พันธกานต์
นักโบราณคดีหนุ่มหาวิธีลงโทษภริยาที่นอกใจด้วยวิธีการที่เขาจะสามารถเก็บเธอไว้ได้ตลอดกาล
ผู้เข้าชมรวม
431
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผมนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องใต้ดินที่มืดทึมและอับชื้น กลิ่นเห็ดรากับกลิ่นดินอับๆปนเปกันในอากาศ เสียงคล้ายโลหะสองอันกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊งๆ มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในความมืดเบื้องหลังแต่ผมไม่ได้ใส่ใจยังคงปล่อยอารมณ์ให้ลอยไปไกลเข้าสู่ภวังค์ที่ล้ำลึก
บรรยากาศยามเย็นของบริเวณลุ่มน้ำไนล์ยังคงเสน่ห์ตรึงตราผมไม่เสื่อมคลาย อากาศเริ่มเย็นลง ขณะที่อาทิตย์อัศดงสีส้มดวงโตกำลังจะลับหายไปกับแนวปิรามิด และปล่อยให้ความมืดสนิทเข้ามาเยือนผืนทราย ผมจำได้ดีในเวลาที่แสนโรแมนติกนี้ของสามปีที่แล้วผมได้พาภริยาสาวที่เพิ่งแต่งงานมาฮันนีมูนที่นี่ เราพร่ำพรอดคำรักกันอย่างไม่รู้เบื่อ ผมยังจำได้ดีเธอออดอ้อนถามถึงความรักที่ผมมีต่อเธอในขณะที่เราเดินเที่ยวชมหมู่มหาปิรามิดและรูปปั้นสฟิงค์
“ ที่รักคะ คุณจะรักชั้นได้นานซักแค่ไหน ต่อไปคุณคงเริ่มเบื่อและปล่อยให้ชั้นอยู่เฝ้าบ้านคนเดียวในขณะที่คุณเอาแต่เดินทางไปที่โน่นที่นี่รอบโลก”
“โธ่ คุณก็รู้นี่นาว่าผมเป็นนักโบราณคดี การเดินทางสำรวจเป็นงานของผม แต่ผมรับรองว่าผมจะรักและคอยดูแลคุณ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”ระหว่างนั้นเองปรากฏร่างหญิงชรา แต่งกายรุมร่ามโพกผ้าคลุมศีรษะเหมือนสตรีชาวพื้นเมืองเธอเดินตรงมายื่นมือสกปรกแบลงตรงหน้าภริยาผม สิ่งที่วางอยู่บนมือนั้นเป็นแหวนทองวงไม่ใหญ่นักแต่เป็นของเก่าฝีมือประณีต ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจนปัจจุบันนี้ทางการอียิปก็ยังคงหามาตรการป้องกันการขโมยขุดสมบัติจากสุสานได้ไม่ดีนัก
“สวยจังเลยค่ะ ที่รัก หัวแหวนเป็นพลอยรึเปล่าคะนั่นสีเขียวยังกับไข่นกการเวกแน่ะ”
“หินโมราจ๊ะ คนโบราณใช้มันเป็นตัวแทนความรักที่ชายหญิงมีต่อกันและอีกนัยหนึ่งมันจะเป็นพันธนาการที่ผูกมัดชายหญิงไว้ด้วยกันไม่เสื่อมคลาย คุณลองใส่ดูสิ”เจ้ากรรม ที่แหวนวงนั้นใส่ลงที่นิ้วนางของเธออย่างพอดิบพอดี ผมเลยมีหน้าที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินก้อนใหญ่แลกกับรอยยิ้มของภรรยา
“อย่าลืมนะคะที่รัก มันจะผูกพันเราสองคนให้อยู่ด้วยกันตลอดกาล”
เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น ผมกดรับ
“อือ มาถึงแล้วเหรอ ปลอดภัยดีรึเปล่า หีบห่อมีตรงไหนชำรุดไม๊ ดีมาก ดีมากเดี๋ยวให้คนส่งมาได้เลยผมจะขึ้นไปรอรับ”กดปิดมือถือ เดินขึ้นบันไดไปข้างบน ผมชงเหล้าใส่น้ำแข็งนั่งจิบขณะรอของที่มาส่ง ผมรอเวลานี้มานาน อนาคตของผมจะถูกกำหนดด้วยของสิ่งนี้ หลังจากเหล้าหมดแก้วไปสักพักเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น ประตูหน้าบ้านผมเปิดออกพร้อมกับพนักงานค่อยๆขนหีบขนาดใหญ่เข้ามา
“มาแล้วครับด๊อกเตอร์ เจ้าหญิงโฉมงามที่คุณรอคอย”ผมยิ้มให้กับการเย้าแหย่ หีบนั้นถูกนำเข้าไปเก็บในห้องทำงานของผม หลังจากพวกเขากลับไปกันหมดแล้ว ผมค่อยๆใช้ชะแรงแซะเปิดฝาหีบอย่างระมัดระวัง กลิ่นเหม็นอับและฝุ่นฟุ้งขึ้นมาเล็กน้อย ผมดันฝาโลงเลื่อนออกไปข้างๆ ก่อนจะช้อนร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าลินินเก่าคร่ำคร่าขึ้นมาวางลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา การแกะผ้าลินินต้องทำอย่างประณีตผมไม่อยากให้มีส่วนที่ฉีกขาดเสียหาย ผมจดรายละเอียดและวาดรูปแบบในการพันผ้าทับกันไปมาทุกชั้น จนกระทั่งบนโต๊ะผมเหลือเพียงซากศพแห้งกรังและผ้าลินินกองโต โอเค คราวนี้ก็เหลือแต่งานที่ผมจะต้องจัดการในห้องใต้ดิน ผมเดินอ้อมเข้าไปที่ครัวหยิบอุปกรณ์ที่ต้องการใส่ถังใบใหญ่ก่อนจะเดินลงบันไดลงไปยังห้องใต้ดิน หลอดไฟกระพริบ สองสามครั้งก่อนจะส่องแสงสว่างจ้ายังผลให้ร่างร่างหนึ่งกระถดหนีอย่างรวดเร็ว กระชากโซ่ที่ล่ามข้อมือไว้ดังแกร๊ก
“ได้โปรด ปล่อยชั้นไป”ร่างนั้นเงยหน้าวิงวอนผม ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกไม่น่าเชื่อขนาดได้กินแค่น้ำวันละแก้วมาเกือบสามสัปดาห์แล้วเธอยังมีแรงพูดกับผมได้อีก ผมหยิบผงโซดาเทออกใส่ถังใช้ผ้าจุ่มลงไปก่อนจะนำไปทำความสะอาดตัวเธอ
“รู้ไม๊ที่รักน้ำโซดาจะช่วยขจัดคราบไขมันที่เกาะตามผิวหนังได้ดี “ผมพูดกับเธอขณะหวีผมยาวสยายดำขลับของเธออย่างรักใคร่ เธอเงียบไป ผมกลั้นหายใจเงี่ยหูฟัง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบผมไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของเธอ ผมกรอกน้ำโซดาที่เหลือลงไปในท่อที่ต่อตรงถึงกระเพาะ ก่อนจะค่อยๆรินสารสีเขียวขุ่นที่ผมได้มาจากอียิปตามลงไป ยังมีกรรมวิธีที่ยุ่งยากตามมาอีกหลายขั้นตอนกว่ากระบวนการทั้งหลายจะเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไปเช้าวันใหม่
บรรยากาศภายในห้องจัดงานถูกตกแต่งอย่างหรูหรา บนกำแพงถูกประดับด้วยรูปภาพกระดาษปาปิรุสลวดลายโบราณ เกี่ยวกับขั้นตอนการนำพระศพฟาโรห์เข้าสู่กระบวนการทำมัมมี่เพื่อรักษาร่างของตนไว้รอเวลาที่วิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์จะกลับเข้าสู่ร่างอีกครั้ง เสาร์ของพิพิธภัณฑ์มีพระเศียรของเทพอะนูบิสประดับประดาทั้งสี่ด้าน ทั้งหมดนี่ใช้เวลาในการเตรียมงานนานนับเดือน เพื่อให้ยิ่งใหญ่และสมเกียรติและในที่สุดเวลาที่เป็นไฮไลท์ของงานก็มาถึง ผมเดินขึ้นไปบนเวทีหยิบไมโครโฟนมาจ่อที่ปาก อดจะรู้สึกประหม่าไม่ได้แม้จะมีการเตรียมการมาอย่างดี
“ท่านผู้มีเกียรติครับ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอย นี่คือผลงานที่ผมต้องใช้เวลากว่า ๕ ปีในการค้นหาและตรวจสอบอย่างละเอียด การเดินทางอันยาวนานนับพันปีจากลุ่มน้ำไนล์สู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขอเชิญทุกท่านพบกับเจ้าหญิงอัคคามุน เทวีผู้มีชีวิตในสมัยของตุตันคามุนผู้ที่มีความงามอันเป็นอมตะแม้กาลเวลานับพันปีก็ไม่สามารถทำลายลงได้”สปอตไลท์ส่องสว่างอยู่ที่โลงพระศพทองคำแท้กลางห้อง แสงไฟจากแฟลตช์กระพริบพรึ่บพรั่บ นักข่าวและแขกผู้มีเกียรติฮือกันเข้าไปมุงดูโดยรอบ ผมเดินแหวกฝูงชนเข้าไปเปิดโลงชั้นนอกออกเผยให้เห็นร่างที่นอนอยู่ในชุดสีทองอลังการ ทับทรวงทองคำประดับอัญมณีขนาดใหญ่ปิดคลุมทั้งแผ่นอก มงกุฏครอบศีรษะรูปร่างคล้ายหมวกทรงสูงประดับด้วยมรกตและทับทิมส่องประกายล้อแสงไฟวูบวาบ กำไลรูปงูเลื้อยพันรอบต้นแขนเรื่อยลงมาถึงข้อมือสองข้างที่ กอดทับกันอยู่บนหน้าอก ท่อนล่างยังมีผ้าลินินพันอยู่บางส่วน
“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับดอกเตอร์ ว่าการรักษาศพสมัยก่อนจะทำได้ถึงขนาดนี้”
“เคล็ดลับอยู่ที่การขจัดไขมันที่ผิวหนังให้ออกไปมากที่สุดครับเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่จะทำให้ศพเน่าได้ง่าย”
“ดูเหมือนคนเพิ่งตายไม่นานนี้มากกว่าศพที่มีอายุเป็นพันๆปีเลยนะคะ ดูสิคะผมเป็นมันดำขลับเชียว เธอคงสวยมากนะคะ เอ่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่น่ะค่ะ”
“ครับ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยจนผู้ชายมักจะมองกันเหลียวหลังเชียวแหละ”
“อุ๊ย ดอกเตอร์นี่ละก็ ชอบพูดทีเล่นทีจริงอย่างนี้เรื่อยเลย”
“ดอกเตอร์คะแหวนที่เธอใส่นี่สวยแปลกจังค่ะ ฉันขอโคลสเข้าไปจับภาพใกล้ๆได้ไม๊คะ” นักข่าวสาวคนหนึ่งชี้ไปที่แหวนทองโบราณประดับหินโมราสีเขียวแก่ที่ใครบางคนเคยบอกผมว่าเหมือนสีไข่นกการเวก
“อย่าดีกว่า นั่นเป็นแหวนแห่งความรักครับ เป็นเครื่องหมายแห่งพันธนาการที่จะผูกมัดชายหญิงทั้งคู่ไว้ด้วยกันตลอดกาล ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว เธอคงไม่อยากให้คุณเอาไปลงเผยแพร่ทางหน้าหนังสือพิมพ์หรอกมังครับ” ผมปลีกตัวออกมาจากนักข่าวปล่อยให้แสงไฟและความวุ่นวายอยู่เบื้องหลัง
ลาก่อนที่รักคุณมันไม่ดีเองนี่นา ผมบอกคุณแล้วว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เรื่องอย่างนี้คงไม่เกิดขึ้นหรอกถ้าวันนั้นผมไม่บังเอิญได้ยินคุณโทรศัพท์นัดแนะจะหนีไปอยู่เมืองนอกกับไอ้เพื่อนสารเลวของผม รออีกหน่อยนะที่รักผมจะส่งมันไปหาคุณเร็วๆนี้แหละ
ผลงานอื่นๆ ของ นาซิลลัส ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นาซิลลัส
ความคิดเห็น