นางฟ้าสลำ - นิยาย นางฟ้าสลำ : Dek-D.com - Writer
×

    นางฟ้าสลำ

    นารินทร์หญิงสาวผู้กำพราแม่ และโดนพ่อแท้ๆทำร้ายมาตลอด เมื่อวันหนึ่งเธอได้โดนพ่อตัวเอาจับตัวไปขายให้แม่เล่า แทนที่จะตื่นขึ้นมาแล้วเจอที่โทรมๆแต่เธอดันเจอกับภาคินชายหนุ่มแปลกหน้าที่พูดจาดูถูกเธอ

    ผู้เข้าชมรวม

    72

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    72

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 มี.ค. 58 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      ตุบ!

                               ร่างบางของหญิงสาวถูกโยนลงบนโต๊ะ ท้ามกลางความมืดสลัวสายตาของคนที่ลงมือยังคงจับจ้องร่างเธอราวกับ   เป็นเหยื่อที่ยากจะปล่อยไป

                      “คุณจะทำอะไร”

                      แม้จะรู้ว่าเป็นรองอยู่เต็มประตูหญิงสาวก็ยังพยายามพูดให้สติของคนที่อยู่ตรงหน้ากลับคืนมา แต่คำพูดนั้นไม่แม้แต่จะส่งไปถึงหูของเขาด้วยซ้ำ ชายหนุ่มขยับเข้ามาขวางการหนีของหญิงสาว มือข้างหนึ่งของเขารวบแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้ ส่วนมืออีกข้างจับขาของคนข้างล่างให้แยกออกแล้วแทรกตัวเขาเข้าไปเพื่อไม่ให้คนข้างล่างหนีเขาได้

                      “ฉันอุตส่าห์ทำดีกับเธอแล้วนะ”

                      ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวพร้อมกับการลงโทษหญิงสาวด้วยปลายลิ้นชื้น แล้วเพิ่มระดับความเสียวซ่าน  ด้วยการดูดที่ลำคอของหญิงสาวจนเกิดรอยแดง

                      “อะ อ่า...

                      หญิงสาวครางออกมาโดยไม่รู้ตัว เสียงใสๆนั่นยิ่งทำให้คนข้างบนออกแรงมากขึ้น

                       “ชอบสินะ”

                      ชายหนุ่มหยุดการจัดการกับคอเรียว แล้วหันมาจัดการกับริมฝีปากบาง ความหวานที่ได้จากปากบางนั่นช่างหอมหวานยิ่งกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้เสียอีก  การที่เขาอดกลั่นความปรารถนาที่มีต่อหญิงสาวไว้จนป่านนี้ถือว่าเกินความคาดหมาย 

                       “ปะ..ปล่อยนะ...คุณไม่มีสิทธิ์”

                      หญิงสาวสะบัดหน้าหนีจากการรุกรานของเรียวปากที่ลวงล้ำเข้ามา

                       “จะเป็นไปได้ยังไง...ในเมื่อฉันเป็นคนซื้อเธอมา”

                     ชายหนุ่มมองร่างสวยด้วยสายตาราวกับเสือที่จ้องมองเหยื่ออันโอชะ เธอกล้ามากที่สะบัดหน้าหนีจูบเขา นิสัยดื้อรั้นของหญิงสาวมันขัดอารมณ์เขาสิ้นดี!

                       “มากกว่านี้...ฉันก็มีสิทธิ์”

                            ชายหนุ่มใช้มือที่ว่างเริ่มลงมือกระชากเสื้อของหญิงสาวออกอย่างไม่ปรานี เผยให้เห็นชั้นในสีดำที่มีเนื้อขาวนวลล้นออกมา มันช่างกระตุ้นความต้องการของเขาจนไม่อาจจะระความสนใจในร่างนั้นได้ ชายหนุ่มใช้มือดันชั้นในนั้นขึ้น แล้วก้มลงเลียที่ยอดอกของหญิงสาวอย่างห้ามใจไม่ได้ คนข้างล่างได้แต่บิดไปมาด้วยความเสียวซ่าน เหงื่อเริ่มรินไหลออกมามากขึ้นเพราะความร้อนที่แผ่ออกมาออกมาจากคนด้านบนบวกกับห้องที่อบอ้าว

                      “ได้โปรดหยุดเถอะ”

                     ในเมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้หญิงสาวก็พยายามใช้ไม้อ่อน เพื่อไม่ให้คนข้างบนเดือดไปกว่านี้

                      “หึ”

                      ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล แถมคนด้านบนก็เริ่มรุกรานมากขึ้น ชายหนุ่มหันมาปลดเสื้อของตนเองบ้าง

                      “หยุดนะ..หยุดเถอะ”

                     ท่าไม่ดีแล้ว หญิงสาวเริ่มดิ้น จนมือทั้งสองข้างที่ถูกคนตัวใหญ่จับกุมเริ่มคลายออก

                      “ฤทธิ์เยอะนักนะ”

                          ชายหนุ่มออกแรงกดข้อมือบางจนคนข้างล่างน้ำตาซึม 

                     ชายหนุ่มเลิกกระโปรงสีหวานของหญิงสาวขึ้น เขามองเรียวขาขาวที่ถูกเขาอ้าออกไปจนถึงต้นขาที่ให้สัมผัสนิ่มนวลและเขาก็สัมผัสไปถึงส่วนที่อยู่สูงกว่านั้น ชายหนุ่มกระชากปราการสุดท้ายของหญิงสาวออกแล้วใช้มือเคล้นคลึงความเป็นหญิงของเธออย่างรุ่นแรง เขาไม่สนว่าหญิงสาวจะเป็นอย่างไร อารมณ์ของเขาตอนนี้มันอยากจะฉีกคนด้านล่างออกเป็นชิ้นๆ ทั้งโกรธ โมโห  ปรารถนา อารมณ์มากมายต่างถ่าถมใส่เขาไม่หยุด จะหยุดยังไงล่ะ คงมีแต่หนทางเดียว..คือต้องปลดปล่อยไปกับหญิงสาว ให้หนัมใจ

                      “ยะ..อย่า” หญิงสาวพูดทั้งน้ำตา

                      แต่คงสายเกินไปแล้ว เมื่อหญิงสาวสัมผัสกับความเป็นชายของคนที่อยู่ด้านบน เธอไม่อยากจะคิดเลยถ้าเกิดคนตรงหน้าใส่มันเขาไปตรงส่วนนั้นของเธอมันจะเจ็บขนาดไหน แล้วเธอจะต้องทำยังไงถึงจะหยุดคนตรงหน้าได้

                      “อย่าช้าเหรอ..ได้” 

                      ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะกระแทรกสะโพกยัดความเป็นชายเข้าไปยังจุดอ่อนไหวของหญิงสาวความคับแน่นของช่องทางนั่นตอกรัดเขาจนแทบใจจะขาด เขาขยับสะโพกเร่งจังหวะอย่างป่าเถื่อน โดยไม่สนใจน้ำตาที่เจิ่งนองเต็มหน้าของหญิงสาว เพราะความเจ็บปวดจากส่วนนั้น ราวกับร่างกายกำลังถูกมีดเฉือนเนื้อ ท่ามกลางความมืดชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าส่วนล่างของหญิงสาวกำลังเจิ่งนองไปด้วยเลือดที่ออกมาจากส่วนนั้น

                      “จะ..เจ็บ..หยุดเถอะ..ฉันกลัวแล้ว”

                      หญิงสาวได้แต่มองเขาทั้งน้ำตา ยอมแล้ว ขอแค่ให้เขาหยุด  ความเจ็บที่เขามอบให้มันทรมานหญิงสาวทั้งจิตใจและร่างกาย 

                      “เจ็บสิดี จะได้จำ ว่าอย่าคิดทรยศต่อฉัน”

                            ชายหนุ่มบีบแก้มนิ่มๆหญิงสาวจนเกิดรอยแดง ถ้าเธอไม่ได้ไปมีความสัมพันธ์กับศัตรูเขา ทั้งที่เขาเห็นเจ้าหล่อนกับมันอยู่ด้วยกันในห้องในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวแล้วจะให้เขาคิดยังไงถ้าไม่ใช่มั่วกัน

                      “ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ”

                      “แค่ยอมรับความผิดของตัวเองมันยากนักรึไง”

                      “ไม่มีวัน ในเมื่อฉันไม่ได้ทำผิด”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -  1 -

     

                         “เอาอีกแล้วนะแก..ไอ้คิน”

                            ชายหนุ่มลดหนังสือลงมองเหล่ตาหน้าศิวาผู้เป็นเพื่อน ที่ตอนนี้กำลังเดือดกับข่าวฉาวเป็นหัวข้อหลัก และคู่ควงสาวคนล่าสุดของศิวา

                      “จะได้รู้ไง..ว่าหล่อนนอกใจแก”

                      ภาคินพูดด้วยท่าทางสบายเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติ ดีเท่าไหร่แล้วที่เขาช่วยให้เพื่อนของเขาตาสว่าง เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงร้ายๆแบบนั้น

                      “ฮือๆ ไอ้บ้าแกเป็นคนพาหลอนเข้าม่านรูดไม่ใช่เหรอ” ใช่อยู่ที่เขาเป็นคนพาหล่อนเข้าม่านรูด และนัดนักข่าวไปแอบถ่ายภาพเขาที่กำลังพาหญิงร้ายเข้าม่านรูด

                      “แต่หล่อนเป็นคนชวนนะ” ถ้าหล่อนไม่เสนอเขาก็ไม่สนองหรอก

                      “แล้ว..แกสองคนเสร็จกันไหม”

                       ศิวาจ้องภาคินเขม็ง ทำราวกับว่าภาคินเป็นผู้ร้ายต้องสงสัย ทางภาคินออกจะลังเลแต่ก็ต้องตอบไปตามความจริงที่เขาดันเผอสนองหล่อนมากเกินไป

                      อืม..แต่ฉันป้องกันสองชั้นเลยนะ..แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก”

                      “ฉันไม่ห่วงแกซักนิด!!!!

                      ศิวาไม่ได้โกรธเรื่องที่ภาคินยุ่งกับ(อดีต)ผู้หญิงของเขาหรอก เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าหล่อนคบกับเขาเพื่อเกาะเขาดัง แต่ที่เขาโมโหภาคินที่ชอบทำอะไรที่ไม่ห่วงภาพลักษณ์ของตัวเอง แม้จะรู้ว่าเขาทำงานอยู่เบื้องหลัง แต่สื่อหลายสำนักก็เฝ้าติดตาม ชีวิตประจำวันอยู่ เขาจึงห่วงว่าคนอื่นจะมองภาคินในแง่ลบมากกว่าบวก

                      ภาคินเป็นลูกของเพื่อนพ่อเขา พ่อแม่ของภาคินเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางเรือ  ตอนนั้นภาคินอายุแค่สิบขวบเอง หลังจากนั้นพ่อผมก็รับเขาเข้ามาอยู่ในความปกครอง ถึงตอนแรกผมจะไม่ค่อยชอบภาคินเท่าไหร่ก็เถอะ แต่พอเห็นความสามารถของภาคินแล้ว เขากับรู้สึกนับถือในความสามารถ ตลอดเวลาหลายปีเขาและภาคินเติบโตมาด้วยกัน ปัจจุบันเขาเป็นผู้บริหารของบริษัทอาหารสดแช่แข็ง บริษัทผลิตรถยนต์สปอร์ตรายใหญ่ และ เป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของห้างชื่อดัง โดยมีภาคินเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกอย่าง

    5

                            “ผู้หญิงแบบนั้นแกไปหาซื้อตามซ่องก็ได้นิ”

                      ภาคินพูดพร้อมกับเลื่อนหนังสือขึ้นมาบังแสงที่กำลังรบกวนการพักผ่อนของเขา  เมื่อคืนกว่าจะเคลียร์งานเสร็จ และอะไรหลายอย่างที่ควรจะเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร แต่คนอย่างศิวา แต่เจ้าตัวกลับโยนมาให้เขาจัดการซะนี่(เพียรจิตชะมัด)

                      “แกอย่าเมินฉันสิ!!

                      ศิวาพยายามเรียกร้องความสนใจ

                      ปัง!

                      “พี่คิน คุณพ่อท่านเรียกน่ะ” 

                      ศิวัตท์หนุ่มแว่นมาดขรึมซึ่งมีอาชีพที่เป็นสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ แต่ช่วงนี้ค่อนข้างว่างก็เลยมาช่วยงานที่บริษัทแทน น้องชายของศิวาเปิดประตูเข้ามาขัดขวางบทสนทนาของพี่ชายทั้งสอง

                      “คุณลุงกลับมาแล้วเหรอ”

                            ภาคินลุกยืนเต็มตัว บิดขี้เกียจไปมา เสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมบนออกสามเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกกำยำที่ทำให้หญิงหลายคนต่างหลงใหล แม้แต่ชายด้วยกันยังอิจฉา

                      “เรื่องอะไรอีกนะ ตาแก่นั่น”

                      ภาคินเซ็ตผมและจัดการแต่งตัวให้เข้าที่ แล้วเดินออกจากห้องทำงานของตน ไปยังห้องประชุมใหญ่

           

                      ห้องประชุม

                            ภายในห้องประชุมปรากฏเพียงชายที่ผมบนศีรษะเริ่มเป็นสีดอกเกือบเต็มหัว  แม้เห็นแค่เพียงแผ่นหลังเขาก็รู้ว่าความน่าเกร็งขามมิได้ลดลงเลย แม้อายุจะเพิ่มขึ้น

                      “มาแล้วเหรอจ้ะ ที่รากกกก”

                      ศิวพงค์วิ่งเข้าไปกอดหลานรักแทบจะฝังร่างเข้าไปในตัวภาคิน(ผมนี่ขนลุกเลย)

                      “พอเถอะครับลุง”

                            ภาคินแกะตัวศิวพงค์ที่เหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้างออก  ภาคินอยากให้คนอื่นเห็นลุงเขาในเวลานี้จริงๆ ชายที่ใครๆต่างก็กลัว สัตว์ร้ายที่ใครๆต่างก็เล่าขาน อีกด้านนิสัยยังกะเด็ก

                      “มีอะไรจะใช้ผมอีกล่ะ”

                      ศิวพงค์ผละออกจากตัวของภาคิน  แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ประธาน  เสือเฒ่าอย่างเขากะว่าจะหาความสุขในบั้นปลายชีวิตซะหน่อยแต่ดันมีงานเข้าซะงั้น

                      “เดาได้เยี่ยม..ลุงอยากให้แกไปรับของให้หน่อย”

                      “ที่ไหนครับ”

                      “ซ่อง”

     

                      อีกด้านหนึ่ง.......

                      “จะไปตายที่ไหนก็ไป!!!

                            หญิงสาวกระโดดหลบขวดเหล้าที่ผู้เป็นพ่อโยนใส่ หลายครั้งแล้วที่เป็นอย่างนี้ ตั้งแต่เด็กเธอกับแม่ถูกทำร้ายโดยชายขี้เมามาตลอด พอแม่ตายเธอก็ยิ่งโดนทำร้ายมากกว่าเดิม เธอต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเพื่อจ่ายค่าเช่าบ้านที่เทียบเท่ารังหนูแล้วยังต้องเลี้ยงพ่อขี้เมาที่เอาแต่เมาไปวันๆ

                      “พ่อพอเถอะ..เลิกดื่มได้แล้ว”

                      เธอพยายามเข้าไปขอขวดเหล้าจากมือของพ่อดีๆ  แต่พ่อของกลับฟาดขวดใส่แขนเรียวของเธออย่างแรง น้อยคนนักที่จะทนอยู่กับพ่อแบบนี้ เพราะการปลูกฝังที่ดีของแม่ จึงทำให้เธอเป็นคนที่รู้จักคุณคน อย่างน้อยพ่อก็เป็นผู้ให้กำเนิด

                      “แกเอาเงินมาให้ฉันเดียวนี้!!

                      “พ่อ..รินทร์ไม่มีหรอกนะ”

                      “แกทำงานอยู่ใช่มั้ย..ไปเอาเงินเดือนมาสิ”

                      “พ่อ....”

                      ผัวะ!!  เพล็ง!!

                      หน้าผากของหญิงสาวปรากฏโลหิตสีแดงสดไหลออกมา  ปากแผลที่ถูกเปิดด้วยขวดเหล้าไม่ได้ทำให้เจ็บไปมากกว่าจิตใจ  ที่พ่อแท้ๆตนเป็นคนทำลาย หลายครั้งที่ต้องเจ็บตัว แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เธอจะไม่เจ็บที่ใจ เธอควักเงินในกระเป๋าวางลงที่พื้น พ่อขี้เมาเห็นเงินวางอยู่ก็รีบคานเข้ามาเอาเงินราวกับหมาตัวหนึ่ง เธอระอายเหลือเกิน แม้มีหลายครั้งที่โดยแบบนี้ แต่ครั้งนี้มันหนักเกินไปแล้ว ไม่มีแล้วความอดทน จบสิ้นกันซักที!!       

                      หญิงสาวทนมองภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้  จึงตัดสินวิ่งหนีออกไป  ในใจก็ยังคงเจ็บ จะมีใครบ้างไหมที่เข้าใจเธอ คุณแม่ที่อยู่บนฟ้าจะรู้ไหมว่าเธอขมขื่นมากแค่ไหน 

                      “ทำไมชีวิตฉันมันถึงน่าสมเพศอย่างนี้”

                      หญิงสาวเดินบนสะพานไม้ท่ามกลางความมืด คงมีแต่ดาวที่เขาจะระบายความในใจได้  ดวงหน้าหวานนั่งเม่อลอย  แม้ยามเศร้าหญิงสาวก็ยังคงดูดียังคงดูดี

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น