ไม้ถูพื้นหนุ่มอันหนึ่ง ถูกไล่ออกจากบ้านของเจ้าของเก่า เพราะพวกเขาได้ซื้อเจ้าเครื่องดูดฝุ่นมาเป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลความสะอาดแทนมัน
มันเสียใจมาก ออกเดินทางไปเรื่อย จนถึงบ้านของนางฟ้าผู้หนึ่ง
นางฟ้าเห็นมันเข้าจึงได้ถามขึ้นว่า "เจ้าจะเดินทางไปไหนหรือ เจ้าไม้ถูพื้น"
"ข้าหมดประโยชน์แล้ว ข้าทำงานได้ไม่ดีเท่าเครื่องดูดฝุ่น ไม่มีใครต้องการข้าอีก ข้าจะไม่อยู่ที่หมู่บ้านนี้แล้ว"
นางฟ้าได้ฟังก็รู้สึกสงสาร และคิดที่จะช่วยเหลือไม้ถูพื้นหนุ่ม จึงได้เอ่ยปากออกไปว่า
"เจ้าไม่ต้องเสียใจไปหรอก มาอยู่กับข้าก็ได้ ข้าจะมอบหมายงานให้เจ้าทำเอง"
"จริงๆหรือ ท่านเป็นนางฟ้าผู้ใจดีจริงๆ ข้าอยากกลับไปทำงานเป็นผู้ดูแลความสะอาดเหมือนเดิม" ไม้ถูพื้นหนุ่มกล่าวด้วยความยินดี
"ข้าจะมอบหมายให้เจ้าเป็นผู้ดูแลความสะอาดพื้นบ้านของข้า ให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา หากเจ้าหยุดทำงานเมื่อไหร่ ข้าจะเสกให้เจ้ากลายเป็นเศษไม้ในทันที"
ไม้ถูพื้นหนุ่มได้ยินดังนั้นก็รีบรับคำโดยไม่ลังเล "ขอรับ ข้าจะทำงานมิให้ขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว"
พื้นบ้านของนางฟ้าไม่ได้มีเศษขยะและฝุ่นละอองมากมายเช่นบ้านเจ้าของเก่าของมัน จะมีก็แต่เหล่าเม็ดทรายเม็ดเล็กๆ ที่ชอบเข้ามาวิ่งเล่นภายในบ้านเป็นประจำ
สร้างความรำคาญใจให้กับเจ้าไม้ถูพื้นหนุ่มอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเม็ดทรายเหล่านั้นทำให้พื้นบ้านสกปรกอยู่ตลอดเวลา
หากแต่เจ้าไม้ถูพื้นก็ยังไม่ย่อท้อ ยังคงตั้งใจทำงานของมันอย่างขยันขันแข็ง วิ่งไล่กวดเม็ดทรายเล็กๆเหล่านั้นให้ออกจากบ้านจนครบทุกเม็ด และทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน
วันหนึ่ง เจ้าไม้ถูพื้นได้มีโอกาสทำความรู้จักกับเม็ดทรายเม็ดหนึ่ง เม็ดทรายเม็ดนี้เป็นเม็ดทรายที่ร่าเริง แต่บางคราวก็ดื้อรั้น ไม่ยอมเชื่อฟังใครง่ายๆ
หล่อนเพิ่งเข้ามาในบ้านของนางฟ้าเป็นครั้งแรกตามคำบอกเล่าของเพื่อนๆว่ามีไม้ถูพื้นหนุ่มมาเป็นผู้ดูแลบ้านคนใหม่ หลังจากที่ไม้ถูพื้นอันเก่าของนางฟ้าได้ถูกเสกให้กลายเป็นเศษไม้ไป เนื่องจากนิสัยเกียจคร้าน
หล่อนจึงอยากมาดูให้เห็นด้วยตาตัวเองและอยากทำความรู้จักกับไม้ถูพื้นเจ้าระเบียบผู้นี้สักหน่อย
"นั่นเจ้าจะไปไหนน่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ" ไม้ถูพื้นหนุ่มว่า ขณะที่เม็ดทรายสาวกำลังเที่ยวเล่นในบ้านไปทั่วอย่างสบายอารมณ์
"เจ้านี่เองหรอ ไม้ถูพื้นอันใหม่ของนางฟ้า ยินดีที่ได้รู้จักนะ" เจ้าเม็ดทรายตอบกลับไป ด้วยนิสัยที่ชอบผูกมิตรกับทุกคนอยู่แล้ว
"ข้ามีหน้าที่ดูแลความสะอาดของบ้านหลังนี้ และขับไล่พวกเจ้าออกไป" ไม้ถูพื้นหนุ่มกล่าวพลางขยับตัวเข้าไปหมายจะเขี่ยเม็ดทรายเล็กๆเม็ดนั้นให้กระเด็นออกไปให้ไกลที่สุด
"เจ้าไม้ถูพื้นทุเรศ ข้าแค่อยากจะมาเห็นหน้าเจ้า เผื่อเราจะเป็นเพื่อนกันได้ก็เท่านั้น แต่เจ้ากลับทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน"
ไม้ถูพื้นหนุ่มได้ยินเช่นนั้ก็ตกใจเป็นอันมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่เคยมีเม็ดทรายเม็ดไหนที่คิดเห็นกับเขาเช่นนี้มาก่อน นอกจากจะคิดเป็นศัตรูกันเท่านั้น
หากแต่ในใจก็ยังไม่คิดที่จะไว้วางใจอะไรง่ายๆ เพราะความผิดหวังจากเจ้าของเก่า ยังคงคอยตอกย้ำจิตใจ ไม่ให้มันไว้วางใจใครได้อีก
เจ้าไม้ถูพื้นหนุ่มจึงแสร้งทำหยิ่งยโส และไม่ใส่ใจกับคำพูดของเม็ดทรายสาว พร้อมทั้งยังก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
เม็ดทรายสาวแค้นใจในความหยิ่งยโสของไม้ถูพื้นหนุ่มผู้นี้ยิ่งนัก หล่อนจะต้องสั่งสอนเจ้าไม้ถูพื้นให้สำนึกให้จงได้
วันรุ่งขึ้น หล่อนได้เข้าไปเดินเล่นในบ้านนั้นอีก แม้ว่าเหล่าเพื่อนพ้องของหล่อนจะต่างพากันหน่ายหนีกันไปทีละเม็ดสองเม็ด ด้วยทนนิสัยของเจ้าไม้ถูพื้นผู้นี้มิได้
จนวันหนึ่ง เพื่อนของหล่อนก็ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปในบ้านของนางฟ้าอีก คงเหลือแต่หล่อนเพียงผู้เดียวที่ยังคงวนเวียนเข้าออกให้เจ้าไม้ถูพื้นได้มีงานทำอยู่ทุกวัน และแทบจะทุกเวลา
จนเจ้าไม้ถูพื้นอดสงสัยในการกระทำของหล่อนไม่ได้ จึงได้เอ่ยถามขึ้นว่า "ทำไมเจ้าถึงยังจะดันทุรังเข้ามาในบ้านหลังนี้อยู่ได้ เจ้าเม็ดทรายไร้ค่า เจ้าจงไปที่อื่นตามเพื่อนของเจ้าได้แล้ว ข้าไม่อยากจะมายุ่งวุ่นวายเพราะเจ้านักหรอกนะ"
"เจ้านี่ช่างไม่เห็นความสำคัญของคนอื่นเลยจริงๆนะ เจ้าไม้ถูพื้น การที่เจ้าได้มีงานทำอยู่ทุกวันนี้มิใช่เพราะข้าหรอกหรือ นี่หากข้าไม่เข้ามาที่บ้านนี้ทุกวัน ป่านนี้เจ้าคงจะกลายเป็นเศษไม้ไปแล้วเป็นแน่แท้"
เจ้าไม้ถูพื้นได้ฟังคำพูดของเม็ดทรายก็ยิ่งฉงน เพราะลืมคิดถึงข้อตกลงที่ได้ให้กับนางฟ้าเอาไว้ ว่าหากมันหยุดทำงานเมื่อไร มันก็จะถูกเสกให้กลายเป็นเศษไม้ในทันที
แต่ความรั้นในสมองก็ยังสั่งให้มันพูดออกไปว่า "ข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเม็ดทรายไร้ค่าอย่างเจ้าหรอก ถึงไม่มีพวกเจ้า ข้าก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอันใดเลย"
"ตรองดูเถิด เจ้ากล่าวหาว่าคนอื่นไร้ค่า แล้วตัวเจ้าล่ะ หากมิได้ทำหน้าที่ถูพื้นแล้ว เจ้าจะยังมีค่าอันใดอีกเล่า ข้าเองหากมิได้มัวเที่ยวเล่นอยู่เช่นนี้ ข้าคงได้ไปยู่ในแก้วเจียระไนเฉกเช่นเพื่อนอีกนับแสนของข้าไปแล้ว
หากแต่นี่ข้ามัวแต่เป็นห่วงว่าเพื่อนที่ไม่เคยเห็นข้าเป็นเพื่อนอย่างเจ้าจะต้องกลายเป็นเศษไม้ไปอย่างเจ้าไม้ถูพื้นอวดดีอันเก่า ข้าจึงได้มาให้เจ้ารำคาญใจอยู่เช่นนี้ จงทำใจให้สบายเถิด ต่อไปข้าจะไม่ก้าวก่ายชีวิตเจ้าอีก
หากเจ้าต้องการเป็นเพียงเศษไม้แล้วไซร้ ข้าก็คงจะไม่มีอำนาจใดไปห้ามได้ ลาก่อน เจ้าไม้ถูพื้นที่มิเคยเห็นคุณค่าของข้า"
พูดได้ดังนั้นแล้วเจ้าเม็ดทรายก็หันหลังจากไป ทิ้งให้เจ้าไม้ถูพื้นได้ไตร่ตรองถึงประโยคอันยาวเหยียดที่มันได้ทิ้งเอาไว้ให้
แต่กว่าที่เจ้าไม้ถูพื้นจะคิดได้และร้องเรียกเจ้าเม็ดทรายให้กลับมาหาตนนั้นก็สายไปเสียแล้ว เจ้าเม็ดทรายหายไปจนลับตาทิ้งไว้เพียงบทเรียนอันเจ็บปวด ซึ่งแม้เจ้าไม้ถูพื้นจะคิดได้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว
เพราะไม่ว่าจะร้องเรียกสักเท่าใด เจ้าเม็ดทรายก็ไม่หวนคืนมาอีก แล้วคุณล่ะ เคยดูถูกเม็ดทรายเม็ดเล็กๆเหล่านั้นบ้างหรือไม่ ชีวิตคนเราก็เปรียบกับการต้องเอาไม้ถูพื้นไล่ถูทำความสะอาดเม็ดทรายหรืออุปสรรคในชีวิตออกไปทุกวัน
หลายคนรำคาญ และบ่นว่าเม็ดทรายเหล่านั้น หากแต่ลืมคิดไปว่า หากไร้ซึ่งเม็ดทรายเหล่านั้น ก็จะไร้ซึ่งบททดสอบที่จะทำห้ชีวิตประสบความสำเร็จต่อไปได้
จงจำไว้ว่า ไม่มีพื้นบ้านของใครที่สะอาดเอี่ยมอ่องตลอดไปหรอก จงหันกลับไปขอโทษเจ้า"เม็ดทราย"เสียเถิด.. "เจ้าไม้ถูพื้นน้อย" ก่อนที่ชีวิตเจ้าจะถูกสาปให้กลายเป็นเพียง"เศษไม้ไร้ค่า"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น