ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Exo & You] ::All X KyungSoo:: Baby KyungSoo ลูกสาวแม่หมี

    ลำดับตอนที่ #4 : ::ว่าที่พ่อของแอล 2:: 100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 433
      2
      24 เม.ย. 60


    ::ว่าที่คุณพ่อของแอล 2::

     

     

    “จะยืนเซ่ออยู่ทำไม ก็วิ่งเซ่!

     

    “เฮ้ย!” ยังไม่ทันที่คยองซูจะเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ข้อมือของตนก็ถูกชายแปลกหน้าที่ทำตัวน่าสงสัยฉุดกระชากลากให้คยองซูออกแรงวิ่งตาม ว่าแต่วิ่งหนีอะไรกัน

     

    “อปป้า~ นั่นแบคฮยอนอปป้า!” เสียงใสของหญิงสาวดังไล่หลังคยองซูมา เท้าเล็กยังคงก้าวฉับๆด้วยความเร็วตามแรงดึงของชายตรงหน้า คยองซูขมวดคิ้วก่อนจะโพล่งถามขึ้น

     

    “นี้เราหนีอะไรกันอ่ะ นาย!

     

    “นี้แกล้งไม่รู้หรือไง! ก็หนีแฟนคลับฉันนะสิ!!” ชายแปลกหน้าตอบกลับทั้งๆที่ยังคงวิ่งอยู่ คยองซูแม้จะยังงงแต่ก็วิ่งตามต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาวิ่งลงมาที่ชั้นสองก่อนจะเข้าไปหลบตรงบันไดหนีไฟ ซึ่งคิดว่าพวกแฟนคลับยังคงตามมาไม่ทันแน่ๆ ทั้งคู่จึงทิ้งตัวลงบนขั้นบรรไดด้วยความเหนื่อยหอบ

     

    เฮ้อ~ วันนี้ก็มีเรื่องวุ่นๆขึ้นอีกแล้ว อุตสาห์ว่าจะมาเที่ยวเล่นกับน้องแอลเฉยๆ....
































     

    น้องแอล!

     

    “ตายแล้ว!!” คยองซูโพล่งขึ้นด้วยความตกใจทำเอาคนที่นั่งพักเหนื่อยข้างๆตกใจจนสะดุ้ง ชายแปลกหน้าที่สวมแว่นกันแดดสีชาพร้อมกับผ้าปิดปากลุกขึ้นตามคยองซู ก่อนจะเอ่ยถามถึงเหตุผลที่ทำให้คนตัวเล็กต้องตะโกนดังลั่นขนาดนี้ ถ้าแฟนคลับของเขาได้ยินขึ้นมาทำไง!

     

    “นายจะตะโกนทำไมเนี่ย...บ้าหรือป่าว”

     

    “ลูก...ลูกสาวของผม ไม่ได้ล่ะ!

     

    “เฮ้ย! แล้วนั่นนายจะไปไหน!” แบคฮยอนยังไม่ทันจะได้คำตอบจากร่างเล็กเลย เจ้าตัวก็วิ่งไปที่ประตูทางเข้าที่พวกเขาเข้ามาหลบ แบคฮยอนเห็นดังจึงวิ่งไปคว้าร่างของคนตัวเล็กที่ดูจะรีบมากจนเขาต้องรู้ถึงสาเหตุให้ได้

     

    “นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย!” แบคฮยอนตะคอกใส่ร่างเล็กซึ่งมันทำให้เขาสะดุ้งจนได้สติ คนตัวเล็กทำหน้าเสีย ก่อนจะเอ่ยขอโทษ แต่ดูเหมือนวันนี้แบคฮยอนจะออกจาบ้านโดยไม่ได้พกความโชคดีมาด้วยเลยนะ

     

    “เสียงอปป้านี้! อปป้าอยู่ในนี้”

     

    “ชิ! ซวยแล้วไง” แบคฮยอนสถบเบาๆก่อนจะออกแรงดึงลากคยองซูให้วิ่งขึ้นบบรไดตามเขามา

     

    “อ๊า! คุณจะลากผมไปไหนเนี่ย!!” คยองซูร้องลั่นเมื่อข้อมือของเขาโดนคนตรงหน้าบีบจนแน่นและออกแรงลากให้ขึ้นบรรไดตามตนเองไป นี้! มันจะมากไปแล้วนะ เขาไม่ใช่ตุ๊กตานะ!!

     

    “เงียบน่า! ไม่เห็นหรือไงว่าพวกนั่นตามมาแล้วนะ...” แบคฮยอนพูดเสียงต่ำทำให้คยองซูหันไปมองข้างล่างก็เห็นกลุ่มหญิงสาวที่เปิดประตูเข้ามาแล้วมองหาพวกเขากันใหญ่ ไม่รอช้า คนตัวเล็กรีบก้าวฉับๆตามแบคฮยอนไปอย่างรวดเร็ว

     

    พวกนี้น่ากลัวจังแหะ - -

     

    .

    .

    .

    .

     

    “นายเข้าไปหลบในนี้ก่อน” แบคฮยอนเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าสักร้านหนึ่งก่อนจะลอบเข้าไปที่หลังร้าน จัดการฟาดเงินปิดปากพนักงานที่กำลังจะเอ่ยห้ามพวกเขา

     

    “แล้วคุณล่ะ พวกเขาวิ่งไล่ตามคุณไม่ใช่หรอ” คยองซูขมวดคิ้ว คือสงสัยอยู่ตอนนี้ว่า เขาจะหลบทำไมกัน บ้าหรือป่าว? อีตาบ้านี้ต่างหากที่จะต้องหลบ

     

    “เออ ฉันก็จะหลบเหมือนกัน แต่ห้องลองเสื้อนี้มันเข้าไปได้แค่คนเดียว” ผู้ชายคนนั้นพูดเสียงเหนื่อย แม้ว่าเขาจะสวมแว่นตากันแดดแต่คยองซูคดว่าตอนนี้เขาต้องกลอกตาไปมาแน่ๆเลย

     

    “ไม่ๆ ผมจะไม่ซ่อน ผมจะไปตามหาลูกผม” คยองซูปฏิเสธเสียงแข็งจนแบคฮยอนหงุดหงิด ร่างโปร่งพยายามห้ามไม่ให้คยองซูออกไปข้างนอก เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ถ้าเกิดว่าเจ้าตัวไปเจอกับแฟนคลับของเขา...เอ๊ะ! แล้วนี้เขาจะไปเป็นห่วงเด็กนี้ทำไมกัน

     

    ไม่รู้เหมือนกันแหะ...

     

    สงครามเล็กๆเกิดขึ้นเมื่อคยองซูยังยืนยันว่าจะออกไปข้างนอก แต่แบคฮยอนก็ยังคงกันไว้ไม่ให้ออกไป แต่ทุกอย่างก็หยุดชะงักลงเมื่อเสียงแหลมๆของเหล่าแฟนคลับได้ยินอยู่ใกล้ๆ...

     

    “ซวยแล้ว...” แบคฮยอนพูดพึมพำก่อนจะแทรกตัวเข้ามาซ่อนในห้องลองเสื้อห้องเดียวกันกับคยองซู มือบางเอื้อมมาปิดประตูและลงกลอนอย่างแน่นหนา คยองซูลืมตาโพล่งก่อนจะเอ่ยถามว่าทำไมไม่ไปหลบอีกห้องหนึ่ง เพราะห้องลองเสื้อก็ไม่ได้ใหญ่มากมาย เข้าไปสองคนก็เลยเบียดกันนิดหน่อย

     

    “ทำไมคุณ...อื้อ!” คยองซูยังพูดไม่ทันจบ มือเรียวของแบคฮยอนก็เอื้อมมาปิดปากของคนตัวเล็กไว้ คยองซูดิ้นขัดขืนเล็กน้อย แต่ก็สงบลงเมื่อแบคฮยอนถอดแว่นตาออกและส่งสายตาประมาณ เงียบซะ!





     

    คยองซูจ้องแววตาที่ดูน่าหลงใหลนิ่ง แววตาดังกล่าวทำให้เขาถึงกลับสะดุ้ง เพราะจากแววตาที่ดูทรงอำนาจสั่งให้เขาสงบแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ดูอบอุ่น และดูคุ้นเคย คุ้นมาก...





     

    ตึก ตึก ตึก

     

    เสียงก้าวฝีเท้าของใครสักคนดังเข้ามาใกล้ๆ ทำให้คยองซูเผลอกำชายเสื้อของอีกคนแน่นด้วยความตื่นเต้น ริมฝีปากอิ่มก็เม้มเข้าหากัน ก่อนจะหลับตาปี๋ ที่ขมับก็มีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย


     

    แบคฮยอนอมยิ้มเล็กน้อยกับอาการตื่นเต้นของคนตัวเล็ก ทั้งๆที่ในห้องนี้ก็ไม่ได้ร้อนอะไรนะ แต่คนตัวเล็กกลับเหงื่อออก แล้วดูนี้...ตากลมโตก็ปิดแน่นราวกับหวาดกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิด แบคฮยอนรู้สึกว่าชายเสื้อของเขากำลังยับยู่ยี่ไม่เหลือชิ้นดีเพราะมือป้อมกำซะแน่น

     




     

    ตลกดีแหะ






     

    ตึก ตึก ตึก กึก!

     

    เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้มากก่อนจะเงียบลง คยองซูค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง ริมฝีปากเผลอพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตากลมหลุบมองลงล่างเมื่อสายตาเรียวของแบคฮยอนก็ไม่ได้จดจ้องไปที่ไหนนอกจากหน้าเขา แต่เมื่อหลุบตาลง คยองซูเพื่อสงเสียงในลำคอเมื่อเขาเห็นรองเท้าคัทชูสีดำที่ดูเป็นของผู้หญิง...อะไรกัน ตามมาถูกได้ไง!

     

    “อื้อ...” แบคฮยอนหันไปมองตามสายตาของคยองซูก่อนจะเบิกตาขึ้น แขนเรียวเผลอยกขึ้นมากอดร่างเล็กให้จมหายไปในอกของเขาและหันหลังให้ประตู คยองซูดูจะตกใจเล็กน้อยที่โดนกอดแน่นจึงทุบเบาๆที่หลังของแบคฮยอน

     

    “คุณจะกอดผมทำไมเนี่ย...” คยองซูพูดเสียงอู้อี้ แบคฮยอนได้แต่ดันร่างเล็กให้ชิดกับผนังด้านในสุดก่อนจะเอ่ยกระซิบเบาๆที่กกหูของคนตัวเล็ก

     

    “เงียบน่า...เดี๋ยวโดนจับได้หรอกว่าอยู่ในนี้นะ” แบคฮยอนกระซิบเสียงแผ่วเบา ก่อนจะกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม คนตัวเล็กไม่มีทางเลือกจึงได้แค่เงียบๆและยกแขนขึ้นกอดตอบร่างโปร่ง

     

    ปัง!

     

    “อื้อ!” คยองซูเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆประตูก็ถูกใครสักคนถีบอย่างแรง นี้มันจะฮาร์ดคอเกินไปแล้ว! ร่างเล็กเริ่มหายใจติดขัด บรรยากาศในตอนนี้ช่างชวนให้เขารู้สึกระทึกและแทบจะระเบิดตัวตาย มีความรู้สึกเหมือนโดนตามล่าจากพวกมาเฟียใจโหดชอบกินโค้กกับเป๊ปซี่! (เดี่ยวๆ...)

     

    “เงียบๆน่า” แบคฮยอนพยายามกล่อมให้คยองซูสงบ ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อประตูสีขาวกำลังถูกถีบและพยายามจะเปิดมันเข้ามา เสียงเขย่าประตูดังอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับจงใจจะพังมันเข้ามา ลมหายใจของทั้งคู่ติดขัด ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่ง...

     

    พลั่กๆๆ ปัง!





             โครม!!
    .

    .

    .

    .

     

    “ออมม่า!” เด็กหญิงตัวเล็กป้องปากตะโกนเรียกหาชายร่างเล็กที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน เมื่อกี้ยังเดินจับมือกันอยู่เลย พอกลุ่มคนบ้าที่เอาแต่ร้องกรี๊ดวิ่งผ่านไปออมม่าก็หายไปแล้ว- -

     

    “ออมม่าอยู่ไหน~

     

    “เฮ้~ เด็กน้อย...หลงทางหรอจ๊ะ” น้ำเสียงทุ้มเข้มที่ฟังดูนุ่มลื่นดังอยู่ใกล้ๆทำให้หญิงสาวตัวเล็กผมแกละต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ผู้ชายตัวสูงใบหน้าเกลี้ยงเกลากำลังทำตากลมแป๋วมองมาที่เด็กน้อย ราวกับมนต์สะกดทำให้หนูน้อยค่อยๆพยักหน้าลงช้าๆ

     

    “น่าสงสารจังน่า...เฮ้! เทา มานี้เดะ” ชายตัวสูงย่อตัวลงมานั่งคุมเข่าก่อนจะลูบหัวทุยของน้องแอลเบาๆ ริมฝีปากเป็นกระจับค่อยๆเอ่ยคำพูดปลอบประโลมก่อนจะตะโกนเรียนผู้ชายตัวสูงอีกคนที่ใส่ชุดสูทดูมีภูมิฐาน

     

    “มีไรอ่ะพี่”

     

    “เด็กหลงว่ะ”









    .

    .

    .

    .

    .

     

     ปัง!

     

    เสียงของบานประตูสีขาวถูกแรงกระแทกแรงๆจนหลุดออกจากบานพับ ปลิวไปติดกับกำแพงห้องที่เริ่มเกิดรอยร้าว ลมยะเยือกที่ไม่รู้ที่มาเริ่มปกคลุมห้องลองเสื้อเล็กๆที่มีสองร่างกอดกันกลมที่มุมห้อง คยองซูหลับตาปี๋ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าช้าๆ ภาพที่ดูเลื่อนลางของหญิงสาวผมยาวดูกระเซอะกระเซิง หลังคอโก่งงอจนน่ากลัวพร้อมกับนิ้วมือที่ดูแห้วกร้านไม่น่าสัมผัส เทียบดูทั้งหมดแล้วมีเพียงรองเท้าคัทชูสีดำที่ดูมันเงาวับต่างจากเสื้อผ้าและหน้าผม

     

    เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองคยองซูและแสยะยิ้มช้าๆเหมือนกับคนบ้าที่เจอกับของที่ถูกใจ....




     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจนคยองซูต้องเอามือปิดหู แต่ดูเหมือนว่ายิ่งปิดมันจะยิ่งได้ยินชัดเจนมากกว่าเดิม ร่างเล็กรู้สึกเหมือนกับว่ามีเขาคนเดียวที่ได้ยินเสียงนี้เพราะแบคฮยอนดูไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเลยตั้งแต่ที่ประตูถูกพังเข้ามาแล้ว...หรือว่าจะมีแค่เขาเห็นและรับรู้แค่คนเดียว


     

    “แกมันหัวขโมย!!” หญิงสาวแผดเสียงดังลั่นก่อนจะพุ่งเข้าใส่ร่างของคยองซูทันที ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับกำลังโดนบีบคอ รู้สึกหายใจไม่ออก จะร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้เพราะมีคนเอามือปิดปากเขาไว้

     

    ไม่สิ...เธอไม่ใช่คน

     

    คยองซูรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันทีก่อนจะทิ้งน้ำหนักของตัวเองลงบนร่างของอีกคน แบคฮยอนที่เริ่มรู้สึกแปลกๆกับร่างเล็กในอ้อมกอดเลยค่อยๆถอดอ้อมกอดออกช้าๆ ทำให้ร่างของคยองซูเป็นอิสระ แบคฮยอนกำลังจะเข้ามาพยุงแต่ทว่า...

     

    ร่างเล็กกลับค่อยๆยันตัวขึ้นมาช้าๆ มือเล็กทั้งสองข้างกำแน่นก่อนจะค่อยๆคลายออกทำให้นิ้วแต่นิ้มหงิกงอผิดรูปผิดร่าง หลังเล็กที่เคยเหยียดตรงเริ่มโค้งงอไม่ได้รูป แบคฮยอนได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตัวเล็ก คิดไม่ออกจริงๆว่าต้องทำอะไรในตอนนี้ ได้แต่ส่งเสียงเรียกคยองซูอยู่เรื่อยๆ

     

    “นาย...นายเป็นอะไรไปน่ะ ไหวหรือป่าว นาย!

     

    “แก....แก...แก”

     

    “อะไรนะ...ฉันไม่เห็นจะ...”

     

    “แกมันหัวขโมย แกจะขโมยลูกไปจากฉัน!” ร่างเล็กพุ่งเข้าทำร้ายแบคฮยอนด้วยการออกแรงบีบเข้าที่ลำคอขาวของแบคฮยอน เขาทำท่างงสุดขีดก่อนจะเริ่มปัดป่ายไปทั่วและพยายามผลักร่างของคยองซูออก แต่ดูเหมือนร่างเล็กจะกลายเป็นคนละคนไปเพราะพละกำลังที่มากขึ้นจนผิดวิสัยทำให้เขาไม่สามารถสู้แรงได้

     

    เขาไม่ใช่คนตัวเล็กที่เจอก่อนหน้านี้...

     

    “แกเป็นใครว่ะ!?” แบคฮยอนรวบรวมแรงฮึดสุดท้ายก่อนจะผลักร่างของคยองซูที่ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำและมีเหงื่อผุดขึ้นตามกรอบหน้าและเส้นผมให้ชิดติดประตูห้องจนมันเปิดออกไปข้างนอก แบคฮยอนจัดการล็อคตัวคยองซูไว้ด้วยการเอาแขนไขว่หลังแต่เหมือนว่าแรงของเขาจะน้อยเกินไป

     

    “ปล่อย! ฉันจะฆ่ามัน” ร่างเล็กดิ้นจนหลุดจากการจับกุมและพุ่งเข้าทำร้ายแบคฮยอนอีกครั้ง ร่างเล็กผลักแบคฮยอนจนล้มไปนอนที่พื้นและขึ้นไปนั่งค่อมก่อนจะบีบรัดคอแบคฮยอนอีกเช่นเคย แบคฮยอนที่รู้สึกเหมือนว่าอีกไม่นานอากาศจะหมดจึงสำลักออกมา พยายามแกะมือป้อมที่ลำคอขาวของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่ามันยากเหลือเกิน ออกแรงเท้าไรก็สู้ไม่ได้ พยายามมองไปรอบๆเพื่อขอความช่วยเหลือก็ถึงกับตกใจ

     

    พวกเขามาโผล่อยู่ในที่ที่มีแต่กินแห้งกรังไม่มีความอุดมสมบูรณ์

     

    นี้มันเกิดอะไรขึ้น?

     

    “หยุดน่า!” เสียงแหลมทุ้มของใครสักคนดังขึ้นก่อนที่เรี่ยวแรงของคยองซูจะหมดไป ร่างเล็กคลายมือที่กำแน่นบริเวณรอบคอของแบคฮยอนและค่อยๆทิ้งตัวลงบนร่างของเขา แบคฮยอนไอไม่หยุดก่อนจะยันตัวขึ้นมานั่ง

    “ไหวหรือป่าว” เสียงสวรรค์...แบคฮยอนคิดแบบนี้เพราะเขาเหมือนจะตายไปแล้ว แต่พอค่อยๆมองไปรอบๆก็ปรากฏว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนั่งไอไม่หยุดอยู่ที่พื้นห้องลองเสื้อ มีผู้ชายหน้าตาดูเป็นมิตรกำลังถามไถ่อาการของเขาด้วยความเป็นห่วง

     

    “นายเป็นใคร” นี้คือคำแรกที่เขานึกออก แบคฮยอนถามออกไปก่อนจะค่อยๆก้มไปดูคยองซูที่นอนหมดสติอยู่บนตัก ชายนิรนามที่โผล่มาช่วยพวกเรา(คิดว่างั้นนะ)ค่อยๆคลี่ยิ้มก่อนจะวางฝ่ามือของตนลงบนหน้าผากมนของคนบนตักแบคฮยอน คยองซูที่ตอนแรกมีสีหน้าทุรนทุรายและซีดเผือกค่อยๆมีสีหน้าที่ดูดีขึ้น ลมหายใจที่เคยติดขัดก็กลับมาสม่ำเสมอ

     

    “ผมคือองครักษ์ของเขาคนนี้” ชายแปลกหน้าที่ดูเหมือนยิ้มตลอดเวลาตอบกลับก่อนจะยื่นขวดน้ำเปล่าเย็นๆมาให้แบคฮยอน แบคฮยอนรับไปก่อนจะเปิดดื่มอย่างรวดเร็ว ทันทีที่น้ำเย็นสีใสไหลสู่ปากบาง แบคฮยอนก็รู้สึกหายเหนื่อยและหายปวดเป็นปลิดทิ้ง

     

    “นายเป็นใคร?” แบคฮยอนถือขวดน้ำชะงักค้างไว้ก่อนจะเอ่ยถามประโยคเดิม ชายที่อ้างว่าเป็นองครักษ์ของคยองซูหัวเราะเบาๆก่อนจะค่อยๆพยุงร่างของคยองซูขึ้นพร้อมกับแบคฮยอนที่ยืนขึ้น

     

    “ก็ผมบอกไปแล้วนี้...”

     

    “ถามได้ไหมว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น...” แบคฮยอนที่ยังไม่ได้คำตอบกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้แต่ขยี้หัวตัวเองแรงๆ และถามออกไป องครักษ์ของคยองซูอมยิ้มบางๆก่อนจะขอตัวพาคยองซูกลับโดยที่ไม่ได้บอกข้อมูลอะไรกับแบคฮยอนเลยสักนิดเดียว

     

    แบคฮยอนมองต่างร่างเล็กๆทั้งสองที่ค่อยๆเดินห่างไปเรื่อยๆจนลับสายตา เขารู้สึกตอนนี้เหมือนกับว่าโลกมันหยุดนิ่งไปเลย ทุกอย่างไม่มีการเคลื่อนไหว แต่พอเขากระพริบตาลงและลืมตาขึ้นก็กลับสู่สภาพแวดล้อมเดิม...

     

    “นั่นอปป้า!

     

    “เจอตัวแล้ว! อปป้าอยู่ที่นี้!!

     

    “แบคฮยอนอปป้า!!

     

    ให้ตาย...นี้ต้องหนีอีกแล้วหรอเนี่ย!

     

    คิดได้ดั่งนั้นร่างโปร่งก็พาตัวเองออกมาจากร้านเสื้อผ้าที่ตนเข้าไปหลบและขึ้นลิฟต์ส่วนตัวของห้างที่มีไว้เพื่อแขกชั้นสูงเท่านั้น แบคฮยอนหลับตาลงช้าๆก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่...

     

    ผู้ชายตัวเล็กๆที่จู่ๆก็แปลงร่างคนนั้นเป็นใคร...

     

    อยากรู้จังแหะ

     

    ร่างโปร่งถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์หาเพื่อนสนิทที่เป็นถึงเจ้าของห้างให้มารับเขากลับบ้านโดยด่วน

     

    “ชานยอล...มึงมารับกูที”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    “เมื่อไรอ่อมม่าจะตื่นอ่า” เสียงเล็กๆพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด ก็หลังจากที่เจอกับพี่ชายตัวสูงสองคนน้องแอลก็ถูกพามาอยู่ที่ห้องรับรองของห้าง นั่งรอไปสักพักก็เจอกับอ่อมม่าของตัวเองในสภาพสลบไสล ถามพี่ชายตัวสูงคนเขาก็เอาแต่พูดภาษาอะไรไม่รู้ พี่ชายตัวสูงคนที่เข้ามาทักน้องแอลคนแรกพอขอตัวไปรับโทรศัพท์ก็โบกมือลาขอกลับก่อน ทิ้งให้น้องแอลอยู่กับอ่อมม่าที่เอาแต่นอนกับพี่ชายตัวสูงอีกคนที่นั่งดูการ์ตูนอยู่อีกห้องนึง

     

    เมื่อไรอ่อมม่าจะตื่นอ่า

     

    “อืม...” เสียงครางเบาๆดังขึ้นมาจากร่างเล็กทำให้เด็กหญิงที่นั่งหน้าหงอยมาตั้งนานรีบกระโจนเข้าไปหา ร่างเล็กที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับเลยค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้เจอกับสิ่งที่เขาตามหามาตั้งนาน

     

    “อ่อมม่าตื่นแล้ว”

     

    “น้องแอล!” คยองซูเรียกชื่อเด็กหญิงตัวเล็กก่อนจะสวบกอดอย่างแนบแน่นราวกับกลัวว่าจะหายไปอีก น้องแอลหัวเราะเอิ้กอ้ากก่อนจะตบแปะๆที่หลังของคยองซูคล้ายๆปลอบประโลม

     

    “น้องแอลเป็นอะไรไหมลูก เจ็บตรงไหนหรือป่าว” ตามสัญชาติความเป็นแม่ทำให้คยองซูรีบถามไถ่อาการ จับพลิกหน้าดูหลังว่าร่างกายนุ่มนิ่มนี้มีส่วนไหนบุบสลายไปหรือป่าว

     

    “น้องแอลไม่เป็นอะไรเลย มีคนช่วยน้องแอลไว้”

     

    “หรอครับ ดีจังเลย” ร่างเล็กถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะรีบยืนขึ้นเพราะมีคนเดินเข้ามา เป็นผู้ชายตัวสูงใบหน้าคมคายใส่ชุดสูทสีดำโค้งทักทายก่อนจะแนะนำตัวด้วยสำเนียงเกาหลีที่ไม่แข็งแรงมากนัก

     

    “ผมชื่อเทาครับ ฮวงจือเทา”

     

    “ผมคยองซูนะครับ ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลลูกสาวให้ ขอบคุณจริงๆครับ” ร่างเล็กโค้งตัวขอบคุณก่อนจะพูดขอบคุณไม่หยุด ส่วนคนถูกขอบคุณก็ได้แต่ยิ้มเขิน

     

    “คุณก็ช่วยพาผมมาที่นี้ด้วยใช่ไหมครับ แต่ผมจำได้ว่าผม....” คนตัวเล็กกำลังทบทวนความจำว่าเขามาที่นี้ได้ยังไง แต่พอนึกไปนึกมากลับนึกไม่ออกซะงั้น จำได้แค่ว่าเขาพลัดหลงกับน้องแอลเพราะต้องวิ่งหนี...

     

    วิ่งหนีอะไรหวา....

     

    “จริงๆก็ไม่ใช่ผมทั้งหมดหรอกนะครับ” ร่างสูงพูดปฏิเสธแต่ถึงอย่างนั้นคยองซูก็ยังคงขอบคุณไม่หยุด ส่วนอีกคนก็ยังคงยิ้มเขินและปฏิเสธเหมือนเดิม ฝ่ายร่างเล็กที่นั่งมองอยู่ก็ได้แต่อมยิ้ม

     

    พี่ชายตัวสูงก็น่าจะเป็นอัปป้าที่ดีน่า...

     

    “งั้นถ้ามีอะไรให้ผมตอบแทน บอกได้เลยนะครับ” คยองซูที่ขอตัวกลับบ้านเอ่ยลาและยังไม่ลืมเรื่องที่ถูกคนตัวสูงช่วยไว้ เทาได้แต่ตอบรับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินลงมาส่งข้างล่าง คยองซูบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจูงมือลูกสาวข้ามถนนไปขึ้นแท็กซี่

     

    ตอนแรกคนตัวสูงอาสาจะไปส่งแต่ก็ถูกคนตัวเล็กปฏิเสธอย่างเด็ดขาดเพราะไม่อยากจะรบกวนมากไปกว่านี้แล้ว

     

    เทาได้แต่อมยิ้มมองภาพน่ารักๆของครอบครัวตัวเล็กก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู อีกไม่นานก็ใกล้เวลานัดของเขากับพี่ชายซุปตาร์ที่วันนี้ให้เกียรติมาเดินเล่นที่ห้างของเขากับรุ่นพี่อีกคน

     

    “พี่ๆเตรียมของได้เลยนะ ผมกำลังไปแล้ว”

     



    TBC.....
















    สรุปว่าที่คุณพ่อของน้องแอล

     

         คนแรก ผู้ชายที่ตามจีบอ่อมม่า 



    (0.0002/10)



    คนที่สอง พี่ชายอบอุ่นใจดีที่เลี้ยงหมา




    (5/10)




    คนที่สาม ลูกค้าขาประจำ คุณซาลาเปา






    (2/10)




    คนที่สี่ อ่อมม่าบอกว่าเป็นคนขายน้ำเต้าหู้






    (0/10)




    คนที่ห้า ผู้ชายตัวสูงหน้าตาน่ารัก เป็นคนช่วยน้ำแอลเองแหละ



    (5/10)




    คนที่หก คนนี้เขินอ่อมม่าใหญ่เลย คนนี้ก็ช่วยน้องแอลน่า


    (5/10)



    คนที่เจ็ด เขาบอกว่าเป็นองครักษ์ของอ่อมม่า แต่ใครกันน่า....


    (0/10)



















    สงสัยจังว่าใครจะได้เป็นอัปป้าของน้องแอล?




    100%

    __________

    คิดถึงจัง มากอดโหน่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    20 %

    __________
         เดี๋ยวเค้ามาน่า แอ้ก//โดนทุกคนรุมกระทืบ
    คือเป็นคนหน้าด้านเอง แต่งยังไม่จบเสือกอยากลงก่อน
    คือช่วงนี้มันตันๆยังไงไม่รู้อ่า รู้สึกภาษาตัวเองมันแปลกๆ
    แต่สัญญาเลยว่าจะแต่งจนจบ
    เค๊!?


    แก้ไขคำผิด 24/4/2560

    ทุกคนนนนนนนนนนนน

    ฮือออออออออออออออออ เราคัมแบค!!!!!! ขอเสียงกรี๊ดหน่อยยยยยย //โดนปาทุเรียนใส่

    จะบอกว่าเราหายไปนานมากกกกกก รู้สึกผิดจริงๆสำหรับการหายไปในครั้งนี้ ขอโทษด้วยนะคะ 

    แต่ว่าตอนนี้กลับมาแล้วววว จะกลับมาอัพแล้วววว เย่วววววววววว

    ขอบคุณสำหรับคนที่ชอบและยังรออ่านนะคะ มีกำลังเต็มเปี่ยมเลย

    สุดท้ายก็ขอโทษอีกรอบที่หาย กลับมาทำตามคำสัญญาแล้วนะคะ รักทุกคน ม๊วบๆๆ

    ทวิต - @cheek_kam

    ใครหมั่นไส้เรา สามารถเมนชั่นไปด่ากันได้ เราไม่ถือเพราะเราผิดจริง

    หรือจะไม่เมนชั่นไปด่าแต่ก็คุยกันได้นะ เราอยากคุยกับรีดเดอร์ผู้น่ารักทุกคนนน

    ติชมเนื้อเรื่องได้นนะคะเราจะได้รู้ว่าชอบกันอ่ะป่าว

    สุดท้ายก็จะบอกว่า.....รักส์เสม๊อๆ 

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×