Hurts The Heart หัวใจที่เจ็บปวด - Hurts The Heart หัวใจที่เจ็บปวด นิยาย Hurts The Heart หัวใจที่เจ็บปวด : Dek-D.com - Writer

    Hurts The Heart หัวใจที่เจ็บปวด

    โดย Thanyathip

    ผู้เข้าชมรวม

    53

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    53

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.พ. 58 / 20:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ความรักที่ถูกบังคับ แต่เพื่อคนที่รัก จึงต้องยอม
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "ห๊ะ!! อะไรนะคะ คุณพ่อกับคุณแม่จะให้มัทแต่งงานหรอคะ" มัทนาวีพูดขึ้นอย่างตกใจที่คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอจะให้เธอแต่งงาน
      "ใช่แล้วจ๊ะ ลูกจะต้องแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนพ่อ" คุณพ่อกับคุณแม่จะให้เธอแต่งงานทั้งๆที่เธอพึ่งจะเรียนจบเนี่ยนะ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
      "มัทขอไม่แต่งได้มั้ยคะ"มัทนาวีอ้อนคุณแม่ของเธอ เผื่อท่านจะใจอ่อน
      "ไม่ได้หรอกลูก พ่อกับเพื่อนพ่อสัญญากันไว้แล้ว พ่อผิดสัญญาไม่ได้" เสียงทุ้มต่ำของชายวัยห้าสิบต้นๆพูดกับลูกสาวผู้เป็นที่รักของตน 
      "ก็ได้ค่ะ มัทจะยอมแต่งงานด้วยก็ได้แต่มัทขอไม่จดทะเบียนสมรสนะคะ" ไม่ว่าเธอจะขัดข้านยังไงก็คงไม่สำเร็จเพราะเธอรู้จักนิสัยของคุณพ่อเธอดี ท่านเป็นคนพูดแล้วไม่คืนคำ 
      "ก็ได้จ๊ะ เป็นอันว่าลูกตกลงนะจ๊ะ ถือซะว่าทำเพื่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของเราก็แล้วกัน" 
      "ค่ะ มัทจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังในตัวมัทนะคะ"
      "แม่ลืมบอกอีกอย่าง คนที่ลูกจะแต่งงานด้วย เขาชื่อ ภูวมินทร์ กิตติรัชไพรบูรณ์ " ถึงจะอายุมากแล้วแต่ผู้หญิงคนนี้ที่ขึ้นชือว่าเป็นแม่ของเธอก็มีหน้าตาที่สวยงดงามไม่เคยเปลี่ยน เธอกลับมาคิดทบทวนกับเรื่องที่เธอได้รับรู้ในวันนี้ เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าเธอจะได้แต่งงานเร็วขนาดนี้ และเธอก็ไม่อยากแต่งกับคนที่เธอไม่ได้รัก แต่เพื่อคนที่เธอรักถึงจะลำบากแค่ไหนเธอก็ยอม
       คนที่เธอจะแต่งงานด้วยชื่อว่า ภูวมินทร์ กิตติรัชไพรบูรณ์
      ~~~ และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่เธอจะต้องแต่งงาน ตั้งแต่วันที่คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอบอกว่าเธอจะต้องแต่งงานจนมาถึงวันนี้เธอยังไม่เคยพบเจอกับว่าที่เจ้าบ่าวที่เธอจะแต่งงานด้วยเลย เธอไม่สามารถเดาได้ว่าเขาจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง
        จะหล่อหรือขี้เหร่ก็ไม่รู้ 
      เธอมองตัวเองในกระจกที่ตอนนี้มีชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์อยู่บนตัวของเธอ ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันที่จะได้ใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ และเธอก็เคยวาดฝันไว้เหมือนกันว่าสักวันเธอจะได้ใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ และได้แต่งงานกับคนที่เธอรัก แต่ตอนนี้ฝันนั้นคงจะเป็นได้แค่ข้อแรกเท่านั้นแหละ ข้อที่สองมันคงจะไม่มี
      "ลูกมัท เสร็จหรือยังจ๊ะ" เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ของความคิดก็มีเสียงของผู้เป็นแม่เรียกซะก่อน "เสร็จแล้วค่ะ" มัทนาวีคิดว่าเธอคิดดีที่สุดแล้ว ที่เธอจะสละความสุขของตนเองเพื่อให้คนที่เป็นพ่อกับแม่มีความสุข 
      "ถ้าอย่างนั่นก็ไปกันได้แล้วจ๊ะ แขกมากันเยอะแล้ว"งานแต่งงานของเธอเป็นแบบศาสนาคริสต์ เพราะทางฝ่ายเจ้าบ่าวนับถือศาสนาคริศต์ พิธีแต่งงานเลยจัดที่โบสถ์ ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเธอเท่าไหร่นัก ตอนนี้คนในงานมากันเยอะแล้วเพราะใกล้จะได้ฤกษ์เริ่มพิธีแต่งงานแล้ว จังหวะนั้นเธอหันไปเจอกับเจ้าบ่าวพอดีเลยทำให้เขาและเธอสบตากันอยู่เนิ่นนาน แต่แล้วเธอก็ต้องเป็นคนหลบสายตาก่อนเพราะเธอไม่อาจต้านทานดวงตาคู่นั้นได้ โดยที่เธอไม่รูเลยว่าตอนนั้นเขาได้ให้คำสาบานไว้กับตัวเองว่า 'เขาจะไม่มีวันรักเธอเด็ดขาด' เขาก็ไม่อยากจะแต่งงานเหมือนกับเธอ แต่เหตุผลที่เขายอมก็เพราะเพื่อความสบายใจของพ่อกับแม่ของเขา เขาไม่อยากทำให้พ่อกับแม่ต้องเสียใจ
      "ท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกันขอให้ท่านจับมือขวาของกันและกันและแสดง ความสมัครใจ ต่อหน้าพระเป็นเจ้า และพระศาสนจักรของพระองค์ " บาทหลวงได้กล่าวแล้วบอกให้เขาและเธอจับมือขวาของกันและกัน 
      "ผมนายภูวมินทร์ กิตติรัชไพรบูรณ์ ขอรับคุณ มัทนาวี เจริญพิวัฒ เป็นภรรยา และขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่" ต่อไปก็ถึงทีที่เธอต้องกล่าวด้วยเหมือนกัน
      "ดิฉันนางสาว มัทนาวี เจริญพิวัฒ ขอรับคุณ ภูวมินทร์ กิตติรัชไพรบูรณ์ เป็นสามี และขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่" แล้วพิธีแต่งงานก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จบลงที่เจ้าบ่าวอุ้มจ้าสาวเข้าสู่ห้องหอ 
      ตอนนี้เธอและเขาอยู่ด้วยกันในห้อง เธอทำอะไรไม่ถูกที่จะต้องมาอยู่ด้วยกันทั้งๆที่ไม่ได้รักกัน
      "เอ่อ ฉะ..ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ" เธอเอ่ยออกมาเพื่อทำลายความเงียบ เธอไม่ชอบความเงียบเพราะมันทำให้เธอกดดัน พอเธอเอ่ยจบเขาก็แค่ปรายตามองเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วเธอก็เดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกาย วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวัน
      พอเธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งอยู่ที่ปลายเตียง
      "คุณจะอาบน้ำต่อหรือป่าวคะ" ฉันถามคุณภูวมินทร์ ที่ตอนนี้เขากำลังหลับตาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วเขาก็หันมาตอบฉัน
      "ไม่ ฉันไม่อยากใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่น" ภูวมินทร์เน้นคำว่า คนอื่น ดังๆ มันเลยส่งผลให้ฉันสดุ้งจนทำอะไรไม่ถูก ฉันกับเขาพึ่งแต่งงานกันเสร็จเมื้อกี้นี้ นี่เขาเรียกฉันว่าคนอื่นหรอ 
      " มัทก็ไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย อย่าลืมสิคะว่าเราพึ่งแต่งงานกัน"ฉันพูดขึ้นอย่างน้อยใจ
      "หึ จะแต่งหรือว่าไม่แต่งเธอก็เป็นคนอื่นอยู่ดีอย่าสำคัญตัวเองนักเลย" คำพูดที่เขาพูดกับฉัน มันทำให้คนฟังอย่างฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่คิดจะจับผู้ชายรวยๆอย่างนั้นแหละ
        "คุณจะไม่อาบก็แล้วแต่คุณนะคะ เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแม้แต่นิดเดียว" ฉันพูดประชดออกไป ก็ฉันโมโหหนิ แค่ใช้ห้องน้ำห้องเดียวกันเฉยๆเอง มาพูดเหมือนกับว่าฉันน่ารังเกียจขนาดนั้นแหละ 
      "นี่ เธอ" เขากระชากข้อมือฉันให้ฉันที่กำลังจะขึ้นไปนอนบนเตียงหันกลับไปหาเขา
      "โอ๊ย! ฉันเจ็บนะคะ" ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่ข้อมือ ป่านนี้มันคงแดงหมดแล้วแน่ๆเลย
      "สำออย" ห๊ะ อะไรนะคะ แขนฉันแดงขนาดนี้คุณยังคิดว่าฉันสำออยอีกหรอเนี่ย
      "ฉันเจ็บจริงๆนะคะ ดูสิแดงหมดแล้ว" ฉันใช้นิ้วชี้ไปที่รอยแดงที่ข้อมือที่เขากำลังกำอยู่ พอฉันบอกเขา เขาก็คงจะสำนึกขึ้นได้มั้งว่าตัวเองได้กำข้อมือน้อยๆนี้จนแดงช้ำไปหมด
      "ใครอนุญาตให้เธอขึ้นไปนอนบนเตียง" 
      "แล้วทำไมฉันจะนอนไม่ได้คะ"ฉันมีสิทธิ์ที่จะนอน เพราะที่นี่ก็คือห้องของฉันเหมือนกัน ถึงมันจะเป็นบ้านของคุณก็เถอะ
      "เพราะห้องนี้มันเป็นห้องของฉันเธอไม่มีสิทธิ์ " ฉันกำลังจะตอบกลับไปว่าแล้วจะให้ฉันนอนที่ไหน เขาก็แทรกขึ้นมาก่อน
      "อ้อ แต่ถ้าเธออยากนอนนักล่ะก็ นู้นโซฟา" นี่เขาจะให้ฉันนอนโซฟาจริงๆหรอ "คุณยังเป็นสุภาพบุรุษอยู่หรือเปล่า" ฉันพึ่งเคยพบเคยเห็นผู้ชายที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ทำไมถึงทำกับผู้หญิงที่แสนจะบอบบางอย่างฉันแบบนี้ 
      "สำหรับเธอไม่เหมาะกับคำว่าสุภาพบุรุษหรอก" ฉันพึ่งมารู้เหตุผลว่าที่คุณพ่อให้ฉันแต่งงานเพราะครอบครัวของเรากำลังจะล้มละลาย แต่ของเพื่อนคุณพ่อช่วยไว้ครอบครัวของเราเลยกลับมามีชื่อเสียงในสังคมอีกครั้งและเพื่อแลกเปลี่ยนเลยให้ฉันแต่งงานกับลูกชายของเขา นายนี่เลยคิดว่าฉันเป็นพวกผู้หญิงที่ชอบจับผู้ชายรวยๆเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง 
      "สำหรับคนนิสัยแย่อย่างคุณ ก็คงเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละค่ะ" ฉันไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ให้เขามายืนด่าฉอดๆๆแล้วจะไม่รู้สึกนะ 
      ถึงฉันจะด่าว่าคนไม่ค่อยเป็น แต่ฉันก็ไม่ใช่คนที่ยอมคนขนาดนั้นนะ 
      "นี่เธอกล้าว่าฉันหรอ" เขาตะคอกใส่ฉัน อยู่ใกล้แค่นี้เองทำไมต้องตะโกนด้วยนะ
      "ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณนะคะ" ฉันกล่าวขอโทษเขาไปเพราะฉันไม่อยากทำให้มันยืดเยื้อเดี๋ยวก็ไม่จบกันพอดี และแล้วศึกครั้งนี้ก็จบลงที่ฉันต้องยอมไปนอนที่โซฟา ทำไมฉันถึงต้องมาทนอยู่แบบนี้ด้วย
      เช้าวันรุ่งขึ้นฉันที่กำลังจะลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำ แต่แล้วก็
      "ว๊ายยยยยยย!" ฮือๆทำไมถึงซวยแต่เช้าเลยเนี่ย
      ฉันเดินอยู่ดีๆก็ดันไปสะดุดกับพรมเช็ดเท้า แล้วตอนนี้ก็..
      "เธอคิดจะทำอะไร" ตอนนี้ฉันกำลังนอนทับคุณภูวมินทร์อยู่น่ะสิ ซวยแล้วไงเราแล้วทำไมหัวใจมันถึงเต้นแรงขนาดนี้เนี่ย
      "เอ่อ ปะ..เปล่านะคะ ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย" ฮือๆแงๆเขาจะฆ่าฉันมั้ยเนี่ย
      "คิดจะอ่อยฉันหรอ ฉันบอกเลยนะว่าไม่สำเร็จหรอก" หน้าตาฉันมันบอกหรอคะว่าฉันคิดจะอ่อยคุณ หน้าตาฉันออกจะใสซื่อบริสุทธิ์ขนาดนี้
      "เปล่านะคะ ฉันแค่สะดุดล้มเฉยๆ แต่ถ้าฉันทำให้คุณไม่พอใจฉันขอโทษนะคะ" ทำไมสายตาคู่นั้นฉันมองทีไรทำไมรู้สึกเหมือนจะละลายทุกที
      "ลุกขึ้นได้แล้ว จะอ่อยฉันต่อหรือไง" คำก็อ่อยสองคำก็อ่อยชิ เอ๊ะ นี่ฉันยังไม่ได้ลุกจากตัวเขาอีกหรอเนี่ย พอคิดได้ฉันก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
      "เอ่อ ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ" แล้วฉันก็วิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ทำไมหน้ามันรู้สึกร้อนๆแบบนี้เนี่ย นี่ฉันเขินเขาหรอ ไม่จริงอ่ะ ไม่มีทาง ฉันจะไปเขินคนที่นิสัยแย่แบบนั้นได้ยังไง 
      ตอนนี้เธอและเขาแต่งงานกันได้เกือบเดือนหนึ่งแล้ว เธอและเขามีเรื่องให้ทะเลาะกันได้ทุกวัน และคนที่เป็นฝ่ายแพ้ก็คงเป็นเธอเช่นเดิม แต่ยิ่งนานวันเข้าเธอเริ่มรู้สึกว่าตัสเองใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆเขา ได้สบตากับเขา 
      เหมือนดั่งเช่นน้ำหยดใส่หิน หินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจของผู้หญิงที่มันอ่อนไหวยิ่งกว่าสายลม เธอคิดว่าเธอหลงรักเขาเข้าแล้ว และเธอก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธใจตัวเองอีกต่อไป เธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะบอกเขา
      "คุณภูวมินทร์คะ ฉันมีเรื่องจะบอก" ฉันรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะได้บอกในสิ่งที่ฉันต้องการจะบอก ถึงแม้ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรฉันก็จะไม่เสียใจเด็ดขาด
      "อะไร"เขาถามขึ้นเหมือนว่าจะพูดอะไรก็รีบๆพูดมา
      "เอ่อ คือ ฉันรักคุณค่ะ" ในที่สุดฉันก็พูดมันออกไป
      "อืม แล้วไง" นี่ฉันบอกรักคุณอยู่นะคะ
      "ขอคำตอบค่ะ" 
      "คำตอบหรอ ได้..ฟังฉันพูดให้ดีๆล่ะ" ฉันรอลุ้นกับคำตอบมากๆ ขอให้คำตอบเป็นเหมือนที่ฉันคิดเถอะนะ
      "ฉัน....รัก...เธอไม่ได้" คำพูดในช่วงแรกทำมให้ใจฉันรู้สึกพองโตแต่เมื่อเขาพูดจบหัวใจของฉันรู้สึกเหี่ยวเฉาลงไปกว่าเดิม
      "ทำไมถึงรักไม่ได้คะ" เขาคงจะมีเหตุผลที่ฟังขึ้นบ้างนะ
      "ที่ฉันรักเธอไม่ได้ก็เพราะว่าฉันไม่ได้รักเธอ ชัดมั้ย" ฉันว่าจะไม่เสียใจกับคำตอบของเขาแล้วนะ แต่ไม่รู้ทำไมพอได้ฟังคำตอบฉันถึงรู้สึกว่าเหมือนมีมีดมากรีดลงกลางหัวใจ เจ็บ ฉันเจ็บเหลือเกิน ฉันกลั้นน้ำตาไว้เพื่อไม่ให้เขาเห็นแล้วก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ตอนนี้ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว ฉันปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างหนัก นานแล้วที่ฉันอยู่ในห้องน้ำ ฉันเริ่มทำใจ และพยายามยอมรับความจริงให้ได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับเราเหมือนที่เรารู้สึกกับเขา ฉันไม่ขอที่จะตัดใจจากเขา ฉันขอแค่ได้รักเขาแบบนี้ก็พอแล้ว ตั้งแต่วันที่ฉันบอกรักเขาออกไปเขาก็ไม่คุยกับฉันอีกเลย บ้านก็กลับค่ำ บางทีก็พาผู้หญิงคนนั้นคนนี้มานอนบ้าน ทุกครั้งที่เขาพาผู้หญิงมาฉันจะเข้าไปหลบในห้องทันที เพราะว่าฉันไม่กล้าสู่หน้าเขา ฉันกลัวจะเห็นภาพบาดตาบาดใจ ฉันกลัวเจ็บปวด 
      ทุกครั้งที่เขาโทรศัพท์ไปนัดทานข้าว ดูหนัง กับผู้หญิงคนอื่น มันทำให้ฉันสมเพชตัวเอง เหมือนตัวเองดูไร้ค่า ทั้งที่เขามีฉันเป็นภรรยาอยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยพาฉันไปไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงอย่างนั้นฉันก็พอรับอยู่ได้นะ ถึงเขาจะเจ้าชู้ เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น แต่ฉันก็อยากให้เขาแคร์ความรู้สึกของฉันสักนิด สักนิดก็ยังดี
      "ทำไมคุณภูวมินทร์ถึงกลับดึกจังคะ" ถึงฉันจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ฉันถามเพื่อความแน่ใจเผื่อสิ่งที่ฉันคิดไว้อาจไม่เป็นความจริง
      "ทำไม ฉันจะกลับตอนไหนมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับเธอ" 
      "คุณไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นใช่มั้ยคะ" ขอร้องล่ะอย่าตอบว่าใช่เลยนะ
      "ใช่ เสียใจหรือไง" นี่ฉันหวังอะไรอยู่เนี่ย เฮ้อ
      "ใช่ค่ะ มัทเสียใจ เสียใจมากๆด้วย ฮึกฮือๆๆ" ฉันพูดไปร้องไห้ไป น้ำตาที่อดกลั้นมานานหลั่งไหลลงมาอาบแก้มของฉัน 
      "อย่ามาสำออย ทำเป็นบีบน้ำตาหน่อยเลย ฉันไม่หลงกลเธอหรอก" 
      "ในสายตาของคุณ ฉันคงดูน่าสมเพช ชอบเส้แสร้ง แล้วก็ชอบจับผู้ชายสินะ" เมื่อไหร่เขาจะมองฉันในแง่ดีบ้าง
      "ใช่ เธอมันเป็นผู้หญิงที่น่าสมเพช ชอบเกาะผู้ชายกิน เสแสร้ง มารยา" ฮืออออๆๆๆ ฉันไปทำอะไรให้เขานักหนา ทำไมถึงมาว่าฉันแบบนั้นด้วย
      "ฮึกๆฮือๆๆ ฉะ ฉัน มัน เลวขนาดนั้น เลย ฮึกๆ หรือไง ทั้งๆ ที่ฉัน ฮือๆ ทำเพื่อคนที่ฉัน ฮึกๆ รัก" ฮืออๆ ฉันแค่อยากทำให้คนที่ฉันมีความสุขฉัน และฉันจะทนเพื่ออยู่กับคนที่ฉันรักอย่างคุณฉันผิดด้วยหรอ :'(:'(:'( ฮึกฮืออๆๆ
      "ฉันอยากจะถามคำถามกับคุณเป็นข้อสุดท้ายได้มั้ย" ถึงคำถามที่ฉันจะถามมันทำให้ฉันเจ็บปวดก็แค่ไหน ฉันก็ยอมที่จะฟังคำตอบจากเขา
      "มารยาอะไรอีกล่ะ" ถือซะว่าเสียงนกเสียงกาก็แล้วกัน เฮ้อออ:-(
      "ในหัวใจของคุณ" ฉันใช้นิ้วจิ้วไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเขา
      "เคยมีฉันอยู่ในนั่นหรือเปล่า" 
       ฉันพร้อมแล้วที่จะฟังคำตอบจากเขา
      "ฟังให้ดีๆนะ ในหัวใจของฉันเนี่ย แม้แต่เศษเสี้ยวเดียวก็ไม่เคยมีเธออยู่ในนั้นเลย" เขาพูดเสร็จก็เดินออกไปปล่อยให้ฉันอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก น้ำตาที่พึ่งเหือดแห้งไปกลับมาไหลรินอีกครั้ง และทวีความเจ็บปวดมากขึ้นเป็นสิบเท่า เธอเจ็บปวดเหลือเกิน หัวใจของเธอเหมือนจะแตกสลาย เธอไม่สามารถรับความเจ็บปวดนี้ไว้ได้อีกแล้ว หัวใจดวงนี้จะแตกสลายไปตลอดกาล.... 
      ตอนที่เขารู้เรื่องว่าภรรยาตัวเองได้เสียชีวิตแล้ว เขารู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เขามานั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆว่าทำไมทั้งๆที่เธอรักเขามากทำไมเขาถึงไม่รักเธอตอบ ทั้งๆที่เขามีเธออยู่ทุกห้องหัวใจ เป็นเพราะทิฐิที่เขาได้ให้สัญญาไว้กับตัวเองหรือเปล่า
      "ฉัน รัก เธอ มัทนาวี"เขาพูดว่ารักเธอพร้อมกับสายลมในยามเย็นที่พัดมาเบาๆ แต่มันก็สายเกินไปแล้วกับคนที่ไม่มีวันหวนกลับมาตลอดกาล..
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×