๏ ณ เอกภพ อันไร้ขอบเขต...
เป็นกาลบริเฉท เหตุปฐม
มวลหมอกก๊าซ หมุนเกลียว ในชั้นพรหม
ผสานผสม แรงโน้มถ่วง เหนี่ยวนำมา
๏ มวลก๊าซยิ่งมากมหาศาล
บริวาร บริเวณ ยิ่งมากกว่า
ยิ่งเพิ่มแรงหมุน เต็มอัตรา
แรงดูดเพิ่มค่า ท้นทวี
๏ อนุภาคล้านล้าน มากระทบ
ยื้อหยุด ฉุดครบ สุดแรงหนี
แรงเหนี่ยวนำหมุนวน เต็มฤทธี
มวลมากมี เป็นอนันต์ พลันยุบลง !
๏ ความหนาแน่น แม้นปริมาตร ยังเป็นศูนย์
อนันต์คูณ เหลือเพียงจุด พิศวง ?
ปฐมกาล พรหมลูกฟัก อุบัติองค์
พระประสงค์ กงกรรม โองการใคร ?!(ซิงกูลาริตี้)
๏ เวลา...ยังไม่มี ณ ที่นั้น
มวลอนันต์ นั้นเป็นจุด ไม่ติงไหว
เอกภพ จักรวาล "กาล"หายไป
สุดคำนวณ การณ์ใด ณ จุดนั้น
๏ สุดจะเดา ความคิด พระเป็นเจ้า
สุดจะเอา สมการ ที่มีผัน
จะเกิดเหตุการณ์ใด อัศจรรย์ !
ไร้สูตรสรร ที่จะสร้าง ทฤษฎี
๏ ฉับพลันนั้น ! มหาระเบิด พลันเกิดขึ้น (Big Bang)
บังเกิดคลื่น พลังงาน ฉายรังษี
กาลเวลา ได้เริ่ม บังเกิดมี
ทุกๆ ที่ รัศมี กระจายไป ฯ
๏ เอกภพ ก็มี ปฐมกำเนิด
บังเกิด เป็นดารา น้อยใหญ่
อนุภาค กระแทก กระจายไกล
ธาตุหนักใหญ่ ค่อยควบ รวบรวมตัว
๏ เป็นดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ คณานัก
ดาราจักร จักรวาล เต็มไปทั่ว
เป็นดาวฤกษ์ ยักษ์แดง แสงมัวมัว
หรือเป็นหัว ดาวหาง เป็นทางราย
๏ มีบริวาร ดาวเคราะห์ โคจรรอบ
เช่นระบอบ สุริยะ เราอาศัย
อยู่ใน ดาราจักร ทางช้างพลาย (ทางช้างเผือก)
ดั่งเม็ดทราย หยิบมือ ในทะเล
๏ อันดาวฤกษ์ สีส้มแดง แห่งเรานี้
อายุปี กลางดาว สุดจะเห (ดวงอาทิตย์มีอายุครึ่งอายุดาวแล้ว)
อีกห้าพัน ล้านปี จะภินท์เพ
จะโซเซ หม่นแดง หมดแสงดาว
๏ สี่พันห้าร้อยล้านปี อายุโลก
เผชิญโชค ประสพเคราะห์ เหาะกลางหาว
ภูเขาไฟ แผ่นดินไหว ไร้เดือนพราว
จึงถึงคราว อุกาบาตชน จนเกิดเดือน
๏ เป็นดวงจันทร์ หันเหียร เวียนวิถี
โคจรรี วงรอบ ระบอบเหมือน
จวบถึงคราว ดาวหาง ย่างมาเยือน
นำพาเพื่อน มีชีวิต ติดมาชน
๏ เมื่อแรกนั้น...บนดาว ยังร้อนอยู่
หลอมเหลวดู เหมือนโคลนที่โดนฝน
บรรยากาศ ก๊าซมีเทน นภดล
เวลาพ้น จากถูกชน จนดาวเย็น
๏ เป็นแก่นแกนแน่นหนา บรรยากาศ
เริ่มรวมธาตุ เป็นสสาร อย่างที่เห็น
ไฮโดรเจ้น หลอมรวม ออกซิเจน
คาร์บ้อนเป็น ธาตุหนัก เป็นหลักมา
๏ จนเกิดฝน ล้านปี มีสมุทร
เซลล์ก็ผุด เกิดก่อ ต่อสาขา
บ้างเป็นพืช บักเตรรี อะมีบา
เป็นเชื้อรา กินแก๊สร้าย ให้กลายดี
๏ วิวัฒน์กาล ผ่านมา จนเป็นสัตว์
สารพัด วัฒนา สปีซี่ร์
ไซโรพอด แมมมอส สัตว์ล้านปี
จวบจนมี กาลวิบัติ วันอัดดาว
๏ ไดโนเสาร์ เต่าล้านปี ที่มีอยู่
ต่างตายหมู่ อุกาบาตชน จนดาวหนาว
ฝุ่นคลุ้งคลุม ยุคน้ำแข็ง อันเย็นยาว
จึงถึงคราว วิวัฒน์ อุบัติชน
๏ เจ็ดล้านปีที่ผ่าน ยังคลานอยู่
จนยืนคู่ สองเท้า เมื่อคราวหน
สี่ล้านปี ให้หลัง จึงเป็นคน
รู้เหตุผล ค้นประดิษฐ์ คิดเครื่องมือ ฯฯฯ
กาพย์ฉบัง ๑๖
๏ โลกเปลี่ยนเวียนวันผันแปร ทุกสิ่งที่แล
ไม่เที่ยงไม่แท้ แน่นอนฯ
๏ ดาวเคียงหมุนรียงสลอน อนุภาคโฟรตอน
ควบขึงดึงถอน รอนแรงฯ
๏ ซุปเปอร์โนวาพาแสง รังษีแอบแฝง
สำแดง ปะทะพลังฯ
๏ หลุมดำดึงดูดดาวรั้ง เก็บกักแสงขัง
ดาราจักรยุบยั้งพังภินท์ฯ
กาพย์ยานี ๑๑
๏ ส่งผลกระทบโลกร้อน โคจรแกนเอียงเฉียงผิน
เป็นเวรเป็นกรรมราคิน ตัดสินวันสิ้นโลกาฯ
กาพย์ฉบัง ๑๖
๏ ช้างม้าวัวควาย กินหลายผักหญ้า
กระเพาะหมักก๊าซพา มีเทนทะลุโอโซนฯ
๏ สำแดงแรงร้อนแห่งหน น้ำแข็งโดนลน
ละลายเติมท้นนทีฯ
๏ เกิดเป็นมหา อุทกวารี
ท่วมท้นวิถี ท่วมโลกมีตำนานฯ
กาพย์ยานี ๑๑
๏ แผ่นหิน เปลือกโลกเคลื่อน แรงเขยื้อนมหาศาล
สั่นไหวใต้บาดาล จากสันฐานใต้ทะเล
เกิดเป็นคลื่นนรก ม้วนอุทกสุดหลบเห
ดินดานพาลโฉเก บรรพตเท ทับยับไป
โลกเปลี่ยนวันเวียนผัน ช่วยสร้างสรรกันทางไหน
รอดอยู่หรือบรรลัย ร่วมสมัยใครจะทำฯ
๏ โลกเปลี่ยนไม่เที่ยงแท้ ทุกสิ่งแปรกี่ฉนำ
จำเริญหรือระยำ ทุกๆกรรมต่างทำเองฯ
...ทุกๆกรรมต่างทำเองฯ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น