บังเอิญรัก 🌈 - นิยาย บังเอิญรัก 🌈 : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    บังเอิญรัก 🌈

    ความ บังเอิญ มาพร้อมกับ ความต่าง คุณว่าเราจะเดินไปด้วยกันได้จริงๆหรอ มีกฎข้อไหนที่ห้ามไว้แบบนั้นกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    644

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    644

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    9
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  23 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.ย. 66 / 23:52 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทที่ 1 ก้าวแรก

     

    ณ กลางใจเมืองกรุงหญิงสาวรูปร่างสูงโปรงผมดำขลับยาวถึงกลางหลังถูกมัดรวบไว้ด้านหลังถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง 

    "เห้อออออ" 

    หญิงสาวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะตั้งแต่มาทำงานใกลบ้านเธอประมานหนึ่งเดือนเศษๆ ก็ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวไหนเลย อาจเป็นเพราะไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไม่ชอบความวุ่นวาย เลือกที่จะอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ แต่ก็จะมีความรู้สึกชั่ววูบที่เหงาแหละอยากมีใครสักคนคงจะดี.. 

    วันนี้เป็นวันหยุดของเธอจึงมีความคิดอยากออกไปเปิดประสบการณ์ของตัวเอง ในการไปเดินห้างดังใจกลางเมืองหลวงของประเทศโดยBTSในครั้งแรก ใช่เธอไม่เคยโดยสารโดยBTSเลย นับเป็นประสบการณ์ใหม่มากสำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างเธอ ตั้งแต่มาทำงานเธอก็ไม่เคยไปไหนเลยนอกจากที่ทำงานและบ้านเท่านั้น 

    หลังจากศึกษาข้อมูลขั้นตอนในการขึ้นBTSสักระยะจึงเอ่ยกับตัวเองว่า 

    "ลองดูก็ไม่เสียหาย" 

     

     

    "กลับตอนนี้จะเป็นอะไรไหมนะ" เพราะเธอดูหนทางละไม่น่าจะเอาชีวิตมาทดลองอะไรแบบนี้สู้นอนสบายอยู่บ้านยังจะดีกว่า  แต่ใจนึงก็คิดว่าถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง ความรู้สึกยังคงเถียงกันภายในใจอยู่นาน สุดท้ายก็เลือกที่จะก้าวขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปขึ้น BTS 

    แลกบัตรเสร็จสรรพเรียบร้อยตามที่ได้ศึกษามา แล้วก็ได้มาอยู่ในBTSเป็นที่เรียบร้อย

    "มันก็ไม่ยากเกินไปนี่นา"   เพราะในความคิดของคนที่ไม่เคยขึ้นและไม่กล้าคือมันจะกลัวและไม่อยากทำให้ขายหน้า 

     

     

     

    สยาม..

    "จ๊อก จ้อก"  มาถึงได้ไม่นานท้องเจ้ากรรมก็ประท้วงขึ้นเพราะตั้งแต่เช้าอาหารยังไม่ได้ตกถึงท้องเลยสักเม็ด จะมีก็แต่ชาร้อนเท่านั้น หญิงสาวมองซ้ายมองขวากำลังเพ่งเล็งสายตาเพื่อหาฟู้ดอาหารที่พอจะบรรเทาอาการหิวลงได้บ้าง  

    ส้มตำ ข้าวมันไก่ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนปิยฉัตรก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่เสมอ และส้มตำคือเดอะเบสคือเนมูที่กินได้ตลอดและไม่มีวันเบื่อเลย 

    สั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยพร้อมมองหาที่นั่งว่าง ปิยฉัตรสังเกตเห็นผู้หญิงตัวเล็กคนนึงมากับคุณพ่อและคุณแม่ คนตัวเล็กกำลังจัดระเบียบอาหารตรงหน้าให้กับผู้เป็นพ่อและแม่ ซึ่งเป็นภาพที่น่ารักเอามากๆสำหรับคนมองอย่างปิยฉัตรแล้ว 

    จากนั้นถัดจากโต๊ะของคนตัวเล็กไปประมาณสองโต๊ะก็มีโต๊ะว่างพอดี ปิยฉัตรจึงเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามที่สามารถเห็นหน้าของคนตัวเล็กได้ถนัด เธอไม่ได้ติดใจอะไรนักหรอกเพียงแค่มันมองแล้วอยากมองอีกแค่นั้นเอง 

    พอได้มานั่งใกล้ๆแล้วคนตัวเล็กตรงหน้ากลับสวยมากกว่าที่เธอเห็นอยู่ไกลมาก ตัวเล็กผิวขาว หน้าตาสวยจมูกโด่ง ปากกระจับได้รูป กับความสูงน่าจะเท่าไหล่ของเธอ อายุก็คงจะเท่าๆกับเธอ เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและน่ารักในเวลาเดียวกันก็ว่าได้ 

     

    การที่เรามองใครสักคนอยู่ในระยะเวลาที่นานพอสมควรมันจะทำให้ฝั่งตรงข้ามมีความรู้สึกว่ามีคนมอง 

    ใช่! เช่นเดียวกับอีกฝ่ายเธอเหมือนรู้สึกได้ว่ามีคนมองเลยกวาดสายตามองดูรอบๆ

    พรึบ!! เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นเองที่เราได้สบตากัน ปิยฉัตรรีบหันมาตั้งหน้าตั้งตากินอาหารตรงหน้าอย่างขะมักขะเม่นโดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังนั่งขำกับท่าทางของเธออยู่ 

     

    เวลาผ่านไปจนปิยฉัตรทานข้าวเสร็จแล้วและนึกขึ้นได้ว่าจะลองแอบมองไปที่โต๊ะนั้นอีกครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะอีกฝ่ายและครอบครัวได้ออกไปจากฟู้ดอาหารแห่งนี้แล้ว 

     

    "อย่างน้อยมาวันนี้ก็มีอะไรดีๆแล้วล่ะ"     พูดกับตัวเองเบาๆ 

    หลังจากนั้นก็เป็นเวลาที่จะได้มาเดินเล่นตามความตั้งใจแรกของเธอกับการมาสยามครั้งนี้แล้ว เจอบูธนั่นบ้างบูธนี้บ้างมีแต่ของแบรนด์เนมทั้งนั้น ปิยฉัตรได้แต่มองตาละห้อย เพราะการที่จะซื้อแบรนด์เนมแต่ละครั้งเธอคิดเยอะมากเพราะมันแลกมาด้วยราคาที่แพงและปิยฉัตรไม่ใช่คนที่จะซื้อของสุรุ่ยสุร่ายเธอกลับคิดว่าเอาเงินจำนวนนี้ไปทำประโยชอย่างอื่นหรือให้พ่อกับแม่น่าจะดีกว่าอีกเสียอีก 

    แต่มันก็คงจะเป็นความฝันอีกความฝันนึงละนะ เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมี ที่อยากจะมีเป็นของตัวเองบ้างสักชิ้นนก็ยังดี แต่ก็นั่นแหละ ปล่อยให้มันเป็นความฝันไปก่อน 

    "ไว้ค่อยเจอกันในเวลาที่เหมาะสมละกันนะ" 

    พูดพลางก้มมองดูที่นาฬิกาข้อมือ "ห๊ะ!!!!  นี่เราใช้เวลาเดินนานขนาดนี้เลยหรอเนี่ย" 

    "ไม่ได้การละ มาครั้งแรกจะหลงทางกลับไม่ได้"  บอกความตั้งใจของตัวเองในใจ เพราะการที่หลงมันจะทำให้เธอเหนื่อยขึ้นอีกหลายเท่าเลย และเจ้ากี้ที่รออยู่บ้านคงมองทางแล้วป่านนี้ 

     

    ตุ้บบ ! ! ! 

    "ขอโทษค่ะ"

           "ขอโทษค่ะ"

     

    เธอและเขาพูดออกมาพร้อมกันโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก

     

    ปิยฉัตรตาเบิกกว้างเธอไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่เธอเดินชนจะเป็นคนตัวเล็กที่เธอแอบมองการกระทำน่ารักเล็กๆ ที่ฟู๊ดอาหาร อาการเลิกลั่กจึงแสดงต่อหน้าคนตัวเล็กเหมือนมีความผิดติดตัวอยู่ก็ไม่ปาน แต่ด้วยความที่เธอมีใบหน้าเรียบนิ่งเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้วสีหน้าและท่าทางจึงไม่แสดงอาการขวยเขินมากนัก ถึงแม้ในใจลึกๆ อยากจะยิ้มแต่คงต้องสงวนทีท่าไว้ก่อน

     

    "คุณเป็นอะไรกรือเปล่าคะ พอดีฉันรีบเลยไม่ทันได้มอง"

    เสียงหวานนุ่มของอีกฝ่ายพูดขึ้นมาทำให้ปิยฉัตรหลุดออกจากภวังค์ความคิด

    "เอ่อ ไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันเองก็มองทางไม่ดีเหมือนกัน"

    "คุณล่ะคะเจ็บตรงไหนไหม"

    "ไม่เป็นไรเหมือนกันค่ะ" "ขอโทษอีกครั้งด้วยนะคะ"

    คนตัวเล็กกล่าวขอโทษอีกครั้งและกำลังจะเดินออกไปจากตรงนี้ ปิยฉัตรคิดว่าเธออยากรู้จักกับผู้หญิงคนนี้อยากทำความรู้จัก ไวกว่าความคิดเธอจึงถามออกไปว่า

    "ขอโทษนะคะ จะรบกวนคุณมากไปไหมคะที่จะถาม" 

    "ถามอะไรหรอคะ" 

    "ห้องน้ำไปทางไหนหรอคะ" 

    หมดกันที่อยากทำความรู้จักเธอตีสนิทคนไม่เป็นนี่นา แล้วก็ไม่รู้วิธีเข้าหา หรือที่เรียกง่ายๆว่าจีบ ก็คงจะได้เท่านี้แหละนะ 

    พะพายได้ยินถึงกับนึกขำปนเอ็นดูเล็กน้อย เธอจำได้คนนี้คือคนที่แอบมองเธอที่ฟู๊ดอาหาร แอบมองจนรู้สึกได้ว่ามีคนมอง แล้วก็ได้มาเจอกันอีกครั้งที่ทางไปห้องน้ำ คนตัวสูงตรงหน้าไม่มองหน้ามองหลังหรือยังไงกัน ถึงได้มาถามทางไปห้องน้ำที่หน้าทางเข้าเช่นนี้ หรือไม่มีอะไรจะพูดแล้วอย่างนั้นหรือ 

    "ข้างหลังฉันเลยค่ะ ฉันพึ่งมาจากห้องน้ำ"      พะพายตอบคำถามคนตรงหน้าไปตามตรง 

    ปิยฉัตรก็พึ่งมานึกขึ้นได้ว่าเธอถามคำถามที่ทำให้ตัวเองขายหน้าสิ้นดีคงจะแอบขำกันอยู่ล่ะสิท่า 

    "ขอบคุณนะคะ คุณ.." 

    "พะพายค่ะ"  พะพายแอบชื่นชมคนตรงหน้าที่มาแอบถามชื่อเธอต่อจากประโยคที่ไม่ดูจะเป็นไปด้วยกันได้เลย 

    "ฉัน ปราย ยินดีที่ได้รู้จักและ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" 

    ปิยฉัตรแนะนำชื่อและรวบรัดตัดบทแล้วรีบเดินออกจากตรงนี้ก่อนที่เธอจะทำอะไรที่ขายหน้าให้อีกฝ่ายแอบขำกันมากกว่านี่

     

    ส่วนพะพายเองก็ยังนึกขำไม่หายกับคนตัวสูงที่เจอกันทางไปห้องน้ำ     "คนอะไรสกิลการทำความรู้จักเป็นศูนย์ขนาดนั้น"     ก่อนจะเดินทางไปยังร้านของตัวเอง 

     

    พะพายมีธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าในประเทศและต่างประเทศ ทั้งยังมีสาขาย่อยที่เจ้าตัวเลือกมาเปิดท่ามกลางสยามแห่งนี้  ในคราแรกเธอเกือบจะไม่ลงรอยกับคุณพ่อเพราะท่านอยากให้เธอไปสานต่อธุรกิจของท่านเองแต่เธอก็ให้เหตุผลว่าเธอจะเข้าไปช่วยดูแลและก็ทำธุรกิจของเธอควบคู่ไปด้วย ถึงจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็เป็นอะไรที่ท้าทายดีสำหรับเธอ 

     

    ครืด ครืด ! ! !   เสียงแจ้งเตือนจากสมาร์ตโฟนของพะพายดังขึ้นซึ่งก็ไม่ทำให้เธอแปลกใจอะไรเพราะมันเป็นแบบนี้ตลอดทุกวัน 

    'พี่รอที่ลานจอดรถแล้วนะคะ' 

    พี่เจ้าคุณ ลูกค้าคนสำคัญของคุณพ่อ และเป็นคนที่คุณพ่อไว้ใจและกล้าที่จะบอกความตรงไปตรงมาอย่างจริงใจว่าอยากดูแลเธอ ซึ่งคุณพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรท่านบอกแค่ว่า    'พ่อเคารพการตัดสินใจของพาย และไม่บังคับนะลูก'    

    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นเวลาเกือบหนึ่งปี พี่เจ้าคุณก็คอยมารับมาส่งเธอทุกวัน วันไหนที่ไม่ว่างก็จะส่งข้อความมาบอกเธอล่วงหน้าเสมอ ซึ่งช่วงแรกๆมาส่งมารับถึงที่หน้าร้านเลยทีเดียว พะพายเองก็เกรงว่ารบกวนพี่เขามากเกินไปเลยบอกให้ส่งหรือรอรับแค่ที่ลานจอดรถก็พอ

    พะพายเคยพูดอย่างตรงไปตรงมากับพี่เจ้าคุณแล้วว่าเธอไม่ได้รู้สึกแบบเดียวที่อีกฝ่ายมีให้ แต่เพราะคำพูดของพี่เจ้าคุณวันนั้นทำให้เธอไม่ห้ามอีกฝ่ายที่จะขอดูแลเธอ 

    "พี่เจ้าคุณคะ พายพยายามแล้ว แต่พายไม่สามารถรู้สึกกับพี่เจ้าคุณแบบที่พี่เจ้าคุณรู้สึกกับพายได้ อย่าเสียเวลากับพายเลยนะคะ"

    "ในเมื่อน้องพายยังไม่มีใคร พี่ก็ถือว่าพี่มีสิทธิ์ และขออย่างเดียวอย่าไล่พี่เลยนะคะ แต่เมื่อไหร่ที่น้องพายมีคนที่น้องพายรักแล้วพี่จะไปเอง"

    เพราะคำพูดนี้ของพี่เจ้าคุณทำให้เธอไม่สามารถขัดความประสงค์ดีของพี่เขาได้ และพี่เจ้าคุณก็ไม่เคยก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเธอและให้เกียรติเธอมาก เป็นคนที่ดีมากๆคนนึง

    อย่างที่เขาว่ากันว่า ดีแค่ไหนไม่รักก็คือไม่รัก เธอก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปี เธอก็เคยลองเปิดใจให้พี่เจ้าคุณ แต่มันก็มีความรู้สึกในรูปแบบอื่นไม่ได้นอกจากพี่น้อง 

     

    "น้องพายหิวไหมคะ อยากแวะไหนหรือเปล่า"  เจ้าคุณถามคนน้องเพราะดูแล้วอีกคนน่าจะเหนื่อยจากงานพอควร

    "กลับบ้านเลยค่ะพี่เจ้าคุณ พายอยากพักผ่อนมากกว่า"  พะพายตอบไปแค่นั้นแล้วก็เลือกที่จะหันหน้าออกไปทางหน้าต่างและแกล้งหลับเพื่อที่จะเลี่ยงคำถามจากคนเป็นพี่.. 

    เจ้าคุณรู้ดีว่าคนน้องไม่ได้รู้สึกเหมือนที่เธอรู้สึกแต่เธอก็อยากจะทำให้มันออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และในเมื่อน้องยังไม่มีใครเธอก็ยังมีสิทธิ์นั้นอยู่ ถึงแม้ว่ามันแทบจะมองไม่เห็นทางเลยก็ว่าได้..

     

     

     

    -------------------------------------------------

        ฝากเอ็นดูน้องปรายคนซึนด้วยนะคะ 

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น