คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ::ว่าที่พ่อของแอล 3::
:: ว่าที่คุณพ่อของแอล
3 ::
“อ่อมม่า”
“ครับ”
คยองซูก้มหน้าลงไปสบตากับดวงตากลมโตที่ฉายแววสงสัยของคนข้างกาย
เด็กหญิงตัวน้อยผมแกละทำหน้าตาสงสัยสุดๆก่อนจะดึงแขนเสื้อของคนที่รักแรงๆพลางยืดตัวขึ้นไปใกล้กกหูขาว
“อ่อมม่าว่า...ผู้ชายคนนี้เป็นไงบ้าง” มือข้างนึงนำมาป้องปากกระซิบเสียงเบา
พร้อมกับส่งนิ้วสั้นๆชี้อีกข้างไปที่ชายร่างอวบนิดหน่อยที่ตอนนี้กำลังตั้งใจขับรถอยู่ไม่ได้สนใจสองผู้โดยสารที่กำลังนินทาตัวเอง
คยองซูทำหน้างงกับคำถามจากคนข้างๆ ทำให้คนถามต้องพูดย้ำอีกครั้ง
“อ่อม-ม่า-ชอบ-คน-นี้-มั้ย?” คนตัวเล็กพูดช้าๆ
ชัดๆ และเบาๆทำให้คนถูกถามถึงกับลืมตาโตด้วยความตกใจ ก่อนจะส่ายหน้าเป็นพัลวัน
เด็กหญิงพอได้คำตอบก็ทำหน้าคิดหนักก่อนจะคิดนู่นคิดนี้ไปคนเดียว
เด็กผู้หญิงคนนี้อย่าบอกนะว่ากำลังหาอัปป้าให้ตัวเองอยู่...แต่จะหาจากผู้ชายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเขาแม้กระทั่งคนขับแท็กซี่อะนะ!? -*-
“น้องแอลไม่คิดอยากได้อ่อมม่าเป็นผู้หญิงหรอครับ
เดี๋ยวพี่เป็นอัปป้าให้ก็ได้นะ” คนตัวเล็กเอ่ยถามคนตัวเล็กกว่า
คนโดนถามหันหน้ามาสบตาก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
“แอลจะให้อ่อมม่าเป็นอ่อมม่า
ไม่อยากได้ใครคนอื่นหรอก!”
“งั้นก็หาผู้หญิงมาเป็นอัปป้าแทนผู้ชายดีมั้ย”
“อัปป้าก็ต้องเป็นผู้ชายสิคะ
จะเป็นผู้หญิงได้ไง” คนตัวเล็กตอบเสียงแข็งทำให้คยองซูถึงกับนิ่งไป
แล้วอ่อมม่านี่เป็นผู้ชายได้หรอคะน้องแอล -_-
“แต่พี่เป็นผู้ชายนะ จะเป็นอ่อมม่าได้ไง”
“อ่อมม่าคนนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ คริคริ”
เด็กสาวพูดอย่างร่าเริงก่อนจะหัวเราะน้อยๆชอบใจ
คนตัวโตกว่าเกิดหมั่นเขี้ยวกับท่าทางไร้เดียงสาจึงยื่นมือไปดึงแก้มกลมๆทั้งข้างให้ยืดออกจนถูกมือน้อยๆตีเอาไปที่ต้นแขน
ยอมรับว่าเจ็บแต่ก็ไม่หยุดเพราะความหมั่นเขี้ยวมีมากกว่า
สงครามเล็กๆระหว่างสองคนแม่ลูกทำให้คนขับแท็กซี่ที่ตอนแรกไม่ได้สนใจก็อดจะนึกยิ้มออกมาไม่ได้
ครอบครัวน่ารักดีเนอะ
เมื่อกลับมาถึงบ้านทั้งสองคนก็รีบดิ่งเข้าครัวทันทีเนื่องจากว่าเด็กน้อยคนนี้ชักจะหิวขึ้นมาอีกแล้ว
น้องแอลเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารพลางทุบโต๊ะเป็นจังหวะเหมือนกับในทีวีที่ตัวเองได้ดูไปเมื่อวาน
“น้องแอลหิว หิว
หิว หิว” กำปั้นเล็กที่ทุบลงบนโต๊ะเป็นจังหวะไม่ได้ส่งเสียงดังอะไรมากมายแต่ก็ทำให้คยองซูต้องรีบหาอะไรมารองท้องน้อยๆที่ประท้วงขึ้นดังตอนที่นั่งอยู่บนแท็กซี่จนเขาแอบขำ
สุดท้ายก็ได้ซีเรียลที่ยังเหลือจากเมื่อเช้ามารองท้องไปก่อน
ส่วนเย็นนี้คงต้องไปซุปเปอร์ซะแล้ว
“เย็นนี้น้องแอลอยากกินอะไรครับ”
คยองซูถามพร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามเด็กน้อยที่เอาแต่เคี้ยวตุ่ยๆ
ดวงตากลมโตกรอกขึ้นลงซ้ายขวาอย่างใช้ความคิดทำให้เขาอดจะเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ได้
น่ารักอีกแล้วโวยยย ใจพี่จะพัง
“จริงๆแอลกินได้หมดแหละ อะไรก็ได้”
คำตอบที่ได้รับทำให้คยองซูเริ่มคิดหนัก.... อะไรก็ได้นี้ยากมากเลยนะ
“อะไรก็ได้นี้ไม่มีขายนะครับ”
คยองซูพูดพร้อมกับยื่นมือไปเช็ดคราบนมที่แก้มกลมๆ
น้องแอลเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกรอบก่อนจะส่งเสียงในลำคอพร้อมกับคิ้วน้อยๆที่เริ่มชนเข้าหากัน
“งั้น...กินอันที่เป็นเส้นๆที่อ่อมม่าทำให้คนที่มาส่งเราที่บ้านเมื่อวันก่อนก็ได้นะ
อร่อยมาก” แอลพูดพร้อมยกนิ้วโป้งให้แถมรอยยิ้มหวาน
คยองซูได้ยินก็ยิ้มตามก่อนจะลูบหัวเล็กๆที่ก้มลงจัดการกับซีเรียลของตัวเองต่อ
คนตัวเล็กนั่งมองอีกคนกินซีเรียลไปพลางๆก่อนจะพาอีกคนไปนั่งเล่นดูทีวีจนบ่ายสามโมงกว่าๆ
เด็กหญิงที่หัวเราะร่าเริงก็นอนหลับพับลงไปเรียบร้อย
คยองซูเห็นอย่างนั้นก็อุ้มอีกคนอย่างเบามือขึ้นไปบนห้องนอน
จัดท่านอนให้เรียบร้อยก่อนจะเดินลงมาเตรียมข้าวของที่จะทำสปาเก็ตตี้ให้คนหลับอุตุอยู่
คยองซูเช็คดูแล้วปรากฏว่าไม่มีเส้นสปาเก็ตตี้ จะออกไปซื้อก็ไม่อยากทิ้งให้น้องแอลที่นอนหลับอยู่คนเดียว
แล้วถ้าเกิดตื่นขึ้นมาอาจจะไม่เจอเขาจะเป็นเรื่องใหญ่ ขนาดวันก่อนบอกให้อยู่บ้านยังแอบตามไป
ถ้าครั้งนี้เกิดออกไปข้างนอกแล้วหลงทางคงแย่แน่ๆ
คยองซูเดินขึ้นไปดูว่าอีกคนใกล้จะตื่นยัง
แต่ดูแล้วคงยากหน่อยเพราะหลับลึกมาก เขาไม่อยากปลุกเลยเดินลงมาและตัดสินใจเดินไปบ้านข้างๆที่ไม่ห่างกันไปเท่าไร
แน่นอนพอเดินมาถึงต้องได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
บ๊อกๆๆ
เสียงเห่าทักทายของเหล่ามะหมาสี่ขาทำให้เจ้าของบ้านต้องเดินออกมาดู
จงอินเดินออกมาที่รั้วพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยทักคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างนอก
“ไงคยองซู มีอะไรหรือป่าว”
“คือว่าเราขอรบกวนหน่อยได้มั้ย ว่างหรือป่าว”
“ก็ว่างนะ มีอะไรหรือป่าว”
จงอินตอบทำให้คยองซูยิ้มออก
“คือว่าเราจะไปซุปเปอร์น่ะแต่ตอนนี้น้องแอลหลับอยู่
ไม่อยากจะปลุกเลยคิดว่าจะให้จงอินช่วยมาอยู่ที่บ้านดูน้องให้หน่อย เดี๋ยวเราไปแปปเดียวเดี๋ยวกลับมา
กลัวน้องตื่นมาแล้วไม่มีคนอยู่ด้วยจะตกใจ” คยองซูร่ายยาวทำให้จงอินจับใจความได้ว่าต้องไปเฝ้าหลานสาวตัวเล็กของคยองซูที่บ้าน
เจ้าตัวยิ้มพร้อมกับตอบตกลงยิ่งทำให้คยองซูดีใจมากขึ้นไปอีก
“ขอบคุณนะ” อีกคนพูดพร้อมกับยิ้มหวาน จงอินไม่ได้ตอบกลับไป
เพียงแค่ยิ้มบางๆก่อนจะเดินไปล็อกประตูบ้านให้เรียนร้อยแล้วจึงเดินตามคนตัวเล็กออกมา
ทั้งคู่เดินไปที่บ้านของคยองซูโดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนกำลังมองอยู่
“คุ้นๆแหะ” ชายร่างสูงพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะไม่ได้ใส่ใจอะไร
จากนั้นก็เดินเข้าบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งตกแต่งเสร็จไปได้ไม่นาน
หวังว่าหมู่บ้านนี้จะสงบดีนะ
“ฝากด้วยนะ เดี๋ยวเรามา”
คยองซูพูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วก็เดินออกไป
จงอินได้แค่ยิ้มให้ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองที่มีห้องนอนสองห้องอยู่ติดกัน
จริงๆหมู่บ้านของพวกเขาเป็นหมู่บ้านจัดสรรแบบบ้านเลยคล้ายๆกัน
ร่างหนาเดินไปที่ประตูสีขาวอ่อนทางขวามือแล้วแง้มออกเบาๆ
มองเห็นร่างเล็กของเด็กหญิงนอนหลับสนิทเขาเลยเลือกที่จะปิดประตูลงเหมือนเดิม
พอมองไปที่ประตูห้องนอนข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะอยากเดินเข้าไปสำรวจ
ก็รู้อยู่นะว่าเขาคิดยังไงกับคยองซู
จงอินเปิดประตูเข้าไปก็พบกับห้องนอนที่ดูเรียบร้อยสมกับนิสัยของเจ้าของห้อง
สอดส่องสายตาไปรอบห้องก่อนจะยิ้มเบาๆ
ได้กลิ่นคยองซูอ่อนๆด้วย
ร่างหนาเดินไปที่เตียงนอนก่อนจะยื่นมือไปหยิบกรอบรูปสีขาวที่ถูกคว่ำเอาไว้
เป็นรูปของคยองซูฉีกยิ้มกว้างจนตาปิดกับใครอีกคนที่ทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ
ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
สุดท้ายก็ยังคิดถึงมันอยู่สินะ...
คยองซูนี้จริงๆเลย
-
-
คยองซูเดินเข้าซุปเปอร์ใกล้บ้านด้วยความรีบร้อน
ตอนนี้ก็เกือบจะบ่ายสามโมงครึ่งแล้ว กลัวว่าน้องแอลจะตื่นถ้าเกิดรู้ว่าเขาทิ้งไว้
ถึงแม้จะมีจงอินอยู่เป็นเพื่อนแต่เขาก็ไม่อยากรบกวนอะไรมากมายหรอกนะ
ร่างเล็กๆเดินหาไปเรื่อยๆก่อนจะเจอแล้วตัดสินใจรีบหยิบมันเพื่อไปที่แคชเชียร์ทันที
แต่เพราะจังหวะการหันหลังของตัวเองดูจะรีบเกินไปจนไม่เห็นว่ามีใครกำลังยืนเลือกของอยู่ใกล้ๆ
“โอ๊ะ! ขอโทษครับ”
คยองซูกล่าวขอโทษโดยไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะรีบก้มหัวให้เล็กน้อย
อีกคนที่สูงกว่านิดหน่อยพอเห็นว่าคนที่เดินชนเป็นคยองซูก็ถึงกับระบายยิ้มทันที
“คยองซู!...ใช่มั้ย?”
เสียงแปล่งๆของอีกคนทำให้คยองซูต้องหยุดสนใจก่อนจะตกใจพอรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนรู้จักซะงั้น
“อี้ชิ้ง” คนตัวเล็กเรียกทำให้เจ้าของชื่อถึงกับยิ้มดีใจที่ยังจำกันได้
ทั้งๆที่ไม่เจอกันมาเกือบจะ 5 ปีแล้ว
“เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย”
ผู้ชายที่ชื่อว่าอี้ชิงเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มทำให้คยองซูนึกถึงวันเก่าๆ
คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าน้อยๆก่อนจะถามกลับ
เขากับอี้ชิงเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมพอขึ้นมหาลัยก็แยกย้ายกันไปที่อื่น
อี้ชิงต้องกลับไปเรียนต่อที่จีนประเทศบ้านเกิดเพื่อสานต่อกิจการของครอบครัว
แรกๆก็ติดต่อกันบ้างแต่พอผ่านไปต่างคนต่างเรียนหนักกันทั้งคู่ก็ทำให้ไม่ได้ติดต่อกันเลย
จะว่าไปก็คิดถึงเหมือนกันแหะ
“กลับมาเกาหลีตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”
คยองซูชวนอีกคนคุยด้วยความคิดถึงโดยลืมไปเลยว่าต้องรีบกลับบ้าน
ส่วนคนถูกถามก็ทำท่านึกนิดนึงก่อนจะตอบกลับ
“เมื่อวานนี้เอง” อี้ชิงตอบด้วยท่าทางซื่อๆทำให้เขาต้องยิ้มอีกครั้ง
เห็นทำท่านึกก็คิดว่าจะนาน ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ
“โห...แล้วจะมาอยู่นานมั้ยอ่ะ”
“ก็คงเกือบเดือนสองเดือนเลยล่ะ มาทำงานน่ะ”
อีกคนตอบพลางยิ้มจนเกิดลักยิ้มน้อยๆขึ้นบนแก้มขาวนวล
คยองซูยิ้มรับก่อนจะสังเกตเห็นว่าอีกคนก็กำลังเลือกของอยู่เลยว่าจะไม่รบกวน
เขาก็จะได้...รีบ...ไป...จ่ายเงิน...!!
อ๊า! เขาลืมไปเลย!
“อาคือ...เราคงต้องขอตัวก่อนนะ พอดีรีบอยู่
ไปนะไว้ค่อยเจอกัน” คยองซูพูดรวบรัดก่อนจะยิ้มให้แล้วรีบหันหลังกลับทันที
อี้ชิงเห็นท่าทีรีบร้อนที่กำลังบอกลาของอีกคนทำให้เขาต้องรีบวางของทั้งหมดลงพร้อมกับส่งเสียงเรียกอีกคนไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนคยองซู! คือเราขอเบอร์ติดต่อเอาไว้ได้มั้ย...โทรศัพท์เครื่องก่อนหายน่ะ”
หนุ่มชาวจีนพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้คนตัวเล็กที่กำลังรีบร้อน
มือป้อมๆรับมากดเบอร์ตัวเองอย่างคล่องแคล่วแล้วส่งคืนพร้อมกับบอกลาอีกรอบ
“ไว้เจอกันนะ!” พูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วเดินออกไปทันที
อี้ชิงมองตัวเลข 10 ตัวบนหน้าจอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนที่เดินลับหายสายตาไปแล้ว
“ไว้เจอกันนะ คยองซู” ชายหนุ่มพึมพำพร้อมรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะเมมเบอร์เมื่อสักครู่ไว้แล้วต่อสายหาอีกเบอร์ที่เขาจำได้อย่างขึ้นใจ
ยกหูรอสายสักพักก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำตอบรับจากปลายสาย
“สวัสดีครับพี่ ให้เดาสิวันนี้ผมเจอใครเอ่ย...”
[...]
“คนของพี่ไงครับ”
-
-
“อ่อมม่าเมื่อไรจะกลับมา”
เสียงใสๆที่ฟังดูงัวเงียเพราะเพิ่งตื่นนอนของเด็กหญิงทำให้คนอายุมากกว่าหันไปสนใจ
ตอนนี้น้องแอลตื่นแล้ว แถมเอาแต่เรียกร้องหาอีกคนจนทำให้คิมจงอินนึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ติดคยองซูถึงขนาดนี้
แต่เพราะว่าเป็นเด็กเลยไม่คิดอะไรมาก
“อีกไม่นานหรอกครับ รอก่อนนะ”
พูดแค่นั้นพลางยื่นมือไปลูบหัวฟูๆน้อยๆอย่างเอ็นดู
คนโดนลูบหัวทำหน้ามุ่ยลงก่อนจะหันไปสนใจจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายการ์ตูนหมีสามตัวที่น้องแอลเพิ่งดูไปเมื่อคืน
“น้องแอลครับ”
“หืม” ตอบรับด้วยเสียงห้วนๆทำให้อีกคนหมั่นไส้นิดหน่อย
น่าจับตีปากจริงๆ
“น้องแอลอายุเท่าไรแล้วครับ”
ถามทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากจอโทรทัศน์
คนโดนถามทำหน้าหนักใจก่อนจะนึกคิดได้ว่าป้ายุนเคยบอกอายุบนโลกมนุษย์ของเขาไว้ซึ่งจะน้อยกว่าโลกบนสวรรค์ถึงสองเท่า
ถ้างั้นก็....
“หกขวบ”
“จริงหรอครับ
น้องแอลนี้ฉลาดจังทั้งๆที่เพิ่งจะหกขวบเอง”
จงอินเอ่ยปากชมพร้อมกับหยิกแก้มกลมอย่างเอ็นดู
ในหัวของจงอินตอนนี้มีแต่คำว่าเอ็นดูเต็มไปหมด เด็กหญิงไม่สนใจก่อนทำหน้าบึ้งพอหันไปมองนาฬิกาแล้วยังไม่เห็นวี่แววของอ่อมม่าก็ยิ่งทำให้จงอินนึกเอ็นดูเข้าไปอีก
ตอนนี้จงอินอยากจะมีลูกจริงๆเลยครับ
“อ่อมม่าเมื่อไรจะมา ฮือออ ฮึก ฮือ”
ไม่นานนักบ่อน้ำตาที่เก็บไว้ก็ไหลออกมาจนอีกคนตกใจ
จงอินรีบดึงอีกคนมากอดปลอบพร้อมกับลูบหัวไปด้วย แต่อีกคนก็เอาแต่เรียกหาอ่อมม่าๆพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย
ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆทำให้จงอินยิ่งคิดหนัก
ภาวนาให้คยองซูกลับมาเร็วๆสักที
อีกคนคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว
เขาก็คิดถึงด้วยเหมือนกัน
“กลับมาแล้วครับ โอ๊ะ! น้องแอล” คิดถึงกันได้ไม่นานเสียงนุ่มที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กๆที่เดินเข้ามา
ดวงตากลมโตหันไปมองคนหนึ่งคนกับวิญญาณอีกหนึ่งดวงที่ตอนนี้นั่งกอดกันอยู่บนโซฟาก็ตกใจ
ที่ตกใจเพราะวิญญาณน้อยๆกำลังน้ำตาไหลอย่างน่าสงสารโดยที่เขาไม่รู้สาเหตุ
“อ่อมม่า! ฮืออ”
ร่างเล็กๆรีบกระโดดออกจากอ้อมอกของจงอินแล้ววิ่งไปหาคนเพิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
คยองซูย่อตัวลงมารับอ้อมกอดน้อยๆที่ตอนนี้กำลังสั่นไหว ใบหน้าน้อยๆที่ชอบยิ้มแย้มอย่างร่าเริงตอนนี้ยู่ยี่ลงจนเขาแทบใจสลาย
“ร้องไห้ทำไมครับ” มือน้อยๆลูบหัวฟูๆของคนที่ซบลงบนลาดไหล่แคบๆของตัวเอง
น้องแอลสะอื้นไห้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ก็อ่อมม่า ฮึก ไม่กลับมาสักที น้องแอลคิดถึง”
มือน้อยๆยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกก่อนจะเบ้ปากน้อยๆลงอย่างน้อยใจ
ทำไมอ่อมม่าถึงได้ทิ้งเขาไว้ที่บ้าน ทำไมไม่พาไปด้วยกัน ไม่รักกันแล้วหรอ
ทำไมต้องทิ้งน้องแอลด้วย
น้องแอลเกลียดการโดนทิ้ง
“โอ๋ๆ พี่ขอโทษนะครับ ไม่ร้องนะๆ
สัญญาว่าคราวหน้าจะรีบกลับมาเลย” คยองซูพูดพลางปาดหยดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสายให้อีกคน
น้องแอลพยายามกลั้นก้อนสะอื้นลูกต่อไปพร้อมกับส่ายหัวไปมา
“ไม่ๆ ครั้งหน้าต้องพา ฮึก แอลไปด้วย” พูดอย่างเอาแต่ใจทำให้คยองซูยอมใจอ่อน
เขายิ้มรับพร้อมกับดึงอีกคนเข้ามากอดปลอบโดยทุกกระการทำต่างๆอยู่ในสายตาของคิมจงอินทั้งหมด
เขามองคนภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม นึกแล้วก็อยากจะเข้าไปกอดก้อนกลมๆนั่นบ้าง
“งั้นน้องแอลไปนั่งรอที่โซฟากับพี่จงอินต่อนะครับ
เดี๋ยวพี่จะไปทำสปาเก็ตตี้มาให้น้องแอลกิน โอเคมั้ย”
คยองซูพูดขึ้นเพราะเมื่อกี้เขาหันไปสบสายตากับอีกคนพอดี เกือบลืมไปแล้วว่าจงอินอยู่ในบ้าน
พอดียังไม่ได้เปิดไฟทำให้กลมกลืนเกิน...
ล้อเล่นนะ
“ก็ได้”
ยอมตกลงง่ายๆพร้อมกับเดินไปหาจงอินที่มองอยู่
คยองซูลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าครัวไป
พอลับสายตาจงอินก็หันไปแหย่เด็กผู้หญิงที่เช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองอยู่
“ขี้แยจังเลยนะ”
“ขี้แยแปลว่าอะไรอ่ะ”
คนที่เพิ่งหย่อนก้นหน่อยๆลงบนโซฟาหันไปถามพร้อมขอบตาที่เริ่มแดง
จงอินยิ้มพร้อมกับชี้ไปที่หน้าของคนถาม
น้องแอลเอียงคอสงสัยก็ยิ่งทำให้อีกคนหลงเข้าไปใหญ่
“ขี้แยก็คือร้องไห้แบบนี้ไงครับ”
ไม่พูดเปล่ายื่นนิ้วไปเกลี่ยขอบตาที่ยังเปียกนิดหน่อย
น้องแอลเงยหน้าสบตากับอีกคนก่อนจะเริ่มคิด...
พี่ชายคนนี้ก็เหมาะกับตำแหน่งอัปป้าดีนะ
ดูอบอุ่นๆ แถมยังมีคุณหมาเยอะแยะเต็มไปหมด อืม...
ถ้ามีคิมจงอินมาเป็นอัปป้าก็คงจะดี
“นี้พี่ชายชอบอ่อมม่าม่ะ”
อีกคนถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้คนถูกถามผงะไปนิดหน่อย
จงอินสบตากับคนตัวเล็กที่ยังนั่งจ้องหน้ารอคำตอบจากเขาอย่างแน่วแน่จนเขาเผลอหลุดยิ้ม
จงอินยื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะตอบเสียงหนักแน่น
“ชอบสิ ชอบมาตลอดแหละ”
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะจงอิน”
คยองซูเดินมาส่งอีกคนที่หน้าบ้านพร้อมกับน้องแอล
จงอินยิ้มรับก่อนจะย่อตัวลงไปหาเด็กหญิงตัวเล็กที่เพิ่งกินข้าวด้วยกันไปเมื่อกี้นี้
“ไปก่อนนะครับ
ถ้าเกิดว่างๆแวะไปเล่นที่บ้านพี่ก็ได้นะ”
“อื้ม! น้องแอลไปแน่นอน” เด็กน้อยรับปากทำให้ถูกยีหัวเบาๆ
มือน้อยยกขึ้นมาดันอีกคนที่กำลังแกล้งตัวเองออกพร้อมกับมุ่ยหน้าขัดใจ
พี่ชายนี้ชอบทำผมน้องแอลยุ่งจริงๆ โกรธนะ
“งั้นพี่ไปแล้วนะ
แล้วก็...อย่าลืมสัญญาของพวกเรานะ”
จงอินยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะโบกมือให้เด็กหญิง ใบหน้าคมคายแอบส่งซิกให้เด็กหญิงตัวเล็กก่อนจะเงยหน้ามามองผู้ปกครองที่ตอนนี้ทำท่าทีสงสัยอย่างปิดไม่อยู่
แอบสัญญาอะไรกันสองคนนี้
“ไปนะ” พูดแค่นั้นพร้อมกับเดินออกไป
คยองซูโบกมือให้จนร่างของจงอินลับสายตา
คนตัวเล็กอมยิ้มที่วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดีก่อนจะถูกเรียกร้องความสนใจจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กข้างๆ
“เข้าบ้านกันเถอะ การ์ตูนจะมาแล้ว”
พูดแค่นั้นก็ลากคนตัวใหญ่กว่าเข้าบ้านไป
พอประตูหน้าบ้านปิดลงบริเวณหน้าบ้านที่ไร้ผู้คนก็เงียบสงบแต่ผ่านไปสักพักก็มีฟองสบู่สีรุ้งลอยออกมาจากบริเวณต้นมะม่วงต้นใหญ่ที่เจ้าของบ้านปลูกเอาไว้
ร่างของชายหนุ่มที่ยินมองทุกการกระทำของสองแม่ลูกค่อยๆปรากฏเห็นเด่นชัด
เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ไม่ได้ต่างจากคนธรรมดาสามัญทำให้เจ้าตัวรู้สึกเคอะเขินนิดหน่อยแต่พอคิดว่าคงจะชินได้ถ้าได้อยู่สังเกตการณ์ไปสักพัก
“เมี๊ยว~” เสียงร้องน้อยๆของแมวสีขาวทำให้ชายหนุ่มหันไปสนใจ
เขายิ้มมือไปอุ้มเจ้าแมวตัวเล็กที่นอนอยู่บนกำแพงมาสู่อ้อมอกอย่างรักใคร่
มือที่นุ่มนิ่มผิดกับมือผู้ชายค่อยๆลูบอย่างอ่อนโยนก่อนจะยกยิ้มอย่างมีความสุข
“กลับบ้านเรากันเถอะ”
สิ้นเสียงร่างของชายหนุ่มก็หาบวับไปเหลือเพียงฟองสบู่หลากสีล่องลอยไปทั่วบริเวณบ้าน
ดวงตากลมโตของคยองซูที่กำลังเดินไปปิดม่านที่หน้าต่างเหลือบไปก็เอะใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักบวกกับเสียงเรียกน้อยๆของเด็กหญิงที่นั่งรออีกคนไปอ่านหนังสือให้ฟังทำให้เขาต้องปล่อยให้มันผ่านไป
ถ้าอยู่ต่ออีกนิดก็คงจะเห็นแล้วว่ามีคนมายืนดูเขาอยู่หน้าบ้าน
หรืออาจจะไม่ใช่คนกันนะ
-
-
“คุณคยองซูครับ
ทำงานเสร็จแล้วจะไปไหนต่อหรือป่าว” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยถามขณะที่คยองซูกำลังยกเมนูอาหารเช้าที่เจ้าตัวสั่งมาให้
มินซอกส่งสายตาหวานให้ก่อนจะเอียงคอสงสัยโดยที่คยองซูก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“พาน้องแอลไปดูหนังครับ”
คยองซูตอบไปตามความเป็นจริงทำให้เด็กผู้หญิงที่นั่งกินแพนเค้กอยู่ข้างๆหันมายกยิ้มให้
คยองซูยิ้มกลับก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ
เหลือแค่เพียงลูกค้าขาประจำและสาวน้อยคนใหม่ที่เขาต้องการทำความรู้จัก
“น้องแอลสนิทกับคุณคยองซูมากๆเลยหรอครับ”
มอนซอกถามพร้อมกับทานมื้อเช้าไปพลางๆ เด็กผู้หญิงพยักหน้าลงพร้อมกับหันมาหยิบไส้กรอกบนจานของเขา
มินซอกมองมือป้อมๆที่หยิบไส้กรอกของเขาเข้าปากไปด้วยอาการอึ้งๆ
เด็กนี่...แย่งมื้อเช้าเขาไป!
“น้องแอลอยากกินหรอครับ
เอามั้ยเดี๋ยวสั่งให้อีกหนึ่งชุด”
มินซอกพูดอย่างเอาใจแต่อีกคนก็ตอบเพียงส่ายหัวทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย
เดาใจยากจัง
“แล้วคุณซาลาเปาอยากกินแพนเค้กมั้ย น้องแอลกินไม่ไหวแล้ว”
ดวงตากลมเงยขึ้นมามองหน้าอีกคนพร้อมกับยื่นช้อนที่มีแพนเค้กคำโตมาไว้ตรงหน้าเขา
มินซอกมองท่าทางการกระทำของอีกคนอย่างนึกขำ
ขอคิดเข้าข้างตัวเองว่าน้องแอลเขาอยากจะแลกกับไส้กรอกชิ้นเมื่อกี้ไปแล้วกัน
“กินก็ได้ครับ”
มินซอกงับชิ้นแพนเค้กที่ถูกป้อนจากเด็กหญิงทำให้เจ้าตัวยิ้มชอบใจ
จากนั้นก็หันมาชวนอีกคนคุยนู่นคุยนี้ไปเรื่อยตามประสาเด็กร่าเริง
คยองซูที่แอบมองอยู่ก็เบาใจที่ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี
แม้จะรู้สึกลำบากใจที่ต้องฝากน้องแอลไว้กับลูกค้าแต่เพราะเจ้าตัวยินยอมแถมพวกเขายังค่อนข้างสนิทกันดี(?)เลยยอมๆไป
“คุณซาลาเปาไม่ไปทำงานหรอ
น้องแอลเห็นคุณมานั่งรออ่อมม่าทำอาหารให้ทานตลอดเลย” คนอายุน้อยกว่าถามขึ้นอย่างสงสัย
ตลอดสัปดาห์ที่ตัวเองตามคยองซูมาทำงานก็จะเห็นมิกซอกมาหาที่ร้านตลอด
“ทำงานสิ
ถ้าไม่ทำจะมีเงินมาอุดหนุนคุณคยองซูหรอครับ”
“งั้นทำงานอะไรอ่ะ” น้องแอลถามอย่างสงสัย
ที่ถามเยอะก็เพราะว่าเขาจะเก็บรวบรวมข้อมูลของว่าที่อัปป้าแต่ละคนไว้ต่างหาก
ไม่ได้อยากรู้อะไรหรอกนะ แต่มันจำเป็น
น้องแอลเก่งมั้ยล่ะ
“อืม...เป็นเจ้าของโรงเรียนน่ะ”
เจ้าตัวตอบก่อนจะยกแก้วกาแฟที่เริ่มอุ่นแล้วขึ้นมาจิบ
น้องแอลพอได้คำตอบก็ยิ้มตื่นเต้น เพราะเขาจำได้ว่าโรงเรียนคือที่ๆมีเด็กเยอะมากๆ
แถมเด็กทุกคนก็ต้องไปด้วย วันหลังน้องแอลให้อ่อมม่าพาไปโรงเรียนดีมั้ย
“คือขอโทษนะครับ”
ยังไม่ทันที่น้องแอลจะได้ถามอะไรอีกคนต่อก็มีเสียงทักดักพวกเขาเอาไว้
เป็นผู้ชายร่างสูงใส่เสื้อยืดสีดำ หน้าตาที่ถูกปิดด้วยแมสสีดำเผยให้เห็นแค่แววตาเรียวเล็กดูมีเสน่ห์
นิ้วมือเรียวยาววางบนเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ข้างๆน้องแอลก่อนจะพูดอีกครั้ง
“เก้าอี้ตัวนี้มีคนนั่งหรือป่าวครับ”
“อ่อไม่มีครับ” มินซอกตอบทำให้ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนจะลากเก้าอี้ตัวดังกล่าวไป
น้องแอลมองผู้ชายตัวสูงที่เพิ่งเดินไปที่โต๊ะที่อยู่ไม่ห่างกันไปเท่าไร
โต๊ะตัวนั้นมีคนนั่งอยู่กันตั้งสี่คน มีแต่ผู้ชายหน้าตาดีๆทั้งนั้นเลย....
จะว่าไปมาคนหน้าคุ้นๆตั้งสองคนแหนะ
“น้องแอลอยากทานอะไรอีกหรือป่าว”
มินซอกเอ่ยถามหลังจากเห็นเด็กหญิงเงียบไป
เจ้าตัวหันมาตอบปฏิเสธก่อนจะรีบสอดส่องสายตาหาอ่อมม่าของตัวเอง
เริ่มเบื่อแล้ว
ผ่านไปสักพักคุณซาลาเปาก็ต้องกลับไปทำงาน
แล้วตอนนี้คนในร้านก็เริ่มซาลงแล้ว เหลือแค่เพียงไม่กี่โต๊ะ
แต่คนที่มาขอเก้าอี้น้องแอลไปยังอยู่นะ ดูคุยอะไรกันไม่รู้แต่ดูจะกำลังสนุกอยู่เลย
น้องแอลเข้าไปทักดีมั้ยน่ะ เผื่อบางทีอาจจะเหมาะกับอัปป้าของน้องแอลก็ได้นะ
“น้องแอลครับ”
เสียงทักของคยองซูทำให้เด็กหญิงต้องหันไปสนใจก่อนจะยิ้มกว้าง
คนตัวเล็กนั่งลงข้างๆเด็กผู้หญิงก่อนจะพูดประโยคที่เจ้าตัวอยากได้ยินมาตั้งนาน
“พร้อมไปดูหนังกันหรือยังครับ พี่เสร็จงานแล้ว”
“ไปๆ แอลอยากไปดูหนังแล้ว เย่!” เด็กหญิงชูมือดีใจก่อนจะเดินออกจากร้านไปกับคยองซูด้วยรอยยิ้มสดใส
จริงๆที่คยองซูปลีกตัวออกมาได้เพราะมีเด็กใหม่เข้ามาทำงานหรอกนะ
ไม่งั้นก็คงได้ทำจนถึงตอนเย็นเหมือนวันอื่นๆ มือเล็กจับกับมือป้อมไว้แน่น
ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังเดินไปที่โรงหนังที่อยู่ไม่ไกลจากร้านที่คยองซูทำงานอยู่เท่าไร
สองแม่ลูกที่เดินจูงมือกันเข้าโรงหนังไปอยู่ในสายตาของอี้ชิงตลอด
จะบอกว่าบังเอิญก็ได้นะที่เขาได้มาทำธุระแถวนี้แล้วเจอกับคยองซูพอดี
แถมยังอยู่กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักอีกด้วย
แต่จะเรียกว่าอยู่ในสายตาของเขาคนเดียวก็คงไม่ได้สินะ
“คยองซูจริงๆด้วย แล้วเด็กผู้หญิงข้างๆนั่นใคร”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยทำให้คนที่ยินอยู่ข้างๆไหวไหล่เบาๆ
“ไม่รู้สิ คงจะเป็นหลานมั้ง
เพราะตอนนี้คงจะเป็นลูกไม่ได้หรอกเพราะคยองซูยังไม่แต่งงานนะ อี้ฟาน”
“อือ หวังว่าแค่หลานนะ”
TBC...
เย่ววววววววววววววววววววววววว
อัพแล้วโวยยยยยยยยย มาซะดึก อาจจะแปลกๆไปหน่อย ภาษาอาจจะไม่เหมือนเดิมเพราะเราไม่ได้แต่งมานานพอสมควร หากมีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยนะ ไม่สนุกถ้าเพิ่งทิ้งกันน้าาา เรากำลังจูนตัวเองอยู่ วันนี้ก็นั่งแต่งทั้งวัน ฮ่าๆๆๆ
ฮือออออ ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แถมว่าที่อัปป้ายังออกมาไม่ครบเลย แต่ใกล้จะครบและ ตอนหน้าครบแน่นอน
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคนที่ยังรออ่านนะคะ ตอนนี้เราเปลี่ยนฟ้อนต์ตัวหนังสือด้วย ถ้าเกิดมีอะไรติชมกันได้นะ แล้วก็มีคนบอกว่าเมนชั่นหาเราไม่ได้ ฮืออออ เราก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ ทิ้งชื่อแอคไว้ก็ได้นะเดี๋ยวเราตามไปหลอก เอ๊ย! ไปทักเอง ฮ่าๆๆๆ
สุดท้ายก็ขอให้อ่านอย่างมีความสุขกันนะคะ รักทุกคนมากๆ จุ๊บๆ
ความคิดเห็น