The Magician - The Magician นิยาย The Magician : Dek-D.com - Writer

    The Magician

    It's your choice.

    ผู้เข้าชมรวม

    277

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    277

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ต.ค. 54 / 14:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     เด็กหนุ่มผมน้ำตาล ผู้เดินตามความฝันของตัวเอง ท่ามกลางกระแสสังคม...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


       The Magician

       

                      อนุบาล

       

      เด็กชายร่างเล็กผมสีน้ำตาลอ่อน ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังรายล้อมกันรอบขอบเวทีที่กำลังมีการแสดงน่าตื่นตาตื่นใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลใสแจ๋วรับกับสีผมมองตรงไปยังคนบนเวที

                      ซ่า

                      ชายหนุ่มรูปร่างสูงยาวในชุดเสื้อคลุมยาวสีน้ำเงินเข้มมีลวดลายปักด้วยทองราวกับอักขระเวทย์มนตร์ ชูคทาในมือขึ้นอย่างสง่างาม พลันสายน้ำก็พวยพุ่งออกมาจากลูกแก้วกลมมนที่หัวคทาขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะค่อย ๆ จับตัวเป็นหิมะแล้วค่อย ๆ ตกลงบนพื้นเวทีอย่างสวยงาม

                      แปะ! ๆๆๆๆ

                      เสียงปรบมือดังขึ้นจากฝูงชนที่รายล้อม ชายหนุ่มโค้งตัวลงรับเสียงปรบมือ ชายผ้าคลุมตัวสวยสะบัดพลิ้วไหวราวกับโค้งคลื่น แสงสีแดงสดสว่างวาบขึ้นที่หัวคทา พลันหิมะขาวบนพื้นเวทีก็เดือดพล่าน แปรเปลี่ยนจากของแข็งเป็นก๊าซในชั่วเสี้ยววินาที ก่อนที่ควันสีขาวโพลนจะค่อย ๆ ลอยขึ้นเหนือเวทีเกือบสามเมตร แล้วสายฝนก็ตกซ่าลงมาจากควันขาว ๆ ที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ คายประจุส่งประกายแสงสีเหลืองวาบ ๆ ให้แก่กัน และในที่สุด

                      เปรี้ยง!

                      สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงกลางเวที ชายหนุ่มเหวี่ยงคทาขึ้นไปทะลุหมอกเหนือศีรษะ ควันขาวถูกดูดซับเข้ามาในคทาจนหมด ก่อนที่จะชี้ปลายคทาลงพื้น ณ จุดที่สายฟ้าฟาดลงมา ลูกแก้วที่หัวคทาทอประกายแสงสีเขียวสว่างไสวสบายตา แล้วต้นไม้ต้นหนึ่งก็โผล่พรวดขึ้นมา เริ่มจากต้นเล็ก ๆ แล้วก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ราวกับได้ดูวิดีโอที่เร่งเวลา ก่อนจะแตกกิ่งก้านสาขาเป็นต้นไม้ใหญ่ออกดอกออกผลแผ่ร่มเงาให้กับเวที ฝูงชนโดยรอบอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง ก่อนจะปรบมืออีกครั้งแสดงความประทับใจ ชายหนุ่มก้าวเดินอย่างสง่างามออกมาหน้าเวที เอื้อมมือข้างที่ว่างขึ้นไปเด็ดผลไม้สีแดงหน้าตาน่ากินผลหนึ่งจากต้นไม้ที่เพิ่งเสกขึ้น แล้วก้มตัวลงยื่นให้หญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ขอบเวที

                      สำหรับคุณครับเขายิ้ม

                      ขอบคุณค่ะ

                      แล้วการแสดงก็จบลง ชายหนุ่มโค้งคำนับรับเสียงปรบมือจากผู้ชมอีกครั้ง แล้วผู้คนที่รายล้อมค่อย ๆ ทยอยกันแยกย้ายกันออกไปเพื่อไปดูการแสดงที่ซุ้มอื่น ๆ ต่อ

                      เป็นยังไงบ้างค็อด นี่แหละจ่ะนักเวทย์ น่าสนใจมั๊ยลูกเสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นข้างกายหนุ่มน้อย เด็กชายเหลือบตาขึ้นมอง สายตาทอประกายแปลกประหลาด

      ครับแม่เด็กชายตอบเบา ๆ

       

      ประถม

       

      ข้านำทัพปกป้องเมืองนี้ พวกศัตรูอย่างแกจงตายซะเด็กหัวโจกคนหนึ่งตะโกนลั่น ก่อนที่กลุ่มเด็กประถมสองกลุ่มจะวิ่งเฮเข้าหากัน ในมือถือดาบพลาสติกกวัดแกว่งไปทั่ว โดนพวกเดียวกันเองบ้าง โดนอีกฝ่ายบ้าง ไม่นานนักทั้งสองฝ่ายก็หมดแรงทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของผู้เล่นทั้งสองฝ่าย

      โตขึ้นพวกนายอยากเป็นอะไรกันเด็กหัวโจกถามขึ้น

      ข้าอยากเป็นนักดาบเด็กคนข้าง ๆ ยกมือตอบ

      ข้าก็อยากเป็นนักดาบเด็กอีกคนชูมือเห็นด้วย

      ข้าก็อยากเป็นนักดาบเด็กคนข้าง ๆ พยักหน้า

      ข้าก็อยากเป็นนักดาบเหมือนกันเด็กชายผมสีน้ำตาลยกดาบในมือขึ้นชูอย่างมีความสุข นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายประกายเริงร่า

      ดี!” เด็กหัวโจกกระชับดาบพลาสติกในมือแล้วลุกขึ้นยืน งั้นโตขึ้น พวกเรามาเป็นนักดาบด้วยกันนะ

      เฮ้!” เด็ก ๆ ทั้งกลุ่มส่งเสียงเฮกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะเริ่มวิ่งเข้าหา เอาดาบฟาดฟันกันอีกครั้ง

      ค็อด มัวแต่เล่นอะไรอยู่น่ะ กลับบ้านได้แล้วนะเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เจ้าของชื่อหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะค่อย ๆ ลดดาบลงแล้วเดินเข้าไปหา

      สวัสดีครับแม่เด็กชายยิ้มแหะ ๆ กลบเกลื่อน แล้วหันไปโบกมือลาเพื่อน ๆ

      เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาเล่นกันอีกนะใครคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยชวน

      คงไม่ได้หรอกจ่ะ พรุ่งนี้ค็อดมีเรียนพิเศษเวทมนตร์พื้นฐานน่ะแม่เด็กชายยิ้มให้กลุ่มเด็ก ๆ ก่อนจะจูงมือพาลูกชายกลับบ้าน

       

      มัธยมต้น

       

      ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว เด็กชายผมสีน้ำตาลเริ่มเติบโตเป็นเด็กหนุ่ม ค็อดก้าวลงจากรถม้ารับจ้างลงที่หน้าบ้านของเขาเอง เขายกมือขึ้นเคาะประตูบ้าน

      กลับมาแล้วครับค็อดร้องบอกแม่

      ไม่นานนัก แม่ของเขาก็ออกมาเปิดประตูให้พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม

      เป็นยังไงบ้างลูก เรียนพิเศษเหนื่อยมั๊ย

      นิดหน่อยน่ะครับแม่หนุ่มน้อยเดินเข้าประตูไปเช็ดเท้าที่พรมเช็ดเท้าหน้าบ้าน

      วันนี้ทางโรงเรียนส่งผลสอบมาให้ ลูกได้ที่หนึ่งของห้องอีกแล้วแม่ของเขาเอ่ยชมน้ำเสียงสดใส ลูกอยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่าจ๊ะ

      ไม่มีหรอกครับแม่ค็อดยิ้มตอบขณะสาวเท้าขึ้นบันไดตรงไปยังห้องของเข้าได้ไม่กี่ขั้น

      จ่ะ ถ้าคิดได้เมื่อไหร่ก็บอกนะ

      ค็อดหยุดเท้าตัวเองที่ขั้นที่สาม

      แม่ครับ ผมอยากเป็นนักดาบ…”

      จ้า ๆแม่ยิ้มให้เขาอีกครั้ง ไว้โตขึ้นแล้วค่อยคิดก็ยังไม่สายนะจ๊ะ

      ค็อดพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินช้า ๆ ขึ้นไปยังห้องของเขาที่ชั้นบน หน้าประตู มีโล่ของเล่นหนึ่งอันกับดาบสองเล่มไขว้กันแปะไว้ในระดับสายตา

      เด็กชายยืนมองมันสักพักก่อนจะผลักประตูเปิดเข้าไปในห้อง นอกจากโต๊ะของเขาที่วางอยู่กลางห้องแล้ว ของเล่นที่วางอยู่รอบ ๆ ล้วนเป็นสิ่งของที่เกี่ยวกับนักดาบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ดาบของเล่น โล่ของเล่น ชุดเกราะสำหรับเด็กที่ตอนนี้เขาใส่ไม่ได้แล้ว และโปสเตอร์รูปตราประจำตัวของอัศวินแปะอยู่เหนือโต๊ะทำงานของเขา

      ค็อดเอื้อมมือออกไปลูบดาบพลาสติกอันเล็ก ๆ ที่เคยใช้มันฟันเล่นกับเพื่อน ๆ สมัยอนุบาล ตอนนี้เขาอยู่คนละโรงเรียนกับเพื่อน ๆ เหล่านั้นแล้ว เขาอยู่ในโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศของชั้นมัธยมต้น และกำลังติวเข้มเพื่อเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนชั้นมัธยมปลายที่ดีที่สุดเช่นเดียวกัน

      เด็กชายถอนหายใจเบา ๆ

       

      มัธยมปลาย

       

      เธอ ๆ มหาลัยเธอจะเข้าคณะอะไรเหรอเด็กสาวคนหนึ่งที่นั่งข้าง ๆ เขาเอ่ยถาม

      ไม่รู้สิ ยังไม่ได้คิดเลยหนุ่มน้อยผมสีน้ำตาลที่บัดนี้กลายเป็นเด็กหนุ่มเต็มตัวตอบ ในมือหมุนดินสอที่วางอยู่บนตำราเล่มโตตรงหน้า

      แล้วเธอล่ะเขาถามกลับ

      ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันว่าเป็นนักเวทย์ก็ดีนะ ไหน ๆ ก็เรียนจนมาถึงขนาดนี้แล้วเด็กสาวตอบ นักเวทย์น่ะไม่ได้เป็นกันได้ง่าย ๆ นะ คนที่คุณสมบัติถึงน่ะมีแค่ไม่กี่คน อีกทั้งปีนึงก็ยังรับแค่หยิบมือเดียว บ้านไหนที่มีนักเวทย์อยู่ในบ้านนะ นับเป็นเกียรติแก่วงตระกูลมาก ๆ เลย

      นั่นสินะค็อดพยักหน้าเห็นด้วย ดินสอขีด ๆ เขียน ๆ กระดาษเปล่าตรงหน้าเป็นรูปดาบสั้น

      เราว่าเธอน่ะ เหมาะเป็นนักเวทย์นะเด็กสาวยิ้มให้เขา พลางเอียงหน้ามาหา

      ตรงไหนเขาเลิกคิ้ว

      ก็เธอน่ะ เรียนก็เก่ง หัวก็ดี แถมหน้าตายังให้เป็นนักเวทย์อีกตะหาก

      หน้าตาให้เป็นนักเวทย์นี่มันเป็นยังไงกันฮะค็อดหัวเราะ

      ก็ไม่รู้สิ ดูดีมีความรู้มั๊งเด็กสาวตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ

      ที่จริงเราก็อยากเป็นนักดาบอยู่นะชายหนุ่มสางผมสีน้ำตาลเข้มของเขาเล่น

      นักดาบเหรอหญิงสาวทวน จริง ๆ ก็น่าสนใจอยู่นะเธอเปรย

      แต่เดี๋ยวนี้น่ะสำนักดาบมันมีเยอะ จบมาก็ไม่รู้จะหางานทำได้รึเปล่า ต่อให้หางานทำได้ก็ต้องหมั่นฝึกฝนตัวเองตลอดเวลา ถ้าแรงหมดเมื่อไหร่ก็ถูกบีบให้ออก เพื่อจ้างนักดาบรุ่นใหม่ ๆ ไฟแรงเข้ามาทำงานแทน

      นั่นสินะเขาแอบถอนหายใจเบา ๆ

      นักเวทย์น่ะ มั่นคงกว่าเยอะ ถึงจะต้องทำงานหนัก เที่ยวไปนู่นไปนี่บ่อยหน่อย แต่ก็สามารถทำได้ไปจนแก่ รายได้ก็ดี ผู้คนนับหน้าถือตา ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเคารพนะเด็กสาวเอ่ยต่อ

      แล้วเธอสมัครอะไรไว้บ้างล่ะชายหนุ่มถาม

      ก็แม่เราให้สมัครเผื่อ ๆ ไว้อะนะ ก็มีทั้งนักเวทย์ นักบวช นักดาบ แล้วก็รับตรงที่อื่น ๆ บางที่น่ะจ่ะเธอตอบพลางยกนิ้วมือขึ้นมานับ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามกลับ แล้วเธอล่ะ

      เขายิ้มมุมปาก

      เหมือนกัน

       

      ใกล้สอบ

       

      แม่ครับค็อดเรียกขณะนั่งรถม้ากลับบ้าน

      อะไรหรือจ๊ะแม่หันกลับมาถาม

      ผมอยากเป็นนักดาบครับ เขาบอกสายตาเงยขึ้นประสานกับมารดา

      แต่…”

      ผมทราบครับแม่เด็กชายยิ้มน้อย ๆ แม่บอกผมมาหลายครั้งแล้วครับ

      แม่ของเขาเงียบไปพักหนึ่ง

      แม่ครับ วันนี้มีสำนักดาบจากต่างประเทศมาที่โรงเรียนครับค็อดเอ่ยขึ้นเบา ๆ เป็นสำนักดาบที่ชื่อดังที่สุดในโลกเลยนะครับ

      แม่ของเขาพยักหน้ารับ

      เขามาประกาศให้ไปสอบชิงทุนเรียนที่สำนักดาบของเขาเด็กชายเอ่ยต่อ ถ้าจบจากที่นี่รับรองได้ครับ อาชีพมั่นคง ไม่ตกงาน แถมดีไม่ดีจะมีรายได้มากกว่านักเวทย์ซะอีกนะครับ

      จ่ะแม่เขาตอบสั้น ๆ

      แต่ว่าข้อสอบยากมากเลยครับ ดีไม่ดีจะยากกว่าสอบเข้าเป็นนักเวทย์เสียอีก คนชิงกันสอบเข้าก็มากมายเขาพูดเรื่อย ๆ

      แม่เขายิ้ม แม่ก็เคยได้ยินชื่อสำนักดาบแห่งนี้มาเหมือนกัน ความจริงก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งนะแม่ว่า แล้วลูกสมัครไปหรือยังล่ะ

      เรียบร้อยแล้วครับค็อดยิ้มกว้าง แม่ครับ ถ้าผมสอบเข้าที่นี่ได้ แม่ให้ผมเป็นนักดาบนะครับ

      จ่ะแม่ตอบแล้วดึงเขาเข้าไปกอด แต่ลูกต้องสอบนักเวทย์ให้ได้ด้วยนะ

      ค็อดเงียบไม่ตอบ

      แค่สอบให้ได้ก็พอจ่ะแม่เขาเสริมเบา ๆ

      ครับ เด็กหนุ่มรับคำ

       

      ประกาศผล

       

      แม่ของค็อดนั่งสนทนากับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องรับแขก

      นี่นะคะ ลูกคนที่สามของฉันเนี่ยก็ได้เป็นนักเวทย์อีกแล้วค่ะผู้หญิงคนนั้นคุยอย่างร่าเริง บ้านของเราเนี่ยมีนักเวทย์เยอะจังเลยนะคะ โฮะ ๆๆ ได้ข่าวว่าค็อดก็สอบเหมือนกัน รู้ผลยังคะเนี่ย เพิ่งประกาศเมื่อวานนี้เอง

      รู้แล้วค่ะ ค็อดเองก็ได้นักเวทย์เหมือนกันแม่ของเขายิ้มตอบ

      ดีใจด้วยนะคะผู้หญิงอีกคนจับมือแม่ค็อดเขย่าอย่างยินดี เห็นว่าเพื่อน ๆ ของค็อดก็ได้นักเวทย์กันหมดเลย ก็ดีแล้วนะคะ จะได้ไปเรียนต่อด้วยกัน

      ค่ะแม่ค็อดพยักหน้า

      กึก ๆๆ

      ค็อดก้าวลงมาตามบันไดบ้าน

      จะไปไหนจ๊ะลูก

      ไปดูประกาศชิงทุนนักดาบครับเด็กชายตอบ ผมสีน้ำตาลเข้มฟูกระเซิงแสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบ

      จ่ะ รีบไปรีบกลับนะ

      ครับค็อดวิ่งไปถึงประตูแล้วตอนที่หันกลับมาตอบ เขายิ้มทักทายป้าของเขาซึ่งก็คือผู้หญิงที่นั่งคุยกับแม่เขาอยู่เล็กน้อยก่อนจะรีบรุดออกจากบ้านไป

                                      ไม่ถึงสิบนาทีต่อมาเขาก็วิ่งกระหืดกระหอบมาถึงบอร์ดที่โรงเรียนที่มีคนมุงแน่น ค็อดอาศัยความสามารถส่วนตัวสอดแทรกตัวเองเข้าไปท่ามกลางฝูงชนจนได้ เด็กชายรีบไล่สายตามองรายชื่อหาตัว อย่างรวดเร็ว

                      ตึก ๆๆๆ

                      เขาเชื่อว่าเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้น และแล้วเขาก็เห็นมัน ชื่อของเขาอยู่ตรงนั้นเอง ผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ ค็อดยิ้มกว้างอย่างมีความสุขก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ในที่สุดความฝันตั้งแต่วันเด็กของเขาก็จะเป็นความจริงแล้ว

                      น้ำตาหยดใส ๆ ค่อย ๆ ไหลออกมาโดยเจ้าของไม่ทันรู้ตัว

       

                      สุดท้ายวันเปิดเรียน

       

                  หวัดดีจ่ะ ค็อดเพื่อนสาวคนเดิมของเขาร้องทักก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้ามาหาท่ามกลางนักเรียนมากมายที่กำลังเดินเข้ารั้วมหาลัยในตอนเช้าเปิดเรียนวันแรก

                      เขายิ้มตอบ

                      เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ หน้าหน้าตาเหมือนไม่ค่อยสบายเลยนะ

                      ไม่มีอะไรหรอกเด็กชายตอบสั้น ๆ   นัยน์ตาสีน้ำตาลสดใสคู่เดิมทอประกายล้อแสงแดด

                      งั้นไปเรียนกันเถอะจ่ะ เพื่อน ๆ ก็มากันครบแล้วนะเด็กสาวชวนก่อนจะคว้ามือค็อดให้ออกก้าวเดินตามกลุ่มเพื่อนไป

                      เขายิ้มน้อย ๆ อีกครั้ง กระชับไม้เท้าหัวลูกแก้วในมือแล้วออกเดินตามเพื่อน ๆ ของเขาไป

                      


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "สุดยอด >.,"

      (แจ้งลบ)

      แรกๆอ่านดูแล้วอาจจะเข้าว่าเป็นแนวแฟนตาซี แต่จริงๆให้ข้อคิดดีมาก ^^ สุดยอดไปเลยอ่ะ โดนใจจังๆเลย(มันคือ วิศวะ กับ ทันตะ ใช่ป่าว??) 55+ จริงๆเราก็เคยคุยกับแม่เรื่องอักษรนะ แต่แผนการล้มพับอย่างรวดเร็ว --" (จริงๆวิจารณ์จบนานแล้ว แต่มันให้เขียนอย่างน้อย300 ตัวอักษรอ่ะ ไม่รู้จะอะไรกับเรานักหนา 55+) เล่าต่อละกัน -- ตอนนั้นแม่ถามว่า "อยากเข้าอะไร" เราตอบว่ ... อ่านเพิ่มเติม

      แรกๆอ่านดูแล้วอาจจะเข้าว่าเป็นแนวแฟนตาซี แต่จริงๆให้ข้อคิดดีมาก ^^ สุดยอดไปเลยอ่ะ โดนใจจังๆเลย(มันคือ วิศวะ กับ ทันตะ ใช่ป่าว??) 55+ จริงๆเราก็เคยคุยกับแม่เรื่องอักษรนะ แต่แผนการล้มพับอย่างรวดเร็ว --" (จริงๆวิจารณ์จบนานแล้ว แต่มันให้เขียนอย่างน้อย300 ตัวอักษรอ่ะ ไม่รู้จะอะไรกับเรานักหนา 55+) เล่าต่อละกัน -- ตอนนั้นแม่ถามว่า "อยากเข้าอะไร" เราตอบว่า "อักษรมั๊ง" แม่บอกว่า "ทำไม"(บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไป) เราก็ตอบว่า "ก็ชอบเขียนหนังสือ" แม่บอกว่า "เป็นหมอก็เขียนหนังสือได้" แล้วไหนบอกว่าอยากเข้าอะไรก็ตามใจลูกไงฟะ --?   อ่านน้อยลง

      faithty | 25 พ.ย. 54

      • 0

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "สุดยอด >.,"

      (แจ้งลบ)

      แรกๆอ่านดูแล้วอาจจะเข้าว่าเป็นแนวแฟนตาซี แต่จริงๆให้ข้อคิดดีมาก ^^ สุดยอดไปเลยอ่ะ โดนใจจังๆเลย(มันคือ วิศวะ กับ ทันตะ ใช่ป่าว??) 55+ จริงๆเราก็เคยคุยกับแม่เรื่องอักษรนะ แต่แผนการล้มพับอย่างรวดเร็ว --" (จริงๆวิจารณ์จบนานแล้ว แต่มันให้เขียนอย่างน้อย300 ตัวอักษรอ่ะ ไม่รู้จะอะไรกับเรานักหนา 55+) เล่าต่อละกัน -- ตอนนั้นแม่ถามว่า "อยากเข้าอะไร" เราตอบว่ ... อ่านเพิ่มเติม

      แรกๆอ่านดูแล้วอาจจะเข้าว่าเป็นแนวแฟนตาซี แต่จริงๆให้ข้อคิดดีมาก ^^ สุดยอดไปเลยอ่ะ โดนใจจังๆเลย(มันคือ วิศวะ กับ ทันตะ ใช่ป่าว??) 55+ จริงๆเราก็เคยคุยกับแม่เรื่องอักษรนะ แต่แผนการล้มพับอย่างรวดเร็ว --" (จริงๆวิจารณ์จบนานแล้ว แต่มันให้เขียนอย่างน้อย300 ตัวอักษรอ่ะ ไม่รู้จะอะไรกับเรานักหนา 55+) เล่าต่อละกัน -- ตอนนั้นแม่ถามว่า "อยากเข้าอะไร" เราตอบว่า "อักษรมั๊ง" แม่บอกว่า "ทำไม"(บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไป) เราก็ตอบว่า "ก็ชอบเขียนหนังสือ" แม่บอกว่า "เป็นหมอก็เขียนหนังสือได้" แล้วไหนบอกว่าอยากเข้าอะไรก็ตามใจลูกไงฟะ --?   อ่านน้อยลง

      faithty | 25 พ.ย. 54

      • 0

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×