ตอนที่ 25 : 18 [END]
18
เพราะงั้นม่านเองก็ต้องส่องสว่างเหมือนดวงตะวันอยู่เสมอนะรู้มั้ย
ม่าน..ม่านเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะ เป็นเหมือนดวงตะวันของหมูเลยล่ะ หมูคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกนานเลย..ลาก่อนนะม่าน แล้วพบกันใหม่..
ม่านเองก็บังคับให้มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ไม่สั่นไม่ได้ มันสั่นไปพร้อมกับดวงตาที่เริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง และไม่ใช่ครั้งแรกที่หยิบข้อความสุดท้ายมาดูด้วยน้ำตาที่ไหล เขาไม่ได้ส่งอะไรกลับไปหรือแม้แต่บอกลาเลยสักคำจนกระทั่งตอนนี้ที่ข้างในมันใกล้จะแหลกเหลวลงไปในทุกขณะ เพราะเมื่อรู้ว่าใกล้ถึงเวลาที่ยัยหมูจะต้องไปมากเท่าไหร่ใจมันก็ยิ่งไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมากขึ้นเท่านั้น
‘แค่ไปส่งคงไม่เป็นไร...ขอแค่ได้ไปส่ง
ขอแค่ได้บอกลาและกล่าวอวยพร ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกสักครั้งแล้วเขาจะยอมรับทุกอย่างให้ได้จริงๆ แม้ที่ผ่านมาจะบอกตัวเองแบบนี้ทุกครั้ง แต่ทุกครั้งม่านเองก็ต้องนับหนึ่งใหม่ให้ทำใจอยู่ทุกครั้งเช่นกัน ทันทีที่จิตใต้สำนึกมันสั่งการมือที่เคยสั่นก็รีบคว้ากุญแจรถและออกจากห้องในทันที เขารู้แค่ว่าต้องมีคำพูดดีๆไปส่งยัยหมูของเขา ยัยหมูที่ภาพจำมีแต่รอยยิ้มที่สดใส
ขอแค่ให้ได้บอกลาและพูดมีความทรงจำที่ดีให้กับยัยหมูบ้างก็พอแล้ว
.
.
“หมอก..เครื่องยังไม่ออกใช่มั้ย
กูอยากไปส่งหมู”
“อืม..
จะมาก็รีบๆมา อีกหนึ่งชั่วโมงจะขึ้นเครื่อง”
ปลายเท้าวิ่งไปด้วยความร้อนรนทันทีที่มาถึงสนามบิน ข้อมือถูกยกขึ้นเพื่อดูเวลาที่กำลังเหมือนนับถอยหลังและใกล้หมดลงไปในทุกขณะ ปลายเท้าหยุดลงไปพร้อมกับร่างที่หอบในเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก ปากหยักยกยิ้มขึ้นมาเมื่อตรงหน้ามีสองร่างที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าสำหรับผู้โดยสาร
“หมู...”
“ม่าน..”
หมอกทิ้งสายตามองคนที่เพิ่งมาใหม่ด้วยท่าทางเหนื่อยหอบก่อนจะพยักหน้าให้ เขามองแบมแบมอีกครั้งมองแบมแบมที่กำลังยืนอึ้งเมื่อได้เห็นว่าม่านมาก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปกระซิบข้างๆหู
“เดี๋ยวเราเข้าไปรอข้างในนะ”
พูดจบก็เป็นฝ่ายแยกตัวออกไปปล่อยให้ม่านได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด
“ม่าน...หมูไม่เห็นรู้เลยว่าม่านจะมา”
“อืม..จริงๆก็ไม่คิดว่าจะมาหรอก
แต่ถ้าไม่มาม่านก็คงเสียใจไปตลอด”
“อื้อ..”
ได้ยินแค่นั้นนัยน์ตาก็เริ่มสั่นคลอน ใบหน้าของคนตัวเล็กค่อยๆก้มลงเพราะคิดว่าตัวเองคงจะเก็บสีหน้าได้ไม่ดีนัก
“ไปอยู่กับหมอกมันก็อย่าดื้อนะเข้าใจมั้ย..
ตั้งใจเรียนนะรู้เปล่า”
“อื้อ...”
เขารู้ดีกว่าใครว่ายัยหมูกำลังจะร้องไห้ แต่เขาเองก็มีความรู้สึกไม่ต่าง ฝ่ามือค่อยๆวางลงบนแผ่นหลังของร่างที่เริ่มสั่นเทิ้ม ม่านไม่ลังเลอีกต่อไปแล้วที่จะดึงคนตรงหน้าเข้ามากอด พอได้กอดก็เหมือนได้ปลดล็อคช่วงเวลาเกือบปีที่หายไป
“หมู...
ม่านได้อ่านข้อความที่หมูส่งมาให้แล้วนะ
แล้วก็จะทำแบบที่หมูว่า”
“อื้อ...”
“ดูแลตัวเองด้วยนะหมู
จากนี้จะไม่มีม่านจริงๆแล้วนะ”
“ฮึก....”
“โชคดีนะครับคนเก่งของม่าน
ลาก่อนยัยหมู...
แล้วพบกันใหม่”
แล้วพบกันใหม่ในวันที่เราต่างโตกันมากกว่านี้ พบกันใหม่ในฐานะเพื่อนที่บริสุทธิ์ใจ
เขาเองก็ไม่ได้อยากมาเห็นน้ำตาของคนตัวเล็กเลย ม่านถามตัวเองทุกวันว่าที่เดินออกมามันถูกใช่หรือเปล่า แต่ในเมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ต้องเดินไปตามทางนั้น และการที่ยัยหมูมีหมอกอยู่ข้างๆมันก็เป็นเรื่องที่ดีกับตัวยัยหมู และเหตุผลที่สำคัญก็คือเขาไม่สามารถจะเดินวนลูปในวงโคจรแบบสามคนได้อีกแล้วตั้งแต่ที่เขาได้ครอบครองร่างกายของยัยหมู ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาก็ถูกแล้ว เขาจำคำพูดของแฝดตัวเองได้ทุกอย่าง เขาเด็ดดอกไม้ออกมาและไม่สามารถจะทำให้ดอกไม้มีชีวิตชีวาได้เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนวันนี้ดอกไม้ก็อยู่ในที่ๆเหมาะสมแล้ว นั่นแหละเป็นสิ่งที่เขาควรยอมรับให้ได้สักที
สองร่างแยกออกจากกันเมื่อถึงเวลาที่ควรจะไป คนที่เคยร้องไห้สั่นเทิ้มไปทั้งตัวตอนนี้เหลือเพียงคราบน้ำคาและดวงตาแดงก่ำให้ได้เห็นก็เท่านั้น ม่านส่งแบมแบมครั้งสุดท้ายนอกเหนือจากคำพูดตอนนี้ก็คงทำได้เพียงส่งสายตามองร่างบางที่เดินหายเข้าไปในที่ของผู้โดยสาร
‘ลาก่อนนะยัยหมู..แล้วพบกันใหม่แบมแบม’
.
.
*
“โอเคไหมเธอ?...”
“อื้อ...เค้าไม่เป็นไร”
“ร้องไห้แบบนี้เรียกว่าไม่ได้เป็นอะไรเหรอ”
“…”
“เธอ...
จริงๆ..
ไม่ต้องไปแล้วก็ได้นะ”
“ม..หมอก
ทำไม..”
“จริงๆคำตอบมันก็น่าจะชัดแล้วล่ะ
คำตอบที่เราหามาตั้งแต่วันที่เรากลับมา
เราคิดว่าเรารู้คำตอบ แต่เธอเมื่อไหร่จะรู้สักทีนะ”
“หมอก...”
“ไม่เป็นไรจริงๆ
เราโอเค...
จริงๆตอนนี้เราก็เข้มแข็งขึ้นเยอะแล้วก็คิดว่าคงเข้มแข็งพอที่จะเดินคนเดียวไหวแล้วล่ะ”
“หมอกอย่าพูดแบบนี้สิ
หมอกกำลังเข้าใจเข้าผิดนะ
ที่เค้าร้องไห้เป็นเพราะเค้าก็ผูกพันกับม่านมาก แต่มันไม่ใช่แบบที่หมอกคิดหรอกนะ”
“เรารู้แบมแบม..
อย่าห่วงเลย เรารู้ว่าเธอรักเรา”
คนฟังสับสนไปหมดแล้ว ดวงตาที่แดงช้ำกำลังมีน้ำตาหยดไหลออกมาครั้งใหม่ คนมองค่อยๆยกปลายนิ้วทั้งสองขึ้นมากดซับเบาๆที่หางตา
เขารู้ว่าแบมแบมเองก็เสียใจ แต่คงจะปล่อยให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหว
ตลอดหลายเดือนที่คบกันมาความรู้สึกของเขามันชัดขึ้น ชัดขึ้นว่าหัวใจจริงๆของแบมแบมมันอยู่ที่ใคร
“เรารู้ว่าเธอรักเรา...
แต่ไม่ได้รักแบบคนรักกันใช่ไหม”
“…”
“ไม่ต้องเสียใจนะ เพราะหลายเดือนที่เรามีเธอมันทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่เหงาไม่โดดเดี่ยวแบบที่ผ่านมา”
“…”
“ตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เราจะเข้มแข็งได้ด้วยตัวเองแล้วล่ะ”
“ฮึก...หมอกพูดอะไรเค้าไม่เข้าใจ
เค้ารัก...ฮึกหมอกนะ”
“หมอก...
ร..เราจะจากกันแบบนี้จริงๆหรอ”
“ขอโทษที่ทำให้เธอเสียเวลานะ
แต่มันคงดีกว่าไปเสียเวลาที่นู่น
ไม่ต้องกลัวว่าคุณแม่จะว่า เรารู้ว่าสิ่งที่เธอชอบจริงๆไม่ๆแบบที่ไปกับเราหรอก ส่วนเรื่องเรียนเธอยังกลับไปเรียนที่เดิมได้นะ”
“เค้าไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นเท่ากับหมอกหรอกนะ..”
แบมแบมพูดไปพร้อมกับน้ำตาที่นองแก้ม ที่ห่วงที่สุดก็คงเป็นหมอก ถึงแม้ความรู้สึกข้างในลึกๆมันก็บอบซ้ำเต็มที
“หมอก...
ถ้าเค้าทำให้หมอกรู้สึกไม่ดีตรงไหนบอกเค้านะ...
หมอกกำลังเข้าใจเค้าผิด..”
“เธอนั่นแหละที่กำลังเข้าใจตัวเองผิด
แล้วสักวันเธอจะเข้าใจเอง
“กลับไปนะ..
กลับไปหาคนที่รักเธอจริงๆ
คนที่รักเธอมากกว่าเรา
เพราะเราคงรักตัวเองและเห็นแก่ตัวมากกว่าที่จะรักเธอได้เท่าคนๆนั้น”
.
.
.
*
“หมู...
ทำไมยังไม่ไป..
ลืมอะไรหรือเปล่า”
“ม่าน...
หมอกไปแล้ว”
.
.
“ม่าน..
หมูควรทำยังไงดี...”
“ม..หมู
มันเกิดอะไรขึ้น”
“ฮึก..หมอกไปแล้วม่าน...
หมอกไปแล้ว...”
.
.
.
ตากลมเหม่อมองทะลุกระจกใสของรถ ถึงแม้บนถนนจะมีแต่ความวุ่นวายแต่แบมแบมกลับไม่สามารถรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของสิ่งที่อยู่รอบด้าน ไม่ใช่เพราะถูกปิดกั้นแต่เป็นเพราะความรู้สึกที่ไม่พร้อมจะตอบสนองกับอะไรก็ตาม
ม่านยังไม่สามารถจับต้นชนปลายอะไรได้นัก พยายามโทรหาหมอกแต่โทรศัพท์ก็ถูกปิดไปแล้ว ร่วมชั่วโมงที่นั่งเฝ้าแบมแบมที่นั่งซึมไปพร้อมน้ำตาอยู่ที่สนามบินจวบกระทั่งตอนนี้ที่พาแบมแบมขึ้นรถกลับมาด้วยกันได้
“ม่าน..
หมูผิดเองแหละ...
ผิดตรงที่ไม่สามารถทำให้ใครเชื่อว่าหมูรักเค้าได้เลย
หมูเสียใจที่เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้..”
“หมู...
อย่าโทษตัวเองเลยนะ
ทุกอย่างมันเป็นเพราะม่านกับไอ้หมอกเอง เดี๋ยวถ้าหมอกมันถึงที่นั่นมันคงเปิดเครื่อง เดี๋ยวม่านจะโทรไปด่ามันให้ พอมันหายงี่เง่าเดี๋ยวมันก็ดีเองแหละ”
“ถ้าไม่มีหมู...
คงไม่ต้องมีใครสักคนต้องมาเสียความรู้สึกเนอะม่าน”
“หมู...
มันไม่ใช่แบบนั้นนะ...อย่าโทษตัวเองได้ไหม”
“หมูทำม่านโทษตัวเอง ทำหมอกผิดหวัง
หมูไม่ควรได้รับความรักจากใครสักคนเลย...”
.
.
.
“อ้าว...
ทำไมกลับมาพร้อมกันสองคนล่ะ”
“ฌอห์ณ
มึงอย่าเพิ่งกวน จะไปทำอะไรก็ไป”
“แหมพี่ม่านก็...ฌอห์ณไม่ได้จะกวนสักหน่อย
ก็แค่ตกใจเพราะที่จริงแบมแบมมันต้องบินไปกับพี่หมอกแล้วนี่ เอ๊ะ...หรือว่าพี่หมอกตาสว่างแล้ว คงจะเห็นข้อความดีๆที่ส่งไปให้แน่ๆ”
“ไอ้ฌอห์ณมึงจะหยุดเองหรือจะให้กูหยุดมึง เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว”
“หึ..พี่เองก็ระวังจะเจ็บหนักอีกรอบแล้วกันพี่ม่าน”
เป็นม่านที่มองญาติอย่างฌอห์ณด้วยตาขวางๆแล้วพ่นลมหายใจออกมาเมื่อคนที่พูดเองเออเองยอมเดินออกไป สายตาของม่านค่อยๆอ่อนลงจนกระทั่งที่เหลือบไปมองยัยหมูของเขาที่ยืนซึมอยู่
“หมู...อย่าไปฟังมันเลยนะ
มันก็ปากแบบนี้แหละ”
“อื้อ...ขอบคุณนะม่านที่มาส่ง
ถ้างั้น...หมูขอขึ้นห้องก่อนนะ”
“หมู..
ถ้าหมูอยากไปหามัน..ม่านพาไปได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกม่าน...
หมอกคงไม่สบายใจน่ะ”
“แต่ม่านไม่อยากให้หมูอยู่คนเดียว..”
“หมูโอเค..หมูดีขึ้นแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวม่านช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บนะ”
“ไม่เป็นไรหมู...”
แต่ครั้งนี้ม่านไม่ได้รอให้แบมแบมปฏิเสธ กระเป๋าลากถูกจัดการยกขึ้นด้วยมือของร่างสูง เป็นม่านที่เดินนำขึ้นไปที่บันไดจนแบมแบมยอมเดินตามขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง
“หมูทำถูกมั้ยม่าน...
ป่านนี้หมอกจะเป็นยังไงบ้างนะ”
“หมูครับ...ฟังม่านนะ
แล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้น จนกว่าที่ทุกอย่างมันจะโอเคระหว่างนั้นม่านจะอยู่ข้างๆหมูเองนะ”
“…”
“จะอยู่ข้างๆหมูไม่ไปไหน เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อน
หมู...ต่อให้เกิดอะไรขึ้นม่านอยากให้หมูรู้ไว้ว่าหมูไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก
เหมือนกับที่หมูเคยบอกว่าม่านเป็นเหมือนดวงตะวันของหมู
และตอนนี้มันก็จะเป็นแบบนั้น..
ดวงตะวันดวงนี้จะอยู่เคียงข้างหมูจนกว่าที่ดวงจันทร์ดวงนั้นของหมูจะกลับมาอีกครั้งนะ”
.
.
‘แต่ดวงอาทิตย์ดวงนี้คงไม่รู้ว่าดวงจันทร์ดวงนั้นคงไม่กลับมาอีกแล้ว’
ลาก่อนนะดวงจันทร์
ถึงฟ้าคืนนี้จะมืดก็ไม่เป็นไร
แต่อย่าปล่อยให้ดวงจันทร์ดวงนั้นมืดหม่นลำพังนานเกินไปเลยนะ
-END-
.
.
.
เป็นตอนจบที่อาจจะหน่วงแต่มันก็เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนจริงๆของทั้งสามคน
แล้ววันหนึ่งเราทุกคนจะเข็มแข็งและโตขึ้นจากที่เป็นอยู่
รอยยิ้มมันไม่มีวันหายไปหรอกค่ะมันจะอยู่ในส่วนลึกรอวันที่จะยิ้มออกมาได้ใหม่เสมอ
.
.
.
อาจจะไม่ถูกใจทุกคนนะคะแต่ก็เป็นตอนจบที่เราตั้งใจให้เป็นแบบนี้การเลิกราแล้วมีอีกคนที่ยังเจ็บอยู่มันก็ต้องปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมัน ที่เราจะสื่อก็คือถึงแม้ว่าต่อให้ใครจะได้อยู่ได้คู่กับใครในที่สุดแล้วความผูกพันธ์ของทั้งสามคนจะไม่มีวันหายไปจากกันแน่นอนค่ะ ต่อให้เป็นอย่างไรสามคนนี้ก็จะเป็นเพื่อนกันได้ตลอดไป
หวังว่าจะคิดถึงตัวละครม่านหมอกหมูนะคะวันหนึ่งเราอาจจะพอทั้งสามคนกลับมาอีกก็ได้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับการรอคอยและติดตามเรื่องนี้มาตลอดนะคะแม้ว่่าเราจะรักษาคนอ่านเอาไว้ไม่ได้ทั้งหมดแต่ก็ขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่จริงๆ
#UNTTWINS93
ตอนนี้ทยอยส่งเล่มรอบพรีไปแล้วตามลำดับนะคะคาดว่าอาทิตย์หน้าจะส่งครบทุกท่าน
ส่วนเล่มสต๊อกเหลืออยู่เกือบๆ20เล่มนะคะ ถ้าสนใจยังสามารถสั่งได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จนวันนี้กล้าอ่านแล้ว จบแบบหน่วงๆ จบแบบคนอ่านมีน้ำตา
ขอบคุณสำหรับนินายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณไรท์นะคะที่แต่เรื่องนี้
#ทีมหมอกตลอดไป
//ขอบคุณที่เขียนจนมาถึงตอนนี้ค่ะ เก่งมากๆเลย
มันต้องมีคนผิดหวังอยู่แล้วถ้าเรื่องเกิดจากสามคน
ยังใงก็อยากไห้มีสีสั่นสอง รอๆๆๆๆ อยากรู้เมื่อพวกเขาโตแล้วจะมีความคิดแบบไหน แล้วแบมจะมีสิทได้เจอความสุขจริงๆบ้างรึเปล่า
โอยยยยยยยังใงก็ชอบเรื่องนี้มากลุุ้นตื่นเต้นทุกตอนที่ได้อ่าน คนเขียนเก่งมากค่ะ สู้ๆๆ
ยังใงจะรอค่ะ ss2 รีบมาเด้อออออ เหอะๆๆๆ
..
.
"หวังว่าสักวันดวงจันทร์ดวงนั้นจะกลับมานะคะ "
เห้อเครียดนิดๆๆแต่ก็เข้าใจเหตุและผลค่ะ
และหนักสุดก็คงเป็นยัยหมู คนตรงกลางอะแบกของทั้งสองฝั่งเลย เอาจริงๆก็อยู่กับอันทวินมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่สมัยที่บอทม่านยังเริงร่าในทวิต พอมาวันนี้มันจบแล้วก็แอบใจหาย ขอบคุณนะคะปลีกวิเวกสำหรับงานเขียนดีๆ เป็นกำลังใจให้ปวว ไปให้สุดกับทางกับงานเขียนทุกๆเรื่อง รักส์