คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Genesis:: งานปฐมนิเทศสีเลือด
Genesis:: งานปฐมนิเทศสีเลือด
เสียงพูดจากผู้อำนวยการบนเวทีในห้องประชุมขนาดใหญ่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแข่งกับเสียงคุยของเด็กๆที่สอบผ่านเข้ามาในโรงเรียน เซนต์เซเทเลียน โรงเรียนชื่อดังติดหนึ่งในสิบของประเทศเรื่องวิชาการและกีฬา ไม่เพียงเท่านั้นโรงเรียนแห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่อง.....อาถรรพ์อีกด้วย
ใช่และนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเข้ามาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้
วาโยคิดพลางควงปากกาที่อยู่ในมือเล่นไปมาสายตามองไปยังประตูทางออกของหอประชุมที่มีกลุ่มควันสีดำรูปร่างคล้ายคนที่พอมองแปบเดี๋ยวก็สามารถทำให้ขนลุกได้ไม่ยากมากมายลอยไปมาอยู่ราวกับเป็นเพียงธาตุอากาศที่คนอื่นมองไม่เห็น
แต่นั้นไม่ทำให้วาโยกลัวเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มแสยะยิ้มออกมาอย่างสนุกสนานราวกับได้พบสมบัติอันล้ำค่าก็ไม่ปานนั้น
“…..ครูก็ไม่มีอะไรจะพูดไปมากกว่านี้เอาเป็นว่ายินดีตอนรับนักเรียนทุกคนเข้าสู่โรงเรียงแห่งนี้ละกันนะ”
สิ้นเสียงของ ‘นรินทร์’ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้อยู่ๆพัดลมตัวใหญ่ที่แขวนอยู่กับราวเหล็กด้านบนก็ส่งเสียงน่ากลัวและค่อยๆร่วงลงสู่หัวของเด็กห้าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเด็กทั้งหลายที่เห็นเหตุการณ์
ครืด....ฉัวะ! โครม!
ร่างของเด็กสาวคนหนึ่งหลุดจากรัศมีของพัดลมที่ตกลงมานั้นได้อย่างหวุดหวิดด้วยฝีมือของชายหนุ่มปริศนาที่วิ่งเข้าไปคว้าตัวเธอได้ทัน ร่างของทั้งสองล้มลงกระแทกพื้น เด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นหันไปมองร่างของเด็กอีกสี่คนที่เขาไม่สามารถช่วยเอาไว้ได้เพราะทั้งสี่คนอยู่ไกลเกินกว่าที่เขาจะวิ่งเข้าไปช่วยได้ทัน
ร่างสี่ร่างที่หลบไม่พ้นรัศมีของพัดลมตัวที่ตกลงมานั้น ใบหน้าและลำคอของพวกเขาถูกปั่นออกเป็นชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณจนมองไม่ออกว่าใครเป็นใครร่างทั้งสี่ล้มลงไปกองกับพื้น เลือดสีแดงฉานไหลนองไปทั่ว เด็กที่เห็นเหตุการณ์สยดสยองนี้ต่างกรีดร้อง บ้างก็เป็นลมหมดสติ ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นภายในหอประชุม
ช่วยได้แค่คนเดียวเองหรอ...
เด็กหนุ่มคิดก่อนจะหันไปมองทางกลุ่มควันสีดำรูปร่างคล้ายคนที่ลอยไปมาตรงประตูทางออกที่กำลังหัวเราะเยาะกับเหตุการณ์กันอย่างสนุกสนาน ในขณะที่รัตติกาลทำได้เพียงแค่กำมือแน่นเท่านั้น…
ผู้ชายคนนั้นก็มองเห็นสินะ ไม่น่าเชื่อแหะ…
วาโยที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบแสยะยิ้มออกมาก่อนจะหัวเราะในลำคออย่ากลั้นไม่อยู่ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่ตอนนี้กำลังนั่งปลอบเด็กสาวที่เขาเข้าไปช่วยชีวิตไว้อยู่
“นี่แกนะเห็น‘มัน’สินะ”
ชายหนุ่มที่ถูกถามทำหน้างงๆจนวาโยถึงกับเซ็งนิดๆกับความโง่ของเด็กหนุ่มคนนี้ ก่อนจะหันไปทางประตูทางออกที่ตอนนี้พวกกลุ่มควันสีดำเริ่มจางลงเรื่อยๆ
“นะ...นายเห็นมันด้วยหรอ..”
“ไม่เห็นแล้วฉันจะถามแกไหมละ”
คำตอบของวาโยเล่นเอาเด็กหนุ่มถึงกับคิวกระตุกด้วยความหมั่นไส้ขึ้นมาในทันใด ส่วนวาโยที่เห็นเด็กหนุ่มข้างหน้าทำหน้าแบบนั้นก็เริ่มเบื่อแถมเสียงดังจากรอบๆนั้นทำให้เขาต้องตะโกนแข่งกับเสียงรอบข้าง
“แกน่ะ...มากับฉันหน่อยดิ”
ในที่สุดวาโยก็ทนไม่ไหวก้มลงไปดึงเด็กหนุ่มให้ลุกขึ้นแล้วก็ลากเด็กหนุ่มคนนั้นให้เดินตามไปยังห้องน้ำข้างเวทีของหอประชุมในขณะที่ตอนนี้มีเสียงไซเรนของรถตำรวจเพิ่มเข้ามาทำให้เหตุการณ์ยิ่งดูวุ่นวายยิ่งขึ้น และเมื่อถึงหน้าห้องน้ำวาโยก็โยนรัตติกากาลเข้าไปข้างในก่อนจะเดินตามเข้าไปแล้วปิดประตู
“แกน่ะรู้ข่าวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมห้องเรียนต้องสาปของที่นี่ไหม” วาโยกอดอกแล้วยืนพิงประตูด้วยท่าทางสบายๆแล้วถามด้วยน้ำเสียงชิวๆราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่สามารถเห็นได้ทั่วไปอย่างไหงอย่างงั้น
หมอนี่บ้าก็โรคจิตไปแล้วแหงๆ..
เด็กหนุ่มคิดในใจแล้วถอนหายใจเบาๆก่อนจะตอบ
“เรื่องที่ว่ามีการตายปริศนาของนักเรียนโรงเรียนนี้เกิดขึ้นโดยที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำๆกันมาสามปีแล้วเกิดที่เดิมตลอดสินะ”
“ไม่ใช่สามแต่เป็นสี่ตะหาก”วาโยตอบ “รวมรอบนี้ด้วย...ไง”
“อย่ามาพูดบ้าๆน่ายังไม่เปิดเทอมเลยนายรู้ได้ยังไง อีกอย่างเหตุการณ์นี้น่ะมัน.....”
“มันไม่เกิดขึ้นมาแล้วปีนึงสินะ แกนี่โง่จริงๆ” วาโยพูดแทรกขึ้น
“จริงๆแล้วเหตุการณ์โศกนาฏกรรมห้องเรียนต้องสาปน่ะมันไม่ได้ไม่เกิดขึ้นหรอกนะเจ้าบื้อ มันเกิดขึ้นแค่....ไม่มีใครรู้ตะหาก”
“แล้วคุณมาเล่าให้ผมฟังทำไมกัน!?”
เด็กหนุ่มตัดสินใจถามสิ่งที่ข้องใจเขามากที่สุดออกไป ซึ่งคำถามของเขาเล่นเอาวาโยหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ
“ฉันชักจะชอบนายแล้วสิ นายชื่ออะไร”
มีผู้ชายมาบอกชอบผมก็ไม่ดีใจหรอกนะ..
เด็กหนุ่มคิดแล้วยืนพิงอ่างล้างมือก่อนจะตอบ
“รัตติกาล เรียก ผมว่ารัตน์ ก็ได้”
“โอเค...งั้นฉันเรียกแกว่าเจ้าบื้อละกัน” วาโยพูดจบก็หันหลังทำท่าเปิดประตูก่อนจะหันไปหารัตติกาลที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอไปเรียบร้อยแล้ว “แล้วเจอกันใหม่นะ เจ้า-บื้อ หึๆๆ”
หลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในห้องประชุมจบลงรัตติกาลถูกพาตัวไปห้องปกครองในฐานะพยานรู้เห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากสภาพเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มนั้นเต็มไปด้วยเลือดอาจารย์ฝ่ายปกครองจึงให้เด็กหนุ่มไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องอาบน้ำของห้องพยาบาล
ครืดดด ดดดด ดดดด......
หลังจากที่รัตติกาลอาบน้ำเสร็จแล้วกำลังจะเดินกลับไปหาอาจารย์ที่ห้องฝ่ายปกครองนั้นอยู่ๆก็มีเสียงดังมาจากเตียงริมหน้าต่างในห้องพยาบาลที่มีผ้าม่านปิดอยู่ ด้วยความสงสัยเด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปหยุดอยู่ที่ปลายเตียงดังกล่าวก่อนที่จะเตรียมเปิดออก....
ควับบ บบบบ บบบบ...
“…!!”
“ทำอะไรอยู่เหรอค่ะ..”
ในขณะที่รัตติกาลกำลังจะเปิดผ้าม่านอยู่นั้นก็มีเด็กสาวคนหนึ่งผิวขาวซีก ผมสั้นประบ่า สูงประมาณไหล่ของเด็กหนุ่ม ที่ไหนก็ไม่รู้มาคว้ามือของรัตติกาลเอาไว้ก่อนจะดึงมือของเด็กหนุ่มให้ออกห่างจากผ้าม่านนั้นแล้วปล่อยมือออกจากเด็กหนุ่ม
“เอ่อ...คือเมื่อกี้ผมได้ยินเสียงแปลกๆเลยจะมาดูน่ะครับ” รัตติกาลตอบ “แล้วคุณมาทำอะไรครับ”
“ฉันเป็นพยาบาลอาสาน่ะค่ะเลยมาเข้าเวร เธอคงเป็นเด็กใหม่สินะดูจากสีของเน็กไทแล้ว”เด็กสาวตอบพร้อมถามกลับ
เนื่องจากโรงเรียนเซนต์เซเทเลียน เป็นโรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่และส่วนใหญ่เด็กนักเรียนของที่นี่เป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกูลประกอบกับเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ทำให้เครื่องแบบของที่นี่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวผูกด้วยเน็กไทตามระดับชั้นการศึกษา โดย ม.4 สีแดง ม.5 สีน้ำเงิน และ ม.6 สีน้ำตาล ส่วนกางเกงและกระโปรงจะเป็นสีดำ
“ครับ ผมม.4 ห้อง 3 ชื่อ รัตน์ ครับ”
“ส่วนฉันชื่อ สายลม ม.5 ห้อง 4 ค่ะ” เด็กสาวตรงหน้ารัตติกาลยิ้มบางๆก่อนจะหันไปดูนาฬิกาบนผนัง “นี่ก็ใกล้จะเที่ยงครึ่งแล้วยังกลับอีกหรอค่ะ เมื่อเช้าก็เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกแล้วนิค่ะ?”
ซวยแล้วสิไม่น่าสนใจอย่างอื่นเลย.....
คำพูดของหญิงสาวตรงหน้าทำให้รัตติกาลนึกขึ้นได้ว่าเขาควรจะต้องรีบไปห้องฝ่ายปกครองแทนที่จะมาอยู่ที่นี่
“เอ่อ...งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับพี่ลม ไว้พบกันใหม่นะครับ” รัตติกาลรีบพูดขึ้นพรางยิ้มแล้วโบกมือไปมาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ปังงงงง
“ค่ะ..แล้วพบกันใหม่นะค่ะรัตน์...ไม่สิ....อาโป”
หญิงสาวพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาหลังจากที่รัตติกาลปิดประตูลง
________________________________________________________________________________
ขอบคุญที่ช่วยหาคำผิดให้ไรท์เตอร์นะค่ะไรท์เตอร์พึ่งแวะมาดูตอนนี้แก้แล้วค่ะ
ความคิดเห็น