คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 { 100 % }
Chapter 3
Ritardando การลดจังหวะให้ช้าลงทีละน้อยก็เหมือนความสัมพันธ์ของเราที่ค่อยๆลดลงทีละนิด
วันนี้วันว่าง...รึเปล่า
เปล่าหรอก จริงๆตอนพักเที่ยงแบบนี้ผมก็ควรจะอยู่ที่ห้องซ้อมแบนด์ตามปกติ
แต่วันนี้ผมโดดครับ
แหม นานๆทีผมจะโดดที ปกติผมออกจะเป็นคนจริงจังกับงานจริงๆนะครับ
จริงจริ๊ง ชานยอลเอาฟันสวยๆเป็นประกัน
พักเที่ยงหลังจากที่ไล่ไอฮุนไปซ้อมแบนด์ส่วนผมเองก็หนีมานั่งเล่นที่สวนข้างหลังตึกกับแบคฮยอนสองต่อสอง บอกอีกครั้งผมก็ไม่ได้อยากหนีซ้อมหรอกนะ แต่แบคฮยอนดันมาขอร้องผมอย่างมุ้งมิ้งอะ ผมก็เลยยอมตามใจเขาซักหน่อยเพราะผมก็ไม่ค่อยจะมีเวลาให้คนตัวเล็กอีกด้วย
แบคฮยอนใช้มือเล็กๆจับมือของผมก่อนจะลากมาที่สวน ใบหน้ายิ้มแย้มของเขาก็พาผมยิ้มไปด้วย ดูแล้วมันเพลินตาดี
คนตัวเล็กวิ่งเล่นอย่างร่าเริงเหมือนเด็กน้อยได้ออกมาเที่ยวเล่น และพาผมมานั่งอยู่ที่ใต้ต้นแอปเปิ้ลต้นหนึ่ง อืม พูดแล้วก็คิดถึงทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเซอร์ ไอแซค นิวตัน เอิ่ม นี่ผมเวิ่นเว้ออะไรอยู่เนี่ย
แบคฮยอนก้มลงไปหยิบกล่องข้าวที่เดินถือมาตั้งแต่ในห้องเรียนจนถึงที่นี่ ก่อนจะเปิดมันออกมา
"น่ารักมั้ย" คนตัวเล็กยิ้มถามแต่ใบหน้าผมกลับกำลังตกตะลึงกับกล่องข้าวตรงหน้า
ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่มันโคตรๆๆๆน่ารักเลยย
กล่องข้าวที่ดูแสนธรรมดา แต่ข้างในมันกลับไม่ใช่
ข้างซ้ายเป็นรูปเด็กผู้ชายตาตี่ผมสีดำของสาหร่ายตัดกับผิวขาวจั๋วของสีข้าว ส่วนข้างขวาเป็นรูปเด็กที่ดูคับคล้ายคับคากันแต่จะต่างกันที่สีผมสีน้ำตาลได้มาจากหมูฝอยและดูน่ารักเขียนระบุชื่อไว้ว่า 'ปาร์ค ชานยอล'
"น่ารักสิ มากด้วย" ผมตอบจามความจริงก่อนแบคฮยอนจะระบายยิ้มออกมา เขาหยิบตะเกียบไม้หักเป็นสองท่อนก่อนจะคืบข้าวปั้นในกล่องมาจ่อตรงปากของผม
"ง่ำ"
เปลี่ยนจากอาหารมาง่ำคนแทนได้มั้ยเนี่ย
- can't take my eyes off of you -
หลังจากที่กินข้าวเที่ยงกันเสร็จก็ได้เวลาเข้าห้องผมถูกแบคฮยอนลากกลับมาเพราะตอนแรกกะจะของีบต่ออีกซักนิด แต่คนตัวเล็กดันไม่อนุญาตแถมตอนแรกยังทำท่าจะงอนที่ผมไม่กลับไปด้วย ในที่สุดผมก็เลยต้องกลับมานอนต่อในห้องแทน ฮ่าฮ่า
ไม่นานหลังจากที่อาจารย์อีทึกเข้าสอน ผมก็เข้าสู่ห้วงนิทรา เตรียมตัวไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ แต่ดันมีทศกัณฐ์หัวเกรียนมาปลุกผมออกจากวิมานที่พึ่งเข้ามาไม่ถึง 5 นาทีซะก่อน
"ชานยอล"
"เหี้_ไรเนี่ย คนจะหลับจะนอน"
"โอ้ย ถ้ากูไม่มีเรื่องด่วนกูก็ไม่ปลุกมึงหรอกครับ ปล่อยให้มึงหลับเป็นตายไปเลยแฮปปี้กว่า"
"ถ้ามึงปลุกกูมาพูดแต่นี้ ลาก่อน"
"เฮ้ย เดี๋ยวๆๆๆ" ก่อนที่ผมจะฟุบหลับไปอีกรอบไอ้เซฮุนก็รีบเข้ามาห้าม เสียงนั้นดังพอที่จะทำให้คนตัวเล็กที่นั่งถัดจากเข้าไปด้านหน้า 2 แถวได้ยินบทสนทนาของทั้งสอง
"มีไรอีก"
"เปล่า กูแค่จะมาบอกว่าไอคริสมันจะขอไปกินข้าวด้วย" คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ผมที่กำลังสะลึมสะลือสะดุ้งตื่นได้เหมือนกระต่างตื่นตูม
"แหม ได้ยินชื่อไอคริสทีตาสว่างเลยนะมึง"
"พ่องสิ ว่าแต่ทำไมอยู่ดีๆมันมาขอไปกินข้าวด้วยวะ?"
"กูจะไปรู้เรอะ กูเลยจะมาถามมึงว่ามึงโอเคมั้ย ที่ให้มันไปกินด้วยกัน?"
"อืมม ก็โออ่ะ แล้วมึงหล่ะ โอเครึเปล่า"
"ก็โออ่ะ เฉยๆ กูก็ไม่ได้อะไรมากอยู่แล้ว"
"อือ เค จบละช้ะ งั้น เซย์กู๊ดบายย" ผมพูดประโยคสุดท้ายกับเซฮุนก่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะอีกรอบ ก่อนที่สติจะเรือนรางหายไปหมด ไอฮุนมันก็พูดขึ้นว่า
"เออ วันนี้ไอคริสนัดประชุมนะ อย่าลืมหล่ะมึง"
งืมๆ นัดประชุม กับอู๋อี้ฟาน รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นก่อนสติจะค่อยๆเรือนรางจางหายไปจนหมด และในที่สุดปาร์คชานยอลก็ได้เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งในคาบของอาจารย์อีทึกโดยมีแบคฮยอนที่แอบมองห่างๆอย่างห่วงๆ
หลับอีกแล้ว..แล้วจะเอาเวลาไหนไปอ่านหนังสือที่เหลือละเนี่ย นายชานยอลขี้เซา
อ๊อดด~
"ยอลลี่~"
"หืม อะไรหมาน้อย?" ผมหันไปถามคนตัวเล็กที่สะกิดเรียกผม ไม่ต้องแปลกใจทำไมผมถึงเรียกแบคฮยอนว่าหมาน้อย ก็แบคชอบเข้ามาอ้อนนู่นอ้อนนี่เหมือนลูกหมาตัวเล็กๆนี่นา ผมเลยตั้งฉายาให้ซะเลย
"วันนี้ไปกินชามะนาวกันน้า แบคอยากกินอ่า~" นั่นไงพูดยังไม่ทันขาดคำก็อ้อนอีกแว้ววว
"อืมๆ เอางั้นก็ได้นะ ถ้าหมาน้อยของยอลอยากกิน" ผมยิ้มให้คนตัวเล็กที่ยิ้มร่าจนตาหยีก่อนจะใช้มือของตัวเองขยี้ผมของแบคฮยอนจนหัวยุ่ง ทำแล้วก็รู้สึกเหมือนเดจาวู คิดถึงใครบางคนที่กำลังยืนขยี้ผมของผมเช่นเดียวกับที่ผมทำให้แบคฮยอน ที่หน้าโรงเรียน ริมฟุตบาท คิดแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
เอ้ยๆๆๆ เลิกๆๆ เป็นไรของแกฟระชานยอลลล
"เฮ้ย ชานยอล มึงยังไม่ไปอีกหรอว่ะ ไอคริสมันตามหามึงให้ควั่กเลย ไปได้แล้ว เดี๋ยวพายุก็ถล่มหรอก!"
ผมหันไปที่ต้นเสียงพบกับไอ้ฮุนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อซกบ่งบอกถึงความเร่งรีบในการหาตัวผม
หาตัวผม
นักประชุม ไอคริส อืม กี่โมงนะ 4 โมงรึเปล่า
ผมหันไปมองนาฬิกาที่แปะอยู่ที่ผนังหลังห้องก่อนจะพบกับ
อัยหย้ะะะะ
4 โมงครึ่งแล้วหรอเนี่ยยยย
ตายละผมลืมนัดไปได้ยังไงเนี่ยย มีหวังโดนไอคริสฆ่าตายแน่ๆเลย
- can't take my eyes off of you -
หลังจากที่เซฮุนมาตามชานยอลไปประชุมแบนด์ เขาก็ไม่รอช้ารีบวิ่งไปหยิบของก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องโดยลืมคนตัวเล็กที่กำลังยืนมองเหตุการณ์ด้วยความงุนงงก่อนจะเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า
หึ คนตัวเล็กร้องออกมาเบาๆ เขาเงยหน้ากระพิบตาหลายๆครั้งเพื่อไล่น้ำใสๆที่กำลังจะไหลออกจากดวงตาคู่สวย
กี่ครั้งแล้วนะที่ชานยอลลืมนัดกับเขาเพราะต้องการที่จะไปซ้อมแบนด์หรืออาจจะไปหา 'ใครบางคน' ที่อยู่ในแบนด์
ไม่ใช่ว่าเค้างี่เง่าไม่อยากให้ชานยอลไปทำหน้าที่ของตน แบคฮยอนรับได้และเข้าใจมาเสมอว่าเป็นเด็กแบนด์นั้นเหนื่อยแค่ไหน ต้องอยู่ซ้อมถึงดึกดื่นทุกวัน เรื่องนั้นแบคฮยอนทำใจมาเสมอว่าหากอยากจะ คบก็ต้องอดทน ยอมรับให้ได้
แต่การที่ชานยอลดูจะเห็น 'คนอื่น' สำคัญกว่าตนเอง เขาไม่ได้เป็นคนใจกว้างและโง่ขนาดไม่รู้ว่าชานยอลนั้นแอบมีใจให้ใครบางคนอยู่ ก็ได้แต่อดทนและปิดหูปิดตาจากความเป็นจริง ทำเหมือนเขายังตนอยู่ ไม่สิรักหรือเปล่าเขายังไม่แน่ใจ ชานยอลไม่เคยบอกรักเค้าซักครั้ง แต่จะว่าชานยอลเป็นแฟนที่ไม่ดีเลยก็ไม่ได้ เพราะชานยอลก็คอยเทคแคร์เขามาตลอดที่คบกับ แต่อาจจะยังดีไม่พอเท่าที่เขาคาดหวัง
"เฮ้ออ~" แบคฮยอนถอนหายใจออกมาก่อนจะตกใจเมื่อหันไปเห็นคนข้าฃตัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆจนถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง
"อุ้ย! ตกใจหมดเลย ....!"
ทายสิ ใครเอ่ย?
ใครมันคิดจะมาแย่งน้องแบคของชานยอลไปกัน!!?
ตกลงเรื่องนี้ใครนายเอกกันแน่ฟระเนี่ยยย
ไรต์ยังงง 555ใครมาหาแบคนะ? ติดตามตอนต่อไป
เจอกันปีหน้าน้าา ไรต์หนีไปเที่ยวญี่ปุ่นอาทิตย์นึงเดี๋ยวกลับมาอัพต่อ มาเม้นกันเยอะๆน้า รักรีด จุ๊บๆ
ความคิดเห็น