คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Short Fic. || Only One (Stony) → ᴘᴀʀᴛ 2
Title : Only One
Genre : Short Fiction (2/2)
Author : FengMii
Pairing : Stony
Notes : จะมีใครเยียวยาจิตใจโทนี่ได้บ้างไหมเนี่ยยยยย
ป๋าเฮิร์ทหนักเกินไปแล้วน้าาา
P A R T 2
นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
สามปีที่แล้ว
เสียงหอบหายใจหนักๆดังกังวานไปทั่วห้องที่มีเพียงแต่เสียงหึ่งๆเบาๆของเครื่องปรับอากาศ
ร่างเล็กที่คร่อมอยู่บนตักของอีกคนประกบจูบกับร่างสูงอย่างดูดดื่มในขณะที่มือใหญ่ของคนใต้ร่างลูบไล้จากต้นขาที่ประดับมัดกล้ามน้อยๆขึ้นไปถึงบั้นเอวที่เปลือยเปล่าพลางกดเบาๆให้สะโพกสีแทนบดเบียดเข้าไปใกล้ชิดมากขึ้น
“อือ...แคป”
ชายหนุ่มผิวแทนแหงนหน้าขึ้นเพื่อเปิดมุมให้อีกคนซุกไซ้ตีตราตรงซอกคอได้ถนัดมากขึ้น
ชายหนุ่มผมทองหายใจหนักๆและฟาดมือเข้าไปที่บั้นท้ายตึงแน่นของคนที่อยู่บนร่างจนเขาต้องหลุดเสียงครางออกมา
“อ๊ะ...”
“ฮืมมมม...โทนี่...นายนี่มัน...แน่นชิบ”
เขาครางในลำคอพลางสวนสะโพกขึ้นไป ทำเอาร่างเล็กสะดุ้งเฮือก
“ล-ลึกไปแล้ว...นะ”
โทนี่หอบคราง
รู้สึกราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกดูดหายไปจากร่างจนต้องยึดบ่ากว้างของสตีฟเอาไว้
เขาเบียดสะโพกลงไปเป็นจังหวะ
ส่งผลให้ชายร่างสูงกัดฟันกรอดและยึดเอวของเขาไว้แน่น
“อา...โทนี่...โทนี่...โทนส์”
ชายหนุ่มผิวแทนเจ้าของเกราะเหล็กสีแดงทองขยับเป็นจังหวะเข้ากับสะโพกที่สวนขึ้นมาในจังหวะที่รัวเร็วขึ้นเรื่อยๆของอีกคน
กัปตันอเมริกาดึงคอของเขาเข้ามาจูบแลกลิ้นอย่างล้ำลึกและเนิ่นนานจนโทนี่คิดว่าตนจะขาดใจตายเสียแล้ว
“สตีฟ...อึก...ฉัน...ฉันจะ-”
โทนี่หอบหายใจเฮือก
ร่างสูงคำรามในลำคอและผลักเขาลงไปนอนบนเตียง
ก่อนที่ชายหนุ่มผิวแทนจะทันได้อ้าปากท้วง
ร่างที่เคยอยู่ด้านล่างก็ลงมาคร่อมทับเขาและแยกขาทั้งสองข้างออก
“อ๊ะ...อึก”
โทนี่กำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี่เมื่อสตีฟรุกล้ำเข้ามาอีกครั้ง
ขาเรียวสั่นน้อยๆเมื่อชายหนุ่มขยับเข้าและออกจนไปโดนจุดอ่อนไหวภายใน
เสียงของเตียงขยับดังเอี๊ยดอ๊าดตามจังหวะการบรรเลงเพลงปรารถนาของทั้งสอง
ผ้าปูเตียงถูกกำ ขยำ และจิกจนแทบขาดเพื่อบรรเทาอารมณ์
ร่างสูงขยับสะโพกอย่างแรงๆเน้นๆเป็นรอบสุดท้าย
ก่อนจะครางออกมาเมื่อได้รับการปลดปล่อย กล้ามเนื้อใต้บ่าเกร็งขึ้นมาด้วยความสุขสม
“อา...โทนี่”
“อึก...”
ชายหนุ่มผิวแทนกระตุกเกร็ง รับรู้ได้ถึงของเหลวอุ่นร้อนที่เข้ามาภายในร่าง
สตีฟทิ้งร่างลงไปหาเขา
มือใหญ่ทาบกับมือของคนตัวเล็กพลางสอดประสานนิ้วมือเข้าด้วยกัน
นี่เรามาถึงจุดนี้กันได้ยังไงนะ?
โทนี่ยิ้มบางๆรับเมื่อจมูกโด่งโน้มลงมาซุกไซ้ใบหน้าเบาๆ
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเมื่อทั้งสองเริ่มนั่งดริ๊งก์และคุยกันเล่น
ไม่กี่สัปดาห์หลังจากเกิดเรื่องที่นิวยอร์ก
สตีฟเริ่มมึนและสารภาพรักกับเขา...ยังไงก็ขอย้ำก่อนว่าถึงแม้คุณปู่อายุเกือบแปดสิบนี่จะยังมีสติอยู่
แต่อำนาจของแอลกอฮอล์ก็ไม่สามารถดูเบาได้
และถึงแม้จะรู้อย่างนั้น
โทนี่ก็ยังยอมให้แคปทำตามใจกับร่างกายตัวเองอยู่ดี แถมยังตอบสนองกับสัมผัสของเขาด้วย
ตอนนี้เขารู้สึกเกลียดร่างกายตัวเองมาก
ให้ฟ้าผ่าตายเถอะ
“อือ
พอแล้ว” ชายหนุ่มผิวแทนหันหน้าหนีเมื่อปลายนิ้วของสตีฟเริ่มลูบไล้ไปตามหน้าท้องของเขา
“อีกซักรอบไม่ได้เหรอ?”
เขาส่งสายตาออดอ้อนคล้ายลูกหมา
“นายล่อไปสองรอบแล้วนะ”
โทนี่กรอกตา
“โธ่...นอนก็ได้”
ชายหนุ่มผิวขาวยู่ปากคล้ายเด็กถูกขัดใจแล้วกลิ้งตัวลงมานอนตะแคงข้างกายคนตัวเล็ก
“กู๊ดไนท์นะครับ”
เขายื่นหน้าเข้ามาฉกฉวยจูบที่ริมฝีปากของโทนี่เร็วๆแล้วซุกตัวเข้าไปในผ้านวม
หลับไปอย่างรวดเร็ว
บทจะอึดก็อึดจริง
รังแกเขาไปหลายรอบ บทจะหลับก็หลับสนิท หลับเร็วโคตร
โทนี่ยิ้มและโน้มตัวลงไปจูบแก้มชายหนุ่มผมทอง
“กู๊ดไนท์เช่นกันครับ”
“นายเมานี่?
ตอนนั้นน่ะ...” ชายหนุ่มผิวแทนพยายามห้ามไม่ให้หน้าแดงจนเกินไปเมื่อพบว่าใบหน้าของสตีฟอยู่ใกล้เกินกว่าที่คิดไว้
“ไม่
โทนี่...ฉันไม่ได้เมา” รอยยิ้มบางๆถูกจุดขึ้นบนมุมปากของร่างสูงขณะที่เขาคว้าเบียร์กระป๋องที่เพิ่งเปิดมาแล้วกระดกเข้าปาก
“นายเคยเมาบ้างป่ะเนี่ย?”
คนตัวเล็กขมวดคิ้ว
“หลายครั้งออก”
สตีฟยิ้ม
“ก่อนที่จะเข้าโครงการของชีลด์น่ะ
บัคกี้เคยพาฉันเมาแอ๋เกือบกลับบ้านไม่ถูกไปเกือบสิบรอบ”
ชื่อของวินเทอร์โซลเยอร์ทำให้ชายหนุ่มผมสีเข้มชะงักไป
กัปตันอเมริกาก็คงจะรู้สึกได้
ดวงตาสีฟ้าสวยเบนมามองเข้าทันที
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
“สตีฟ...”
โทนี่เรียกชื่อเขาเบาๆ
“ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย?”
“ถามเลย”
เจ้าของเรือนผมสีทองวางกระป๋องเบียร์ที่ว่างเปล่าลงและขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหันมามองคนตัวเล็กข้างกายได้ถนัดมากขึ้น
ร่างเล็กหันมาสบตากับเขา
ปากบางเม้มเป็นเส้นตรงอย่างชั่งใจ
“นาย...คิดยังไงกับบาร์นส์เหรอ?”
เนื่องจากภายในบาร์นั้นมีแต่ความเงียบ
เสียงลมหายใจที่ขาดห้วงของชายหนุ่มจึงเด่นชัด
คนตัวเล็กเบนสายตากลับไปที่แก้วมาร์การิต้าในมือโดยที่ไม่พูดอะไร
ได้แต่ภาวนาในใจว่าขอให้สตีฟพูดออกมาเถอะ...ขอให้เขาประโยคนั้นออกมา...ได้โปรดเถ-
“ฉันรักเขา...”
สตีฟกล่าวขึ้นมาในที่สุด
เจ้าของฉายาไอรอนแมนถอนหายใจ
ทำไมวันนี้แสบตาจังวะ?
“ใช่...ฉันรักเขา
แต่บัคกี้เป็นเพื่อนของฉัน...แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเขาเคยเป็นรักแรกของฉันด้วย
แต่เรื่องของพวกเรามันจบไปนานแล้วล่ะ”
“ก็...นั่นแหละ...ฉันเคยรักเขา”
สตีฟใช้รูปประโยคอดีต?
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายด้วยความหวัง
“แต่นั่นมันเป็นแค่ความรักของเด็กๆ
ตอนนี้...”
พระเจ้า
เขากำลังจะพูดคำนั้นใช่มั้ย?
“ตอนนี้ฉันอยากบอกนายว่าช่วยหยิบแชมเปญตรงโน้นมาให้หน่อยได้มั้ย?”
โอเค
ถ้าเขาตบหัวกัปตันอมเริกา เขาต้องเจ็บมือมากเลยใช่มั้ยเนี่ย?
สตีฟหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าอยากฆ่าคนของเขา
“โอเคๆ
ไม่แกล้งแล้วๆ”
ชายหนุ่มผมทองปรับสีหน้าเป็นจริงจัง
“โทนี่”
“หืม?”
“ฉันชอบนายนะ
รู้ใช่มั้ย?” ดวงตาสีฟ้าทอประกายด้วยความรู้สึกอันลึกล้ำขณะที่เขามองลึกเข้าไปภายในดวงตาสีเข้มของคนตรงหน้า
“แต่ฉันไม่ได้ชอบนายนะ...”
คำพูดของโทนี่ทำเอาร่างสูงแข็งค้าง
“ฉัน...ฉันรักนาย”
ก่อนที่จะได้ทันพูดอะไรต่อไป
ร่างเล็กก็ถูกดึงจนหลังเข้าไปปะทะกับกำแพง แขนแกร่งทั้งสองข้างของสตีฟถูกยื่นมาปิดทางหนีทั้งหมด
ปลายนิ้วที่สากและอุ่นจากการจับปืนไล้ไปตามสันกรามของเขา
“ฉันก็รักนายเหมือนกัน”
“แต่นายแกล้งฉัน
โทนส์ คนขี้แกล้งต้องโดนลงโทษนะ”
ริมฝีปากอุ่นร้อนประทับลงมาที่ปากบางอีกครั้ง
และอีกครั้ง
ร่างทั้งสองโอบกอดกันและกันแน่นราวกับจะหลอมรวมไปด้วยกัน
โทนี่ผละออกมาและฉีกยิ้มให้อีกฝ่าย
“ลงโทษฉันสิแคป”
สตีฟยิ้มตอบพลางขบเม้มใบหูของร่างเล็กเบาๆ
“คืนนี้อย่าหวังว่าจะได้นอน
โทนี่”
“นี่เราต้องยืนเงียบๆไม่ให้สุ้มให้เสียงจริงๆเหรอ?”
บรูซหันไปป้องปากกระซิบกับนาตาชา
“หรือนายอยากส่งเสียงขึ้นมา
ทำลายโมเม้นท์ติดเรทของแคปและเสี่ยงโดนโทนี่เรียกแขนไอรอนแมนมาใส่แล้วยิงมาที่เราแบบไม่ยั้งล่ะ?”
สายลับสาวกรอกตาก่อนกระซิบขู่กลับด้วยโทนเสียงที่เบาไม่ต่างกัน
ในมือของทั้งสองคือเตกีล่า
และตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่บนระเบียงที่เห็นวิวทุกอย่างภายในบาร์
ทุกอย่างคือรวมถึงสองร่างที่กำลังนัวเนียกันที่มุมห้องด้วย
“ให้ตายสิ
ฉันขอยาดมหน่อย” ชูรีว่าพลางชะโงกลงไปดูด้วยสีหน้าฟินขั้นสุด
“เจ้าหญิง
ท่านไม่ควรมาที่นี่นะ” ด็อกเตอร์ผมหยิกกอดอก
“ไม่ใช่เจ้าหญิง...”
เด็กสาวผิวเข้มส่ายนิ้วไปมาราวกับกำลังสอนเด็กอย่างไรอย่างนั้น
“ราชินีชูรี
และราชินีก็สามารถไปไหนก็ได้ที่อยากไป”
นาตาชาส่งสายตากับแบนเนอร์
ทำไมราชินีคนใหม่ของวากานด้าช่างเอาแต่ใจจริงนะ?
“ฉันขอเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะ”
ราชนิกุลนักวิทย์ฉีกยิ้ม
“ฮะ?”
เดอะฮัลค์หลุดส่งเสียงออกมาด้วยความงง
“คู่โน้นไง
จากการคำนวณความถี่ของการจูบเมื่อกี้แล้ว พวกเขาต้องลงเอยกันแน่ๆ”
ชูรีพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“งั้น...ฉันเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวได้มั้ยเนี่ย?”
หญิงสาวผมสีบลอนด์ซีดเลิกคิ้ว
“เดี๋ยวเราลงไปถามกันดูดีกว่า”
ราชินีน้อยยิ้มอย่างมีเลศนัยพลางบุ้ยใบ้ไปทางกัปตันอเมริกาและไอรอนแมน
บรูซขมวดคิ้วและแสดงสีหน้าปุเลี่ยนๆ
“ได้ถามแน่...ถ้าพวกเขาไม่ลากกันไปต่อในห้องนอนอ่ะนะ”
only
one - End.
TALK
WITH FM
และในที่สุด
ฟิคสั้นวายเรื่องแรกของเราก็จบไปแล้วนะคะ
หวังว่าทุกคนจะชอบเน้อ
จะโดนแบนมั้ยเนี่ย//ตัดฉากเซนเซอร์ที่กะจะใส่ลงไปออกด้วยความกลัว
แต่ก็...อมก
ยังวาบหวิวอยู่ดี ทำไงดีอ่าๆๆ//ร้องไห้หนักมาก
ขอเวลาเราทำใจก่อนจะถูกลากเข้าคุกก่อนนะคะ
ฮรือออ
ด้วยรักและถุงกาวพร้อมกับกุญแจมือ
เฟิงมี่ค่ะ
ความคิดเห็น