คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ::ว่าที่พ่อของแอล 2:: 100%
::ว่าที่คุณพ่อของแอล 2::
“จะยืนเซ่ออยู่ทำไม ก็วิ่งเซ่!”
“เฮ้ย!” ยังไม่ทันที่คยองซูจะเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ข้อมือของตนก็ถูกชายแปลกหน้าที่ทำตัวน่าสงสัยฉุดกระชากลากให้คยองซูออกแรงวิ่งตาม ว่าแต่วิ่งหนีอะไรกัน
“อปป้า~ นั่นแบคฮยอนอปป้า!” เสียงใสของหญิงสาวดังไล่หลังคยองซูมา เท้าเล็กยังคงก้าวฉับๆด้วยความเร็วตามแรงดึงของชายตรงหน้า คยองซูขมวดคิ้วก่อนจะโพล่งถามขึ้น
“นี้เราหนีอะไรกันอ่ะ นาย!”
“นี้แกล้งไม่รู้หรือไง! ก็หนีแฟนคลับฉันนะสิ!!” ชายแปลกหน้าตอบกลับทั้งๆที่ยังคงวิ่งอยู่ คยองซูแม้จะยังงงแต่ก็วิ่งตามต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาวิ่งลงมาที่ชั้นสองก่อนจะเข้าไปหลบตรงบันไดหนีไฟ ซึ่งคิดว่าพวกแฟนคลับยังคงตามมาไม่ทันแน่ๆ ทั้งคู่จึงทิ้งตัวลงบนขั้นบรรไดด้วยความเหนื่อยหอบ
เฮ้อ~ วันนี้ก็มีเรื่องวุ่นๆขึ้นอีกแล้ว อุตสาห์ว่าจะมาเที่ยวเล่นกับน้องแอลเฉยๆ....
น้องแอล!
“ตายแล้ว!!” คยองซูโพล่งขึ้นด้วยความตกใจทำเอาคนที่นั่งพักเหนื่อยข้างๆตกใจจนสะดุ้ง ชายแปลกหน้าที่สวมแว่นกันแดดสีชาพร้อมกับผ้าปิดปากลุกขึ้นตามคยองซู ก่อนจะเอ่ยถามถึงเหตุผลที่ทำให้คนตัวเล็กต้องตะโกนดังลั่นขนาดนี้ ถ้าแฟนคลับของเขาได้ยินขึ้นมาทำไง!
“นายจะตะโกนทำไมเนี่ย...บ้าหรือป่าว”
“ลูก...ลูกสาวของผม ไม่ได้ล่ะ!”
“เฮ้ย! แล้วนั่นนายจะไปไหน!” แบคฮยอนยังไม่ทันจะได้คำตอบจากร่างเล็กเลย เจ้าตัวก็วิ่งไปที่ประตูทางเข้าที่พวกเขาเข้ามาหลบ แบคฮยอนเห็นดังจึงวิ่งไปคว้าร่างของคนตัวเล็กที่ดูจะรีบมากจนเขาต้องรู้ถึงสาเหตุให้ได้
“นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย!” แบคฮยอนตะคอกใส่ร่างเล็กซึ่งมันทำให้เขาสะดุ้งจนได้สติ คนตัวเล็กทำหน้าเสีย ก่อนจะเอ่ยขอโทษ แต่ดูเหมือนวันนี้แบคฮยอนจะออกจาบ้านโดยไม่ได้พกความโชคดีมาด้วยเลยนะ
“เสียงอปป้านี้! อปป้าอยู่ในนี้”
“ชิ! ซวยแล้วไง” แบคฮยอนสถบเบาๆก่อนจะออกแรงดึงลากคยองซูให้วิ่งขึ้นบบรไดตามเขามา
“อ๊า! คุณจะลากผมไปไหนเนี่ย!!” คยองซูร้องลั่นเมื่อข้อมือของเขาโดนคนตรงหน้าบีบจนแน่นและออกแรงลากให้ขึ้นบรรไดตามตนเองไป นี้! มันจะมากไปแล้วนะ เขาไม่ใช่ตุ๊กตานะ!!
“เงียบน่า! ไม่เห็นหรือไงว่าพวกนั่นตามมาแล้วนะ...” แบคฮยอนพูดเสียงต่ำทำให้คยองซูหันไปมองข้างล่างก็เห็นกลุ่มหญิงสาวที่เปิดประตูเข้ามาแล้วมองหาพวกเขากันใหญ่ ไม่รอช้า คนตัวเล็กรีบก้าวฉับๆตามแบคฮยอนไปอย่างรวดเร็ว
พวกนี้น่ากลัวจังแหะ - -
.
.
.
.
“นายเข้าไปหลบในนี้ก่อน” แบคฮยอนเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าสักร้านหนึ่งก่อนจะลอบเข้าไปที่หลังร้าน จัดการฟาดเงินปิดปากพนักงานที่กำลังจะเอ่ยห้ามพวกเขา
“แล้วคุณล่ะ พวกเขาวิ่งไล่ตามคุณไม่ใช่หรอ” คยองซูขมวดคิ้ว คือสงสัยอยู่ตอนนี้ว่า เขาจะหลบทำไมกัน บ้าหรือป่าว? อีตาบ้านี้ต่างหากที่จะต้องหลบ
“เออ ฉันก็จะหลบเหมือนกัน แต่ห้องลองเสื้อนี้มันเข้าไปได้แค่คนเดียว” ผู้ชายคนนั้นพูดเสียงเหนื่อย แม้ว่าเขาจะสวมแว่นตากันแดดแต่คยองซูคดว่าตอนนี้เขาต้องกลอกตาไปมาแน่ๆเลย
“ไม่ๆ ผมจะไม่ซ่อน ผมจะไปตามหาลูกผม” คยองซูปฏิเสธเสียงแข็งจนแบคฮยอนหงุดหงิด ร่างโปร่งพยายามห้ามไม่ให้คยองซูออกไปข้างนอก เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ถ้าเกิดว่าเจ้าตัวไปเจอกับแฟนคลับของเขา...เอ๊ะ! แล้วนี้เขาจะไปเป็นห่วงเด็กนี้ทำไมกัน
ไม่รู้เหมือนกันแหะ...
สงครามเล็กๆเกิดขึ้นเมื่อคยองซูยังยืนยันว่าจะออกไปข้างนอก แต่แบคฮยอนก็ยังคงกันไว้ไม่ให้ออกไป แต่ทุกอย่างก็หยุดชะงักลงเมื่อเสียงแหลมๆของเหล่าแฟนคลับได้ยินอยู่ใกล้ๆ...
“ซวยแล้ว...” แบคฮยอนพูดพึมพำก่อนจะแทรกตัวเข้ามาซ่อนในห้องลองเสื้อห้องเดียวกันกับคยองซู มือบางเอื้อมมาปิดประตูและลงกลอนอย่างแน่นหนา คยองซูลืมตาโพล่งก่อนจะเอ่ยถามว่าทำไมไม่ไปหลบอีกห้องหนึ่ง เพราะห้องลองเสื้อก็ไม่ได้ใหญ่มากมาย เข้าไปสองคนก็เลยเบียดกันนิดหน่อย
“ทำไมคุณ...อื้อ!” คยองซูยังพูดไม่ทันจบ มือเรียวของแบคฮยอนก็เอื้อมมาปิดปากของคนตัวเล็กไว้ คยองซูดิ้นขัดขืนเล็กน้อย แต่ก็สงบลงเมื่อแบคฮยอนถอดแว่นตาออกและส่งสายตาประมาณ เงียบซะ!
คยองซูจ้องแววตาที่ดูน่าหลงใหลนิ่ง แววตาดังกล่าวทำให้เขาถึงกลับสะดุ้ง เพราะจากแววตาที่ดูทรงอำนาจสั่งให้เขาสงบแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ดูอบอุ่น และดูคุ้นเคย คุ้นมาก...
ตึก ตึก ตึก
เสียงก้าวฝีเท้าของใครสักคนดังเข้ามาใกล้ๆ ทำให้คยองซูเผลอกำชายเสื้อของอีกคนแน่นด้วยความตื่นเต้น ริมฝีปากอิ่มก็เม้มเข้าหากัน ก่อนจะหลับตาปี๋ ที่ขมับก็มีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย
แบคฮยอนอมยิ้มเล็กน้อยกับอาการตื่นเต้นของคนตัวเล็ก ทั้งๆที่ในห้องนี้ก็ไม่ได้ร้อนอะไรนะ แต่คนตัวเล็กกลับเหงื่อออก แล้วดูนี้...ตากลมโตก็ปิดแน่นราวกับหวาดกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิด แบคฮยอนรู้สึกว่าชายเสื้อของเขากำลังยับยู่ยี่ไม่เหลือชิ้นดีเพราะมือป้อมกำซะแน่น
ตลกดีแหะ
ตึก ตึก ตึก กึก!
เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้มากก่อนจะเงียบลง คยองซูค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง ริมฝีปากเผลอพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตากลมหลุบมองลงล่างเมื่อสายตาเรียวของแบคฮยอนก็ไม่ได้จดจ้องไปที่ไหนนอกจากหน้าเขา แต่เมื่อหลุบตาลง คยองซูเพื่อสงเสียงในลำคอเมื่อเขาเห็นรองเท้าคัทชูสีดำที่ดูเป็นของผู้หญิง...อะไรกัน ตามมาถูกได้ไง!
“อื้อ...” แบคฮยอนหันไปมองตามสายตาของคยองซูก่อนจะเบิกตาขึ้น แขนเรียวเผลอยกขึ้นมากอดร่างเล็กให้จมหายไปในอกของเขาและหันหลังให้ประตู คยองซูดูจะตกใจเล็กน้อยที่โดนกอดแน่นจึงทุบเบาๆที่หลังของแบคฮยอน
“คุณจะกอดผมทำไมเนี่ย...” คยองซูพูดเสียงอู้อี้ แบคฮยอนได้แต่ดันร่างเล็กให้ชิดกับผนังด้านในสุดก่อนจะเอ่ยกระซิบเบาๆที่กกหูของคนตัวเล็ก
“เงียบน่า...เดี๋ยวโดนจับได้หรอกว่าอยู่ในนี้นะ” แบคฮยอนกระซิบเสียงแผ่วเบา ก่อนจะกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม คนตัวเล็กไม่มีทางเลือกจึงได้แค่เงียบๆและยกแขนขึ้นกอดตอบร่างโปร่ง
ปัง!
“อื้อ!” คยองซูเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆประตูก็ถูกใครสักคนถีบอย่างแรง นี้มันจะฮาร์ดคอเกินไปแล้ว! ร่างเล็กเริ่มหายใจติดขัด บรรยากาศในตอนนี้ช่างชวนให้เขารู้สึกระทึกและแทบจะระเบิดตัวตาย มีความรู้สึกเหมือนโดนตามล่าจากพวกมาเฟียใจโหดชอบกินโค้กกับเป๊ปซี่! (เดี่ยวๆ...)
“เงียบๆน่า” แบคฮยอนพยายามกล่อมให้คยองซูสงบ ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อประตูสีขาวกำลังถูกถีบและพยายามจะเปิดมันเข้ามา เสียงเขย่าประตูดังอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับจงใจจะพังมันเข้ามา ลมหายใจของทั้งคู่ติดขัด ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่ง...
พลั่กๆๆ ปัง!
โครม!!.
.
.
.
“ออมม่า!” เด็กหญิงตัวเล็กป้องปากตะโกนเรียกหาชายร่างเล็กที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน
เมื่อกี้ยังเดินจับมือกันอยู่เลย
พอกลุ่มคนบ้าที่เอาแต่ร้องกรี๊ดวิ่งผ่านไปออมม่าก็หายไปแล้ว- -
“ออมม่าอยู่ไหน~”
“เฮ้~ เด็กน้อย...หลงทางหรอจ๊ะ”
น้ำเสียงทุ้มเข้มที่ฟังดูนุ่มลื่นดังอยู่ใกล้ๆทำให้หญิงสาวตัวเล็กผมแกละต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง
ผู้ชายตัวสูงใบหน้าเกลี้ยงเกลากำลังทำตากลมแป๋วมองมาที่เด็กน้อย
ราวกับมนต์สะกดทำให้หนูน้อยค่อยๆพยักหน้าลงช้าๆ
“น่าสงสารจังน่า...เฮ้! เทา มานี้เดะ”
ชายตัวสูงย่อตัวลงมานั่งคุมเข่าก่อนจะลูบหัวทุยของน้องแอลเบาๆ
ริมฝีปากเป็นกระจับค่อยๆเอ่ยคำพูดปลอบประโลมก่อนจะตะโกนเรียนผู้ชายตัวสูงอีกคนที่ใส่ชุดสูทดูมีภูมิฐาน
“มีไรอ่ะพี่”
“เด็กหลงว่ะ”
.
.
.
.
.
ปัง!
เสียงของบานประตูสีขาวถูกแรงกระแทกแรงๆจนหลุดออกจากบานพับ
ปลิวไปติดกับกำแพงห้องที่เริ่มเกิดรอยร้าว
ลมยะเยือกที่ไม่รู้ที่มาเริ่มปกคลุมห้องลองเสื้อเล็กๆที่มีสองร่างกอดกันกลมที่มุมห้อง
คยองซูหลับตาปี๋ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าช้าๆ
ภาพที่ดูเลื่อนลางของหญิงสาวผมยาวดูกระเซอะกระเซิง
หลังคอโก่งงอจนน่ากลัวพร้อมกับนิ้วมือที่ดูแห้วกร้านไม่น่าสัมผัส
เทียบดูทั้งหมดแล้วมีเพียงรองเท้าคัทชูสีดำที่ดูมันเงาวับต่างจากเสื้อผ้าและหน้าผม
เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองคยองซูและแสยะยิ้มช้าๆเหมือนกับคนบ้าที่เจอกับของที่ถูกใจ....
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจนคยองซูต้องเอามือปิดหู
แต่ดูเหมือนว่ายิ่งปิดมันจะยิ่งได้ยินชัดเจนมากกว่าเดิม
ร่างเล็กรู้สึกเหมือนกับว่ามีเขาคนเดียวที่ได้ยินเสียงนี้เพราะแบคฮยอนดูไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเลยตั้งแต่ที่ประตูถูกพังเข้ามาแล้ว...หรือว่าจะมีแค่เขาเห็นและรับรู้แค่คนเดียว
“แกมันหัวขโมย!!”
หญิงสาวแผดเสียงดังลั่นก่อนจะพุ่งเข้าใส่ร่างของคยองซูทันที
ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับกำลังโดนบีบคอ รู้สึกหายใจไม่ออก
จะร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้เพราะมีคนเอามือปิดปากเขาไว้
ไม่สิ...เธอไม่ใช่คน
คยองซูรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันทีก่อนจะทิ้งน้ำหนักของตัวเองลงบนร่างของอีกคน
แบคฮยอนที่เริ่มรู้สึกแปลกๆกับร่างเล็กในอ้อมกอดเลยค่อยๆถอดอ้อมกอดออกช้าๆ
ทำให้ร่างของคยองซูเป็นอิสระ แบคฮยอนกำลังจะเข้ามาพยุงแต่ทว่า...
ร่างเล็กกลับค่อยๆยันตัวขึ้นมาช้าๆ
มือเล็กทั้งสองข้างกำแน่นก่อนจะค่อยๆคลายออกทำให้นิ้วแต่นิ้มหงิกงอผิดรูปผิดร่าง
หลังเล็กที่เคยเหยียดตรงเริ่มโค้งงอไม่ได้รูป
แบคฮยอนได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตัวเล็ก
คิดไม่ออกจริงๆว่าต้องทำอะไรในตอนนี้ ได้แต่ส่งเสียงเรียกคยองซูอยู่เรื่อยๆ
“นาย...นายเป็นอะไรไปน่ะ
ไหวหรือป่าว นาย!”
“แก....แก...แก”
“อะไรนะ...ฉันไม่เห็นจะ...”
“แกมันหัวขโมย
แกจะขโมยลูกไปจากฉัน!” ร่างเล็กพุ่งเข้าทำร้ายแบคฮยอนด้วยการออกแรงบีบเข้าที่ลำคอขาวของแบคฮยอน
เขาทำท่างงสุดขีดก่อนจะเริ่มปัดป่ายไปทั่วและพยายามผลักร่างของคยองซูออก
แต่ดูเหมือนร่างเล็กจะกลายเป็นคนละคนไปเพราะพละกำลังที่มากขึ้นจนผิดวิสัยทำให้เขาไม่สามารถสู้แรงได้
เขาไม่ใช่คนตัวเล็กที่เจอก่อนหน้านี้...
“แกเป็นใครว่ะ!?” แบคฮยอนรวบรวมแรงฮึดสุดท้ายก่อนจะผลักร่างของคยองซูที่ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำและมีเหงื่อผุดขึ้นตามกรอบหน้าและเส้นผมให้ชิดติดประตูห้องจนมันเปิดออกไปข้างนอก
แบคฮยอนจัดการล็อคตัวคยองซูไว้ด้วยการเอาแขนไขว่หลังแต่เหมือนว่าแรงของเขาจะน้อยเกินไป
“ปล่อย! ฉันจะฆ่ามัน” ร่างเล็กดิ้นจนหลุดจากการจับกุมและพุ่งเข้าทำร้ายแบคฮยอนอีกครั้ง
ร่างเล็กผลักแบคฮยอนจนล้มไปนอนที่พื้นและขึ้นไปนั่งค่อมก่อนจะบีบรัดคอแบคฮยอนอีกเช่นเคย
แบคฮยอนที่รู้สึกเหมือนว่าอีกไม่นานอากาศจะหมดจึงสำลักออกมา
พยายามแกะมือป้อมที่ลำคอขาวของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่ามันยากเหลือเกิน ออกแรงเท้าไรก็สู้ไม่ได้
พยายามมองไปรอบๆเพื่อขอความช่วยเหลือก็ถึงกับตกใจ
พวกเขามาโผล่อยู่ในที่ที่มีแต่กินแห้งกรังไม่มีความอุดมสมบูรณ์
นี้มันเกิดอะไรขึ้น?
“หยุดน่า!” เสียงแหลมทุ้มของใครสักคนดังขึ้นก่อนที่เรี่ยวแรงของคยองซูจะหมดไป
ร่างเล็กคลายมือที่กำแน่นบริเวณรอบคอของแบคฮยอนและค่อยๆทิ้งตัวลงบนร่างของเขา
แบคฮยอนไอไม่หยุดก่อนจะยันตัวขึ้นมานั่ง
“ไหวหรือป่าว”
เสียงสวรรค์...แบคฮยอนคิดแบบนี้เพราะเขาเหมือนจะตายไปแล้ว
แต่พอค่อยๆมองไปรอบๆก็ปรากฏว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนั่งไอไม่หยุดอยู่ที่พื้นห้องลองเสื้อ
มีผู้ชายหน้าตาดูเป็นมิตรกำลังถามไถ่อาการของเขาด้วยความเป็นห่วง
“นายเป็นใคร”
นี้คือคำแรกที่เขานึกออก แบคฮยอนถามออกไปก่อนจะค่อยๆก้มไปดูคยองซูที่นอนหมดสติอยู่บนตัก
ชายนิรนามที่โผล่มาช่วยพวกเรา(คิดว่างั้นนะ)ค่อยๆคลี่ยิ้มก่อนจะวางฝ่ามือของตนลงบนหน้าผากมนของคนบนตักแบคฮยอน
คยองซูที่ตอนแรกมีสีหน้าทุรนทุรายและซีดเผือกค่อยๆมีสีหน้าที่ดูดีขึ้น ลมหายใจที่เคยติดขัดก็กลับมาสม่ำเสมอ
“ผมคือองครักษ์ของเขาคนนี้”
ชายแปลกหน้าที่ดูเหมือนยิ้มตลอดเวลาตอบกลับก่อนจะยื่นขวดน้ำเปล่าเย็นๆมาให้แบคฮยอน
แบคฮยอนรับไปก่อนจะเปิดดื่มอย่างรวดเร็ว ทันทีที่น้ำเย็นสีใสไหลสู่ปากบาง
แบคฮยอนก็รู้สึกหายเหนื่อยและหายปวดเป็นปลิดทิ้ง
“นายเป็นใคร?”
แบคฮยอนถือขวดน้ำชะงักค้างไว้ก่อนจะเอ่ยถามประโยคเดิม
ชายที่อ้างว่าเป็นองครักษ์ของคยองซูหัวเราะเบาๆก่อนจะค่อยๆพยุงร่างของคยองซูขึ้นพร้อมกับแบคฮยอนที่ยืนขึ้น
“ก็ผมบอกไปแล้วนี้...”
“ถามได้ไหมว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น...”
แบคฮยอนที่ยังไม่ได้คำตอบกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้แต่ขยี้หัวตัวเองแรงๆ และถามออกไป
องครักษ์ของคยองซูอมยิ้มบางๆก่อนจะขอตัวพาคยองซูกลับโดยที่ไม่ได้บอกข้อมูลอะไรกับแบคฮยอนเลยสักนิดเดียว
แบคฮยอนมองต่างร่างเล็กๆทั้งสองที่ค่อยๆเดินห่างไปเรื่อยๆจนลับสายตา
เขารู้สึกตอนนี้เหมือนกับว่าโลกมันหยุดนิ่งไปเลย ทุกอย่างไม่มีการเคลื่อนไหว
แต่พอเขากระพริบตาลงและลืมตาขึ้นก็กลับสู่สภาพแวดล้อมเดิม...
“นั่นอปป้า!”
“เจอตัวแล้ว! อปป้าอยู่ที่นี้!!”
“แบคฮยอนอปป้า!!”
ให้ตาย...นี้ต้องหนีอีกแล้วหรอเนี่ย!
คิดได้ดั่งนั้นร่างโปร่งก็พาตัวเองออกมาจากร้านเสื้อผ้าที่ตนเข้าไปหลบและขึ้นลิฟต์ส่วนตัวของห้างที่มีไว้เพื่อแขกชั้นสูงเท่านั้น
แบคฮยอนหลับตาลงช้าๆก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่...
ผู้ชายตัวเล็กๆที่จู่ๆก็แปลงร่างคนนั้นเป็นใคร...
อยากรู้จังแหะ
ร่างโปร่งถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์หาเพื่อนสนิทที่เป็นถึงเจ้าของห้างให้มารับเขากลับบ้านโดยด่วน
“ชานยอล...มึงมารับกูที”
.
.
.
.
.
.
“เมื่อไรอ่อมม่าจะตื่นอ่า”
เสียงเล็กๆพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด ก็หลังจากที่เจอกับพี่ชายตัวสูงสองคนน้องแอลก็ถูกพามาอยู่ที่ห้องรับรองของห้าง
นั่งรอไปสักพักก็เจอกับอ่อมม่าของตัวเองในสภาพสลบไสล
ถามพี่ชายตัวสูงคนเขาก็เอาแต่พูดภาษาอะไรไม่รู้
พี่ชายตัวสูงคนที่เข้ามาทักน้องแอลคนแรกพอขอตัวไปรับโทรศัพท์ก็โบกมือลาขอกลับก่อน
ทิ้งให้น้องแอลอยู่กับอ่อมม่าที่เอาแต่นอนกับพี่ชายตัวสูงอีกคนที่นั่งดูการ์ตูนอยู่อีกห้องนึง
เมื่อไรอ่อมม่าจะตื่นอ่า
“อืม...”
เสียงครางเบาๆดังขึ้นมาจากร่างเล็กทำให้เด็กหญิงที่นั่งหน้าหงอยมาตั้งนานรีบกระโจนเข้าไปหา
ร่างเล็กที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับเลยค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
ทำให้เจอกับสิ่งที่เขาตามหามาตั้งนาน
“อ่อมม่าตื่นแล้ว”
“น้องแอล!” คยองซูเรียกชื่อเด็กหญิงตัวเล็กก่อนจะสวบกอดอย่างแนบแน่นราวกับกลัวว่าจะหายไปอีก
น้องแอลหัวเราะเอิ้กอ้ากก่อนจะตบแปะๆที่หลังของคยองซูคล้ายๆปลอบประโลม
“น้องแอลเป็นอะไรไหมลูก
เจ็บตรงไหนหรือป่าว” ตามสัญชาติความเป็นแม่ทำให้คยองซูรีบถามไถ่อาการ
จับพลิกหน้าดูหลังว่าร่างกายนุ่มนิ่มนี้มีส่วนไหนบุบสลายไปหรือป่าว
“น้องแอลไม่เป็นอะไรเลย
มีคนช่วยน้องแอลไว้”
“หรอครับ
ดีจังเลย” ร่างเล็กถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะรีบยืนขึ้นเพราะมีคนเดินเข้ามา
เป็นผู้ชายตัวสูงใบหน้าคมคายใส่ชุดสูทสีดำโค้งทักทายก่อนจะแนะนำตัวด้วยสำเนียงเกาหลีที่ไม่แข็งแรงมากนัก
“ผมชื่อเทาครับ
ฮวงจือเทา”
“ผมคยองซูนะครับ
ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลลูกสาวให้ ขอบคุณจริงๆครับ”
ร่างเล็กโค้งตัวขอบคุณก่อนจะพูดขอบคุณไม่หยุด ส่วนคนถูกขอบคุณก็ได้แต่ยิ้มเขิน
“คุณก็ช่วยพาผมมาที่นี้ด้วยใช่ไหมครับ
แต่ผมจำได้ว่าผม....” คนตัวเล็กกำลังทบทวนความจำว่าเขามาที่นี้ได้ยังไง
แต่พอนึกไปนึกมากลับนึกไม่ออกซะงั้น จำได้แค่ว่าเขาพลัดหลงกับน้องแอลเพราะต้องวิ่งหนี...
วิ่งหนีอะไรหวา....
“จริงๆก็ไม่ใช่ผมทั้งหมดหรอกนะครับ”
ร่างสูงพูดปฏิเสธแต่ถึงอย่างนั้นคยองซูก็ยังคงขอบคุณไม่หยุด ส่วนอีกคนก็ยังคงยิ้มเขินและปฏิเสธเหมือนเดิม
ฝ่ายร่างเล็กที่นั่งมองอยู่ก็ได้แต่อมยิ้ม
พี่ชายตัวสูงก็น่าจะเป็นอัปป้าที่ดีน่า...
“งั้นถ้ามีอะไรให้ผมตอบแทน
บอกได้เลยนะครับ”
คยองซูที่ขอตัวกลับบ้านเอ่ยลาและยังไม่ลืมเรื่องที่ถูกคนตัวสูงช่วยไว้
เทาได้แต่ตอบรับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินลงมาส่งข้างล่าง
คยองซูบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจูงมือลูกสาวข้ามถนนไปขึ้นแท็กซี่
ตอนแรกคนตัวสูงอาสาจะไปส่งแต่ก็ถูกคนตัวเล็กปฏิเสธอย่างเด็ดขาดเพราะไม่อยากจะรบกวนมากไปกว่านี้แล้ว
เทาได้แต่อมยิ้มมองภาพน่ารักๆของครอบครัวตัวเล็กก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู
อีกไม่นานก็ใกล้เวลานัดของเขากับพี่ชายซุป’ตาร์ที่วันนี้ให้เกียรติมาเดินเล่นที่ห้างของเขากับรุ่นพี่อีกคน
“พี่ๆเตรียมของได้เลยนะ
ผมกำลังไปแล้ว”
TBC.....
สรุปว่าที่คุณพ่อของน้องแอล
คนที่สอง พี่ชายอบอุ่นใจดีที่เลี้ยงหมา
(5/10)
คนที่เจ็ด เขาบอกว่าเป็นองครักษ์ของอ่อมม่า แต่ใครกันน่า....
(0/10)
สงสัยจังว่าใครจะได้เป็นอัปป้าของน้องแอล?
100%
__________
คิดถึงจัง มากอดโหน่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
20 %
__________
เดี๋ยวเค้ามาน่า แอ้ก//โดนทุกคนรุมกระทืบ
คือเป็นคนหน้าด้านเอง แต่งยังไม่จบเสือกอยากลงก่อน
คือช่วงนี้มันตันๆยังไงไม่รู้อ่า รู้สึกภาษาตัวเองมันแปลกๆ
แต่สัญญาเลยว่าจะแต่งจนจบ
เค๊!?
แก้ไขคำผิด 24/4/2560
ทุกคนนนนนนนนนนนน
ฮือออออออออออออออออ เราคัมแบค!!!!!! ขอเสียงกรี๊ดหน่อยยยยยย //โดนปาทุเรียนใส่
จะบอกว่าเราหายไปนานมากกกกกก รู้สึกผิดจริงๆสำหรับการหายไปในครั้งนี้ ขอโทษด้วยนะคะ
แต่ว่าตอนนี้กลับมาแล้วววว จะกลับมาอัพแล้วววว เย่วววววววววว
ขอบคุณสำหรับคนที่ชอบและยังรออ่านนะคะ มีกำลังเต็มเปี่ยมเลย
สุดท้ายก็ขอโทษอีกรอบที่หาย กลับมาทำตามคำสัญญาแล้วนะคะ รักทุกคน ม๊วบๆๆ
ทวิต - @cheek_kam
ใครหมั่นไส้เรา สามารถเมนชั่นไปด่ากันได้ เราไม่ถือเพราะเราผิดจริง
หรือจะไม่เมนชั่นไปด่าแต่ก็คุยกันได้นะ เราอยากคุยกับรีดเดอร์ผู้น่ารักทุกคนนน
ติชมเนื้อเรื่องได้นนะคะเราจะได้รู้ว่าชอบกันอ่ะป่าว
สุดท้ายก็จะบอกว่า.....รักส์เสม๊อๆ
ความคิดเห็น