกเลย
TALK WITH FM
และแล้ววววววววว
ตอนใหม่ก็มาาาาา
สวัสดีรีดเดอร์ทุกกกกกกกคนนะคะ
เรื่องราวในพาร์ทสองพาร์ทนี้และในอีกสองสามพาร์ทต่อไปจะดำเนินอยู่ในหนังอเวนเจอร์สภาคแรกนะคะ
พอดีว่าครั้งล่าสุดที่ไรท์ดูอเวนเจอร์สก็คือเมื่อ
3-4 ปีที่แล้วด้วย
ถ้าตกหล่นฉากอะไรในหนังไปบ้าง
ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
ด้วยรักและถุงกาว
เฟิงมี่ค่ะ
>3<
ความคิดเห็น