ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shokugeki no soma] I’m an ordinary person;) (BL/OC)

    ลำดับตอนที่ #9 : SS.1 : My family

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.43K
      136
      25 เม.ย. 63

    "กลับมาแล้วค่ะ/ครับ" ตอนนี้เกือบทุกคนในหอเคียวคุเซย์ก็กลับมาโดยสวัสดิภาพแล้ว ขาดแต่คนเดียวก็คือเจ้าของห้อง 101 นั้นเอง

    "งั้นโซมะคุงก็กลับมาด้วยรถโรงแรมสินะ ส่วนฮิโระจังก็เดี๋ยวตามมาอีกที เป็นไงบ้างตอนที่รู้ว่าฮิโระจังเขาเป็นเชฟน่ะ"

    "ตกใจมากเลยค่ะรุ่นพี่อิชิกิ เพราะตอนแรกฮิโระคุงไปยืนอยู่กับพวกศิษย์เก่าพสกหนูก็สงสัยจะแย่แล้ว พอตอนแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นเชฟของโทสึกิอีก พวกหนูต่างช็อกไปตามๆกันเลยค่ะ555"

    "งั้นหรอยูกิจัง ส่วนตอนรุ่นของพี่นะมีแต่คิดว่าเด็กนี่เป็นใคร เพราะว่าไม่มีใครรู้จักมาก่อนเลยล่ะ พอได้รู้ฝีมือที่แท้จริงก็ต่างตกใจกันใหญ่เลย555"

    "ดูเหมือนเซมไปไม่ค่อยตกใจเลยนะคะตอนที่รู้ว่าฮิโระคุงเป็นเชฟของโทสึกิน่ะ"

    "ก็นะเรียวโกะจัง พอดีพี่รู้อะไรดีๆมานิดหน่อยน่ะ"

    "ทุกคนคงเหนื่อยกันใช่รึเปล่า เดี๋ยวคืนนี้จะให้ได้กินอาหารอร่อยๆกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ฉันหรอนะที่ทำ" ท่ามกลางความสงสัยของคนทุกคนว่าบุคคลนั้นคือใครที่จะมาทำอาหารให้พวกตนทาน ทำให้ทุกคนนั้นต่างมุ่งหน้าไปยังบริเวณพื่นที่ครัว

    "โอ้วโซมะ มาช่วยกันหน่อย ฝากเตรียมทางนี้ที ดูเนื้อให้ด้วยนะ"

    "อื้อ แต่เดี๋ยวสิ ผมก็แค่โต้ตอบตามนิสัยเดิมตอนอยู่บ้าน มาทำอะไรที่นี่เนี่ย" ความสงสัยเริ่มก่อตัวของโซมะ ว่าพ่อของตนนั้นมีเหตุอะไรที่จะต้องมาที่นี่ เพราะพ่อของตนไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับโรงเรียนนี้เลย

    "อะไรกัน รู้จักกันงั้นหรอคนนี้คือศิษย์เก่าของโรงเรียนโทสึกิและหอเคียวคุเซย์ เห้อ ฉันนึกถึงวันวานจริงๆเลย ไม่รู้จักลำดับที่สองของสิบหัวกะทิ ไซบะ โจอิจิโร่หรอ??"

    "อดีตลำดับที่สองของสิบหัวกะทิ!!" ตอนนี้ทุกคนต่างอึ้งเพราะว่าไม่เคยรู้จักคนเก่งๆมาอยู่ต่อหน้าขนาดนี้มาก่อน

    "อ๊ะ หุงข้าวเสร็จแล้วนะ โซมะ"

    "เงียบหน่าพ่อ!!!" คำว่าพ่อของโซมะนั้น ทำให้ทุกคนช็อกเพราะว่าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าทั้งสองจะเป็นพ่อลูกกัน

    "ระหว่างนี้ก็ให้พวกยูคิฮิระเตรียมอาหารไปสินะ แล้วก็คุณฟุมิโอะครับ อากิบอกว่าฝากเพิ่มอีกสองที่ด้วยนะครับ พอดีว่าเขาเป็นเด็กเก่าหอเคียวคุเซย์เหมือนกัน เลยจะมาเยี่ยมน่ะ"

    กริ๊งงงงงง

    "คงมากันแล้วสินะ ยูกิไปเปอดประตูหน่อยสิสงสัยคงมีของเยอะอิบูซากิก็ไปช่วยด้วยก็แล้วกัน"

    "ครับ/ค่ะ" พอได้รับคำสั่งจากคุณฟูมิโอะแล้วนั้น ก็ได้เดินไปยังประตูหลักของหอ

    "แกร็ก เชิญค่ะ เอ๊ะเชฟโดวจิมามาได้ยังไงคะ ปั๊งงง!!" พอเปิดประตูหอมาก็เจอกับคุรพ่อก่อนซะได้ก็คงตกใจหรอก แต่ไม่ใช่การปิดประตูใส่หน้าแบบนี้!!

    "กรี๊ดดดดด คุณฟุมิโอะคะ ค-ค-คือว่าคุณ-"

    "อืม ฉันเป็นเด็กหอเก่าเคียวคุเซย์เอง" เงียบคนทั้งห้องเงียบ แม้แต่คนกำลังทำอาหารอยู่ก็เกิดอาการหยุดชะงักลง เอ่อพ่อครับช่วยทำอะไรให้มันเรียบง่ายกว่านี้ได้ไหมครับ เพื่อนๆเขาตกใจหมดแล้ว!!

    "คุณฟุมิโอะไม่เจอกันตั้งนานนะครับ แล้วนั้น โจอิจิโร่!!!"

    "ไงไม่เจอกันตั้งนานนะ แถมมาเจอในสถานการณ์อย่างงี้ด้วยเนอะงิน"

    "เอ่อ คุณฟุมิโอะคะทั้งสองรู้จักกันอย่างงั้นหรอคะ??" โอก้าซังก็ได้กระซิบถามคุณยาย

    "แน่นอนสิ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันด้วยซ้ำเมงุมิ งินเป็นอันดับหนึ่งส่วนอันดับสองก็โจอิจิโร่ของสิบหัวกะทิยังไงล่ะ"

    "ว่าแต่นะครับยูกิจัง ปิดประตูใสพวกผมอย่างงั้น ผมตกใจมากเลยนะครับ"

    "แหะ ขอโทษนะฮิโระคุงพอดีฉันตกใจเชฟโดจิมานิดหน่อยน่ะ ว่าแต่อีกคนใครหรอ?" ผมว่ายูกิจังไม่ตกใจนิดหน่อยนะครับ ผมได้ยินเสียงกรี๊ดด้วยนะครับ

    "ไม่เจอกันตั้งนานนะ ซาโตชิคุง ตั้งแต่เธอมาเยี่ยมตระกูลฝั่งแม่ตอนที่อายังอยู่ญี่ปุ่น ผ่านมา 5 ปีแล้วเนอะ" อ๋ออย่างงี้นี้เอง อิชิกิเซมไปเป็นญาติกับเราฝั่งท่านป้าอาเคมินี่เอง ที่ไม่รู้เพราะว่าเราไม่ค่อยเจอท่านป้า แล้วก็ท่านตากับท่านยายไม่ค่อยเล่าให้ฟังด้วย

    "นั้นสิครับท่านอาฮิโรชิ สบายดีนะครับพอผมเข้าโทสึกิก็ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านตาท่านยายด้วยเลย ต้องขอโทษด้วยนะครับ" ทำไมตอนเข้ามาเห็นเซมไปใส่ผ้ากันเปื้อนอย่างเดียว แต่ตอนนี้ใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้นแล้วนะ

    "ทั้งสองเป็นอา-หลานกันหรอ"ทุกคนครับผมก็พึ่งรู้พร้อมทุกคนเลยครับ

    "ไม่ต้องขอโทษหรอก ช่วงนี้อาเองก็ไม่ค่อยกลับบ้านเหมือนกัน แต่ว่ารุ่นพี่โจอิจิโร่ครับไม่คิดจะทักทายกันเลยหรอครับ? อยากย้อนความหลังวัยเรียนไหมครับ" ทำไมแค่ป๊าขู่แค่นั้นคุณโจอิจิโร่ก็กลัวแล้วนะ ว่าแต่ทำไมหน้าคล้ายโซมะกันจัง

    "อ-เอ่อ อย่าเลยดีกว่าแล้วพวกนายทั้งสองมาทำอะไนที่นี่กันหรอ ว่าแต่ฉันไม่เห็นข่าวพวกนายทั้งสองแต่งงานออกไปกันเลยนะ ไม่ใช่ว่าพวกนายทั้งสองคนจะขึ้นคานไปตลอดชีวิตเลยน่ะ55555 เอ้อ จริงสินี่โซมะลูกของฉันเองเป็นไงหน้าเหมือนกันไหมล่ะ"

    "อย่างงี้นี้เองที่โซมะมีพรสวรรค์ด้านทำอาหารส่วนหนึ่งก็เพราะนายเองสินะ อีกอย่างนะโจอิจิโร่ฉันแต่งงานตั้งนานแล้วโว้ยยยย แค่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสเฉยๆแต่เดี๋ยวปลายปีนี้ก็จะไปจดแล้ว เพราะกฎหมายพึ่งออกมาใหม่ วันนี้ก็เลยจะมาบอกคุณฟุมิโอะด้วย" ใช่แล้วล่ะครับพ่อกับป๊ายังไม่จดทะเบียนสมรสกันเพราะว่าตอนนั้นกฎหมายยังไม่ออกมายอมรับนั้นเอง

    "ก็อย่างที่ได้ยินนั้นแหละครับคุณฟุมิโอะ ผมกำลังจะจดทะเบียนแล้ว ก็เลยพาภรรยาผมมาแนะนำน่ะแล้วก็เอาของมาฝากด้วย ภรรยาผมก็ฮิโรชิไงครับ" เอ๋อรับประทานสิครับทุกคน โดยเฉพาะคนที่รู้จักทั้งสองเป็นอย่างดีนั้นก็คือคุณโจอิจิโร่ และคุณยาย พอได้รู้อย่างงั้นก็จะเป็นลมกันไปแล้วครับ

    ในความคิดของทั้งสองคนนั้นก็คือ ควาสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นคู่รักกันเลย เพราะในวัยเรียนนั้น ทั้งสองคนไม่เหมือนจะเป็นแฟนกันเลย มีแต่ให้ความเคารพกันในฐานะรุ่นพี่-รุ่นน้องเท่านั้น ถ้าสถานที่ที่ทั้งสองจะเจอกันบ่อยก็คงห้องสิบหัวกะทิล่ะมั้ง กับหอเคียวคุเซย์ เพราะว่าทั้งฮิโรชิก็เห็นอันดับ0 ส่วนงินก็อันดับ 1 คงคุยแลกเปลี่ยนความคิดบางครั้งล่ะมั้ง

    "แล้วก็อีกอย่างนะครับทั้งสองคน พวกผมมีลูกกันแล้วไม่คิดว่าลูของผมกับรุ่พี่จะอยู่รุ่นเดียวกันด้วยนะครับ อากิแนะนำตัวให้คุณอาโจอิจิโร่หน่อย" ในที่สุดก็ถึงคิวผมแล้วสินะตอนนี้ทั้งห้องต่างจับจ้องมาที่ผมกันหมดเลยนะเนี่ย เขินจัง

    "สวัสดีครับคุณอาโจอิจิโร่ ผมชื่อ โดอะ- ไม่สิ ผมชื่อ โดจิมา อากิฮิโระครับ"เงียบอีกรอบทุกคนครับ มันแค่นามสกุลคุณพ่อเองนะครับ

    "เอ๋!!! อากิ/ฮิโระเป็นลูกของ เชฟโดจิมาอย่างงั้นหรอ"

    "ครับ ผมลืมบอกหรือเนี่ย"

    "ก็ใช่น่ะสิ แถมนายเปลี่ยนนามสกุลอีกใครจะไปรู้เนี่ยแล้วโอดะเนี่ยมาจากไหนกันฮะ แล้วทำไมไม่ใช้นามสกุลจริงของนายน่ะ"

    "เพราะจะเป็นอย่างงี้ไงครับผมก็เลยใช้นามสกุลปลอมที่ผมคิดเอง เป็นไงครับเพราะใช่ไหมล่ะนามสกุลเก๊ผมน่ะ"

    "อย่างงี้นี่เองสินะ ว่าแต่นายทั้งสองคนมีเจ้าอากิได้ยังกัน ในเมื่อฮิโระชินายท้องไม่ได้ไม่ใช่หรอ" คุณยายครับไปรื้อฟื้รความหลังที่ป๊าเขาไม่อยากจำทำไมน่ะครับ

    "พอดีว่าน้องสาวฝาแฝดผมอุ้มบุญให้น่ะครับ แล้วสองเดือนถัดมาเจ้าตัวก็เสีย เพราะว่ามีโรคก่อนท้องอากิอีกครับ"ป๊าครับอย่าทำน้ำเสียงเศร้าอย่างงี้สิครับ ผมใจหายนะ

    "อ๋อเข้าใจแล้ว ขอโทษที่ถามนะ"

    "เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับ เด็กๆไปฉลองกันได้แล้วเดี๋ยวฉันทำของหวานให้ทาน อากิมาช่วยป๊าทำหน่อย"

    "ครับ" ไม่ค่อยเห็นป๊าทำอาหารเลยแฮะ จะได้กินอาหารของป๊าแล้ว

    ................................................................................................

    "เอาล่ะ ชนแก้ว"ตอนนี้คุณอาโจิอิจิโร่ก็ได้เป็นคนเปิดการเลี้ยงฉลองในครั้งนี้ อาหารของคุณอาอร่อยจัง ถึงว่าล่ะทำไมโซมะถึงมีจิตมุ่งมั่นขนาดนั้น

    "มีแต่อาหารอร่อยๆทั้งนั้นเลยอันนั้นก็น่าสนใจ" ขณะที่มารุอิกำลังหยิบอาหารจานนั้นเข้สปาก

    "มารุอิคุงระวัง อันนั้นมันหนังงูนะ!!" ไม่ทันแล้วสินะ

    "ห่วยแตก!! อ้วกกก" มารุอิคุงไปสบายแล้วนะครับ เดี๋ยวผมจะสวดมนต์ไปให้นะครับ

    "ฮ่า ห่วยแตกจริงๆครับพ่ออันนี้ต้องอยู่ในท็อปสิบแน่นอน" โซมะคุงครับท่าทางนั้นมันโรคจิตมากๆเลยนะครับ

    "นั้นสินะ555 ว่าแต่เจ้าหนูอากินี่ก็เก่งเหมือนกันนะที่มองแปบเดียวก็รู็ว่าเป็นหนังงูน่ะ"

    "ก็มันเป็นความสามารถพิเศษของฮิโระน่ะ ว่าแต่นายเนี่ยไปเปลี่ยนจริงนะที่ทำอาหารแปลกๆน่ะ จนฉันต้องไปขอโทษกรรมการโคุเงคิตั้งหลายครั้ง แถมยังเอาไปแกล้งรุ่นน้องอีก โจอิจิโร่นายนี่มัน..."

    "หน่าๆๆ สมัยนั้นก็ขอบใจนายมาก ก็ช่วงนั้นมันเป็นช่วงทดลองเมนูใหม่ไง กรรมการต้องดีใจนะที่ได้กินของที่ฉันพึ่งคิดค้นใหม่น่ะ"

    "โจอิจิโร่!! นายนี่มันจริงเลยนะ แถมไปแหล้งเพื่อนของลูกนายอีก เห้อออ"

    "กัดกันเป็นหมาเลยนะครับคุณพ่อ ผมว่าก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรม พวกคุณพ่อควรหยุดการโต้เถียงกันแล้วนั่งให้เรียบร้อยดีกว่านะครับ ถ้าไม่เชื่อผมก็กรุณาหันองศาของคอไปที่ป๊าด้วยครับ แล้วก็รักษามาดกันด้วยครับ ลืมแล้วหรอว่าตอนอยู่ค่ายพ่อทำตัวโหดขู่พวกผมไปตั้งเท่าไหร่ จริงๆเลยพ่อเนี่ย" เหมือนผมกำลังเห็หมากับแมวซึมเลยครับ รู้สึกผิดจริงไหมเนี่ย

    "สมกับเป็นเจ้าอากิ5555 งินเธอเนี่ยกลัวคนอื่นเป็นเหมือนกันนะ" ตอนนี้คนในหอเคียวคุเซย์เงียบกันหมดเลยครับ เหมือนยังเกร็งกับคุณพ่ออยู่นะ ก็เห็นตอนที่พ่ออยู่ในโหมดโหดสินะ5555

    "อากิลูกมาเอาไปให้เพื่อนทานเร็วลูก"

    "ค้าบบบ ป๊า" ดูเหมือนทุกคนจะยื้มเอ็นดูให้กับภาพตรงหน้ามากเลยนะ ทางอดีตสมาชิกเก่า และผู้ดูแล ก็รู้สึกดีใจที่ป๊าได้กลับทำอาหารแล้ว หลังจากที่ไม่ได้ทำอาหารมาเป็นเวลานาน ส่วนทางสมาชิกหอปัจจุบัน ก็รู้สึกแปลกตาเป็นเห็เพื่อนของตนยิ้มออกมาอย่างมีความสุขท่วมท้น ถึงตอนอยู่กับเมงุมิก็ยิ้มแต่วั้นนี้นั้นยิ้มกว้งกว่า และภายในดวงตานั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เพราะว่าตั้งแต่เปิดเทอมไม่เคยเห็นอากิฮิโระยิ้มอย่างนี้

    โดยเฉพาะผู้ที่มีสายเลือเกี่ยวข้องกับทั้งสองอย่าง อิชิกิ ซาโตขิ นั้นมีความสุขกว่าใครเพื่อนเพราะรู้ดีว่ารุ่นน้องที่ตนเอ็นดูนั้น มีความทุกข์มากมากตามที่ได้ฟังจากผู้เป็นมารดาและบิดา เพราะว่าอากินั้นถูกลอบสังหารตั้งแต่เด็กทำให้ต้องเก็บความรู้สึกเพื่อไม่ให้พวกนั้นมันตายใจ และด้วยความที่มีสายเลือของตระกูลที่มีอำนาจตั้งสองตระกูล ยิ่งทำให้ต้องระวังตัวหลายเท่า

    "อ่ะนี่ทุกคน เมนูพิเศษจากร้าน La boussole มาเสิร์ฟให้ถึงที่เลยครับ"

    "อย่าบอกนะว่าป๊าของฮิโระคุงเป็นเชฟอยู่นั่นน่ะ"

    "ไม่ใช่เชฟธรรมดานะยูกิจัง ป๊าน่ะเป็นเจ้าของร้านเลยแหละ แต่ว่าวันนี้วัตถุดิบมันน้อยก็เลยทำได้แค่ Millefeuille เอาล่ะทานกันได้เลยทุกคน"

    เค้กพันชั้นที่เกิดจากการทับซ้อนของแป้งพัฟกรุบกรอบหอมกรุ่น สลับชั้นกับครีมนุ่มนวลหวานละมุน ท็อปด้วยเบอร์รี่ชนิดต่างๆมันช่างสมบูรณ์แบบ รสชาตินี้จะจำไปจนวันตายว่าตัวเองนั้นได้เลยลิ้มสัมผัสมันมาแล้ว สมแล้วที่เป็นป๊าของอากิฮิโระ ฝีมือในการทำอาหารนั้นสามารถถ่ายทอดกัยผ่านครอบครัวแน่นอน ขนาดพ่อก็เคยเป็นอันดับหนึ่งของสิบหัวกะทิมาแล้ว

    "จริงด้วยอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะประกาศคนที่มีรายชื่อของการแข่งขันประจำปีนี้แล้วสินะ พยามยามเข้าล่ะเด็กๆส่วนอากิก็อย่าลืมเก็บของล่ะ จะบินแล้วนะพรุ่งนี้น่ะ"

    "ครับ/ค่ะ คุณฮิโรชิ ว่าแต่ตอนรุ่นคุณใครได้อันดับหนึ่งหรอคะ แล้วฮิโระคุงจะบินไปไหนหรอคะ"

    "ในรุ่นฉันน่ะหรอ ก็ฉันเนี่ยแหละ555ตอนแรกก็เกือบไม่ได้ลงแข่งแล้วล่ะนะ เพราะว่าตอนนั้นก็เป็นสิบหัวกะทิแล้วก็เลยมีคนมาคัดค้านน่ะ ส่วนอากิก็มีบินไปอังกฤษคนเดียวน่ะนะเพราะว่าไปเป็นแขกในการตัดสินดาวมิชลิน ส่วนอีกสามอาทิตย์หน้าก็ต้องไปฝรั่งเศสอีกใช่ไหมอากิ" หลังจากนั้นผมก็พยักหน้าตอบ

    "เอ๋ ไปตัดสินมิชลินสุดยอดเลยอากิ ว่าแต่นายจะไม่อยู่หออีกแล้วหรอเนี่ยอีกอย่างจะกลับมาทันงานประจำปีหรอ"

    "ผมไปแค่แปบเดียวเองครับ เขาตัดสินกันแค่แปบเดียวเองนะพวกนี้ ส่วนจะกลับมาทันไหมน่าจัทันหลังไปฝรั่งเศสครับ แต่ยังไงถึงแข่งผมก็สละสิทธิ์อยู่ดี อาจไปแข่งเล่นๆก็ได้ครับ"

    "เอ๋จะสละสิทธิ์ทำไมล่ะฮิโระคุง เพราะยังไงนายก็ต้องผ่านอยู่แล้วนะ" ทุกคนต่างพนักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของโอก้าซัง

    "ก็แหม่ผมไม่รู้หนอครับว่าจะแข่งต่อไปทำไม อีอย่างช่วงนั้นผมมีหน้าที่อื่นอยู่แล้วเนอะ อิชิกิเซมไป"

    "ใช่แล้วล่ะนะ เมงุมิจังอย่าไปสนอากิเลยแค่นี้หมอนั้นก็จะติสแตกตาย"

    "เอ่อเซมไปครับ"

    ตู๊ดดดดดด ตู๊ดดดดดด -ทาคุจัง-

    "ของผมเองครับ ว่าไงครับต้องการอะไรหรอ" หลังจากที่ผมพูกประโยคนั้นไปทุกคนต่างจ้องผมกันหมดเลย โดยเฉพาะคุณพ่อแล้วก็ป๊า ความอยากรู้สูงมากครับ

    "ฉันอยู่หน้าหอนายแล้วมาเจอกันหน่อยสิ"

    "เอางั้นก็ได้ครับ- ทุกคนดูเหมือนจะมีแขกมาทานกันให้สบายนะเดี๋ยวผมออกไปข้างนอกก่อนนะครับ พ่อ ป๊า" โดยที่หารู้ไม่เลยว่าพออากิฮิโระได้ออกจากห้องนี้ไปแล้วนั้น ทุกคนที่อยู่หอเคียวคุเซย์ก็แอบตามกันไปโดยไม่ได้นัดหมาย

    ................................................................................................

    "ไงทาคุจังคิดไงถึงมาหาล่ะเนี่ย แล้วอิซามิคุงล่ะ" ทุกคนในหาเคียวคุเซย์ได้ขึ้นไปบริเวณระเบียงชั้นสองเพื่อดูจากมุมสูงนั้นเอง ขนาดผู้เป็นพ่อยังตามมาดูคิดดูเอาก็แล้วกัน พอทุกคยรู้ว่าคนที่มาเจอกับอากินั้คือทาคุมิ บุคคลที่ชอบท้าเเข็งโซมะตลอดกาลนั้น รู้จักกับอากิได้อย่างไร

    "นี่นฮี่จัง ผมเป็นคนชวนนายออกมานะ แล้วจะสนใจอิซามิทำไมกันเล่า" ฮี่จัง!! เป็นสรรพนามที่ใช้เรียกอากิฮิโระ ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะเนี่ย

    "อย่างอนไปเลนน่ะทาคุจัง ว่าแต่ที่มาหาเรื่องไรหรอ" ทุกคนนั้นต่างลุ้นตัวโก่งกันเหลือเกินว่า สาเหตุที่ทำให้คนผมทองมาที่นี่ได้เพราะอะไร

    "ก็เพราะว่า---"

    ................................................................................................

    ตัดเบรกโฆษนาซักครู่ค่ะ ครบอักษรแต่ละตอนแล้ว ก็ขออนุญาติตัดตรงนี้เลยนะคะ แล้วก็ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้มาอัพเมื่อวาน พอดีช่วงนี้ติดหนังสือชีวะอยู่ค่ะก็เลยไม่ได้มาแต่งต่อ ต้องขออภัยจริงๆค่ะ แล้วก็เจอกันตอนหน้านะคะ

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×