ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shokugeki no soma] I’m an ordinary person;) (BL/OC)

    ลำดับตอนที่ #10 : SS.1 : Aishiteruyo

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 64


    "อย่างอนไปเลยนะทาคุจัง ว่าแต่ที่มาหาเรื่องไรหรอ" ทุกคนนั้นต่างลุ้นตัวโก่งกันเหลือเกินว่า สาเหตุที่ทำให้คนผมทองมาที่นี่ได้เพราะอะไร

    "ก็เพราะว่าอยากจะมาอธิบายเหตุผมที่ผมไม่ได้มาเจอฮี่จังเลยน่ะ แล้วก็มาขอโทษด้วย" พร้อมก้มหัวขอโทษให้คู่บทสนทนา นั้นสินะเหตุผลของทาคุจังคืออะไรกันแน่

    "ที่เราไม่ได้มาเจอฮี่จังเลยก็เพราะว่าก่อนที่ฮี่จังประสบอุบัติเหตุ มีคนๆนึงได้มาที่ร้านของผมน่ะ แล้วมาบอกว่าถ้าไม่อยากให้ฮี่จังตายก็อย่าติดต่อฮี่จังอีก ถ้าฮี่จังมาร้านก็อย่าชวนคุย ถ้าเจอกันที่โรงเรียนก็ห้ามทัก ฮี่จังผมขอโทษจริงๆที่ไม่สามารถช่วยฮี่จังได้ หากผมมีความกล้าที่จะบอกเรื่องที่ผมรู้ให้ฮี่จังทราบฮี่จังคงไม่โดนล-" ก่อนที่คนผมทองจะพ่นคำขอโทษอีกหลายสิบประโยคนั้น อากิก็ได้เข้าไปกอดแล้วลูบหัวของคนที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ท่ามกลางทุกคนในหอที่ช็อกโดยเฉพาะผู้เป็นพ่อนั้นจะพุ่งไปจับแยกทั้งสองอยู่แล้ว ดีที่ไม่ได้ภรรยาและเพื่อนของตนห้ามไว้

    "ทาคุจังไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองเลยนะครับ ทาคุจังน่ะไม่ผิดหรอกนะเลิกร้องไห้ได้แล้ว ถ้าอิซามิคุงมาเห็นจะโดนล้อเอานะครับ555 เรื่องที่มีคนมาหาทาคุจังน่ะผมรู้อยู่แล้วล่ะครับ ก็ตอนนั้นผมก็อยู่หน้าร้านนี่นา เขาขู่ทาคุจังด้วยหนิครับว่าถ้าบอกผมแล้วจะทำอะไรไม่ดีกับคุณพ่อคุณ ผมเข้าใจดีทาคุจังเก่งที่สุดแล้วครับ ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกนะ คนที่มาหาทาคุจังเขาได้บอกไหมครับว่าชื่ออะไร" ขออย่าเป็นคนที่เขาคิดด้วยเถอะ

    "เขาบอกว่าชื่อ อาซามิ น่ะนี่ฮี่จังตอนแรกผมก็จะบอกฮี่จังวันนั้นแหละ ว่าตอนนั้นทำไมผมถึงเรียกฮี่จังมาแทนที่ฮี่จังจะได้เตรียมตัวกลับบ้าน พอมาเจอคนนั้นอีกพอก็อยากถอยห่างจากฮี่จังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอจะมาบอกตอนที่ไปส่งสนามบินฮี่จังก็ประสบอุบัติเหตุเสียได้ ผมขอโทษจริงๆนะครับ" อาซามิ อีกแล้วหรอคนๆนั้นมาเกี่ยวข้องเยอะไปแล้วนะเนี่ย

    "ไม่ผิดไปจากที่ผมคาดไว้เท่าไหร่นะครับ ว่าแต่วันนี้ก็ไม่มีใครขัดแล้วหนิ อยากบอกอะไรผมงั้นหรอครับ" หวังว่าจะเป็นเรื่องเดียวกับที่ผมคิดอยู่นะครับ

    "คือว่าตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเนอะที่เจอฮี่จังก็ประมาณเกรดหกได้ ตอนแรกผมก็สงสัยว่าเด็กคนนี้คือใครกันจู่ๆก็บุกเข้ามาในร้าน555 พอผ่านไปพวกเราสามคนก็สนิทกันมากขึ้นจนกลายเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นผมมีความสุขมากเลยล่ะ แต่ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่อิซามิโดนลูกค้าว่าเสียๆหายๆ คนเป็นพี่ชายล่ะเนอะก็เลยไปปรับความเข้าใจกัน แต่ว่าคนที่เป็นกาวเชื่อมเราสองพี่น้องก็คือฮี่จังล่ะนะ"

    "ตอนนั้นผมก็เริ่มสนใจฮี่จังมากขึ้น ว่าคนๆนี้ทำไมคำพูดไม่กี่คำพูดก็ทำให้คนอื่นมีกำลังใจมากขึ้นแล้ว ซึ่งสิ่งที่ผมจะพูดกับฮี่จังก็คือ 'เดินทางปลอดภัยนะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ ผมชอบฮี่จังนะครับ'ซึ่งผมคิดถูกแล้วแหละที่จะได้บอกความรู้สึกให้ฮี่จังได้รู้ตอนนั้น55 เพราะว่าผมกลัวจะไม่ได้เจอฮี่จังอีก กลัวถ้าผมไม่ได้บอกชอบฮี่จังไป ความรู้สึกผมตอนนั้นคงเสียใจแน่ๆที่ไม่ได้บอกชอบไป แต่ถึงอย่างไรผมกลัวพ่อฮี่จังด้วยนะ55 พอเรามาเจอกันตอนม.1ผมก็ยังกลัวคำพูดของคนนั้นอยู่ ก็เลยเฝ้ามองอย่างห่างๆอย่างไรล่ะ "

    "นี่ทาคุจังคือว่า-"เฮ้ยทำไมเหมือนจะวกมาเรื่องนี้ได้ล่ะ ในขณะเดียวกันฝั่งคนที่เป็นคนแอบฟังอยู่ก็ต่างลุ้นกับประโยคของทาคุมิอย่างที่สุด แต่กลับกันฝั่งงินนั้นแทบอยากจะแยกทั้งสองออกจากกันอยู่แล้วดีที่มีฮิโรชิคอยช่วยกันอยู่

    "อย่าพึ่งขัดสิครับ เอาล่ะต่อแล้วนะ ผมน่ะคอยดูฮี่จังตลอดเลยนะ เวลาที่ฮี่จังแข่งโชคุเงคิน่ะผมก็ไปดูตลอดเลยนะ นานวันเข้าจนทำให้ผมรู้สึกสนใจฮี่จังมากขึ้นเลยแหละ แล้วก็จนวันนี้ผมรู้แล้วแหละฮี่จังความรู้สึกผมยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ฮี่จังไม่ต้องสนใจประโยคที่ผมจะพูดขึ้นมาต่อจากนี้นะครับ แต่ผมอยากให้ฮี่จังรู้ความรู้สึกที่ผมมีต่อฮี่จังอย่างแท้จริงยังมั่นคงเหมือนเดิม"

    "ฮี่จังครับ 'ผมชอบฮี่จังนะครับ ชอบมาตั้งนานแล้ว ชอบตลอดมาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แล้วอีกอย่างหนึ่งก็ยินดีต้อนรับกลับมานะครับอากิฮิโระจัง :)' "

    ความรู้สึกผมตอนนั้นมันบรรยายไม่ถูกเลยครับ หัวใจตอนนี้มันฟูไปหมด ความรู้สึกมันไม่เหมือนตอนที่ผมได้จับมีดครั้งแรก การได้เห็นรอยยิ้มของพ่อกับป๊าที่ได้ทานอาหารผม อันนั้นผมก็มีความสุข แต่กับอันนี้ไม่เหมือนกันมันทั้งมีความสุขและใจเต้นตึกๆ ในที่สุดทาคุจังก็รู้สึกเหมือนกับผมแล้วสินะ ตอนนี้ผมไม่ได้ขยับอะไรเลยนอกจากยิ้ม เมื่อไม่เห็นปฎิกิริยาจากทางฝั่งฮิโระ หน้าทาคุจังเริ่มเศร้าและเริ่มคิดไปไกลแล้ว

    "ผมหมดธุระแล้วขอตัวนะครับ ส่วนคำพูดของผมเมื่อกี้ก็ทำเป็นหัวทวนลมก็แล้วกันนะครับ" หลังจากที่ทาคุมิได้เดินหันหลังกลับไป แล้วกำลังเปิดประตูรั้วของหอออก

    "ทาคุจัง!!ก่อนไปก็ฟังคำพูดผมด้วยนั้นก็คือ 'ผมก็ชอบทาคุจังเหมือนกันนะครับ ชอบมานานแล้วเหมือนกันครับ!!' เดินทางกลับปลอดภัยนะครับ" หลังจากนั้นคนผมบลอนด์ก็ชะงัก ไม่มีแรงก้าวเดิน ท่ามกลางดวงดาวท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้ช่างมืดมิด แต่กลับทำให้อีกคนรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายหน้าแดงขนาดไหน

    ..........................................................................................................

    หลังจากที่คุยกับทาคุมิเสร็จ อากิฮิโระเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าจะเจอกับคำถามอะไรอีกบ้าง

    "ไงอากิเมื่อกี้ไปทำอะไรมาแหละ" ผ่านไปหลายนาทีดูเหมือนบรรยากาศอึมครึมนี้ก็จะไม่หายไปง่ายๆ คนเป็นผู้อาวุโสอย่างคุณยายฟุมิโอะต้องเป็นคนเริ่มก่อน ด้วยความที่เจ้าตัวก็เป็นคนเดียวที่ไม่ได้ตามออกไป ทำให้น้ำเสียงในการถามนั้นไหลลื่นไม่ติดขัด

    "อ๋อไปคุยกับทาคุมิ อัลดินี่มาน่ะครับคุณยาย เห็นมีเรื่องอยากคุยตั้งแต่อยู่ค่ายแล้วก็เลยออกไปเจอซักหน่อยน่ะครับ ส่วนเรื่องที่คุยผมคิดว่าทุกคนคงรู้อยู่แล้วนะครับ" หลังจากที่อากิพูดจบ ทุกคนก็ต่างสะดุ้งกันหมด โดยที่ไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวจะจับผิดง่ายขนาดนี้

    "ร-รู้ได้ยังไงหรอฮิโระคุง"ยูกินั้นเป็นผู้กล้าที่จะเป็นคนถามหาสาเหตุ

    "ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกครับยูกิจัง แต่ว่าทุกคนอย่าลืมนะครับว่าคนที่ไปด้วยน่ะมีผู้ใหญ่ไปด้วย แถมคนตัวใหญ่อย่างพ่อแล้วนั้นมองเห็นได้ง่ายมากเลยครับ อีกอย่างตอนที่ทาคุจังหันหลังกลับมาน่ะ ได้แอบชี้ไปตรงระเบียงน่ะครับแล้วทำปากบอกว่ามีคนอยู่ข้างบน ทำให้พวกผมรู้ว่ามีคนแอบฟังจนได้ จริงไหมครับ"

    "เก่งจังเลยนะอากิ ว่าแต่ป๊าไม่คิดเลยนะว่าลูกจะบอกสารภาพรักไปโต้งๆขนาดนั้นฮุๆ อีกอย่างลูกโชคดีแล้วที่ทาคุมิเค้าเป็นคนมีความกล้า ไม่เหมือนพ่อของเราที่เอาแต่ป๊อดไม่กล้ามาขอป๊าซักทีจนเพื่อนป๊าบางคนแต่งงานกันไปหมดแล้ว" ป๊าครับอันนี้มันคือการนินทาพ่อระยะเผาขนสุดๆเลยนะครับ
     

    "จริงหรอเนี่ยงิน โห๋ๆไม่เป็นลูกผู้ชายเลยว่ะ สู้ลูกเขยนายไม่ได้จริงๆดูสิไฟแรงตั้งแต่วัยเรียน แถมเตอนแรกเป็นรักที่ไม่หวังการตอบแทนด้วย ลูกชายนายเนี่ยโชคดีจริงๆ"

    "เงียบไปเลยโจอิจิโร่!!!! ฉันยังไม่ยอมให้ใครเป็นลูเขยฉันทั้งนั้นแหละโจอิจิโร่ อีกอย่างคุณที่ผมยังไม่บอกไปเพราะว่าผมหาสิ่งที่เป็นไปยืนยังว่าผมตั้งตัวได้เเล้วค่อยไปขอคุณไม่ใช่หรอ อีกอย่างขอผมก็คุณขอแต่งงานเลยด้วย!!"

    "แหน่ พ่อครับเขินหรอครับ5555 หมดสภาพแล้วครับหัวหน้าบริหารโรงแรมโทสึกิ555"

    "ลูกน่ะเงียบไปเลย เรายังไม่คุยกันเรื่องที่อยู่ดีๆลูกก็ไม่ตะโกนบอกชอบตอบเลยนะ"

    "งั้นปัญหาครอบครัวใครครอบครัวมัน ตอนนี้ก็แยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว "

    ..........................................................................................................

    เช้าอันสดใสแต่ดูเหมือนเช้านี้นั้น จากที่อากิฮิโระเป็นคนตื่นเช้าแต่กลับตื่นสายเสียดาย ช่างเป็นพฤติกรรมที่คนเป็นพ่อเป็นป๊าไท่ค่อยเห็นนัก

    "คุณจะลงไปทำอาหารให้ลูเลยไหมล่ะ เครื่องลูกออหตอนบ่ายหนิ ส่วนผมก็คงไปดูเจ้าโจอิจิโร่แข่งกับลูกมันซักหน่อย"

    "อืม เอาสิ" หลังจากที่สองสามีภรรยาได้เดินลงไปข้างล่างก็เจอจังหวะที่คนในห้องกำลังหากรรมการเพิ่มอยู่ แต่ดูเหมือนจะได้ครบสามคนแล้วสินะ ทาโดโคโระคุงเนี่ยสภาพดูเหมือนอดหลับตลอดคืนเลยนะเนี่ย

    "ไง โจอิจิโร่แข่งทำอาหารกับโซมะคุงอยู่หรอ แต่จะว่าไปขอเพิ่มอีกสองที่ได้ไหม ไม่ได้ชิมอาหารของนายมานานแล้วนะเนี่ย"

    "เอาสิ โซมะทำเพิ่มสองที่ด้วยนะ"

    "ได้ครับพ่อ" ตอนนี่ศึกการทำอาหารก็ดูดุเดือดน่าดู พอเห็นทั้งสองแล้วบรรยากาศก็เหมือนมีไฟลุกโชนตลอดเวลา แต่พอตัดภาพไปอีกคนที่ไม่มีส่วนกี่ยวข้องกับศึกสายเลือด มีเพียงแค่มาทำข้าวเช้าให้ลูกเฉยๆโดยที่การเคลื่อนไหวนั้นไม่ไปขัดการแข่งแม้แต่น้อย

    หลังจากที่ทั้งสองทำอาหารเสร็จแล้ว โซมะนั้นทำรีซอตโต้แอปเปิ้ล ส่วนโจอิจิโร่ทำราเมนแต่ว่าสุดท้ายแล้วผลการแข่งขันก็เป็นไปตามคาด นั้นก็คือคนเป็นพ่อชนะด้วยคะแนน 5ต่อ0 พอทั้งสองรู้ผลแล้วอากิฮิโระก็ลงมาพอดี พร้อมกับชุดที่ดูเรียบร้อย แต่ไม่ใช่สไตล์ที่เจ้าตัวชอบใส่บ่อยเสียเท่าไหร่

    "อ้าวฮิโระจัง อรุณสวัสดิ์นะจ๊ะว่าแต่จะไปอังกฤษแล้วหรอ ถึงแต่งตัวผิดจากที่ชอบใส่ล่ะเนี่ย"

    "ใช่แล้วครับโอก้าซังว่าแต่ป๊าครับข้าวผมอยู่ไหนหรอครับ" หลังจากที่กล่าวทักทายให้หอมปากหอมคอ คุณเป็นป๊าก็ได้ยื่นจานข้าวให้ พร้อมทั้งเอาอีกสองจานที่เป็นอาหารโซมะและโจอิจิโร่แข่งกันโดยที่ตนนั้นได้แบ่งเอาไว้ให้ลูกอยู่แล้วนั้นเอง

    "อ่ะนี่ข้าวของลูก แล้วก็สองชามนี้ของโซมะคุงกับคุณอาโจอิจิโร่เค้า ลองชิมดูสิ"

    "อืมของโซมะคุงก็ถือว่าฉลาดคิดนะครับที่ใช้แอปเปิ้ลมาทำรีซอตโต้แถมยังเอาน้ำเอปเปิ้ลมาเพิ่มรสชาติเพื่อไม่ให้ความกรอบของแอปเปิ้ลหายไป โซมะคุงคงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนตื่นเช้ามาแล้วได้สารอาหารครบสินะครับ เป็นการนึกถึงผู้ทานที่ดีเลยครับ แต่ว่าโซมะคุงต้องเพิ่มลูกเล่นอีกนิดหน่อยนะครับก็จะดีขึ้นมาก ซึ่งการที่โซมะคุงนั้นคิดถึงคนทานทุกคนแต่กลับกันคุณอาโจอิจิโร่นั้น ทำอาหารที่มีรสหนักขึ้นมาหน่อยเพราะว่ากรรมการทั้งห้าคนนั้นเป็นคนที่พึ่งทำสวนมา หรือนอนดึก ทำให้จะต้องการอาหารที่เพียวพอต่อพลังงานที่เสียไปเพื่อนที่จะเริ่มต้นวันได้อีกครั้ง ผมพูดถุกใช่ไหมครับ เอาล่ะขอทานของป๊าต่อแล้วนะครับ"

    ..........................................................................................................

    หลังจากที่อากิฮิโระได้ทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ได้เวลาที่จะไปสนามบินเสียที ดีที่วันนี้ไม่ค่อยรถติดเท่าไหร่ไม่งั้นผมไม่มีเวลาช็อปของที่อยู่สนามบินแน่ๆ555

    "งั้นพ่อกับป๊าไปแล้วนะครับอากิ ถ้าเครื่องออกแล้วก็ส่งข้อความมานะครับ แล้วก้ถ้าถึงแล้วก็โทรมาเลยนะครับ"

    "รับทราบครับป๊างั้นผมไปก่อนนะครับ ทั้งสองก็เดินทางปลอดภัยนะครับ" ตอนนี้ครอบครัวโดวจิมาก็ได้แยกย้ายไปตามหน้าที่ของตนเองแล้ว

    หลังจากที่ผมผ่านด่านตม.ไปแล้วก็ถึงเวลาหาขนมทานเล่นระหว่างรอสินะ นั้นมันไอติมหนิไปทานดีกว่า พอจะไปซื้อไอติมนั้นก็เจอกับบุคคลหนึ่งที่ซื้อก่อนเขาแล้วได้คิดเงิน ซึ่งตอนนี้ก็ได้หันหลังมาเจอผมอย่างจัง

    "ฮิโระจัง/นาโดคิเซมไป มาได้ยังไงเนี่ย" ช็อกสิครับ ไม่เจอกันตั้งสามปีอยู่ๆมาเจอที่สนามบิน

    "สรุปแล้วเซมไป จะกลับอังกฤษเพื่อไปแข่งงานประกวดดาวมิชลินสินะครับ ส่วนคิโระเซมไปก็ไปล่วงหน้าเพื่อเตรียมอาหารสำหรับร้านของตนแล้วสินะครับ" หนีเสือปะจระเข้จริงๆ มาอังกฤษก็เจอพวกคิโระเซมไป พอจะไปฝรั่งเศสก็จะไปเจอชิโนมิยะเซมไป ดวงดีจริงๆผมเนี่ย

    "ใช่แล้วจ้ะ ฮิโระจังส่วนฮิโระจังก็จะไปเป็นกรรมการในการตัดสินมิชลินสินะจ้ะ โห๋วันงานต้องเกร็งมาแน่ๆเลย"

    "ผมสิครับต้องเกร็จ พวกเซมไปยังไม่เคยเห็นการวิจารณ์ของผมเลยนะครับ อีกอย่างพวกเซมไปน่าจะคว่าสองดาวขึ้นไปได้อยู่แล้วครับ ผมรับประกัน"

    "ดีจังงั้นเจอกันวันงานนะจ้ะ"

    "ครับ เซมไป"

    ..........................................................................................................

    สรุปในวันงานนั้นก็เจอพวกเซมไปจริงๆด้วยครับ อย่ามองกันสิครับมันกดดันนะครับ สายตาตอนที่กรรมการต้องตัดสินดาวนั้นพุ่งตรงมาที่ผมโดยตรงอย่างเปิดเผลเลยล่ะ แต่ก็อย่างว่าผมเป็นแขกพิเศษคนให้จำนวนดาวไม่ใช่ผม แต่ว่าผมน่ะคือคนที่อนุมัติการให้ดาวต่างหากล่ะ5555 ถึงกรรมการทั้งสามคนจะให้ดาวทุกคน แต่ถ้าผมไม่ให้ผ่านก็จบ

    ห้าวันผ่านไปในที่วันนี้ก็มาถึงวันที่สิ้นสุดงานนี้เสียที ไฟลท์บินกลับของผมนั้นก็คืออีกหกชั่วโมงต้องไปสนามบิน ซึ่งตอนนี้ผมก็ทำตัวชิวๆหิ้วของฝากไปฝากคนอื่นได้สบายๆเลยครับ ผมเนี่ยลาเรียนมาหลายวันเเล้วนะเนี่ย กลับไปคงต้องตามเก็บอย่างหักหน่วยเลยล่ะนะ ชีวิตของอากิฮิโระผู้นี้ช่างหน้าเศร้าจริงๆ

    "นี่อากิตอนนี้ที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง" ขณะที่ผมกำลังจะออกจากงานก็เจอพวกเซมไปมาดักหน้างานเสียได้ ซึ่งคนที่เป็นคนเปิดบทสนทนาก็คือคิโระเซมไปนั้นเอง

    "เรื่อยๆนะครับเซมไปตอนนี้ผมก็เข้าสิบหัวกะทิแล้ว อีกประาณเดือนนึงก็จะถึงงานแข่งประจำฤดูแล้วนะครับ พวกเวมไปก็อย่าลืมไปดูกันล่ะครับ"

    "ไม่ลืมหรอกน่า แต่ว่าอากิขี้โกงหนิที่ตอนรุ่นฉันไม่เห็นมาเป็สิบหัวกะทิ แต่พอรุ่นนี้กลับเป็นเสียได้ช่างน่าน้อยใจนัก"

    "ก็เซมไปครับผมยังไม่ได้บอกเลยนะครับว่าไปอยู่อันดับอะไร ผมก็อยู่อันดับเดิมนั้นแหละเพียงแค่ไปเปิดเผยตัวตนเฉยๆ เซมไปอย่างอนสิครับงั้นหกชั่วโมงที่เหลือเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง หวังว่าพวกเซมไปจะไม่ทำให้ผมตกเครื่องนะครับ"

    "มันต้องอย่างงั้นอยู่แล้วอากิคุง"

    "เห้อออ เซมไปก็ยังเป็นเหมือนเดิมอยู่เลยนะครับ อีกอย่างวันเลี้ยงรุ่นอย่าลืมมานะครับ"

    "พวกฉันไม่ลืมหรอกน่า อยากเจอพวซาโตชิอยู่เหมือนกัน ฉันว่าปีนี่คงมีเรื่องอะไรสนุกๆเยอะสินะ"

    "ก็คงเป็นเรื่องจริงล่ะมั้งครับ"

    ..........................................................................................................…………………

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×