คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : คนโลเล
๓
รถสปอร์ตแล่นด้วยความเร็วมาจอดยังรั้วบ้านซึ่งสุนัขสี่ตัวแห่ออกมาต้อนรับด้วยความดีใจ ชายหนุ่มควานหากุญแจบ้านในลิ้นชักคอนโซลหน้ารถก่อนจะหยิบพวงกุญแจกระต่ายนั่นออกมา เขาทำท่าจะลงไปเปิดรั้วเสียเอง
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันเปิดให้"
อนาวิลาแบมือรอ นายโปรดหันมาสบตานิดหนึ่ง แล้วจึงตัดสินใจวางพวงกุญแจลงกลางฝ่ามือเจ้าหล่อน
เธอลงไปเปิดรั้วพลางเรียกสุนัขทั้งสี่ให้หลบรถยนต์ ครั้นรถสปอร์ตเคลื่อนมาจอดเรียบร้อยแล้วจึงได้ดึงรั้วปิด เธอตามเข้าไปในบ้านก็ได้เห็นเขากำลังโทรศัพท์สั่งพิซซ่าอยู่ แล้วจึงนึกได้ว่าพวกตนและเจ้าสี่ตัวนั้นยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเลย
แทนที่จะพัก หญิงสาววางกุญแจบ้านไว้บนโต๊ะกระจกแล้วกลับเดินออกไปหลังบ้าน เทอาหารเม็ดจากถุงใส่จานให้พวกมันทั้งสี่ตัวที่ต่างพากันมารุมล้อมตนอยู่ เธอจามอย่างคัดจมูกขึ้นมาอีกครา
อนาวิลาหารู้ไม่ว่ามีคนยืนดูการกระทำของเธออย่างทั้งหงุดหงิดและอ่อนใจ เขากลอกตาเมื่อเห็นเลิฟลี่ยืนสองขาเกาะไหล่คนนั่งยองๆ คอยดูเถอะ เธออาจไม่ตายเพราะไส้ติ่งแตก แต่จะตายเพราะหอบหืดจากขนสุนัขก็เป็นได้
ไม่ได้สิ เธอจะมีอันเป็นไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะความฝันที่จะเปิดห้องเสื้อของเขารอไม่ได้อีกต่อไป
"มานี่ ฉันทำเอง"
นายโปรดเดินไปแย่งถุงอาหารเม็ดสุนัขหลังวางสาย เรียกสายตาแปลกใจระคนยินดีให้แหงนมองตาม
ชายหนุ่มย่นจมูกเหม็นกลิ่นฉุนของอาหารเม็ด ไหนจะแววตาพราวระยับของเจ้าหล่อนที่มองมาอีก ใบหน้าจึงร้อนซู่ขึ้นมา
"บอกไว้ก่อนนะ อย่าคิดจะให้ฉันรับใช้อย่างวันนี้อีก" เขาเอ่ยเสียงแข็งกลบความรู้สึกเสียศักดิ์ศรี "เมื่อเช้าฉันนึกว่าเธอจะไส้ติ่งแตกตาย เฮอะ ที่ไหนได้... แล้วยังตอนนี้อีก เธอจะมาตายง่ายๆ เพราะขนหมาอุดปอดไม่ได้นะ"
อนาวิลาโคลงศีรษะอ่อนใจ นี่เขาจะคิดฉากจบชีวิตของเธอให้มันดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง
"ฉันไม่เคยคิดว่านายรับใช้ฉันอยู่เลย จริงๆ นะนายโปรด ฉันกลับคิดว่าทุกอย่างที่นายทำคือน้ำใจที่นายมีต่อคนอื่น" เธอเอ่ยจากใจ
หญิงสาวลุกยืนเต็มความสูง กระนั้นก็ยังเตี้ยกว่าฟุตจากชายหนุ่มรุ่นน้องที่ยืนนิ่ง ปล่อยให้บรรดาสุนัขตะกุยขากางเกงอย่างลืมตัวชั่วขณะ
"เอ่อ ฉันขอบใจนายมากสำหรับทุกอย่างในวันนี้"
อนาวิลายิ้มบางพลางผงกศีรษะยืนยันคำพูดตน เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งโดยไม่คิดเอ่ยคำใด เธอจึงตัดสินใจเดินจากมา หารู้ไม่ว่าคนที่เพิ่งเคยดีต่อใครหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ภาพประตูไม้เบื้องหน้าก็เปรียบเสมือนเส้นแบ่งระหว่างความกลัวกับความกล้าที่จะทำในสิ่งซึ่งตนไม่เคยทำมาก่อน การตัดสินใจจะเผชิญหน้าหรือถอยหลังก็ยากพอกัน
ถาดพิซซ่าขนาดใหญ่และกล่องสปาเก็ตตี้อยู่บนท่อนแขนสองข้างของนายโปรด เขายืนลังเลอยู่หน้าห้องหญิงสาวนานกว่าห้านาทีแล้ว นานพอกับที่ความสับสนในใจตีกันยุ่งเหยิง เขาคงบ้าไปแล้วที่ถือถาดพิซซ่ามาถึงนี่ นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลย
อันที่จริง...เขารู้สึกไม่เป็นตัวเองตั้งแต่ได้ยินคำขอบคุณจากยัยมนุษย์ป้านั่นแล้ว ก็เพราะทั้งชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีใครพูดคำนั้นกับเขาสักคนเดียว
ฮึ้ย... นี่ยัยป้านั่นใช้เวทมนตร์อะไรกับเขาหรือเปล่าเนี่ย ชายหนุ่มตัดสินใจหันหลังกลับ เขาน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว คำขอบคุณของเธอยังน้อยไปด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาทำ เขาพยายามผลักความคิดที่อยากได้ยินคำนั้นอีกออกไปจากสมองให้สำเร็จ
"เอ๋..."
อนาวิลาเปิดประตูออกมาเจอคนที่กำลังจะหันกลับพอดี ต่างฝ่ายต่างนิ่งอึ้ง เธอจ้องมองสีหน้าตกใจของอีกฝ่าย ก่อนจะเลื่อนสายตาลงมายังของกินบนอ้อมแขนนายโปรด
เขาชักเชื่อแล้วว่ายัยมนุษย์ป้านี่ต้องเป็นแม่มด...ต้องเป็นแม่มดแน่ๆ
"มองอะไร" เขาย้อนถามเสียงแข็ง กลบเกลื่อนเศษหน้าซึ่งแตกกระจาย
หญิงสาวก้มหน้าซ่อนยิ้ม ที่แท้ก็แค่เด็กฟอร์มจัด ถ้าไม่ใช่เอามาให้เธอ เขาจะยืนถือถาดพิซซ่าอยู่หน้าห้องเธอทำไม ว่าไปก็น่าเอ็นดูอยู่เหมือนกันเวลาที่เขารู้จักแสดงน้ำใจ
"ฉันแค่เดินมาผิดห้อง ว่าจะเอาขึ้นมากินบนห้องสักหน่อย"
น่าขัน คำแก้ตัวของเขามันไร้น้ำหนักไม่ต่างจากคำโกหกของเด็กอนุบาลเลย
"เอ่อ งั้นฉันขอกินด้วยได้เปล่า ฉันว่าจะลงไปหาอะไรกินก่อนกินยาพอดีเลย"
นายโปรดเชิดหน้า มีรอยยิ้มมุมปากอย่างถือดี
"กล้าเนอะ ตะกละสมกับเป็นเธอเลย"
กรี๊ด! ไอ้เด็กบ้า เธออุตส่าห์ยอมตามเกมเขา แต่สุดท้ายกลับมาหยาบคายใส่เธอนี่นะ
"เอ้า ตามมาสิ" ชายหนุ่มเหลียวหลังมาเรียก
อนาวิลากำมือแน่นสลับผ่อนอย่างควบคุมอารมณ์ เธอนิ่งนับเลขในใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อยตามอีกฝ่ายลงไป
พิซซ่าแป้งบางกรอบโรยด้วยแฮมและเปปเปอโรนีส่งกลิ่นหอมอวลยั่วคนป่วยให้น้ำลายสอ อนาวิลาลืมคำค่อนขอดของนายโปรดเสียสนิท เมื่อเธอค่อยย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้คู่โต๊ะอาหาร จ้องมองชีสสีเหลืองทองไม่คลาดสายตา
นายโปรดหัวเราะหึในลำคอ ดูสีหน้าเจ้าหล่อนตอนนี้ เขาก็ชักลังเลแล้วว่าคุณตาอาจเลี้ยงสุนัขไว้ห้าตัวต่างหาก แววตาของเธอเหมือนกับตอนที่สุดหล่อมองมายามเขาเทอาหารเม็ดให้มันไม่มีผิด
"เอานี่ ฉันยกให้ มันแถมมาในชุดที่สั่ง"
ชายหนุ่มผลักสปาเก็ตตี้ไปให้แรงจนหญิงสาวต้องยกมือกันมันเลยตกโต๊ะ เธอกะพริบตามองอย่างเรียกสติ
"แล้วพิซซ่านั่นล่ะ” เธอเอ่ยพลางลอบกลืนน้ำลาย
“ของฉันไง”
“งั้นถ้านายกินไม่หมด..."
"ก็ทิ้ง" เขาต่อคำง่ายๆ พลางไหวไหล่ "ใครมันจะกินหมด แป้งทั้งนั้น กินชิ้นสองชิ้นก็อิ่มแล้ว”
"แล้วนายจะสั่งถาดใหญ่มาทำไม" เธอถามอย่างลืมตัว
"แล้วเขาขายชิ้นเดียวไหมล่ะ"
"งั้นก็สั่งถาดกลางหรือถาดเล็กสิ"
"ฉันพอใจ มีไรป่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้ขอเงินเธอมาซื้อ อย่าทำหน้าเสียดายไปหน่อยเลย"
นายโปรดยกพิซซ่าชิ้นหนึ่งกัดคำโตอย่างน่าเอร็ดอร่อย เขาขยับนั่งหันข้าง เบือนหน้าหนีจากสายตาที่จับจ้องมายังตนร
อนาวิลาอิ่มตื้อชั่วขณะกับวาจาระคายหู ในมือกำส้อมพลาสติกที่ให้มาพร้อมอาหารไว้มั่นขณะสงบใจถามออกไป
"นาย...ทำงานอะไรเหรอ" เธอพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
ชายหนุ่มปรายตามองนิดหนึ่งอย่างแปลกใจ นี่คงคิดจะมาตีซี้เขาล่ะสิ ฝันไปเถอะ!
"ถามทำไม"
"ก็ฉันเห็นนายใช้เงินเป็นเบี้ย เลยอยากรู้ว่านายทำงานอะไร เผื่อฉันจะไปสมัครดูบ้าง"
ที่แท้ก็อยากรวย นี่คงเป็นเหตุผลที่เธอมาตีซี้กับตาเขาสิท่า
"เธอคงไม่รู้ พ่อฉันเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ตั้งหลายแห่ง สนใจมาทำไหมล่ะ" เขาว่าโอ่ๆ
อนาวิลาลอบถอนใจ เขาช่างหลงตัวเสียจนแปลความหมายที่เธอหลอกว่าไม่ออกจริงๆ สินะ
"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าพ่อนายทำงานอะไร ฉันถามถึงนายต่างหาก"
นายโปรดขมวดคิ้ว เขาจ้องมองเธอราวกับจะค้นหาความหมายที่ซ่อนในนั้น ก่อนดวงตาเรียวสวยจะเบิกโตขึ้นเมื่อเริ่มเข้าใจ ทว่าหญิงสาวรีบชิงเอ่ยก่อนที่เขาจะทันได้โวย
"เพราะถึงรวยล้นฟ้าขนาดพ่อนาย ฉันว่าท่านก็คงไม่กินทิ้งกินขว้างแบบนี้หรอก คนที่รวยรวยได้เพราะขยันและรู้ค่าของเงิน ส่วนคนที่เอาแต่ผลาญเงินฉันว่าไม่นานเขาก็ไม่เหลืออะไร"
ชายหนุ่มขบกรามแน่น กระนั้นมุมปากก็คลี่ยิ้มเยาะ คนอย่างเจ้าหล่อนจะไปรู้อะไร ธุรกิจมันก็มีแต่ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่จำนวนเงินแค่เงินเดือนลูกจ้างอย่างเธอ
"หลอกด่านิ่มๆ คิดว่ามันทำให้เธอดูเหนือกว่ามากนักเหรอ ที่โกรธนี่ก็เพราะฉันบอกว่าจะทิ้งพิซซ่าที่เหลืองั้นสิ โมโหหิวเหมือนอะไรน้า อ๋อ… เจ้าพวกที่อยู่หน้าประตูนั่นไง" นายโปรดหัวเราะชอบใจ
อนาวิลาผุดลุกยืนทั้งที่กายสั่นเทิ้ม เธอต้องกำขอบโต๊ะไม้ไว้มั่นเมื่อทำท่าจะหน้ามืดซวนเซ ไม่มีอะไรบาดตาบาดใจเท่าแววตาและรอยยิ้มเยาะหยันที่มองมา
"โกรธ...โกรธล่ะสิ" เขาว่าเยาะ
นอกจากจะคลายโทสะของตนยามรู้ว่าถูกเธอหลอกด่าได้แล้ว เขากลับรื่นรมย์เสียอีกที่ได้เห็นยัยมนุษย์ป้าใกล้ตบะแตกเต็มที
หญิงสาวเปิดกระเป๋าสตางค์ด้วยมือสั่นเทา เธอนับธนบัตรเท่าที่มีในนั้น ก่อนจะหยิบออกมาทั้งหมดพร้อมทั้งเทเศษเหรียญทั้งหมดที่ตนมี ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พอค่ารักษาพยาบาลที่เมื่อเช้าเขาจ่ายให้เธอ
"ฉันคืนนาย แล้วพรุ่งนี้จะกดเงินที่เหลืออีกสองร้อยห้าสิบแปดบาทมาคืนให้ เผื่อว่าวันต่อไปนายจะงัดเรื่องที่เคยช่วยฉันมาดูถูกกันอีก และฉันก็ขอเอาคำขอบคุณและความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กับนายคืน" เธอเอ่ยเสียงขื่นโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะอ้าปากมองมาอย่างตื่นตะลึง
"ดะ...เดี๋ยว" นายโปรดลุกขึ้นเรียกแต่ก็ไม่เป็นผล
เขายืนงันมองตามคนที่กลับขึ้นข้างบนไปโดยไม่สนใจไยดีสปาเก็ตตี้ที่เขาให้ ชายหนุ่มถีบขาเก้าอี้แรงด้วยความหงุดหงิดใจ เธอขอบคุณเขาแล้ว แต่กลับมาแลกคืนด้วยเงินพวกนี้ได้อย่างไร
ไม่ให้โว้ย! เขาไม่ให้ ได้ยินไหม ยัยป้าโลเล!
...................................
เขาบอกว่าอย่าแหย่เสือหลับ แต่นายโปรดเล่นยั่วคนหิว เป็นไงล่ะ จ๋อยเลยหนุ่มน้อยยย 55
ตอนหน้ามาดูเหตุผลที่นายโปรดมีนิสัยแบบนี้กันนะคะ เผื่อสาวๆ จะเอ็นดูฮีขึ้นมาบ้าง
สุดท้ายนี้นายโปรดฝากบอกว่า... "ผมไม่เด็(ล็)กนะครับ หึๆ" 55555555
ความคิดเห็น