ผีสาวกลางวัน 15+(ใช้คำรุนแรง) - ผีสาวกลางวัน 15+(ใช้คำรุนแรง) นิยาย ผีสาวกลางวัน 15+(ใช้คำรุนแรง) : Dek-D.com - Writer

    ผีสาวกลางวัน 15+(ใช้คำรุนแรง)

    โดย AUG-A4

    เป็นเรื่องสั้นๆ ที่ทำให้จิตนการไปไกล(อย่าคิดลึกนะ) เกี่ยวกับชีวิตในโรงเรียน ที่หลายๆ คนมักจะคิดว่าทุกๆ โรงเรียนนั้นมี ผี!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    120

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    120

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ค. 56 / 22:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


    นี่แหละคือความน่ากลัวในจิตใจของมนุษย์


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       

                            ณ โรงเรียนเอกชนที่ไม่ค่อยโด่งดังที่หนึ่ง  ซึ่งผม (ชื่อบอย) เข้ามาเรียนอยู่ที่นั่นได้เกือบจะปีหนึ่งแล้ว ตอนนี้ผมเรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้องที่ 2 ผมมีเพื่อนที่สนิทกันอยู่ ซัก 2 คน คือ ไอ้เนม และ ไอ้ท๊อป พวกเขาเป็นเพื่อนที่พอที่จะร่วมทางกันได้ ไม่ถึงกับขั้นเกเร ก้าวร้าว อย่างมากก็แค่แกล้งๆ กัน

                     ไอ้บอย กูรู้ชื่อพ่อของมึงแล้วนะโว้ย 555+ เหมือนจะชื่อ……^v^          ไอ้เนมหยุดคิดไปนาน ก่อนที่จะส่งยิ้มที่ดูมีเลศนัยมาทางผม

                     ไอ้เนม ถ้ามึงล่อชื่อพ่อกู กูจะล่อสวนคืนนะโว้ย        ผมพูดขึ้นก่อนที่เนมจะพูดสิ่งที่ผมคิดไว้ออกมา

                     โด่~ กูไม่ล่อหรอกน่า 555    

                     =_=’ “

       

      “ แต้นแต่น แต้นแต่น แต่นแตน แต้นแต่น”    เสียงสันญานเตือนที่เหมือนกับเสียงเตือนเข้าเรียน บอกถึงว่าได้เวลาไปรับประทานอาหารแล้ว

                          พอได้เวลาไปรับประทานข้าวกลางวันแล้ว ผมกับพวกเพื่อนๆ ก็ไปทานข้าวที่โรงอาหารกัน และในระหว่างทางที่จะไปทานข้าวที่โรงอาหารนั้น ผมก็ไปสังเกตเห็น ห้องน้ำเก่าๆ อยู่ที่หนึ่ง ห้องน้ำนั้นเป็นห้องน้ำหญิงเก่าและโทรมมากด้วย ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ ยังไม่เคยเห็นคนไหนไปใช้ ห้องน้ำนั้นเลย หรือไม่มีแม้แต่การปรับปรุงซ่อมแซม บูรณะใหม่

                  ผมกะจะถามเพื่อนหลายครั้งแล้ว เรื่องห้องน้ำนั้น แต่ก็ไม่ได้ถามสักที ตอนนี้คิดได้ผมเลยไปถามพวกเพื่อนที่สนิทกัน เรื่องห้องน้ำหญิงเก่านั้น

                       “เออ..ไอ้เนม ไอ้ท๊อป ห้องน้ำนั้นเขาไม่ใช้แล้วหรอวะ?”    ผมถามพร้อมชี้ไปทางห้องน้ำนั่น ด้วยสีหน้าที่งุงงง

                      “ใครมันจะกล้าใช้ ล่ะ เหยื๋อย~”      ไอ้ท๊อปพูดแล้วก็ทำท่ากอดตัวเองแบบหนาวๆ

                      “อ่าวทำไหมวะ?”    ผมถามอีกครั้งด้วย ใบหน้าที่งงเข้าไปใหญ่

                      นี่แกยังไม่รู้เรื่องนี้อีกหรอวะ ไอ้บอย”     ไอ้เนม ทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดประโยคนี้ออกมา

                     “เรื่อง...เรื่องอะไรวะ?”   ในตอนนี้ คำพูดที่สับสนเหล่านี้ ทำไห้ผมเริ่มอยากจะรู้เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับห้องน้ำนั่นมากขึ้น      

                   “ข่าวนี้ออกจะดังไปทั่วทั้งอำเภอ เลยนะ นี้แกไม่รู้จริงๆ เหรอ”     ไอ้เนมทำหน้าซีเรียสขึ้น เมื่อพูดขึ้น

                   “พวกมึงก็เล่ามาหน่อยสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”     

                  “…….”      ทั้งสองต่างก็เงียบ ไม่พูดอะไรตอบ                                                                                                               

                 “นี่ บอกหน่อยสิวะ”    ผมพูดพร้อมเขย่าตัวไอ้เนม

                 “เออ เดี๋ยวบอกกินข้าวก่อน เดี๋ยวมึงฟังแล้วมึงจะกินข้าวไม่ลง 555“     ไอ้เนมตบที่ไหล่ผมเบาๆ ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเป็นตัวเลข   ฟังแล้วน่าหมั่นไส้จริงๆ     แต่มันทำไห้ผมอยากรู้ เรื่องห้องน้ำหญิงเก่านั่น มากขึ้นไปอีก

                 “เร็วๆ ไปเหอะ กูหิวข้าว”     ไอ้ท๊อปบ่นไป ตบท้องไป

              

                           จากนั้นเราสามคนก็เดินไปทานข้าวเที่ยงที่โรงอาหารของโรงเรียน โดยมีท๊อปเดินนำ เพราะมันหิวข้าว

          ผมได้แต่เดินไป แล้วหยุด หันมามองห้องน้ำนั่น ไปมา ด้วยความที่ค้างคาใจ

                         เมื่อมาถึงโรงอาหาร พวกเราก็มาทานอาหารกัน ที่โต๊ะที่จัดอยู่ตรงมุมด้านล่างของโรงอาหาร      อาหารของวันนี้เป็น แกงเขียวหวานที่ กินมาทุกๆ วันศุกร์    วันศุกร์ทีไรได้กินแต่แกงเขียวหวานทุกที      

                   “กูเบื่อแกงเขียวหวาน....งับๆๆ...... ของโรงเรียนแล้วว่ะ...งับๆๆ......”    ไอ้ท๊อปพูดไปกินไปด้วยความหิว ทั้งๆ ที่ตัวเองพูดออกมาว่าเบื่ออาหารในจานข้างหน้าของเขา

                  “555 ไอ้ท๊อปมึงนี้ตลกจริงๆ เลย ใหนมึงบอกว่าเบื่อไง 555”    ไอ้เนมหัวเราะแบบขำกลิ้ง ก่อนจะพูดออกมา

                  “ก็กูหิวนี่หว่า...งับๆๆ”     ไอ้ท๊อปพูดไปกินไป อีกเช่นเคย คงหิวจัด เลยจัดซะหนัก (หนักพุง คิคิ)

                

               เมื่อทุกคนทานอาหารเสร็จแล้ว คนอื่นๆ ในโรงอาหารต่างก็ ทยอยไปกันจนเกิบหมด โรงอาหารในตอนนั้นจึงมีแต่พวกผม และ รุ่นพี่อีกไม่กี่คน จากนั้นผมก็เริ่มเปิดประเด็น เรื่องห้องน้ำหญิงเก่านั้นขึ้น 

                    “เอาล่ะ เล่าเรื่องห้องน้ำนั่น ได้แล้ว”   ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                   “ไอ้ท็อป...มึงเล่าดิ”     ไอ้เนมมองหน้าไอ้ท๊อป สองวินาทีก่อนจะพูดขึ้น

                  “ฟังดีๆล่ะ จะเล่าแล้วนะ.....”

       

                                ในปีพ.ศ.๒๕๕๐ ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ ได้ไม่กี่สัปดาห์ มีเด็กสาวที่เป็นนักเรียนใหม่มัธยมต้น หุ่นดี ใบหน้ารูปวงรี ผิวขาว น่ารัก ซึ่งเป็นที่จับตามองของหนุ่มๆ รุ่นพี่ และรุ่นพี่ผู้หญิงอีกหลายคน ที่ไม่ชอบหน้ากับเขาสักเท่าไหร่ เธอชื่อ วิไลพร หรือ วิลัย วิลัยไม่ยังไม่มีเพื่อนที่สนิท เพราะพึ่งเข้ามาใหม่เรียน เวลาไปไหนมาไหน จึงไปตัวคนเดียวอยู่เสมอ

                       พออยู่มาวันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันศุกร์ ในขณะที่วิลัยกำลังนั่งรับประทานแกงเขียวหวานของทางโรงอาหารที่ทำ ทุกๆ วันศุกร์อยู่นั้น ก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่ชอบขี้หน้าวิลัยพร เดินมาที่โต๊ะที่วิลัยพรนั้นนั่งอยู่

                       “นี่น้อง....” รุ่นพี่คนที่ชื่อ เชอรี่ ทักขึ้น     

                     “ มีอะไรหรอคะ”   วิลัยที่กำลังทานข้าวอยู่นั้น เมื่อได้ยินจึงแหงนหน้าขึ้นมา พร้อมคำถาม

                     “หน้าตาดีนะเราน่ะ ชื่ออะไรเหรอ”  เชอรี่ยิ้มดูมีเลศนัย

                      “วิลัยพร ค่ะ”   วิลัยตอบด้วยความถ่อมตัว

                      “เดี๋ยวตอนเย็นก่อนจะกลับบ้าน น้องวิลัยพรไปหาพี่ที่ห้องน้ำหญิงหน่อยนะ”

                     “แต่ว่า.....”  

                    “ขอบใจมากนะ แล้วอย่าลืมไปล่ะ พี่ไปก่อนนะ”  วิลัยพรยังพูดไม่ทันจบ แต่เชอรี่ก็พูดแทรกเข้ามา โดยไม่ให้วิลัยได้เอ๋ยปากออมาแม้แต่คำเดียว จะนั้นเชอรี่ก็เดินออกไปจากโลงอาหาร พร้อมกับพักพวกสองสามคนของหล่อน

                   

                     เมื่อถึงเวลาตามนัด ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง เหลือแต่วิลัยพรที่ต้องมาหาพวกรุ่นที่นัดเขาไว้ โดยที่อุตส่าห์สละเวลาที่จะช่วยพ่อแม่ขายของ มาให้ทันตามที่นัดไว้ แต่กลับไม่มีใครอยู่เลย แม้กระทั่งนักการภารโลง รอบตัววิลัยพรมีแต่ความเงียบสงัดเท่านั้น เงียบซะจนเหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่บนโลกนี้แล้วนอกจากตัวเขา 

               วิลัยพรคอยอยู่หน้าห้องน้ำหญิงได้ประมาณสี่นาทีกว่า  จากนั้นก็รู้สึกเหมือนมีใครใกล้เข้ามาข้างหลังจากนั้นก็

                “ตุบ!!”       

                เหมือนว่าจะมีของแข็งบางอย่าง กระแทกเข้าที่ศีรษะด้านหลังอย่างแรง แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไป นั้นคือความรู้สึกครั้งสุดท้ายก่อนจะหมดสติไป

                สักพักวิลัยพร ก็ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย ตอนนี้วิลัยพรมองอะไรก็พร่ามัวไปหมด และรู้สึกเจ็บๆ ที่ศีรษะด้านหลัง

                “นี่ เชอรี่จะเอายังไง กับนังนี่ดี จับยัดส้วมเลยดีไหม” ส้มเช้งเพื่อนของเชอรี่พูดขึ้น แต่วิลัยพรได้ยิน

               “ยัดไปก็ไม่ได้ประโยชน์หรอก ลิ่นจี่เอาน้ำกรดที่เตรียมไว้มาให้ฉันซิ” ลิ้นจี่เพื่อนอีคนของเชอรี่ก็ ถือขวดแก้วขนาดไม่เล็กมากออกมา ให้เชอรี่

              “เฮ้ย! ไม่เกินไปหน่อยเหรอแก”  ส้มเช้งพูดด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย สายตาก็มองไปที่ขวดแก้วในมือของเชอรี่

              “เอาให้หน้ามันเละไปเลย !” พูดจบ เชอรี่ก็ยื่นขวดแก้วที่ดูเหมือนขวดยาน้ำสำหรับเด็กในมือ หรือขวดน้ำกรด ยื่นให้ส้มเช้ง

             แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ทุกคนคิด ส้มเช้งราดน้ำกรดไปทั่วใบหน้าสวยๆ ของวิลัยพร จนเหวอะหวะไปหมด และยังกระทืบเข้าที่ท้องของวิลัยพรอย่างแรงอีกหลายที่ วิลัยพรได้แต่นอนดิ้น พลิกตัวไปมา ร้องครวญคราง ด้วยความเจ็บแสบ ทรมาน และ เครียดแค้น จนหมดสติไปอีกครั้ง

           “ฮ่าๆๆๆๆๆ ฮ้า~ ฮ่าๆๆๆๆ”   เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนจะหมดสติไปนั้น เป็นเสียงหัวเราะอันน่าขยะแขยง ของพวกเชอรี่ ที่หัวเราะอย่างสะใจ ในความทุกข์ทน ทรมาน ของวิลัยพร ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของเขา

                    “เฮ้ยดึกแล้วเรากลับกันเหอะ” ลิ้นจี่พูดขึ้น

                    “ก็ดี กลับกันเถอะ”  พูดจบเชอรี่ก็เตะซ้ำอย่างสุดแรงที่ขาน่องของวิลัยพรอีกที

                    “แล้วนังนี่ล่ะ เอายังไงดี” ส้มเช้งพูดชี้ไปที่วิลัยพร ที่นอนโทรม หมดสติอยู่

                    “ปล่อยมันไว้แบบ นั้นแหละ”  พูดจบเชอรี่กับเพื่อนก็เดินจากไปโดยล็อกห้องน้ำไว้           

                

              เมื่อรุ่งเช้า แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่าน ซอกซอนรูเล็กๆ ของห้องน้ำ มากระทบตาของที่แทบจะลืมตาขึ้นไม่ได้ ด้วยฤทธิ์ของน้ำกรด ทำให้วิลัยพรได้สติตื่นขึ้น วิลัยพรไม่สามารถลุกขึ้นได้ เพราะมีอาการเจ็บที่ขาอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะโดนเตะที่ขาอย่างแรง เขาจึงใช้สองแขนคลานมาอยู่ตรงหน้าประตู ด้วยความลำบาก วิลัยพรใช้เวลาเปิดประตูอยู่นาน ประตูกลับล็อกไว้แน่น ไม่สามารถเปิดออกได้ง่ายๆ วิลัยพรจะทั้งทุบทั้งตีอยู่หลายครั้ง ก็ไม่เห็นว่าจะมีท่าทีจะเปิดออกเลยด้วยซ้ำ

                     และน่าสงสารที่ปากของวิลัยพรโดนน้ำกรดลวกจนเละพูด หรือตะโกนก็ไม่ได้ ได้แต่ร้องในลำคอ  แต่ถึงจะร้องเสียงดังยังไงก็ไม่มีใครจะมาช่วยเธอได้ เพราะวันนั้นเป็นวันเสาร์ เป็นวันหยุดที่ทุกคนต่างก็นอนตื่นสายกันทุกคน และทั่วทั้งโรงเรียนก็มีเพียงแค่วิลัยพรอยู่คนเดียว วิลัยพรเห็นสภาพของตัวเองในกระจกถึงกับสะดุ้งแล้วร้องไห้ เพราะคุ้นเคยกับใบหน้าที่เคยสวยใส แต่ตอนนี้กลับ อัปลักษณ์ เสมือนนางปีศาจ ดูไม่ได้  และอีกอย่างวิลัยพรก็คิดเป็นกังวนว่าตอนนี้พ่อแม่ของเขาคงกำลังเป็นห่วงอยู่มากแน่ๆ วิลัยพรร้องให้ด้วยความเครียดแค้น เจ็บปวดทรมาน ในสภาพที่น่าเวทนา เขาสาบานในใจว่า เขาจะต้องทำให้พวกนั้นเป็นหนักยิ่งกว่าเขา.........

                    เมื่อมาถึงวันจันทร์ ก็พบว่าวิลัยพร กลายเป็นศพไปแล้ว ตำรวจสืบหาคนร้ายอยู่นาน จนกระทั่งพวกของเชอรี่ออกมายอมสารภาพ และพวกนั้นก็มีท่าทางเหมือนกลัวอะไรซักอย่างตลอดเวลา และยังเพ้อพูดออกมาอีกว่า

             “มัน มันมาอีกแล้ว!!!”  “มันบอกจะว่าฆ่าพวกเรา!!! กลัวแล้วฉันกลัวแล้ว!!!”    เหมือนพวกหล่อนจะโดนผีหลอกหัวก๋นกันมา และแล้วพวกของเชอรี่ก็ได้ไปรับการฟื้นฟูสภาพจิต   ที่โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยพิเศษ (โรงพยาบาลบ้า)

                และทางโรงเรียนก็ทำพิธีอะไรต่างๆ เสร็จเรียบร้อย แต่ก็ยังมีคนได้ยินเสียงร้องครวญครางเบาๆ ดังมาจากห้องน้ำนั้น

      จนทำให้ไม่มีใครกล้าใช้ห้องน้ำนั้นอีกเลย โรงเรียนจึงสร้างห้องน้ำหญิงขึ้นมาใหม่

       

                    “โห! แม่งขนลุกเลยว่ะ” ผมพูดแล้วกอดตัวเอง ทำเหมือนหนาวๆ

                   “เป็นไงล่ะ เข้าใจแล้วรึยัง ว่าทำไมคนเขาถึงไม่ใช้ห้องน้ำนั้นกันน่ะ” ไอ้ท๊อปพูดทำหน้านิ่งๆ

                   “กูพึ่งรู้นะเนี่ย”

                   “555 ไอ้บอยมึงนี่ไปอยู่ใหนมาวะ 555” ไอ้เนมพูดทั้งๆ ที่หัวเราะอยู่

                   “ก็กูพึ่งย้ายมาจากต่างจังหวัดนิ่” ผมพูดแล้วก็โยนช้อนในจานข้าวผมไปทางไอ้เนม แต่เนมกลับหลบได้ ช้อนของผมจึงกระเด็นไปทางห้องน้ำหญิงเก่านั้น  ไม่มมมมมมมม~ ช้อนกินข้าวของทั้งเทอมของผม ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่กล้าที่จะไปหรอก ยิ่งอยู่ใกล้ห้องน้ำนั้นด้วย

                       “เฮ้ย! ช้อนกู” ผมอุทานขึ้น

                        “555 สมน้ำหน้า 555” เนมหัวเราะเยาะอย่างรื่นรมย์

                        “ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปเอาให้” พูดจบท๊อปก็ลุกไปเก็บช้อนให้ผม

                        “อ้าาาาา~ ไม่” ท๊อปร้องลั่น จึงทำไห้พวกผมต้องลุกไปดูมัน ว่าเกิดอะไรขึ้น

                         “ไอ้ท๊อปเป็นอะไรวะ” ไอ้ถามท๊อปที่นั่งปากเหวออยู่ที่พื้น แล้วมันก็ชี้ไปทางห้องน้ำนั่น

                     เมื่อผมกับไอ้เนมหันไปดูทางที่ท๊อปชี้ไป เมื่อเห็นผมต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อภาพเบื้องหน้า เป็น หญิงสาวในชุดนักเรียน ใบหน้าไม่สามารถเห็นได้ชัด แต่ดูแล้วเหมือนจะมีเลือดใหลซึมออกมา กำลังยืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิงเก่านั่น และในมือก็ถือช้อนของผมอยู่   ผมคิดว่าเขาคงอยากจะช่วยเก็บ แต่คงไม่หรอกผมกลัว

                        “กลางวันแสกๆ เลย แม่ง!....”
       

      END

      ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ
      ผิดพลาดตรงจุดใดช่วยบอกให้ด้วยจะรีบแก้ไข

       

       

                       

       

       

       

       

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×