ลำดับตอนที่ #43
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : สะสาง
"พี่วัตรเข้าใจถูกทั้งหมดนั่นแหละค่ะ วีวี่เกลียดมัน มันคือคนที่แย่งพี่วัตรไปจากวีวี่ ถ้าไม่มีมันสักคนพี่วัตรจะต้องรักวีวี่คนเดียว" วิลาวัลย์กล่าวอย่างสติแตกเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่ตนวางเอาไว้พลางโทษชายสองคนที่เธอจ้าง
"เพราะพวกแกสองคนนั่นแหละแผนฉันถึงพังแบบนี้ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้รีบเก็บมันซะก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายพวกแกขัดคำสั่งฉันงั้นก็อย่าอยู่เลย" หญิงสาวขวักปืนออกมาจากระเป๋าสะพายก่อนจะเล็งไปที่ทั้งสองคนแต่พวกมันเอาตัวของเปรมมิกาบังตัวเองเอาไว้
"อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะวีวี่วางปืนลงซะแล้วพี่จะไม่เอาเรื่อง" ชายหนุ่มพยายามเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวทำตามแต่แทนที่เธอจะยอมลดปืนลงกลับยกมันขึ้นมาแล้วหันไปทางเขา
"พี่วัตรไม่ต้องมาพูดหลอกวีวี่ วีวี่ไม่ได้โง่นะยังไงซะวันนี้เรื่องทุกอย่างจะต้องจบนังแป้งมันจะอยู่ร่วมโลกกับวีวี่ไม่ได้ถ้ามีมันก็ไม่มีวีวี่พี่วัตรได้ยินไหม" วิลาวัลย์กล่าวอย่างเจ็บใจแม้แต่ชายหนุ่มที่เธอรักก็ไม่เข้าข้างหรือเห็นใจเธอ
"ไม่หรอกวีวี่อย่าทำแบบนั้น วางปืนลงก่อนนะแล้วเราค่อยคุยกัน" หญิงสาวไม่ยอมทำตามหันกระบอกปืนกลับไปทางเดิมที่มีเปรมมิกาและชายที่ว่าจ้างยืนอยู่ พวกมันก็ยังคงใช้ร่างของเธอเป็นที่กำบังและพลักเธอเข้าหากระบอกปืน หญิงสาวล้มลงในขณะที่วิลาวัลย์เหนี่ยวไกปืนพอดี กระสุนวิ่งผ่านร่างของหญิงสาวอีกคนไปยังร่างของนายทอมจนล้มลงจมกองเลือด ส่วนนายหมีลูกน้องของมันเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดทันทีแต่ก็ช้าไปเสียก่อนเพราะกระสุนอักนัดตามมาติด ๆ พุ่งเข้าที่กลางหลังของมันหลายนัดจนร่างของมันล้มฟุบกับพื้น วิลาวัลย์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เปรมมิกาช็อกกับสิ่งที่ได้เจอจนขยับตัวไม่ได้ ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวอีกคนกำลังเผลอจึงรีบวิ่งไปอุ้มร่างของภรรยาเข้ามาไว้ในอ้อมแขนทันที
"รักกันมากใช่ไหม รักมันมากใช่ไหม" วิลาวัลย์ตะคอกใส่ทั้งคู่เหมือนคนบ้า
"พอเถอะวีวี่ปล่อยเราสองคนไปเถอะพี่จะไม่เอาเรื่องอะไรเธอถ้าเธอยอมปล่อยเราไป" ชายหนุ่มบอกกับเธอพร้อมกับกอดร่างภรรยาสาวไว้อย่างหวงแหน
"ไม่ !!!!!! วีวี่จะไม่มีวันปล่อยมันไปพี่วัตรจะต้องเป็ยของวีวี่คนเดียวเท่านั้นได้ยินไหม พี่วัตรออกมานี่นะอย่าบังคับให้วีวี่ต้องทำแบบนี้" วิลาวัลย์บอกชายที่เธอรักพร้อมกับเข้าไปดึงแขนของเขาออกจากหญิงสาวอีกคน
"พี่วัตรปล่อยมันสิ วีวี่บอกให้ปล่อยมันไงออกมานี่เดี๋ยวนี้นะ" วิลาวัลย์ทั้งดึงทั้งลากอย่างไรชายหนุ่มก็ไม่ยอมขยับออกห่างจากร่างของภรรยา
"ไม่พี่ไม่มีทางปล่อยให้แป้งกับลูกเป็นอะไร ถ้าจะทำอะไรแป้งฆ่าพี่ให้ตายก่อนสิวีวี่ เอาเลยยิงเลย" ชายหนุ่มท้าในขณะที่หญิงสาวอึ้งที่ชายหนุ่มยอมเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเพื่อให้หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
"นี่ถึงขนาดยอมตายแทนมันเลยเหรอคะพี่วัตร ได้ถ้าอยากตายแทนมันมากนัก วีวี่ก็จะให้พี่วัตรตายสมใจแต่วีวี่จะต้องฆ่านังแป้งก่อนพี่วัตรจะได้เห็นมันจมกองเลือดและตายไปต่อหน้าต่อตา ฮ่ะๆๆๆๆ" เสียงแหลมหัวเราะอย่างกับคนบ้าพร้อมเล็งกระบอกปืนมาทางที่ทั้งสองคนกอดกันอยู่ เปรมมิการู้สึกกลัวจับใจกอดสามีไว้แน่นเหมือนต้องการที่พึ่ง
"แป้งพี่ขอโทษนะที่ทำให้แป้งเดือดร้อนแบบนี้พี่นี่มันแย่จริง ๆ เป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องดูแลแป้งกับลูกยังไม่ได้เลย พี่ขอโทษนะ" ภควัตรบอกกับภรรยาอย่างคนที่รู้สึกผิดและสำนึกได้ เสียใจ
"แป้งให้อภัยพี่ได้ไหม หากว่าต่อจากนี้ไม่มีพี่อยู่แล้วแป้งต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ ดูแลลูกของเราเลี้ยงเขาให้ดี ๆ นะ" ชายหนุ่มพูดเหมือนสั่งเสียทำเอาใจของคนฟังกระตุกวูบ ภรรยาสาวส่ายหน้าก่อนจะบอกกับสามีทั้งน้ำตา
"ไม่ค่ะ พี่วัตรต้องไม่เป็นอะไรพี่วัตรต้องอยู่กับแป้งแล้วก็ลูกของเรานะคะ" หญิงสาวบอกกับสามีทั้งน้ำตา
"แป้งให้อภัยพี่ไหม พี่ขอโทษนะที่ทำไม่ดีกับแป้งทำร้ายจิตใจแป้งสารพัด ทำอะไรไม่เคยคิดถึงใจแป้งเลย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาใหภรรยาอย่างเบามือ
"ไม่ค่ะแป้งไม่เคยโกรธพี่วัตรเลย" ภรรยาพูดบอกสามีน้ำตานองหน้า ไม่รู้ว่าเธอทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาชดใช้ในชาตินี้แล้วลูกของเธอซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็คงจะไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกแล้ว วิลาวัลย์เห็นภาพที่ทั้งสองคนกอดกันแน่นเหมือนจะไม่ยอมพรากจากกันแล้วความรู้สึกอิจฉามันก็พุ่งปรี้ดขึ้นมาถึงขีดสุด
"มัวพูดพร่ามกันอยู่นั่นแหละพร้อมจะตายกันแล้วใช่ไหมทั้งสองคน ในเมื่อให้โอกาสแล้วพี่วัตรกลับมองข้ามโอกาสที่วีวี่ให้งั้นพี่วัตรก็ตายไปพร้อมกับมันเลยแล้วกัน ปัง!!!!!!!" เปรมมิกาและภควัตรกอดกันแน่น เสียงปืนที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้นและร่างที่ทรุดตัวลงกับพื้น
"แป้ง เป็นอะไรหรือเปล่า" สามีจับร่างภรรยาพลิกซ้ายขวาดูตามตัวว่ามีบาดแผลหรือไม่
"แป้งไม่เป็นอะไรค่ะ พี่วัตรล่ะคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" หญิงสาวก้มมองสำรวจตามตัวอีกฝ่ายทันที
"โอ๊ยยย !!!!" ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บ แขนซ้ายของเขามีเลือดไหล หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกกอดชายหนุ่มสามีไว้แน่นร้องไห้ปานจะขาดใจ
"ไม่นะ พี่วัตร พี่วัตรต้องไม่เป็นอะไร ถาพี่วัตรเป็นอะไรไปแป้งจะอยู่ยังไงลูกของเราจะอยู่ยังไง"
หญิงสาวร้องไห้กอดสามี เธอหันไปมองหญิงสาวอีกคนก็พบว่าเธอนั่งกุมมือของตัวเองและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เสียงปืนที่ดังก่อนหน้านี้เป็นเสียงปืนที่มาจากกระบอกของเธอเองและของตำรวจที่คุณภัทรบิดาของชายหนุ่มส่งมาทันเวลาพอดีจึงยังไม่มีใครได้รับอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่โดยเฉพาะภควัตร
"แป้ง" เสียงที่อ่อนแรงเรียกเธอ
"ไม่นะคะพี่วัตร พี่วัตรต้องเข้มแข็งนะคะเพื่อลูกของเราไงคะ" หญิงสาวพยายามพูดกับเขาเพื่อไม่ให้เขาหลับก่อนที่รถพยาบาลจะมา ส่วนหญิงสาวอีกคนถูกตำรวจนำตัวส่งโรงพยาบาลพร้อมกับแจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับเธอทันที และรอให้คู่กรณีอย่างเปรมมิกาและภควัตรมาให้ปากคำต่อไป
เพียงไม่นานร่างของชายหนุ่มก็ถูกนำมาส่งโรงพยาบาลทันทีโดยมีภรรยาสาวนั่งมาด้วยไม่ห่าง คุณภัทรและคุณพอฤดีพ่อแม่ของสามีปรี่เข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง
"ตาวัตร อย่าเป็นอะไรนะลูก" คุณพอฤดีร่ำไห้ที่เห็นลูกชายนอนหมดสติและถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน คุณภัทรสามีเข้าไปประคองภรรยาไว้บีบไล่เบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ
"ตาวัตรต้องปลอดภัยคุณเชื่อผมสิ" แล้วท่านทั้งสองก็หันไปมองที่หญิงสาว
"หนูแป้งแม่ดีใจนะที่หนูกับลูกปลอดภัย" เปรมมิกาเข้าไปกราบที่อกของคุณพอฤดีกับคุณภัทรพร้อมกับร้องไห้อย่างรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นแบบนี้
"แป้งกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะที่หนีไปโดยไม่บอกกล่าวแล้วยังเป็นต้นเหตุให้พี่วัตรต้องเจ็บหนักแบบนี้อีก แป้งขอโทษนะคะ"
มารดาสามีเช็ดน้ำตาให้เธออย่างเบามือก่อนจะลูบศรีษะของเธออย่างรักใคร เปรมมิการู้สึกทราบซึ้งที่ท่านทั้งสองให้ความเมตตากับเธอทั้ง ๆ ที่เธอหลอกท่านทั้งสองเรื่องการแต่งงานและการสลับตัวเจ้าสาว สลับตัวเจ้าสาวเธอนึกขึ้นได้เรื่องของอรอุมาจึงสอบถามคุณพอฤดีและคุณภัทรทันที
"คุณพ่อคุณแม่คะแล้วน้องสาวของแป้งล่ะคะ" หญิงสาวถามถึงน้องสาว คุณภัทรกับคุณพอฤดีมองหน้ากันก่อนที่คุณภัทรจะพยักหน้าเป็นเชิงให้ภรรยาพูดความจริงทั้งหมดให้ลูกสะใภ้ฟัง
"คืออย่างนี้ลูก น้องสาวของหนูเขาไม่อยู่แล้วล่ะพ่อกับแม่ให้เงินเขาไปก้อนนึงเพื่อตั้งตัว ความจริงที่เขามาที่นี่ไม่ได้ต้องการที่จะทวงสิทธิ์ของตัวเองคืนหรอกจ่ะ และเขาก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับลูกชายแม่จริง ๆ อย่างที่เคยบอกกับหนูไว้ น้องสาวของหนูเขาต้องการแค่เงินเท่านั้น และตอนนี้พ่อกับแม่ก็ให้เขาไปอยู่กับพ่อแม่ของเขาแล้ว หนูแป้งไม่ต้องกังวลนะ" คุณพอฤดีบอกลูกสะใภ้พลางดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้ง เปรมมิกาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินแต่ความจริงมันก็คือความจริงซึ่งเธอหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอได้แต่หวังว่าน้องสาวของเธอควรจะพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและเป็นอยู่
เวลาผ่านไปร่วม 3 ชั่วโมงที่ทีมแพทย์และพยาบาลสลับกันเข้าออกห้องผ่าตัดจนเมื่อแพทย์คนหนึ่งเดินออกมาจากห้องเพื่อแจ้งข่าวให้กับญาติคนไข้
"พวกคุณคือญาติของคุณภควัตรหรือเปล่าครับผมเป็นแพทย์ที่รักษาคุณภควัตรนะคะ" แพทย์เจ้าของไข้ถามพร้อมกับแนะนำตัวเอง
"ใช่ค่ะ /ใช่ครับ" คุณภัทรและคุณพอฤดีบอก
"ลูกผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ" คุณภัทรถามถึงอาการของลูกชายโดยมีภรรยาและลูกสะใภ้ยืนอยู่ไม่ห่างเพื่อรอฟัง
อาการของชายหนุ่มด้วย
"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ โชคดีนะครับที่กระสุนแค่ถากตรงหัวไหล่ไม่โดนจุดสำคัญ หมอคงต้องให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนเพื่อรอดูว่าแผลติดเชื้อหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรก็กลับบ้านได้ครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ" แพทย์เจ้าของไข้เล่าถึงอาการรวมถึงการรักษาแล้วก็ขอตัวไปทำงานต่อทันที
"โชคดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองจริง ๆ เลยตาวัตรเอ้ยย" คุณพอฤดียกมือไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้ลูกชายของเธอปลอดภัย
"ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วล่ะ มันจะได้รีบมาสะสางเรื่องราวที่ค้างคาให้จบเสียที" คุณพอฤดีทำหน้างง ๆ ก่อนจะถามสามีของเธอทันที
"สะสางเรื่องอะไรเหรอคะคุณ" คุณภัทรยิ้มกริ่มพลางบุ้ยปากไปทางลูกสะใภ้ทำให้คุณพอฤดีหายสงสัยไปเลยทันที คงจะให้ลูกชายรีบมาจัดการปัญหาส่วนตัวเรื่องของเปรมมิกาและลูกว่าจะเอายังไงจะบอกคำว่ารักได้หรือไม่อันนี้ทั้งคุณภัทรและคุณพอฤดีคงต้องลุ้นกันตัวโก่งอีกแล้วสิท่า
"คุณภัทร ฤดีคิดว่าเราคงต้องหาตัวช่วยให้ตาวัตรแล้วล่ะไม่อย่างนั้นไอ้ลูกชายตัวดีของเราไม่ยอมอ้าปากสารภาพออกมาแน่ ๆ " คุณพอฤดีออกความเห็น พร้อมกับหันไปมองทางลูกสะใภ้ที่ยังยืนชะเง้ออยู่หน้าประตูห้องทั้ง ๆ ที่หมอออกมาบอกแล้วว่าชายหนุ่มพ้นขีดอันตรายแล้ว
"อืมม" คุณภัทรพยักหน้าเห็นด้วยอย่างที่ภรรยาบอก
"เอาไงก็เอากัน งานนี้ผมเอาด้วย" ทั้งสองสามีภรรยายิ้มกริ่มเมื่อคิดถึงเรื่องการวางแผนคืนดีให้กับลูกชายและลูกสะใภ้
"เพราะพวกแกสองคนนั่นแหละแผนฉันถึงพังแบบนี้ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้รีบเก็บมันซะก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายพวกแกขัดคำสั่งฉันงั้นก็อย่าอยู่เลย" หญิงสาวขวักปืนออกมาจากระเป๋าสะพายก่อนจะเล็งไปที่ทั้งสองคนแต่พวกมันเอาตัวของเปรมมิกาบังตัวเองเอาไว้
"อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะวีวี่วางปืนลงซะแล้วพี่จะไม่เอาเรื่อง" ชายหนุ่มพยายามเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวทำตามแต่แทนที่เธอจะยอมลดปืนลงกลับยกมันขึ้นมาแล้วหันไปทางเขา
"พี่วัตรไม่ต้องมาพูดหลอกวีวี่ วีวี่ไม่ได้โง่นะยังไงซะวันนี้เรื่องทุกอย่างจะต้องจบนังแป้งมันจะอยู่ร่วมโลกกับวีวี่ไม่ได้ถ้ามีมันก็ไม่มีวีวี่พี่วัตรได้ยินไหม" วิลาวัลย์กล่าวอย่างเจ็บใจแม้แต่ชายหนุ่มที่เธอรักก็ไม่เข้าข้างหรือเห็นใจเธอ
"ไม่หรอกวีวี่อย่าทำแบบนั้น วางปืนลงก่อนนะแล้วเราค่อยคุยกัน" หญิงสาวไม่ยอมทำตามหันกระบอกปืนกลับไปทางเดิมที่มีเปรมมิกาและชายที่ว่าจ้างยืนอยู่ พวกมันก็ยังคงใช้ร่างของเธอเป็นที่กำบังและพลักเธอเข้าหากระบอกปืน หญิงสาวล้มลงในขณะที่วิลาวัลย์เหนี่ยวไกปืนพอดี กระสุนวิ่งผ่านร่างของหญิงสาวอีกคนไปยังร่างของนายทอมจนล้มลงจมกองเลือด ส่วนนายหมีลูกน้องของมันเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดทันทีแต่ก็ช้าไปเสียก่อนเพราะกระสุนอักนัดตามมาติด ๆ พุ่งเข้าที่กลางหลังของมันหลายนัดจนร่างของมันล้มฟุบกับพื้น วิลาวัลย์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เปรมมิกาช็อกกับสิ่งที่ได้เจอจนขยับตัวไม่ได้ ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวอีกคนกำลังเผลอจึงรีบวิ่งไปอุ้มร่างของภรรยาเข้ามาไว้ในอ้อมแขนทันที
"รักกันมากใช่ไหม รักมันมากใช่ไหม" วิลาวัลย์ตะคอกใส่ทั้งคู่เหมือนคนบ้า
"พอเถอะวีวี่ปล่อยเราสองคนไปเถอะพี่จะไม่เอาเรื่องอะไรเธอถ้าเธอยอมปล่อยเราไป" ชายหนุ่มบอกกับเธอพร้อมกับกอดร่างภรรยาสาวไว้อย่างหวงแหน
"ไม่ !!!!!! วีวี่จะไม่มีวันปล่อยมันไปพี่วัตรจะต้องเป็ยของวีวี่คนเดียวเท่านั้นได้ยินไหม พี่วัตรออกมานี่นะอย่าบังคับให้วีวี่ต้องทำแบบนี้" วิลาวัลย์บอกชายที่เธอรักพร้อมกับเข้าไปดึงแขนของเขาออกจากหญิงสาวอีกคน
"พี่วัตรปล่อยมันสิ วีวี่บอกให้ปล่อยมันไงออกมานี่เดี๋ยวนี้นะ" วิลาวัลย์ทั้งดึงทั้งลากอย่างไรชายหนุ่มก็ไม่ยอมขยับออกห่างจากร่างของภรรยา
"ไม่พี่ไม่มีทางปล่อยให้แป้งกับลูกเป็นอะไร ถ้าจะทำอะไรแป้งฆ่าพี่ให้ตายก่อนสิวีวี่ เอาเลยยิงเลย" ชายหนุ่มท้าในขณะที่หญิงสาวอึ้งที่ชายหนุ่มยอมเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเพื่อให้หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
"นี่ถึงขนาดยอมตายแทนมันเลยเหรอคะพี่วัตร ได้ถ้าอยากตายแทนมันมากนัก วีวี่ก็จะให้พี่วัตรตายสมใจแต่วีวี่จะต้องฆ่านังแป้งก่อนพี่วัตรจะได้เห็นมันจมกองเลือดและตายไปต่อหน้าต่อตา ฮ่ะๆๆๆๆ" เสียงแหลมหัวเราะอย่างกับคนบ้าพร้อมเล็งกระบอกปืนมาทางที่ทั้งสองคนกอดกันอยู่ เปรมมิการู้สึกกลัวจับใจกอดสามีไว้แน่นเหมือนต้องการที่พึ่ง
"แป้งพี่ขอโทษนะที่ทำให้แป้งเดือดร้อนแบบนี้พี่นี่มันแย่จริง ๆ เป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องดูแลแป้งกับลูกยังไม่ได้เลย พี่ขอโทษนะ" ภควัตรบอกกับภรรยาอย่างคนที่รู้สึกผิดและสำนึกได้ เสียใจ
"แป้งให้อภัยพี่ได้ไหม หากว่าต่อจากนี้ไม่มีพี่อยู่แล้วแป้งต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ ดูแลลูกของเราเลี้ยงเขาให้ดี ๆ นะ" ชายหนุ่มพูดเหมือนสั่งเสียทำเอาใจของคนฟังกระตุกวูบ ภรรยาสาวส่ายหน้าก่อนจะบอกกับสามีทั้งน้ำตา
"ไม่ค่ะ พี่วัตรต้องไม่เป็นอะไรพี่วัตรต้องอยู่กับแป้งแล้วก็ลูกของเรานะคะ" หญิงสาวบอกกับสามีทั้งน้ำตา
"แป้งให้อภัยพี่ไหม พี่ขอโทษนะที่ทำไม่ดีกับแป้งทำร้ายจิตใจแป้งสารพัด ทำอะไรไม่เคยคิดถึงใจแป้งเลย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาใหภรรยาอย่างเบามือ
"ไม่ค่ะแป้งไม่เคยโกรธพี่วัตรเลย" ภรรยาพูดบอกสามีน้ำตานองหน้า ไม่รู้ว่าเธอทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาชดใช้ในชาตินี้แล้วลูกของเธอซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็คงจะไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกแล้ว วิลาวัลย์เห็นภาพที่ทั้งสองคนกอดกันแน่นเหมือนจะไม่ยอมพรากจากกันแล้วความรู้สึกอิจฉามันก็พุ่งปรี้ดขึ้นมาถึงขีดสุด
"มัวพูดพร่ามกันอยู่นั่นแหละพร้อมจะตายกันแล้วใช่ไหมทั้งสองคน ในเมื่อให้โอกาสแล้วพี่วัตรกลับมองข้ามโอกาสที่วีวี่ให้งั้นพี่วัตรก็ตายไปพร้อมกับมันเลยแล้วกัน ปัง!!!!!!!" เปรมมิกาและภควัตรกอดกันแน่น เสียงปืนที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้นและร่างที่ทรุดตัวลงกับพื้น
"แป้ง เป็นอะไรหรือเปล่า" สามีจับร่างภรรยาพลิกซ้ายขวาดูตามตัวว่ามีบาดแผลหรือไม่
"แป้งไม่เป็นอะไรค่ะ พี่วัตรล่ะคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" หญิงสาวก้มมองสำรวจตามตัวอีกฝ่ายทันที
"โอ๊ยยย !!!!" ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บ แขนซ้ายของเขามีเลือดไหล หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกกอดชายหนุ่มสามีไว้แน่นร้องไห้ปานจะขาดใจ
"ไม่นะ พี่วัตร พี่วัตรต้องไม่เป็นอะไร ถาพี่วัตรเป็นอะไรไปแป้งจะอยู่ยังไงลูกของเราจะอยู่ยังไง"
หญิงสาวร้องไห้กอดสามี เธอหันไปมองหญิงสาวอีกคนก็พบว่าเธอนั่งกุมมือของตัวเองและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เสียงปืนที่ดังก่อนหน้านี้เป็นเสียงปืนที่มาจากกระบอกของเธอเองและของตำรวจที่คุณภัทรบิดาของชายหนุ่มส่งมาทันเวลาพอดีจึงยังไม่มีใครได้รับอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่โดยเฉพาะภควัตร
"แป้ง" เสียงที่อ่อนแรงเรียกเธอ
"ไม่นะคะพี่วัตร พี่วัตรต้องเข้มแข็งนะคะเพื่อลูกของเราไงคะ" หญิงสาวพยายามพูดกับเขาเพื่อไม่ให้เขาหลับก่อนที่รถพยาบาลจะมา ส่วนหญิงสาวอีกคนถูกตำรวจนำตัวส่งโรงพยาบาลพร้อมกับแจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับเธอทันที และรอให้คู่กรณีอย่างเปรมมิกาและภควัตรมาให้ปากคำต่อไป
เพียงไม่นานร่างของชายหนุ่มก็ถูกนำมาส่งโรงพยาบาลทันทีโดยมีภรรยาสาวนั่งมาด้วยไม่ห่าง คุณภัทรและคุณพอฤดีพ่อแม่ของสามีปรี่เข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง
"ตาวัตร อย่าเป็นอะไรนะลูก" คุณพอฤดีร่ำไห้ที่เห็นลูกชายนอนหมดสติและถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน คุณภัทรสามีเข้าไปประคองภรรยาไว้บีบไล่เบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ
"ตาวัตรต้องปลอดภัยคุณเชื่อผมสิ" แล้วท่านทั้งสองก็หันไปมองที่หญิงสาว
"หนูแป้งแม่ดีใจนะที่หนูกับลูกปลอดภัย" เปรมมิกาเข้าไปกราบที่อกของคุณพอฤดีกับคุณภัทรพร้อมกับร้องไห้อย่างรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นแบบนี้
"แป้งกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะที่หนีไปโดยไม่บอกกล่าวแล้วยังเป็นต้นเหตุให้พี่วัตรต้องเจ็บหนักแบบนี้อีก แป้งขอโทษนะคะ"
มารดาสามีเช็ดน้ำตาให้เธออย่างเบามือก่อนจะลูบศรีษะของเธออย่างรักใคร เปรมมิการู้สึกทราบซึ้งที่ท่านทั้งสองให้ความเมตตากับเธอทั้ง ๆ ที่เธอหลอกท่านทั้งสองเรื่องการแต่งงานและการสลับตัวเจ้าสาว สลับตัวเจ้าสาวเธอนึกขึ้นได้เรื่องของอรอุมาจึงสอบถามคุณพอฤดีและคุณภัทรทันที
"คุณพ่อคุณแม่คะแล้วน้องสาวของแป้งล่ะคะ" หญิงสาวถามถึงน้องสาว คุณภัทรกับคุณพอฤดีมองหน้ากันก่อนที่คุณภัทรจะพยักหน้าเป็นเชิงให้ภรรยาพูดความจริงทั้งหมดให้ลูกสะใภ้ฟัง
"คืออย่างนี้ลูก น้องสาวของหนูเขาไม่อยู่แล้วล่ะพ่อกับแม่ให้เงินเขาไปก้อนนึงเพื่อตั้งตัว ความจริงที่เขามาที่นี่ไม่ได้ต้องการที่จะทวงสิทธิ์ของตัวเองคืนหรอกจ่ะ และเขาก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับลูกชายแม่จริง ๆ อย่างที่เคยบอกกับหนูไว้ น้องสาวของหนูเขาต้องการแค่เงินเท่านั้น และตอนนี้พ่อกับแม่ก็ให้เขาไปอยู่กับพ่อแม่ของเขาแล้ว หนูแป้งไม่ต้องกังวลนะ" คุณพอฤดีบอกลูกสะใภ้พลางดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้ง เปรมมิกาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินแต่ความจริงมันก็คือความจริงซึ่งเธอหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอได้แต่หวังว่าน้องสาวของเธอควรจะพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและเป็นอยู่
เวลาผ่านไปร่วม 3 ชั่วโมงที่ทีมแพทย์และพยาบาลสลับกันเข้าออกห้องผ่าตัดจนเมื่อแพทย์คนหนึ่งเดินออกมาจากห้องเพื่อแจ้งข่าวให้กับญาติคนไข้
"พวกคุณคือญาติของคุณภควัตรหรือเปล่าครับผมเป็นแพทย์ที่รักษาคุณภควัตรนะคะ" แพทย์เจ้าของไข้ถามพร้อมกับแนะนำตัวเอง
"ใช่ค่ะ /ใช่ครับ" คุณภัทรและคุณพอฤดีบอก
"ลูกผมเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ" คุณภัทรถามถึงอาการของลูกชายโดยมีภรรยาและลูกสะใภ้ยืนอยู่ไม่ห่างเพื่อรอฟัง
อาการของชายหนุ่มด้วย
"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ โชคดีนะครับที่กระสุนแค่ถากตรงหัวไหล่ไม่โดนจุดสำคัญ หมอคงต้องให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนเพื่อรอดูว่าแผลติดเชื้อหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรก็กลับบ้านได้ครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ" แพทย์เจ้าของไข้เล่าถึงอาการรวมถึงการรักษาแล้วก็ขอตัวไปทำงานต่อทันที
"โชคดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองจริง ๆ เลยตาวัตรเอ้ยย" คุณพอฤดียกมือไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้ลูกชายของเธอปลอดภัย
"ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วล่ะ มันจะได้รีบมาสะสางเรื่องราวที่ค้างคาให้จบเสียที" คุณพอฤดีทำหน้างง ๆ ก่อนจะถามสามีของเธอทันที
"สะสางเรื่องอะไรเหรอคะคุณ" คุณภัทรยิ้มกริ่มพลางบุ้ยปากไปทางลูกสะใภ้ทำให้คุณพอฤดีหายสงสัยไปเลยทันที คงจะให้ลูกชายรีบมาจัดการปัญหาส่วนตัวเรื่องของเปรมมิกาและลูกว่าจะเอายังไงจะบอกคำว่ารักได้หรือไม่อันนี้ทั้งคุณภัทรและคุณพอฤดีคงต้องลุ้นกันตัวโก่งอีกแล้วสิท่า
"คุณภัทร ฤดีคิดว่าเราคงต้องหาตัวช่วยให้ตาวัตรแล้วล่ะไม่อย่างนั้นไอ้ลูกชายตัวดีของเราไม่ยอมอ้าปากสารภาพออกมาแน่ ๆ " คุณพอฤดีออกความเห็น พร้อมกับหันไปมองทางลูกสะใภ้ที่ยังยืนชะเง้ออยู่หน้าประตูห้องทั้ง ๆ ที่หมอออกมาบอกแล้วว่าชายหนุ่มพ้นขีดอันตรายแล้ว
"อืมม" คุณภัทรพยักหน้าเห็นด้วยอย่างที่ภรรยาบอก
"เอาไงก็เอากัน งานนี้ผมเอาด้วย" ทั้งสองสามีภรรยายิ้มกริ่มเมื่อคิดถึงเรื่องการวางแผนคืนดีให้กับลูกชายและลูกสะใภ้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น