คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : SS.1 : Toshuki Resort
ในที่สุดวันที่เป็นอิสระก็มาถึง!! เอกสารทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว เมื่อมือชะมัด ดีที่พวกโมโมะเซมไปมาช่วย ไม่งั้นไม่ทันการไปจัดเตรียมที่โรงแรมแน่ๆ
“เหนื่อยหน่อยนะครับทุกคน เท่านี้อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็คงไม่มีเอกสารมาแล้วครับ ทุกคนไปพักผ่อนกันเถอะครับ”
“แล้วนายล่ะโซว์คุง” โทสึเกะเซมไปถามพลางจัดเก็บเอกสารเพื่อไปส่งให้หน่วยงานต่างๆ
“คงต้องไปหาอาจารย์ชาเปลก่อนครับเซมไป เพราะว่ามีงานค่ายฝึกที่ต้องประสานงานอีก แต่ไม่ต้องห่วงครับ อีกไม่กี่วันก็เสร็จ”
“คงเหนื่อยน่าดูนะโซว์จัง อ่ะนี้ขนมกินรองท้องไปก่อนก็แล้วกัน”โมโมะเซมไปก็ยื่นขนมมาให้ ใจดีจังนะครับ
“ขอบคุณครับเซมไป”
“งั้นเจอกันที่หอนะโซว์จัง” อิชิกิพูดพร้อมเปิดประตูออกไป
“ครับเซมไป ว่าแต่สึคาสะเซมไปไม่ไปพักหรอครับ” ทุกคนได้ออกไปแล้วแต่เหลือรุ่นพี่ผมขาวคนนี้นี่แหละที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาเนี่ย
“ไม่มีอะไรหรอกโซว์จัง เพียงแค่เป็นห่วงน่ะไม่ได้นอนกี่วันแล้ว พักก่อนไหม” มีมุมนี้เหมือนนะเนี่ยเซมไป เห็นแต่มุมเฉื่อยๆไม่ก็มุมจริงจัง555
“ไม่เป็นไรหรอกครับเซมไป ผมได้นอนพักบ้างตอนที่มีพวกเซมไปมาช่วยเยอะๆอยู่แต่จะว่าไป ก็หมกแต่ในนี้มาห้าวันแล้วสินะ งั้นผมก็ขอตัวกลับหอก่อนนะครับ เซมไปก็เหมือนกันพักให้เต็มที่แล้วก็กลับมาลุยงานต่อนะครับ”
“อืมขอบใจมากนะโซว์จังที่เข้ามาในสภา ถ้าไม่มีเธอเนี่ยพี่คงหัวหมุนแน่ๆ”
“มันเป็นหน้าที่ครับเซมไป หน้าที่ตั้งแต่ที่ได้เข้ามาที่นี่แล้ว”
………………………………………………………
“ถึงเวลาของปีนี้แล้วสินะ พวกนักเรียนได้รับการแจ้งยัง” อาจารย์ชาเปลได้ร่นผ้าม่านออกเล็กน้อย ก่อนจะเปิดบทสนทนาออกมา
“น่าจะได้รับการแจ้งวันนี้นะครับ” คุณที่อายุน้อยที่สุดในห้องนี้กล่าว
“อืมขอบใจมากเจ้าหนู แต่ว่าจะมีผู้ผ่านและไม่ผ่านที่โรงเรียน และนี่จะเป็นที่ที่เส้นทางของพวกเขาได้แบ่งแยก” ชักสนุกแล้วสิหวังว่าทุกคนจะทำให้ผมตื่นเต้นขึ้นมานะครับ
หอเคียวคุเซย์
“แสดงว่าโซมะนายชนะแล้วใช่ไหม งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วย” เหอะๆอยากจะสาบโซมะอยู่นะที่ทำให้ทุกคนดูวุ่นวายขนาดนี้ โดยเฉพาะผมเนี่ย
“ค่ายฝึก??” โซมะทำหน้าสงสัยพร้อมชูสมุดบันทึกตารางออกมา เห้ยผมออกแบบปกเองเลยนะครับขอบอก
“ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงแล้วสินะ” ยูกิจังพูดทำท่ากลัวๆยังไงก็ไม่รู้ เห้ยค่ายนี้ออกจะชิวๆทุกคนไม่เห็นน่ากลัวเลย
“ค่ายนี้ ถือเป็นนรกขุมแรกสำหรับนักเรียนมัธยมปลายใหม่ ปีหนึ่งจะมีนักเรียนถูกไล่ออกจากค่ายนี้ ถึงชื่อจะบอกว่าค่ายกระชับความสัมพันธ์แต่แท้จริงแล้วมันคือนรกดีๆนั้นแหละ” แหม่ก็ต้องตั้งชื่อให้ทุกคนมีกำลังใจสิ55 อีกอย่างถ้าพวกคุณพยายามในทุกโจทย์มันก็ง่ายแหละ
“ใช่แล้วล่ะพี่ก็เคยผ่านมาแล้ว ตอนที่พี่ไปก็มีนั่งเรียนถูกไล่ออกเกินครึ่งจริงไหมอากิคุง ตอนนั้นเธอก็อยู่หนิ”
“เอ๊ะทำไมฮิโระคุงถึงไปค่ายฝึกนั้นได้ในเมื่อเขาให้ไปเฉพาะนักเรียนกับเจ้าหน้าที่หนิ” เรียวโกะจังครับอย่าพึ่งสงสัยตอนนี้ครับ ช่วยรอีกนิดนึง
“ครึ่ง…. ทุกคนขอบคุณมากนะ” หลังจากนั้นเมงุมิก็สลบไป
“ฮะฮะ!! ก็จริงอยู่ที่จะไล่ออกเกินครึ่งแต่ว่าฮะฮะก็แค่อยู่ในครึ่งที่รอดสิครับ แล้วก็เรียวโกะจังรอไปที่ค่ายนั้นดีกว่านะครับแล้วจะได้คำตอบเอง555”
ตู๊ดดดดดด ตู๊ดดดดดด
“สวัสดีตอนบ่ายครับพ่อ”
“โอ๊ะ ฮิโระงานที่โรงเรียนเรียบร้อยดีแล้วสินะ งั้นวันนี้อย่าลืมมาโรงแรมล่ะอีกแค่สามวันนะ วันนี้ก็ไปรับเจ้าพวกนั้นมาด้วยก็แล้วกัน” คงได้เวลาที่จะต้องไปแล้วสินะ
“ครับพ่อ เดี๋ยวผมจะแจ้งคุณยายว่าผมจะไม่อยู่อีกนาน หลังจบค่ายคุณพ่ออย่าลืมพาป๊ามาหาเจ้าตัวด้วยนะครับ เห็นชอบพูดถึงพวกคุณพ่ออยู่”
“อืองั้นเดี๋ยวจบค่ายก็กลับพร้อมพ่อก็แล้วกัน จะได้ไปดูสมาชิกหอปัจจุบันด้วย”
“ครับ”
“ก็อย่างที่ได้ยินนั้นแหละครับ ทุกคนผมจะไปทำธุระอีกสามวันก็เจอกันที่ โทสึกิรีสอร์ทก็เลยนะครับ อิชิกิเซมไปฝากบอกคุณยายด้วยนะครับ คนขับรถมารับแล้วเดี๋ยวพวกเซมไปรอนาน งั้นขอตัวกันนะครับ”
ไม่รอให้ใครพูดอะไร เจ้าของบทสนทนาก็ได้วิ่งออกจากหอ พร้อรถลีมูซีนที่สามารถบรรจุคนได้ 6-8 คนมารอรับเจ้าตัว แล้วมุ่งหน้าไปจุดหมายปลายทางนั้นก็คือสนามบิน
“ดูเหมือนฮิโระจะมีเรื่องให้จัดการมากมายเลยนะครับรุ่นพี่ ตอนนี้สิริรวมแล้วไม่ได้อยู่หอแปดวันแล้วนะครับ”
“นั้นสินะ อิบุซากิคุง ธุระของอากิคุงเยอะกว่าที่พวกเราคิดอีกนะ แต่ว่าชักอยากให้ทุกคนรู้แล้วสิว่าอากิคุงเป็นใครกัน มันต้องตลกมากแน่ๆเลย555”
“ว่าแต่รุ่นพี่รู้หรอคะว่า พ่อแม่ของฮิโระคุงเป็นใคร”
“ชั้นก็ไม่รู้หรอก555 ก็รอพร้อมพวกเมงุิงจังนั้นแหละ เอาล่ะทุกคนไปเตรียมตัวเข้าค่ายกันได้แล้ว”
………………………………………………………
สนามบินโตเกียว
“ชิเจ้าหนูนั่นเมื่อไหร่จะมา จะให้คนที่เป็นรุ่นพี่รอได้ยังไงกันกัน” บุคคลที่พึ่งลงเครื่องไฟลท์จากฝรั่งเศส ผมสีชมพูอย่าง ชิโนมิยะ โคจิโร่เอ่ยขึ้น
“นี่รุ่นพี่ชิโนมิยะ บ่นเป็นคนแก่จังนะคะ เดี๋ยวฮิโระจังก็มาแล้วค่ะ อ๊ากกกก” พูดไม่ทันขาดคำ อุอิโนะ ฮินาโกะ ก็ถูกคนผมชมพูเอาสันมือฟาดไปที่หัวเสียแล้ว
“ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ พอดีมีงานด่วนนิดหน่อยก็เลยปลีกตัวไปเคลียร์ก่อนจึงมารับช้าครับ งั้นเชิญทางนี้เลยครับรถมารอแล้ว” คนที่ใส่ชุดนักเรียนคนเดียวในบริเวณนี้ได้กล่าวขึ้น เพื่อบอกให้รุ่นพี่รีบขึ้นรถก่อนที่พวกตนจะถูกรุมมากกว่านี้
“ว่าแต่อากิไปทำอะไรมาหรอ” รุ่นพี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่งอย่าง มิสึฮาระ ฟุยุมิ กล่าวขึ้นมา
“ก็มีเอกสารด่วนให้ไปเซ็นต์น่ะครับ ตอนแรกจะให้อันดับหนึ่งเซ็นต์แทนแต่เขากำหนดไว้ว่าให้คนที่มีอำนาจเท่าผอ.เท่านั้นที่จะเซ็นต์แทนได้ แล้วดันวันนี้คุณปู่ไม่อยู่น่ะครับก็เลยต้องไปเซนต์”
“ชอบทำอะไรเกินตัวจังเลยนะฮิโระจัง ไม่เหนื่อยหรอ” ฮินาโกะเซมไปได้พูดพร้อมเอามือมาลูบหัวผม อ่ามีความสุขจัง มันเป็นนิสัยแล้วแหละที่ชอบให้คนลูบหัวให้
“นั้นสิฮิโระ ไม่หาวันพักบ้างหรอ เดี๋ยวเป็นลมเอานะ” เซคิโมริ ฮิโตชิเป็นคนเสริมทัพ
“555ผมชินแล้วล่ะครับ ผมก็อยู่ตำแหน่งนี้มาสามปีแล้วนะครับ อีกอย่างโดนฝากฝั่งมาจากหลายทางอีกด้วย แถมจะได้มองเขาจากที่ไกลๆด้วย”
“เป็นคนดีจังเลยนะอากิฮิโระ อย่างนี้สิสมกับเป็นลูกของรุ่นพี่โดจิมา” สำเหนียงแปร่งๆของรุ่นพี่ โดนาโต้ โกโทดะก็ยังน่าเวียนหัวอยู่ดีนะครับ
“งั้นผมของพักก่อนนะครับ ถ้าถึงแล้วฝากพวกเซมไปปลุกผมด้วยนะครับ” แต่ก็อย่างว่าล่ะนะยังไม่ได้มาหลายวันขอพักผ่อนก็แล้วกัน ท่ามกลางสายตาหลายคู่ของคนอายุกว่าที่มีแต่ความชื่นชมในตัวเด็กคนนี้ เพราะทั้งภาระ หน่าที่ และความสารถของเด็กคนนี้คือของจริง แม้แต่พวกตนยังไม่กล้าสู้เลย
“คุณพ่อครับบบบ ผมกลับมาแล้วครับ” หลังจากที่มาถึงโรงแรมแล้วก็เจอคุณพ่อแล้วก็คุณป๊ามารอต้อนรับเลยแหละ
“นี่อากิคุงคิดถึงแค่คุณพ่อสินะ ไม่คิดถึงป๊าบ้างหรอ” ป๊าครับไม่ต้องแกล้งทำหน้าอย่างงั้นก็ได้ครับ
“ผมก็คิดถึงป๊าเหมือนกันครับ” ความเยือกเย็นทุกอย่างหายไปเหลือแต่ความเป็นเด็กเท่านั้นที่แสดงต่อครอบครัว นี่แหละนิสัยที่แท้จริงของอากิฮิโระ
“รุ่นพี่โดจิมา รุ่นพี่โอดะ สวัสดีครับ/ค่ะ”
“สบายกันดีนะทุกคนไม่เจอกันไปตั้งหนึ่งปีโตขึ้นเยอะเลยนะ ไปพักผ่อนให้เต็มที่เหอะเดี๋ยวอีกสามวันก็จะเริ่มแล้ว”
บ่อน้ำร้อน
“เป็นไงบ้างล่ะอากิคุงไปเรียนเหนื่อยบ้างไหมลูก” ป๊าได้ถามผมพลางขัดตัวให้คุณพ่อไปพลาง ขนาดต่อหน้าลูกก็ยังหวานกันนะครับ
“เวลาเรียนก็ไม่ค่อยเหนื่อยหรอกครับ เพราะว่าผมมีธุระบ่อยก็เลยต้องหายไปหลายคาบ ที่เหนื่อยก็คือพวกตำแหน่งที่อยู่บนบ่าผมเนี่ยแหละครับที่เหนื่อย แต่ถึงเหนื่อยก็สนุกอีกนะครับที่ได้ทำงานที่ท้าทาย แถมยังได้ปกป้องคนที่รักด้วย มีแค่อย่างเดียวที่เสียดายก็คือผมอยากทำอาหารให้เต็มควาสามารถเสียที”
“ยังเป็นเด็กดีเหมือนเดิมเลยนะฮิโระเก่งที่สุดแล้วนะลูกพ่อกับป๊า ถ้าท้อก็มาหาพวกพ่อได้นะ ทุกคนยินดีต้อนรับฮิโระนะ วันนี้ที่พ่อเรียกมาก็ให้ลูพักผ่อนเนี่ยแหละ ทำตัวให้สบายเพราะอีกสามวันก็จะเจอศึกหนักแล้วนะ”
“ครับ”
………………………………………………………
วันเข้าค่าย
“เป็นอย่างที่ฮิโระคุงพูดจริงๆนะว่าให้เจอกันที่โรงแรมเลยเนอะยูกิจัง” คนผมน้ำเงินถักเปียได้พูดกับเพื่อนผมส้มของตน
“นั้นสินะอีกสามชั่วโมงกว่าจะถึง เมงุงมิจังปลุกหน่อยนะ” ไม่ทันได้กล่าวตอนเจ้าตัวก็ได้นอนไปแล้ว
“จร้า”
ณ โรงแรมโทสึกิ
“โอ๊ะมารุอิคุงหลับสบายไหม” เพราะสภาพแล้วดูเหมือนอดหลับอดนอนมาหลายวันแล้วก็ไม่รู้
“ยังไม่ตายครับ เรียวโกะจังแต่ว่าโรงแรมนี้หรูจริงๆนะเนี่ย ใหญ่สุดๆเลยล่ะ”
“ใช่แล้วล่ะมารุอิ ได้ข่าวมาว่าที่นี่ห้องพักอย่างต่ำคืนละ 80000 เยน แล้วก็ยูกิอย่าทำหน้าตาดีใจขนาดนั้นเลย ถ้าเธอตกรอบตั้งแต่วันนี้ก็ไม่ได้อยู่ต่อนะ”
“อย่าพูดทำลายกำลังใจอย่างนั้นสิอิบูซากิคุง แต่ว่าอาหารอร่อยๆจะได้ทานไหมนะ”
“ช่างมันเถอะตอนนี้เข้าไปข้างในกัน” ว่าแล้วคนผมแดงก็ได้เดินนำไป
บรรยากาศในห้องนั้นเต็มไปด้วยความเคลียด ความท้อแท้ และความกังวลที่ปะปนกันไปในเด็กหนึ่งพันคน แต่แล้วก็ได้มีบุคคลหนึ่งที่เป็นอาจารย์ของพวกตนแผนกอาหารฝรั่งเศสเดินออกมา
“เอาล่ะ ทุกคนของต้อนรับสู้ค่ายฝึกและกระชับความสัมพันธ์ หกวันห้าคืนต่อจากนี้ก็ขอให้ทุกคนโชคดี ก่อนที่เราจะอธิบายรายละเอียดของค่ายซักเล็กน้อย ก็ขอเชิญแขกกิตติมศักดิ์ขอเราซึ่งนั้นนก็คือ อดีตนักเรียนของโทสึกิได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ถึงจะมีตารางยุ่งแค่ไหนแต่ก็พร้อมใจกันมา"
และแล้วการเปิดตัวศิษย์เก่าก็ได้เริ่มขึ้น ต่างทยอยกันเข้ามาในเวทีนี่ แต่ว่าคนอื่นกลับจดจ่อกลุ่มที่จึ้นมาก่อนหน้านี่ทำให้ไม่ทันสังเกตเด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อเชฟที่หาได้ยาก ได้ขึ้นมาทีหลัง
"หือ เด็กผู้ชายที่มีแผลเป็นตางคิ้วน่ะ อ่อไม่ใช่ๆๆ"ตอนแรกผู้ชายผมสีชมพูชี้ไปที่โซมะ แต่ว่าจริงๆแล้วจะชี้ไปคนที่อยู่ข้างๆโซมะต่างหาก
"นายคนนั้นแหละ นายถูกไล่ออกแล้ว ผมของนายนั้นมีกลิ่นซีทรัทที่ฉุนเกินไป มันเป็นแฟชั่นของอาหารสมัยใหม่เลยนะ แล้วถ้านายจะเถียงก็ นายกล้าทำให้ร้ายฉันแปดเปื้อนไปกลิ่นพวกนี้ไหมล่ะ" เซมไปครับพูดแค่ข้างบนเวทีก็พอครับ ไม่จำเป็นต้องลงไปคุยตัวต่อตัวก็ได้ พวกโซมะเค้ากลัวกันหมดแล้ว!!!
"สาวแรกแย้มที่อยู่ท่ามกลางดอกโคเวอร์สี่แฉก คุณช่างงดงามจริงๆ" เห้ยเซมไปครับอย่ามาเต๊าะฮะฮะของผมนะ!!! แต่ว่าพ่อเรียกแล้วนี่นา
"รุ่นพี่โกโทดะอย่ามาขวางสิคะ!!! น่ารักจังเลยน่าจับกินไปทั้งตัวเลย ช่างใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ" อันนี้ก็น่ากลัวเกินไปครับ
"นี่ๆมัน คุณฮินาโนะที่ทำภัตตาคารญี่ปุ่น และคุณโกโทดะที่ทำอาหารอิตาลี!!" มารุอิคุงเนี่ยดูตื่นเต้นดีจังนะครับ
"เห๋ น่าสนใจจริงๆ"
"ฮินาโกะเซมไปครับ โกโทดะเซมไปครับกลับขึ้นมาได้แล้วครับ อาจารย์ชาเปลจะโกรธแล้วนะครับ" ช็อค ทั้งหอเคียวคุเซย์ต่างช็อคไม่มีใครส่งเสียงร้อง มีแต่อาการอยู่นิ่งและสงสัยว่าเพื่อนของตนขึ้นไปอยู่บนนั้นทำไม
"เอาล่ะครับ ในเมื่อทุกคนก็น่าจะรู้จักผมแล้วนะครับ ตอนนี้จะเป็นการอธิบายตารางคร่าวๆนะครับ อะเเห้ม ค่ายนี้คือค่ายฝึกและพวกคุณตอนนี้จะมีฐานะคล้ายๆลูกจ้าง และเชฟเหล่านี้ที่อยู่บนเวทีนี้คือเจ้านายของคุณ ถ้าคุณทำผิดพลาดอะไรบางอย่างหรือทำให้เชฟไม่พอใจก็….. ถูก..ไล่..ออกนะครับ:) และผมขอเตือนอย่างหนึ่งในการเข้าค่ายครั้งนี้พวกคุณต้องเตรียมกับข้าวทั้งมื้อเช้า เที่ยง เย็นเอง และที่สำคัญในฐานะที่ผมเป็น 'เชฟใหญ่ของที่นี่' ขอความกรุณาให้เกียรติพนักงานทุกคนเพราะว่าการให้เกียรติกันและกันก็เป็นสมบัติที่ดีของเชฟ ถ้าใครมาจิดหัวใช้หรือมาดูถูกพนักพวกนี้ก็ จะถูกผมคนนี้เขิญไล่ออกเช่นกันครับ"
"และที่เชฟโอดะพูดคือความจริงทุกอย่าง ถ้าพวกนายฝ่าฝืนแล้วก็จุดจบไม่สวยแน่ ถึงคนนี้จะเป็นแค่นักเรียนเหมือนพวกเธอแต่ว่า หน้าที่นี่เขาก็ทำมาทุกปีลองไปถามรุ่นพี่พวกเธอดูดก็ได้ เอาล่ะเชิญกับกลุ่มและแยกย้ายได้!!!"
"อากิฮิโระะพูดมาให้หมดเลยนะ สรุปมันเป็นยังไงกันแน่เธอคือเชฟของโทสึกิหรอ?? แล้วชุดนี้คืออะไรกันแน่ ทำไมนายถึงมาอยู่นี่แล้วๆๆ" หลังจากที่เจ้าตัวได้ลงมาจากเวทีเพื่อจะไปขึ้นรถบัสตามกลุ่มที่ตัวเองได้รับมา ก็ถูกลุ่มหอเคียวคุเซย์ดักไว้
"ก็อย่างที่หัวหน้าโดจิมาพูด ผมคือเชฟที่นี่แหละครับเป็นทุกปีที่ผมต้องมาที่นี่เพื่อมาควบคุมสถานการณ์แต่ว่าปีนี้เป็นปีพิเศษเพราะว่า ผมก็ต้องมาเข้าค่ายฝึกซะเอง5555 เดี๋ยวเย็นนี้ผมอธิบายให้ฟังครับ"
………………………………………….
ความคิดเห็น