[Harry Potter and Everything has changed] OCx? - นิยาย [Harry Potter and Everything has changed] OCx? : Dek-D.com - Writer
×

[Harry Potter and Everything has changed] OCx?

นิสัยชอบช่วยคนอื่นมักทำเธอเดือดร้อน และเธอจะไม่ขอช่วยใครอีก แต่โชคชะตา(หรือดัมเบิลดอร์)จะแกล้ง ทำให้ต้องมาพัวพันกับชะตาแฮร์รี่ แถมด้วยเดรโกจอมปากเสียอีก ขอเป็นตัวประกอบสงบๆไม่ได้หรือไง

ยอดวิวรวม

202,424

ยอดวิวเดือนนี้

312

ยอดวิวรวม


202.42K

ความคิดเห็น


3.61K

คนติดตาม


4.68K
จำนวนตอน : 107 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  30 พ.ค. 66 / 21:53 น.
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น




ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.muggle-v.com/

http://harrypotter.wikia.com/wiki/Main_Page

         ขอแปะรูปที่คมช.มานะคะ สวยงามตาแตกมากค่ะ โดยคุณนาราคนเก่ง @itsmenaraa ค่าาา

         ส่วนรูปเดรโก ขอไรท์เก็บตังค์+คุณนาราคิวว่างนะคะ




Intro



“เธอชอบตัวละครตัวไหนเฟริน่า”   อันนาเพื่อนสนิทของเธอถามอย่างอยากรู้  ดวงตากลมโตสีฟ้าละจากวรรณกรรมแฮร์รี่  พอตเตอร์มาที่เด็กกำพร้าผมสีน้ำตาลสว่าง 

“ขอคิดดูก่อนนะ”   เฟริน่าขมวดคิ้ว  จากที่เธออ่านมาเจ็ดเล่ม  เด็กกำพร้าอย่างเธอด้วยนิสิยชอบช่วยคนอื่นก็ตอบอย่างไม่ลังเล  “แฮร์รี่  พอตเตอร์”  คำตอบของเธอเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากอันนา  “มีอะไรน่าขำอันนา”

“ฉันว่าอยู่แล้วเชียว  แต่ฉันไม่ชอบเขาเลย  หลังๆแฮร์รี่ดูงี่เง่าและเจ้าอารมณ์  สู้เดรโก  มัลฟอยก็ไม่ได้”  คำตอบของอันนาเด็กสาวผมดำทำให้เฟริน่าเพื่อนที่คบกันมาเจ็ดปีเต็มต้องขมวดคิ้ว

“เฮ้!  ได้ยังไง  ใครกันตอนแปดขวบแนะนำให้ฉันรู้จักหนังสือแฮร์รี่  พอตเตอร์  แถมยังพูดชมเจ้าเด็กหัวแผลเป็นให้ฉันฟังไม่ขาด”  เฟริน่าถาม

“ไม่รู้สิ  ถึงเดรโกจะปากเสีย  แต่ฉันว่าเขาก็น่ารักดีนะ”  อันนาพลิกหนังสือเล่มหนา  เธอจ้องมองตัวหนังสืออย่างหลงใหล   คำพูดของเพื่อนรักทำให้เฟริน่าหัวเราะคิกคัก 



..แต่โชคชะตาเหมือนจะแกล้งเสียอย่างนั้น..  เมื่อเธอถูกเพื่อนรักฆ่าตาย.. 



ฟื้นขึ้นมาอีกทีเธอก็ติดอยู่ในร่างแปดขวบอีกครั้ง  ในบ้านมีกลิ่นกะหล่ำปลีคละคลุ้ง  และหญิงที่ใส่รองเท้าขนสัตว์  แถมเลี้ยงแมวไว้อีกหลายตัว  แต่ยังไม่ทันที่จะได้หายงุนงง  เสียงแหบชราแต่ทรงอำนาจและใจดีก็ทำให้เธอต้องปวดหัวและคิดว่าตัวเองคงฝันไปแน่ๆ

ดัมเบิลดอร์..

ใช่  ดัมเบิลดอร์  พ่อมดที่ยิ่งใหญ่จากวรรณกรรมเรื่องโปรดกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวเล็กตรงมุมห้อง

“สายัณห์สวัสดิ์หนูน้อย”  เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบาย  มุมปากยกยิ้มที่ดูใจดี

“คุณ  เอ่อ  คุณมาที่นี่ได้ยังไง”  เฟริน่าถาม  เธอละสายตาจากมือและแขนที่กลับมาเล็กของเด็กแปดขวบไปที่ชายชราอย่างสงสัย

“ฉันคิดว่า  ฉันควรถามเธอมากกว่านะ  ว่าเธอมาจากไหน”  ดัมเบิลดอร์ถาม  แววตาสีฟ้าใสที่มักฉายประกายหยั่งรู้เสมอ  แต่ในยามนี้กลับมองเธอด้วยความอยากรู้ระคนสนใจ  “การเดินทางด้วยเวทมนต์โบราณ..   เธอทำได้ยังไง”

“หนูเปล่าทำนะคะ”   เธอตอบเขา  เริ่มไม่แน่ใจว่าเธอฝันไปหรือนี่คือเรื่องจริง  ดัมเบิลดอร์จิบชาอีกสักเล็กน้อย  ก่อนจะเอ่ยอย่างเบิกบาน  ราวกับคำตอบของเธอที่ไม่ช่วยให้กระจ่างนั้น  ทำให้เขาได้คำตอบแล้วเสียอย่างนั้น

“งั้นช่วยเล่าช่วงเวลาก่อนที่เธอจะตื่นขึ้น  บางทีฉันอาจช่วยเธอได้  ไม่ๆ  ไม่ต้องลุกจากเตียง”  เขารีบยกมือห้ามเธอ  “ถ้าเธอหิว  บางทีฉันอาจจะบอกมิสซิสฟิกช่วยหาอะไรให้เธอกินก่อนเธอจะเล่าเรื่องทั้งหมด”

 


_________________________________




“ไม่ค่ะ!  หนูไม่ขอเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น  ศาสตราจารย์   ในเมื่อคุณรู้เนื้อเรื่องทั้งหมดแล้ว  หนูขออยู่ห่างๆ”  เฟริน่าค้านเสียงดัง  เมื่อดัมเบิลดอร์เสนอให้เธอช่วยเหลือแฮร์รี่  ใช่  แฮร์รี่  พอตเตอร์  ตัวละครตัวโปรดของเธอ  แต่เธอไม่ขอช่วยใครอีก  ไม่อีกแล้ว..  ถ้าช่วยใครแล้วทำให้ใครหรือตัวเองเดือดร้อน  แถมเธอยังต้องตาย  เพราะการกระทำเหล่านั้น  เธอไม่ขอใจดีช่วยใครอีกตลอดชีวิต  

ดัมเบิลดอร์หัวเราะเสียงค่อย  เหมือนเขาเพิ่งฟังเรื่องขำขันเล็กๆยามบ่าย 

“ก็ได้  ฉันจะไม่บังคับ”  ชายชรายกยิ้ม  ดวงตาสีฟ้าใสฉายประกายบางอย่างที่ทำให้เฟริน่ารู้สึกไม่ไว้วางใจ  เหมือนพ่อมดตรงหน้าจะมีแผนการบางอย่างกับเธอ  เด็กกำพร้าที่อยู่ในร่างแปดขวบหรี่ตามองศาสตราจารย์เคราสีเงิน

“คุณสัญญาแล้วนะคะศาสตราจารย์  ว่าคุณจะไม่บังคับให้หนูเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับแฮร์รี่ทั้งนั้น  ไม่เกี่ยวเลยสักนิดเดียว”  เธอย้ำถามให้แน่ใจ  ดัมเบิลดอร์หยิบคุกกี้ในจานขึ้นมาพินิจ  ก่อนจะใส่ปาก  ชายชราไม่ตอบ  เขาหลับตาลงทำสีหน้าดื่มด่ำกับคุกกี้ที่กำลังละลายอยู่ในปากอย่างสบายใจ   มีเสียงฮึมฮัมเป็นเพลงเบาๆรอดออกมา  และเมื่อเขาลืมตาขึ้น  เขาก็เลื่อนจานคุกกี้ให้เธอ

“เธอน่าจะลองกินดูสักชิ้นนะเฟริน่า  ฉันกล้ายืนยันได้เลยว่าคุกกี้ของมิสซิสฟิกคราวนี้รสชาติกลมกล่อมเข้ากันได้ดีกับชายามบ่ายจริงๆ”  ดวงตาสีฟ้าใสฉายประกายอารมณ์ดีอย่างปิดไม่มิด 

“คุณจะสัญญากับหนูใช่มั้ยคะ  ศาตราจารย์อัสบัส  เพอร์ซิวาล  วูลฟริก  ไบรอัน  ดัมเบิลดอร์”  เด็กหญิงผมสีน้ำตาลสว่างย้ำถามอีกครั้ง  เธอหยิบคุกกี้ขึ้นมาแต่ยังไม่กล้ากินมันเข้า   เพราะกลัวอีกฝ่ายจะเสกอะไรให้เธอกิน  ดัมเบิลดอร์หัวเราะเบาๆ

“ก็ได้  ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่บังคับเธอ”  เขายอมตอบตกลงแต่โดยดี  เฟริน่าผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก  ตอนนี้เธอได้หลักประกันแล้ว   หลักประกันที่ว่าชีวิตที่สองของเธอ   ถึงมันจะบ้ามากที่หลงเข้ามาอยู่ในวรรณกรรมเรื่องโปรด-  จะปลอดภัยจนเธอมีงานทำ  ใช้ชีวิตมักเกิ้ลอย่างสบายๆ   และได้อยู่ห่างจากแฮร์รี่ที่จะทำให้ชีวิตตัวประกอบอย่างเธอเสี่ยงต่อการถูกปลิดทิ้งอย่างง่ายดายให้มากที่สุด 

“เรายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องตกลงกันอีกเรื่อง”  ดัมเบิลดอร์เอ่ยเป็นงานเป็นการมากขึ้น  เฟริน่าขมวดคิ้ว  เธอเห็นชายชรากระดกไม้กายสิทธิ์  เอกสารสองถึงสามแผ่นก็ร่อนเบาๆลงบนโต๊ะ

“มันคืออะไรคะ”   เธอถามอย่างอยากรู้  และเมื่อเธออ่านข้อความบนนั้น  ดวงตาสีฟ้าอมเขียวก็ตวัดขึ้นมามองชายชราตรงหน้า 

“เธอบอกฉันว่าเธออยากใช้ชีวิตมักเกิ้ล  ปกติพวกมักเกิ้ลก็ต้องเรียนเหมือนกัน  พอเรียนจบก็ได้ทำงานในอาชีพที่เธอต้องการ  ฉันแน่ใจว่าเธอคงต้องเริ่มเข้าเรียนเสียตั้งแต่ตอนนี้”  ดัมเบิลดอร์พูด  “ฉันยินดีที่จะอุปการะเธอ  ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ให้ในสิ่งที่ฉันขอก็ตาม”  เขาพูดอย่างใจดีที่ทำให้เฟริน่ารู้สึกละอาย  แต่ในเมื่อเธอเลือกแล้ว  เธอจะไม่ยอมเปลี่ยนใจ

“ขอบคุณค่ะศาสตราจารย์  แต่หนูไม่เปลี่ยนใจหรอกนะคะ”   เธอย้ำอีกครั้งในตอนท้าย  ดัมเบิลดอร์ไม่ตอบอะไร  ดวงตาสีฟ้าใสฉายประกายระยิบระยับบางอย่างระหว่างที่มองเด็กหญิงจดจ่อกับเอกสารการสมัครเข้าเรียนโรงเรียนมักเกิ้ลแห่งหนึ่ง

 



ฉันน่าจะรู้ว่ามันเป็นกับดัก!  เฟริน่าคิดอย่างหงุดหงิด  สายตาของเธอละจากดวงตาสีเขียวใสที่นั่งอยู่หลังห้องเรียน ไปมองทางอื่น

“คุณโพสัน  ที่นั่งข้างคุณพอตเตอร์ยังว่างอยู่  ตรงนั้นจะเป็นที่ประจำของคุณ”  คุณครูแอนเดอสันพูดกับเธออย่างใจดี  เฟริน่าจำใจต้องเดินไปทิ้งตัวลงนั่งโต๊ะตัวนั้น   ตรงที่ที่ใกล้กับเด็กชายผมยุ่งสีดำสวมแว่นกลมซึ่งกำลังมองเธออย่างอยากรู้

“สวัสดี”  เสียงเด็กชายข้างๆเธอทักเสียงค่อย  แต่เมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่ตอบและไม่ได้หันมามอง  เขาจึงไม่กล้าคุยกับเธออีก

 




แฮร์รี่ไม่เข้าใจเด็กผู้หญิงประหลาดที่เพิ่งย้ายมาใหม่เลย  เธอทำราวกับรังเกียจเขา   เธอแสดงออกชัดเจนมากว่าเธอไม่อยากรู้จัก  และแฮร์รี่ก็เรียนรู้ที่จะอยู่เงียบๆ   เขาชินเสียแล้วกับการที่ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อน  สาเหตุหลักๆไม่ใช่เพราะเขาสวมแว่นแตกๆหักๆที่มีสล๊อตเทปแปะไปทั่ว   แต่สาเหตุที่แท้จริงมาจากดัดลีย์  เดอร์สลีย์  ญาติลูกพี่ลูกน้องของเขาต่างหาก  ใครๆก็กลัวดัดลีย์และแก๊งเด็กเกเรของเขา  ไม่มีเด็กคนไหนอยากมีปัญหา  ทุกคนจึงเลือกที่จะเลี่ยงแฮร์รี่  พอตเตอร์  เด็กชายที่มักเป็นกระสอบทรายและลูกไล่ของดัดลีย์ 

แต่..  เด็กผู้หญิงคนนั้น  คนที่มีผมสีน้ำตาลสว่าง  กับดวงตาสีฟ้าอมเขียว  เธอจะน่ารักกว่านี้มาก  ถ้าเธอไม่ทำสีหน้าเฉยเมยใส่เขา  หรือทำราวกับเขาเป็นธาตุอากาศ  แต่เธอกลับให้เขายืมใช้สีช๊อกในชั่วโมงศิลปะ 

“นายยังคิดว่าตัวเองจะใช้เศษผงพวกนั้นทำงานศิลปะได้หรือไง”  เธอเลื่อนสายตามองกลุ่มเศษสีช๊อกหลายสีป่นรวมกันที่แฮร์รี่หยิบออกมาจากถุง  แน่ล่ะ  ตอนแรกสีช๊อกมันไม่เละแบบนี้  แต่คนที่ทำให้มันกลายเป็นแบบนี้คือดัดลีย์  ลูกพี่ลูกน้องเขาพยายามทำให้พ่อแม่ภูมิใจให้มากที่สุดด้วยการทำให้แฮร์รี่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก  และทันทีที่รู้ว่าวันนี้ในคาบเรียนศิลปะแฮร์รี่ต้องใช้สีช๊อก  ดัดลีย์ก็ไม่ลืมที่จะทำให้มันเป็นผุยผง  เพื่อให้แฮร์รี่ไม่มีงานส่งครู 

เด็กชายผมยุ่งมองเด็กหญิงที่ปกติไม่เคยคุยกับเขาเลยอย่างประหลาดใจ  เขามองสีช๊อกใหม่เอี่ยมที่อีกฝ่ายเลื่อนมาวางบนโต๊ะให้อย่างลังเลใจ  และชำเลืองมองไปที่กระดาษที่เธอยังระบายสีไม่เสร็จ

“เธอไม่ต้องใช้มันหรือไง”  แฮร์รี่ถามอย่างไม่แน่ใจระคนประหม่า  รู้สึกอับอายที่เพื่อนร่วมชั้นมาเห็นสภาพอันย่อยยับของสีช๊อก

“เราแบ่งกันใช้ได้  และคราวหน้าคราวหลัง  หัดเก็บสีช๊อกให้พ้นมืออ้วนๆของเจ้าหมูดัดลีย์ซะ  ถ้านายไม่อยากให้มันอยู่ในสภาพนี้อีก”   คำพูดของเธอทำให้เด็กชายหัวแผลเป็นเบิกตาโต

“เธอรู้ด้วยหรือว่าเป็นเพราะดัดลีย์”  แฮร์รี่แน่ใจว่าเขาไม่ได้บอกใคร  แต่ทำไมเด็กหญิงคนนี้ถึงรู้   เธอไม่ตอบอะไร  แต่หันไประบายสีต่อ  แฮร์รี่กล่าวขอบคุณเบาๆ  และเลิกถามเธอ  ถ้าเขายังอยากมีงานศิลปะส่งครู..

 



ฉันบอกกับตัวเองว่าจะไม่สนใจ  จะไม่มีวันสนใจแฮร์รี่  พอตเตอร์อีก!  ไม่มีวัน!  เธอคิดอย่างรำคาญตัวเอง   แต่เมื่อเห็นเด็กชายร่างผอมที่กำลังถูกดัดลีย์เจ้าเด็กเกเรและผองเพื่อนกำลังรุมอัด  ทำราวกับแฮร์รี่เป็นกระสอบทราย   จากที่คิดว่าจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นและเดินผ่านเลยไป  ในที่สุดสองเท้าเล็กๆของเธอก็ต้องเดินย้อนกลับมาจนได้

“ครูมา!  แย่แล้ว!  ครูกำลังมาทางนี้!”   เสียงตะโกนแหลมเล็กๆของเธอช่วยให้แก๊งเด็กงี่เง่าสมองกลวงรีบพากันหนี  ปล่อยทิ้งร่างผอมแห้งของเด็กชายผมยุ่งสีดำที่ตอนนี้เลือดกำเดาไหลเปรอะหน้ากองอยู่ที่พื้นสนาม  แฮร์รี่พยายามใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดกำเดาที่ยังไหลไม่หยุด  เฟริน่ายัดผ้าเช็ดหน้าใส่มือของเขา  ดวงตาสีเชียวจ้องมองเธออย่างประหลาดใจระคนประหม่า  “นายควรไปห้องพยาบาล”

“แต่-“  แฮร์รี่อึกอัก   เขากำลังจะปฏิเสธ

“ไปกับฉัน  เดี๋ยวนี้!”  เธอดึงข้อมือเขาให้ตามเธอมา

“ไม่ต้องหรอก  ฉันไม่เป็นอะไร”   เขาพยายามรั้งตัวไว้

“ตอนนี้ครูห้องพยาบาลไม่อยู่  นายสบายใจได้  ครูจะไม่รู้เรื่องนี้”  เธอบอกเขา  แฮร์รี่มองเธออย่างประหลาดใจอีกครั้ง  ระหว่างนั้นเขาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดกำเดาที่ยังคงไหลไม่หยุดไปตลอดทาง   และเมื่อเข้าไปในห้องพยาบาล  เฟริน่าก็ปีนขึ้นไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลทันที  

“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉัน   ว่าฉัน-“  แฮร์รี่เริ่มอักอัก   เขายอมปล่อยให้เธอห้ามเลือดกำเดาทันที  เมื่อเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของเธอ

“ฉันรู้ได้ไงว่านายไม่อยากให้พวกครูรู้น่ะหรอ  เฮอะ”   เธอทำเสียงดูถูก  “พวกครูรู้  แต่นายก็ยังเป็นกระสอบทรายมาจนบัดนี้   แค่นี้ฉันก็เดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากที่พวกครูรู้”   เธอพูด  แฮร์รี่มองเธอราวกับเขาไม่เคยเห็นสิ่งอัศจรรย์มาก่อน    “พวกนั้นก็กลับมาเล่นงานนายใหม่  แถมเล่นงานหนักกว่าเดิมด้วย  ฉันพูดถูกรึเปล่า  พวกเด็กเกเรมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ”  

“ขอบใจนะ”   แฮร์รี่จับจมูกตัวเองที่เลือดกำเดาหยุดไหลแล้ว  เขามองตามเด็กหญิงที่ปีนเก้าอี้เก็บกล่องปฐมพยาบาล  เฟริน่าไม่ได้สนใจที่จะตอบเขา   เธออยากรีบไปให้พ้นๆ   ก่อนที่นิสัยชอบช่วยเหลือคนจะทำให้เธอใจอ่อนกับแฮร์รี่อีก   แต่เมื่อมือเล็กๆของเธอแตะลูกบิด  เสียงโพล่งของเด็กชายก็ดังขึ้น   “เรามาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย!”  

เฟริน่าหยุดมือที่กำลังหมุนลูกบิด   เธอหันมามองหน้าเด็กชายแว่นกลมที่ตอนนี้ใบหน้าเริ่มเป็นสีชมพู  เขามองเธออย่างประหม่า  

“ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ   เราเป็นเพื่อนกันได้มั้ย” 

“ทำไมนายถึงอยากเป็นเพื่อนกับฉันล่ะ”   เธอถาม  เฟริน่าอยากรู้จริงๆ  บางทีเธออาจเอาเหตุผลของแฮร์รี่มาชั่งน้ำหนักว่าเธอควรตอบรับมิตรภาพนี้หรือเปล่า  

“ก็เธอใจดี  ถึงเธอจะทำเหมือนว่าเธอไม่ชอบฉัน  แต่จริงๆแล้วเธอใจดี  แล้วฉันก็อยากเป็นเพื่อนกับเธอ”   คำตอบอันใสซื่อกับดวงตาสีเขียวที่รอฟังคำตอบของเธออย่างคาดหวัง   ทำให้หัวใจเฟริน่าอ่อนยวบลงอย่างช้าๆ   เธอยังคงเงียบไม่ตอบ  ใจในกำลังคิดพิจารณาอย่างหนัก

ดัมเบิลดอร์ไม่ได้บังคับเธอเลย  เด็กหญิงคิด    เธอรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าที่กำลังกลืนน้ำลายตัวเอง   เธอสาบานว่าจะไม่ยอมเกี่ยวข้องกับแฮร์รี่  แต่ทุกครั้งเธอก็พาตัวเองมาช่วยเขาจากสถานการณ์แย่ๆเอง   นิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่น  นิสัยที่แก้ไม่หายต่อให้ได้ชีวิตที่สอง   แต่ลึกๆแล้วเธอไม่ยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเธอ   ส่วนหนึ่ง  เป็นเพราะดัมเบิลดอร์สร้างสถานการณ์ให้เธอต้องมาพัวพันต่างหาก   เฟริน่ามั่นใจว่านี่เป็นแผนการของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่และแสนฉลาด   เขาตั้งใจให้เธอมาเรียนที่เดียวกัน  ห้องเดียวกัน  และนั่งข้างแฮร์รี่ชัดๆ   เพื่อให้เธอกลืนน้ำลายตัวเองโดยที่เขาไม่ได้ผิดสัญญาอะไรเลย  

“ก็ได้”   เธอตอบในที่สุด   แฮร์รี่ยิ้มกว้าง   มันเป็นรอยยิ้มของเด็กชายหัวแผลเป็นที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนนับแต่วันแรกที่เธอเข้ามาเรียนที่นี่   เธอคิดว่าเธอทำถูกแล้ว   ทุกอย่างที่เกิดขึ้น  มันก็แค่มิตรภาพในฐานะมักเกิ้ลคนหนึ่ง   เธอไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายไปกับแฮร์รี่ที่ต้องทำลายโวลเดอมอร์  เธอจะไม่ต้องตายเพราะโวลเดอมอร์หรือผู้เสพความตาย  เธอจะมีความสุขที่เรียบง่ายในฐานะเพื่อนมักเกิ้ลคนหนึ่งของแฮร์รี่เท่านั้น  และเธอแน่ใจว่าดัมเบิลดอร์ไม่มีทางที่จะทำให้ชีวิตมักเกิ้ลของเธอต้องพัวพันไปกับแฮร์รี่มากกว่านี้อย่างแน่นอน   


_________________________________________________________________________________________________________


**เรื่องนี้เป็นฟิคที่แต่งขึ้นเพื่อความสุขและความสนุกสนานส่วนตัวเท่านั้น  ไม่ได้ทำเพื่อการค้าแต่อย่างใด  ตัวละครทั้งหมดเป็นของเจเค โรว์ลิ่งแต่เพียงผู้เดียว  นอกจากตัวละคร  OC  บางตัวที่ผู้เขียนสร้างขึ้นมาเอง**   ขอให้ผู้อ่านมีความสุขค่ะ


สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกคน  เปิดอินโทรมาให้อ่าน   เป็นอินโทรที่พยายามให้สั้นที่สุดแล้วนะ  ใครถามหาเดรโก  มัลฟอยนี่ต้องรออ่านในตอนค่ะ  5555   ไม่สามารถเอาเดรโกมาใส่ในอินโทรได้จริงๆ   เขาค่าตัวแพง   ไม่ใช่ละ  ไม่งั้นเนื้อเรื่องมันจะเดาได้ง่าย   บอกไว้ก่อนว่าเนื้อจะตรงตามหนังสือบ้างไม่ตรงบ้างนะคะ   อาศัยจากจินตนาการเพื่อความสุขของคนอ่านค่ะ   ส่วนคาแรกเตอร์ตัวละคร  ไรท์ขอละไม่ใส่รูปภาพประกอบใดๆทั้งสิ้นนะคะ   ตัวละคร  OC  ของไรท์   ขออนุญาตใช้บรรยาย   เพื่อไม่จำกัดขอบเขตการจินตนาการของผู้อ่านทุกคนค่ะ  ส่วนตัวละครเดิมหลักๆ   ทุกคนก็คงเห็นหน้าค่าตากันอยู่แล้ว   เลยไม่รู้จะใส่ทำไมอีก   เอาเป็นว่าจะพยายามขยันอัพบ่อยๆเมื่อมีโอกาสนะคะ   ถ้าไม่ติดงานหรือธุระอะไรซะก่อน   อาจมีดราม่าเล็กๆ  ฟินๆ  หยอดๆแทรกอยู่ในเรื่องแน่นอนค่ะ   แต่คงพัฒนาไปตามอายุของตัวละครแบบค่อยเป็นค่อยไป  ไม่หวือหวาหรือมีฉากติดเรท   อยากให้มันคงเดิมๆไว้   จะพยายามรักษาสำนวนภาษาแบบที่อ่านในอินโทรนะคะ   เพื่อไม่ให้เสียอรรถรสในการอ่าน  ฝากเม้นและกดติดตามกันด้วยนะคะ   อยากรู้ว่าอ่านอินโทรแล้วเป็นยังไงกันบ้าง   ตอนที่ 1  และตอนต่อๆไปจะตามมาในไม่ช้า                                                           

 

T
B

อีบุ๊กในซีรีส์เดียวกัน ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

คำนิยมล่าสุด

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

3,616 ความคิดเห็น