เรื่องย่อเฟท ตอนพิธีกรรมแห่งเผ่าจิ้งจอกทอง
เหตุการณ์ที่พาความวุ่นวายกลับมาอีกครา...ด้วยสารฉบับเดียวที่ทำให้ทุกคนต้องตามหาชายหนุ่มด้วยความวิตก สารนั้นมันมีความว่า..."...ฉันอยู่ใน...คุกบาดเจ็บสาหัส...เล็กน้อย..."
ผู้เข้าชมรวม
3,479
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
มิซาร์ทหรืออาสเซลใครก็ตามนี่ฉัน เฟท เองนะ ตอนนี้ฉันได้มงกุฎพญาอสรพิษมาแล้ว จากที่ไปหามา มันก็ยังดีอยู่หรอก แต่ตอนขากลับนี่น่ะซิ พวกจิ้งจอกน่ะมันเข้ามาแล้วพาตัวฉัน...จากไปแล้วไปที่เมืองวอลเทลที่การ์เดส ทั้งๆที่ฉันไม่ต้อง...เลยนะ...ตอนนี้ฉันอยู่ในเมืองวอลเทลซึ่งฉันส่งเวอริเซ่นออกมาเพื่อที่จะเอาสารแผ่นนี้มาให้ แล้วฉันก็อยู่ใน...คุก...ตอนนี้ฉัน...บาดเจ็บสาหัส...เล็กน้อย...
ลงชื่อ
เฟท ฟาร์กอซ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่1
วันวันหนึ่งในดราเมอร์...
“แล้วไคน์...นายเรียกฉันลงมารับแขกหรือว่ารับหน้าอะไรเนี่ย”
“ไม่เชิงทั้งสองอย่าง”ไคน์ตอบพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ
ดวงตาสีเหลืองทองมองมาทางแขกที่ไม่มีใครอยากให้มา
“ทางเราสงสัยว่า...พวกเธอทั้งหลายมีสัตว์อันตรายเอาไว้ใครอบครอง
เพราะบางครั้งเราเห็นหมาป่าออกมาเดินเล่นและมีคนแจ้งเราว่ามันสร้างความเดือดร้อนอีกด้วย”
ชายหนุ่มคนแรกเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
แว่นกันแดดสีดำสนิทและเครื่องแบบชุดสูทสีดำ
ไม่ต้องบอกเฟทและหลายๆคนที่เริ่มเคยชินก็รู้แล้วว่าพวกนี้ไม่ใช่พวกคนที่คอยดูแลกฎหมายอย่างตำรวจ
แต่...เป็นคนที่ต้องการหมาป่าตัวนั้นหรือจะพูดให้ถูกคือต้องการขนของหมาป่าตัวนั้นมากกว่า
ตอนที่2
ช่วยงานยมทูต...วิญญาณ...สิ่งที่น่ากลัวเกินบรรยาย...
“ฉัน ‘ซอรีเน่ โซเรล่า’ หรือเรียกว่า ‘ซอรีน’
คนของตระกูลโซริเลียเอง ดีใจจังเลยน้า ที่ได้มารับใช้ตระกูล ‘โกลเด้นฟ็อกซ์’ และตระกูล ‘ชาโดว์’
เอาเป็นว่ายินดีที่ได้รู้จัก”
“การเล่นคราวนี้ วิธีคือหนึ่งให้เอากระดิ่งสีเทานี่ผูกที่คอหรือที่อะไรก็ได้นะคะ เพราะกระดิ่งมันเป็นเหมือนเครื่องหมายของที่โซเรล่าน่ะค่ะ ถ้าจะจับวิญญาณต้องมีกระดิ่งถูกอยู่เท่านั้น หรือว่าวิญญาณนั้นต้องเต็มใจให้จับอย่างยินดีส่วนการจับ ก็จับวิญญาณมาให้ได้มากที่สุดเดี๋ยวฉันจะทำการรวบรวมให้นะคะ เอาเป็นว่าเวลาจับแล้ววิญญาณมันต้องไม่อยู่ในรูปร่างของคน จะต้องอยู่ในรูปร่างของของกลมๆสีอะไรก็ตามที่เรืองแสงได้น่ะค่ะ”
ตอนที่3
วันสุดท้ายของการฝึกซ้อม...ความลับของหนังสือในห้องเก็บของ...
ชายหนุ่มโยนมันขึ้นสูงเสียดเพดานห้องพร้อมกับใช้พลังเวทย์ที่ตัวเองมีเล็กน้อยอัดไปที่หนังสือเบาๆ...ราวกับเรื่องประหลาด
เหมือนกับว่าหนังสือที่เป็นศาสตรามนตรา
มันดูดซับพลังเวทย์ของจิ้งจอกหนุ่มอาไว้พร้อมกับเปลี่ยนสภาพกลายไปเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่ง
‘คาถาต้องคำสาปแห่งตระกูลมรณะ
‘นาเนเรีย’’
ชื่อหนังสือที่เงาวาววับแบบเดียวกับหนังสือเล่มเดียวที่เคียเขียนเอาไว้ว่า
‘จิ้งจอก’ และทันทีที่เปิดเข้าไปภายใน...มันก็เป็นลายมือตามปกติ
และที่น่าสนใจคือลายมือที่ใช้เขียนมันเหมือนกับลายมือของหนังสือ ‘จิ้งจอก’ อย่างน่าประหลาด
“หนังสือในห้องนี้เวลามันโดนพลังเวทย์แล้วมันจะเปลี่ยนรูปร่างไปน่ะฟรีน!”เฟทเอ่ยขึ้นมาอย่างดีใจ
ตอนที่4
จันทราทองย้อมเลือด...กระดาษบันทึกข่าวสารความทรงจำจากอินทรีย์สีทอง
นกอินทรีย์สีทองเวอริเซ่นที่ร่างของมันเปื้อนไปด้วยเลือด
ดวงตาสีเหลืองทองที่ปิดสนิทรวมทั้งจดหมายที่ถูกส่งมาจากนายของมันที่อยู่ในกรงเล็บของมันเอง...ร่างของมันแน่นิ่งจนคนทุกๆคนที่เห็น้องตกใจ
“มิซาร์ทหรืออาสเซลใครก็ตามนี่ฉันเฟทเองนะ
ตอนนี้ฉันได้มงกุฎพญาอสรพิษมาแล้ว จากที่ไปหามา มันก็ยังดีอยู่หรอก แต่ตอนขากลับนี่น่ะซิ พวกจิ้งจอกน่ะมันเข้ามาแล้วพาตัวฉัน...จากไปแล้วไปที่เมืองวอลเทลที่การ์เดส
ทั้งๆที่ฉันไม่ต้อง...เลยนะ...ตอนนี้ฉันอยู่ในเมืองวอลเทลซึ่งฉันส่งเวอริเซ่นออกมาเพื่อที่จะเอาสารแผ่นนี้มาให้
แล้วฉันก็อยู่ใน...คุก...ตอนนี้ฉัน...บาดเจ็บสาหัส...เล็กน้อย...
ลงชื่อ
เฟท ฟาร์กอซ
”
มิซาร์ทอ่านขึ้นมาอย่างช้าด้วยน้ำเสียงเรียบๆซึ่งตรงที่มีเลือดเปื้อนเธอก็อ่านข้ามไปแต่ก็ยังคงเว้นวรรคให้เห็นเล็กน้อย
“ปล.ฉันใช้เวทย์มนต์บันทึกภาพความจำของฉันก่อนที่จะมาที่วอลเทลเอาไว้
ร่ายเวทย์บทคืนมันก็จะคืนเอง แต่ภาพมันคงไม่ค่อยจะชัดในช่วงท้ายๆเพราะฉันรีบน่ะ”
หญิงสาวอ่านก่อนที่จะหรี่ตาลง
เธอชูกระดาษขึ้น
“เปิดห้วงมิติความทรงจำในแผ่นกระดาษ...อักขระเวทย์เอ๋ย...เจ้าจงส่องแสงสว่างสาดส่องเป็นภาพที่เจ้าควรจะบอกมาซะ!”
“ห้วงความทรงจำในกระดาษ!”
ตอนที่5
เส้นทางสู่วอลเทล1...ติดวนในป่ามิติมนตราที่ไม่เคยทำร้ายใคร...ป่าดิมาว์ลวาส
“ไป!”มิซาร์ทเอ่ยขึ้นพร้อมกับออกวิ่งไปในทันที
ไคน์และฟารัสรวมทั้งฟรีนที่มองไปโดยรอบพร้อมกับหวังว่าคงไม่มีเจ้าผีเสื้อตระกูลเฟร็ซอีก
แต่...มันกลับบินอยู่ทั่วป่าแล้วนี่น่ะซิ
“ดาร์ก เฟร็ซ...”เกรทเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปโดยรอบ...มันมีผีเสื้อหลายสายพันธุ์บินวนอยู่รอบๆพวกเขาเรียกว่ามาก...จนเป็นฝูง
แต่มันก็สะเปะสะปะเกินไป
“ไปเร็ว”มิซาร์ทกระซิบขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับกระโดดขึ้นไปสูงเหนือยอดไม้ในทันที
ซึ่งไคน์รวมทั้งฟรีนก็สามารถที่จะกระโดดตามไปได้อย่างสบายๆ
ตามมาด้วยไลท์และเล็ทที่ต้องเหยียบที่สองสามที่เพื่อที่จะสามารถกระโจนขึ้นมาเหนือยอดไม้
ส่วนฟารัสก็ต้องกางปีกแล้วตามมาติดๆ
แซ่ก! แซ่ก! แซ่ก!
ร่างของทั้งหมดหกคนแหวกผ่าฝ่ากิ่งไม้ที่ทั้งหนาทั้งแข็งแรงจนมันข่วนหน้าไลท์เป็นแผลไปเล็กน้อย
แต่พอผ่านขึ้นมา แทนที่จะสามารถที่จะเห็นมันเป็นท้องฟ้าสีครามสวย พร้อมกับดวงอาทิตย์สีเหลืองทองกลมโตสาดแสงส่องแยงตา
มันกลับกลายเป็นป่าสูงขึ้นไปเสียดฟ้าอีกนั่นแหละ...
“อะไรกันน่ะ”ไลท์พึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ซึ่งมิซาร์ทก็กระตุกรอยยิ้มอย่างสนุกสนาน
ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองไปโดยรอบพร้อมกับเอ่ยขึ้น
“ตอนนี้เราติดอยู่ในป่ามีวาสด้วยเวทย์มนต์กักกันมิติวกวนที่เจ้าดาร์กเฟร็ซมันสร้างขึ้นมายังไงล่ะ”หญิงสาวสวยเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับทรุดลงนั่งในทันที
ตอนที่6
ป่าเหนือป่าดิสฟอลซ์...ป่าแห่งกับดักมรณะ ‘รีวสานา’
“ป่ารีวสานา
ที่ไม่มีใครต้องการที่จะเฉียดเข้าใกล้มัน”มิซาร์ทเอ่ยขึ้น “มันคือป่าร้อยร่าง หรือป่าลวงตานั่นแหละ”
หญิงสาวสวยชี้ไปที่ป่าสีดำสนิทที่มีไอเวทย์มนต์ดำปกคลุมอย่างหนาแน่นมากเสียจนน่ากลัว
ใบไม้กลายเป็นสีดำทันทีที่เข้าไปอยู่ในป่าไม่ว่ามันจะมาจากที่ไหนและมาได้อย่างไร
ใบไม้และต้นไม้ที่อยู่ภายในมันมันวาวราวกับเหล็กดีๆนี่เอง
แถมยังคมราวกับดาบชั้นธรรมดาเลยทีเดียว นอกจากนั้น
ท่าทางว่าสัตว์ป่าภายในยังมีเป็นร้อยๆอีกต่างหาก
“แต่ที่น่ารำคาญใจคือมันเป็นป่าลวงตา
หากใครเหยียบโดน ‘ดวงตาร้อยร่าง’ ในป่านี้
มันจะทำให้ลำบาก นั่นก็คือเหตุผลที่ฉันเดินช้าๆ เพราะถ้าฉันวิ่ง
พวกนายทั้งสองคนคงไม่มองพื้นแล้วเหยียบเข้าแน่ๆ”หญิงสาวเอ่ยต่อ
“มันเป็นดวงตาแห่งภาพลวงตา
ถ้าเหยียบก็จะมีสภาพเหมือนกับคนบ้า...”มิซาร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วไปทางพุ่มไม้ที่เคลื่อนไหว
“บ้ายังไง
ก็เหมือนกับตัวที่กำลังจะพุ่งออกมาตัวนั้นยังไงล่ะ”เธอเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเดินออกมา
แซ่ก!
เสียงพุ่มไม้ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรุนแรง
หมาป่าเงินและฟรีนชะงักชั่วขณะพร้อมกับมองไปทางพุ่มไม้ดวงตาสีน้ำตาลและดวงตาสีเหลืองทองที่หรี่เล็กลงจนเหมือนกับตาแมว
เพราะกำลังสนใจบางอย่างที่กำลังจะพุ่งพรวดออกมาในอีกไม่กี่วินาทีนี้
โฮกกกก!
เสียงคำรามที่ดังขึ้นมาจนทุกคนต้องตวัดสายตาไปมองแหน่งของมันในทันที
แต่ก็ต้องตกใจในสภาพร่างของมันเท่านั้น
มันเป็นสัตว์ปิศาจชนิดไหนไม่มีใครรู้...มันมีร่างกายสีดำสนิทแต่แต่งแต้มไปด้วยลวดลายสีดำสดเกือบทั้งตัวเลยทีเดียว
ดวงตาสีเหลืองทองที่ดูเลื่อนลอยแต่นั่นยังเป็นแค่สองดวงแบบธรรมดา
มันยังมีเนตรที่สามที่อยู่กลางหน้าผากอีกอันหนึ่ง มันเป็นเนตรสีแดงสด
แถมภายในยังมีลวดลายบางอย่างปรากฏอยู่ มันกับคำสาปอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
“ไม่ว่าใคร
ตัวไหนที่มันไปเหยียบโดน ‘ดวงตาร้ายร่าง’ มันจะโดนภาพมายาหลอกหลอนอยู่เช่นนั้นร่ำไปเรื่อยๆ
จนภาพนั้นกัดกินสภาพของร่างกายและจิตใจ นานๆเข้ามันก็จะเปลี่ยนร่างกายและจิตใจให้กลายไปเป็นอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว”
ตอนที่7
มิติลวงตาร้อยร่างมายา...ร่างใดคือร่างจริง...ความจริงนั้นเป็นร่างใด
“ด้วยชื่อของข้าที่ไม่มี...ข้าขอถามว่า
คนๆไหนคือฟรีนตัวจริงกันแน่”
เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นมาอย่างช้าๆแต่ก้องกังวานชัดใสมาก
“ตัวจริงที่ไม่ใช่ตัวปลอม...ใครคือหมาจิ้งจอกทองที่มีนามว่าฟรีน...กันแน่...ที่ไม่ใช่ตัวปลอม”
“อะไร ฉันตัวจริง!”
“ฉันตัวจริง...”
“...”
เสียงงึมงำที่ดังขึ้นมาเพียงสองสามคนเท่านั้น
ส่วนที่เหลือเพียงตะโกนดังๆอยู่ในใจรวมทั้งฟรีนตัวจริงด้วย
ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยที่กวาดมองไปโดยรอบอย่างสงสัยและหวาดระแวง
ก่อนที่เธอจะเริ่มเรียกสายฟ้าเข้ามาในมืออย่างรวดเร็ว
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
เสียงสายฟ้าที่ลั่นอยู่ในมือมันดังก้องกังวาลทั่วห้องอย่างน่าประหลาด...เพราะไม่ใช่แค่ฟรีน
(ตัวจริง) คนเดียว ฟรีนคนอื่นๆหลายๆคนที่ก็เรียกสายฟ้าขึ้นมาด้วย...แถมยังเรียกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันอย่างน่าประหลาดด้วย
“เจ้าเป็นใคร”
เสียงเรียบนิ่งและสุดแสนจะเยือกเย็นดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงซึ่งฟรีนตัวจริงก็มองมาทางฟรีนตนอื่นซึ่งจ้องไปเบื้องหน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“บอกมา...”ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววกร้าวพร้อมกับเสียงของสายฟ้าที่ลั่นขึ้นมาเรื่อยๆอย่างรุนแรง
“แล้วเจ้าทั้งหมดที่นี่ล่ะเป็นใคร?”
เสยงทุ้มๆนุ่มๆดังขึ้นมาอีกครั้งซึ่งฟรีนในที่นี้ทั้งหมดก็กวาดดวงตาสีน้ำตาลมองไปโดยรอบอย่างช้าๆ
“เจ้าบอกข้าได้ไหมล่ะ?”
ตอนที่8 เส้นทางสู่วอลเทล4...‘วีเรียวน่าลูฟ’ ภูเขาเผ่ามนุษย์หมาป่า...ผู้ที่หยุดพัก...คือผู้ที่ต้องตาย
ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
ฉับพลัน
ภายในหลุมที่พวกมนุษย์หมาป่าร่วงลงไปก็มีหอกหลาวหลายสิบอันพุ่งออกมาแทงร่างของบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ร่วงลงไปจนพรุนเป็นรังผึ้งในชั่วพริบตา
โดยที่ไม่มีแม้แต่โอกาสได้กรีดร้อง...
“เล่นกับใครไม่เล่นนี่เนอะ?”
แบล็กแค็ทเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อย
ดวงตาสีแดงสดสุกสว่างที่แวววาวในความมืด...เนตรที่น่ากลัวยิ่งกว่าเนตรไหนๆ
“อืม...ศพเลยไม่สวยเลยเห็นไหม?”
เด็กสาวแมวดำเหยียดรอยยิ้มเล็กน้อย
ผมสีดำสนิทที่ยาวถึงกลางหลังของเธอปลิวไปตามสายลมอ่อนๆที่พัดเอาใบหญ้าปลิวไปด้วยเล็กน้อย...และพัดเอา...กลิ่นคาวเลือดของมนุษย์หมาป่าหลายสิบตัวไปด้วย...
ตอนที่9 เส้นทางสู่วอลเทล5...สัตว์เลี้ยงสีดำ...แยกทางกัน..เพราะจุดหมายของอีกคนที่เปลี่ยนไป
“แต่...งานที่ผมจะให้ไปทำไม่ใช่งานฆ่าอย่างที่ท่านถนัดหรอกครับ”
“น่าสนนี่? ให้ทำอะไรล่ะ”คนในฮู้ดเหยียดรอยยิ้มออกทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าคนเบื้องหน้านี้จะพูดอะไร
“ผมอยากจะให้ท่าน
ช่วยกระชากวิญญาณคนๆหนึ่งออกมาแล้วเอามาให้ผมครับ”ชายหนุ่มเหยียดรอยยิ้มแล้วใช้เนตรสีแดงของตัวเองจับปฏิกิริยาของคนเบื้องหน้าที่ไม่ค่อยจะแสดงอาการอะไรทั้งนั้น
“งั้น...จะให้ไปจัดการใครล่ะ...”คนสวนฮู้ดถามขึ้นอีกคร้งซึ่งซาซูริกก็ก้มลงไปเหมือนกับหาอะไรบางอย่าง
เป็นเด็กชาย...อายุไม่น่าเกินห้าปีเศษๆ
ย้อมผมสีดำสนิทสั้นถึงแค่ติ่งหู ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนกับเผ่ามนุษย์ทั่วๆไป
เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆนาๆที่เป็นฉากด้านหลังล้วนเป็นของที่ไม่มีในการ์เดส...
เพราะมันเป็นของของโลกดราเมอร์
“เด็กผู้ชาย
ที่ดราเมอร์?”คนสวมฮู้ดเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆก่อนที่จะเงยดวงตาสีแดงสดที่ดูน่ากลัวขึ้นมามองผู้ว่าจ้าง
“แล้วสรุปแล้ว...ท่านจะรับงานนี้ไหมครับ?”
แต่จู่ๆคนสวมฮู้ดกลับลุกขึ้นแล้วถอดฮู้ดที่คลุมหัวของตัวเองออก
ดวงตาสีแดงจ้องมงลงมายังชายผมสีดำด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน
ผมสีน้ำตาลที่ยาวสยายออกจะถึงหลัง รอยยิ้มที่ท้าทายปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
“จะรับเอาไว้พิจารณานะ”
ตอนที่10
เส้นทางสู่วอลเทล6...กลิ่นเลือดที่ย้อมทั่วทั้งร่าง...ความเข้าใจผิดของเผ่าที่รักพวกพ้องเหนือสิ่งอื่นใด
แซ่ก!
หมาป่าในร่างคนอีกคนพุ่งพรวดออกมาจากพุ่มไม้หนาที่ด้านหลังของฟรีนพร้อมกับเงื้อดาบที่เธอเอามาจากไหนไม่รู้ขึ้นสูง
ดวงตาสีน้ำเงินครามฉายแววเกรี้ยวกราดอย่างที่สามารถที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน
ดวงตาสีน้ำตาลของฟรีนจ้องมองด้วยความตกใจ
เพราะเธอไม่มีทางที่จะหนีคมดาบของหมาป่าสีน้ำเงินตัวนี้พ้นแน่...
ก็...หมาป่าสีดำเบื้องหน้าเธอเล่นไม่ปล่อยช่องว่างแม้เพียงน้อยนิดให้เธอลอดออกไปได้เลยนี่น่า!
-ตายซะเถอะ!-
ฟ้าวววว!
หมาป่าสีน้ำเงินในร่างคนคำรามลั่นพร้อมกับหวดดาบแหวกอากาศลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง!
ตอนที่11
เส้นทางสู่วอลเทล7...นกน้อยสัตว์เลี้ยงสีดำที่น่ารัก (?)...สาเหตุของความเข้าใจผิดของพวกหมาป่า
คึ่ก!
ฉับพลัน!
ทุกร่างก็หยุดนิ่งราวกับต้องมดสะกด
เหมือนกับว่ามีบางอย่างมากที่หลังของพวกหมาป่าทั้งหมดจนไม่อาจที่จะขยับได้เลยแม้แต่น้อย
ร่างของพวกมันค่อยๆทรุดลงจากท่ายืนสี่ขาค่อยๆกลายเป็นท่าที่ใกล้เคียงกับท่าหมอบ
พวกมันกัดฟันอย่างโกรธแค้น...
เพราะมันต่อต้านอะไรไม่ได้!
ต่อต้านพลังอำนาจบางอย่าง...ที่กดให้มันติดอยู่กับพื้นดิน!
โดยที่ไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้แม้แต่ปลายก้อย!
บรรดาหมาป่าขบฟันแน่นจนเลือดแทบซึม
ดวงตาเริ่มฉายแววเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ
พวกมันพยายามที่จะขยับตัวสู้กับอำนาจบางอย่าง
แต่...จะพูดว่าอำนาจก็ไม่ถูก...
เพราะมันคือ...
‘จิตสังหาร’
ตอนที่12
เส้นทางสู่วอลเทล8...ภูเขาที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากดิน...ภูผามีชีวิต ‘เวียเซยาราท’
-...มัน...ไม่ใช่ภูเขา...-
นกสีดำพึมพำตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นๆในทันที
ซึ่งหมาป่าเงินกับจิ้งจอกสาวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ถ้ามันไม่ใช่ภูเขา...แล้วจะเรียกว่าอะไร...
“แล้วมันคืออะไร?”ฟรีนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบในทันที
ซึ่งนกสีดำก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ
-มันไม่ใช่ภูเขา...-
นกสีดำพึมพำขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
-ภูเขามัน...ไม่มีชีวิต-
หมาป่าเงินขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิม...เพราะสิ่งที่นกตัวนี้พูด
ทั้งหมดที่มันพูดมาเนี่ย...หมาตัวนี้ฟังแทบที่จะเรียกได้ว่า...
ไม่รู้เรื่องเลย...
-ต...แต่ ภูเขาลูกนี้...-
นกสีดำยังคงกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ทั้งสั่นและแผ่วเบา
ทั้งยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว...มันซุกหน้าลงไปในผมสีเงินของไคน์อีกครั้ง
-...มันมีชีวิต...-
ตอนที่13
เส้นทางสู่วอลเทล9...หมาป่าสีเงินผู้มีเนตรสีแดง...ศัตรู...บนภูเขาที่มีชีวิต...
“ไคน์! หนีออกมา!”ฟรีนตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูแล้ว...ไร้ซึ่งความเป็นห่วง...ออกไปทางคำสั่งด้วยซ้ำ
ดวงตาสีน้ำตาลปรายมามองหมาป่าเงินที่ตนนี้นอนกองอยู่กับพื้นแล้วโดนตรึงติดเอาไว้...
ด้วยกรงเล็บของหมาป่าเงินที่มีเนตรสีแดง!
กร้วม!
หมาป่าสีเงินตัวนั่นอ้าปากขึ้นพร้อมกับขย้ำที่คอของไคน์อย่างรวดเร็วจนเหมือนกับอยากให้ตายในคราเดียว!
ไคน์กัดฟันกรอดในทันที
เลือดสีแดงสดของเขาไหลพรากยิ่งกว่าเปิดก๊อกน้ำเสียอีก! ถึงเขาจะเลี่ยงคอของตัวเองไปได้หวุดหวิด
แต่ไหล่...ของเขาก็โดนหมาป่าตัวนี้ขย้ำไปเรียบร้อย...
“ชิ!”
“เหมือนมีคนไม่อยากให้เราไปที่วอลเทล...”ฟรีนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับหรี่ตาลง “คราวนี้คงไม่ใช่เพราะการเข้าใจผิดหรือล่าเหยื่อแน่”
“คงเพราะ...มีคนสั่งมา”ฟรีนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูจากเนตรสีแดงสดนั่น...คงไม่ใช่หมาป่าเงินธรรมดาแล้ว”
“ดูๆไปมันก็ไม่ใช่หมาป่าหิมะด้วย”ไคน์แสดงความคิดเห็นพร้อมกับย่อตัวลงเล็กน้อยในท่าพร้อมสู้
ซึ่งฟรีนก็ย่อตัวลงต่ำตาม
“ถ้าเป็นอย่างนี้...ก็คงเป็นพวกหมาป่าเงินที่มีอายุเกินพันปีขึ้นไปล่ะ...”
ตอนที่14
เส้นทางสู่วอลเทล10... สิ้นสุดจุดหมายปลายทาง...สิ่งที่คอยอยู่ที่หน้าวอลเทล
“มันเป็นหมาป่าที่มีฝีมือสูงพอควร
อาศัยอยู่โดยรอบวอลเทล...”
“เพื่อดักฆ่าจิ้งจอกที่เดินมาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า”
“มันจะเลือกฆ่าเฉพาะจิ้งจอก?”ฟรีนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามเคยพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ก็น่าจะใช่นะ?”มิซาร์ทตอบกลับ ซึ่งจิ้งจอกสาวก็ขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ท่าทางว่าไคน์จะยังไม่รู้สึกอะไร
“แล้วทำไมมันถึงได้โจมตีไคน์ก่อน...”ฟรีนเว้นระยะ “แทนที่จะเป็นฉันที่เป็นจิ้งจอกล่ะ
มิซาร์ท”
“ก็เพราะว่า... ‘ไคน์’ เป็นหมาป่า ‘สีเงิน’ ที่ ‘เฟท’ เป็นคนจับได้ล่ะมั้ง?”มิซาร์ทตอบกลับพร้อมกับเหลือบดวงตาสีน้ำตาลที่ดฉายแววสนุกสนานอยู่เสมอมามองทั้งสองคนอย่างช้าๆแต่ดูเหมือนทั้งสองคนก็ยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดอยู่ดี
“เฟทเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทองคนต่อไป
แล้ว...หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทองหรือจิ้งจอกทองทุกๆคนเนี่ย
จะมีหมาป่าสีเงินคอยคุ้มครองอย่างน้อยคนล่ะตัว”
“แต่ถ้าหมาป่าเงินตัวนั้นตายไปซักตัว...จะไม่มีการเลือกตัวใหม่ขึ้นมาเพื่อการคุ้มครองแทน
แต่จะเอาเผ่าแมวอสูร หรือเผ่าที่ต่ำๆกว่านั้นขึ้นมาคุ้มครองแทน”หญิงสาวยังคงอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แล้วพวกนายทั้งสองคนคิดไหมล่ะว่า...”หญิงสาวเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับรอยยิ้มแสยะที่มุมปาก
“...มันฆ่าง่ายกว่าเดิมเยอะเลย...”
ตอนที่15
เส้นทางสู่วอลเทล11...ศัตรูที่มาต้อนรับการกลับมายังการ์เดส
“คันศรนี้...ใครมอบให้ตุ๊กตาอย่างเจ้าเอามาฆ่าพวกเราล่ะ?”มิซาร์ทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ...แต่ดวงตาสีน้ำตาลกลับฉายแววสนุกสนานอย่างเห็นได้ชัด
เธอออกแรงกดเคียวสีดำของตัวเองลงไปอีก
ร่างของคนสวมฮู้ดทรุดหวบลงเล็กน้อย
เขาจ้องมองมิซาร์ทด้วยเนตรสีแดงที่น่าสะพรึงกลัวแล้วเหยียดรอยยิ้มออก
เคร้ง!
เจ้าของคันศรขนาดสองเมตรใช้แรงที่มีอยู่น้อยนิดปัดเคียวสีดำสนิทของหญิงสาวออก
พร้อมกับก้มแล้วออกวิ่งในทันที
“ใครเขาจะตอบคำถามพรรคนี้ไม่ทราบ?”
เงาสีดำตอบกลับในทันทีพร้อมกับกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้อย่างรวดเร็ว
ผมสีเหลืองทองที่สะท้อนกับแสงสะบัดปลิวไปมาอย่างสวยงาม
เนตรสีแดงสดสุกสกาวที่แวววาวตัดกับเส้นผมสีแสงจันทร์อย่างลงตัว
มิซาร์ทหยุดวิ่งลงแล้วคลี่รอยยิ้มบางๆออก
ผมสีน้ำตาลปลิวไปตามสายลมที่พัดมาอย่างแผ่วเบา...และกลิ่นของเลือดที่ย้อมร่างเมื่อครู่นี้
“ฉันรู้ว่านายยังไม่ไปไหน”มิซาร์ทเอ่ยขึ้นพร้อมกับปักเคียวสีดำสนิทลงกันพื้น “ไหนลองบอกมาหน่อยซิ”
“ทำไมนายถึงอยากจะฆ่าพวกเรา?”
- -
“มิซาร์ท
เมื่อกี้นี้ใคร?”
ฟรีนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบทันทีที่เธอเจอกับมิซาร์ท
ซึ่งหญิงสาวผมสีน้ำตาลก็หันหลับมาแล้วหัวเราะเบาๆ
“เรื่องหน้าตาหรือเรื่องเผ่าของมันฉันไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่หรอกนะ...”หญิงสาวตอบกลับทันทีพร้อมกับกอดอก “แต่สิ่งที่ฉันแน่ใจมีอยู่อย่างเดียว”“คือ...คนๆนี้...ดูเหมือนวาจะเก่งกว่าเฟทหลายเท่าตัวเลยทีเดียว”
เก่งกว่าเฟท...
ก็แสดงว่าเก่งกว่าพวกเขา...
และ...
แสดงว่าสามารถฆ่าเฟทได้โดยที่ไม่ต้องใช้ลูกไม้ใดๆ!
ตอนที่16
มุ่งหน้าเข้าสู่วอลเทล...พระราชวังสีทองแห่งเผ่าจิ้งจอก...คำทำนายของมหาจักรพรรดินี!!
“
ที่แห่งเดิม...จักรกร้างในฉับพลัน...
แดนสุขสันต์จักคลายความเศร้าหมอง
ทุกสรรพสิ่งจักจบลง...และจะบรรเลงการเริ่มต้นบทใหม่
สิ่งที่ลำบาก...วางแผนจักพังทลาย
การกระทำในตอนนี้
คือการกระทำเดียวกับอนาคต...
แต่ยามที่ถึงจุดหมาย...จะโศกศัลย์
ความสบายมาเยือนดังลมผ่าน
“จงคิดถึงคำสัญญาที่สะบั้นสิ้น”
เส้นด้ายต่อจากนี้...กำลังจะขาดลง
ขนนกสีขาวเรืองสีชาดจักนำสิ่งของมาฝากพวกพ้อง
คราวนี้ต่อจากนี้จักเป็นของจริง...
‘อดีต’ กำลังจะกลับคืนมา
”
ตอนที่17
คุกมืดที่อยู่ใต้พระราชวังสีทอง...หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทองที่ดูไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
“แล้วคนที่อยู่ที่คุกใต้ดินตอนนี้...มีใครอีกหรือเปล่า?”มิซาร์ทยังคงถามคำถามเดิมราวกับจะย้ำเพื่อที่จะให้แน่ใจ
“คนที่เข้าใหม่ก็ส่งตัวไปประหารหมดแล้วนะครับ”
ฟูนค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบในทันทีพร้อมกับเงนหน้าขึ้นมองเพดานที่วาดลวดลายอย่างสวยงาม
สิ้นเสียงของหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทอง...ลมหายใจของจิ้งจอกสาวและหมาป่าสีเงินที่กำลังเดินตามหลังมากระตุกไปวูบหนึ่งในทันที
ดวงตาสีน้ำตาลและสีเหลืองทองฉายแววตกใจและเศร้าสลดอย่างถึงที่สุด...
กับข่าวสาร...ที่ได้รับ...
ที่บอกถึง...คนที่อยู่ในคุกตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย...
รวมทั้งเฟท...
หมายความว่า...
เฟทก็ต้องถูกส่งประหารแล้ว!
ตอนที่18
ชายอีกคนที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน...คุกสีดำที่แสงส่องไม่ถึง...คุก...ที่ไม่น่าเรียกว่าคุก
“เลือดเนี่ย...มันเปื้อนแต่ข้อความสำคัญทั้งนั้นเลยนะ
เวอริเซ่น”เฟทเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ให้นกอินทรีย์สีทองที่กระพือปีกอยู่ข้างตัวเองดูชัดๆ
“เชอะ! อุบัติเหตุมันก็เกิดขึ้นได้เสมอนั่นแหละน่า เจ้านาย!”นกอินทรีย์สีทองเอ่ยกลบเกลื่อนในทันที
“แต่คราวนี้ดูเหมือน...”เฟทเว้นจังหวะเพื่อพร้อมกับกวาดสายตามองไปโดยรอบอย่างช้าๆ “มันจะสาหัสนะ เวอริเซ่น”
“ชิชะ! เรื่องมันผ่านแล้วก็ผ่านเลยเหมือนลมผ่านไปไม่ได้หรือไง
เจ้านาย!”นกอินทรีย์ยังคงเถียงไม่หยุด
ซึ่งจิ้งจอกหนุ่มก็ขยี้หัวภูตตัวเองเล็กน้อย
“คราวหน้าเอาดีๆกว่านี้ก็แล้วกันนะ
เวอริเซ่น...”เฟทเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอามือขยี้หัวของนกสีทอง
“เชอะ!”นกสีทองที่ส่องสว่างในความมืดราวกับแสงจันทร์นามเวอริเซ่นสะบัดหน้าตัวเองไปมองทางอื่นอย่างไม่พอใจ
ตอนที่19
การเดินทางสู่วอลเทล1...หัวหน้าจิ้งจอกราตรีที่เจอกันด้วยความไม่บังเอิญ...
“เล่นเวทย์แรง...ขนาดที่ฉันต้องควักเอาอาณาเขตป้องกันระดับสองขึ้นมาใช้เลยนะเนี่ย...”เดลน์เอ่ยขึ้นพร้อมกับเกาแก้มตัวเองเล็กน้อย “นี่มันเป็นเพราะฉันกระจอกลง...จนมนุษย์จะเอาชนะได้...”
“หรือเพราะนายไม่ใช่มนุษย์น่ะ?”
(...อันที่สองถูก...)
เฟทพึมพำในใจด้วย
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องจิ้งจอกเบื้องหน้าอย่างระมัดระวังและไม่คิดที่จะปล่อยให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว
ตอนที่20
การเดินทางสู่วอลเทล2...ผู้มอบหมาย ‘คำสั่ง’ พาตัวเฟทกลับให้แด่จิ้งจอกราตรี...
“ถ้าเป็นแค่แรงของมนุษย์ธรรมดาล่ะก็...ไม่มีทางที่จะกระชากออกแม้แต่เส้นด...”
เดลน์หยุดเสียงลงอย่างช้าๆพร้อมกับค่อยๆเพ่งมองร่างของเฟทที่ตรึงอยู่บนกางเขนอย่างชัดๆ…
ติ๊ง...ง...!
เพราะมันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างร่วงลงมากระทบกับพื้นเบาๆ...แน่นอน
มันไม่ใช่เสียงของเหล็ก...
แต่เป็นเลือด...
เลือดสีแดงค่อยๆหยดลงพื้นอย่างช้าๆและแผ่วเบา
แต่ตอนนี้มันหยดลงมามากจนกลายเป็นกองเลือดแล้ว...
คงเป็นผลมาจากการะกระชากโซ่ที่ตัวเองไม่น่าจะกระชากออก...
ทำให้โซ่รัดจนเป็นแผลยาวเลยทีเดียว!
“จะบ้าหรือไงน่ะ...”
เดลน์พึมพำขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ดวงตาสีดำสนิทจ้องเขม็งไปยังภาพเบื้องหน้า...ก็ใครจะไปเชื่อล่ะว่า...
จะมีใครกล้ากระชากโซ่...
จนแขนโชกเลือดแบบนั้นบ้างล่ะ!?
ครึ่ก....!
เสียงเหมือกับบางอย่างสั่นไหว
ซึ่งเดลน์ก็มองไปทางต้นเสียงที่อยู่เบื้องหน้าตัวเองอย่างสงสัย...
เพล้ง!
ฉับพลัน
โซ่สีเงินเงาที่คงทนสุดๆก็ถูกกระชากออกปลดปล่อยให้แขนข้างขวาของเฟทเป็นอิสระในทันที!
ตอนที่21
แขกที่มาเยี่ยมเยือนถึงวอลเทล...ชายเผ่าจิ้งจอกทองผู้ที่มิอาจมองเห็นสิ่งใด...
“อ๊ะ...!?”
ชายคนนั้นอุทานด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบเหมือนกับตกใจที่มีคนเจอตัวตัวเอง...
เรือนผมสีเหลืองทองเหมือนกับแสงจันทร์ที่ตัดกับสีของรอบด้านอย่างสวยงาม
มันสั้นอยู่ในระดับแค่ติ่งหูเท่านั้น
ผิดกับเผ่าจิ้งจอกทองธรรมดาๆทั่วๆไปที่ชอบไว้ผมยาวลงมา
ผ้าคาดตาที่มีรูปแบบที่เหมือนกับปิดบังใบหน้าไปร่วมครึ่งหนึ่ง
มันมีสีน้ำเงินเข้มออกไปทางม่วงๆและดูเหมือนจะเปื้อนเลือดเล็กน้อย
ดูเหมือนชายคนนี้คนคาดผ้าปิดตาเอาไว้จนแทบที่จะมองอะไรไม่เห็นเลยทีเดียว
เสื้อผ้าสีโทนมืดกับผ้าคลุมสีดำสนิทที่จนแทบที่จะยาวลากพื้น
ซึ่งดูเหมือนตรงปลายจะเปื้อนดินและรุ่งริ่งเล็กน้อย
หูสีเหลืองทองของเผ่าจิ้งจอกที่กลมกลืนไปกับสีของเรือนผมของเขา
ดูเหมือนว่า...ประสาทหูของชายคนนี้จะดีไม่ใช่น้อยๆเลยทีเดียว...
“ท่านฟูนค์...?”
ชายผมสีเหลืองทองสั้นเท่าติ่งหูพึมพำขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
หูสีเหลืองทองกระดิกเบาๆเพื่อที่จะฟังเสียงว่าเสียงฝีเท้าแบบนี้...
จะใช่ฟูนค์ที่เขามาเยี่ยมหรือเปล่า...
“ไงฟรี้ด...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเนี่ย?”
ตอนที่22
ใบประกาศการแข่งขันจากใครบางคน...ข่าวสารที่ได้มาจากแขกผู้สถิตย์ ณ
ป่าที่อันตรายที่สุดในการ์เดส
(แล้ว...นายรู้ไหม ว่ามันเจ็บเพราะอะไร?)
เฟทถามขึ้นในใจพร้อมกับหยุดเดินลง
มือข้างซ้ายที่ยังคงทาบอยู่บนใบหน้าของเขาโดยที่ไม่คิดจะเอาลง
...เห...ไม่รู้ซินะ...
ดีโกเดรสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนๆตามนิสัย
“บอกมาดีดี...ดีโกเดรส...”เฟทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบและดูหงุดหงิดจนถึงขีดสุด
แต่ดีโกเดรสก็ยังคงเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ
“ดีโกเดรส...พูดกับใครงั้นเหรอ?”เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มๆโทนต่ำ “ฉันว่าชื่อนี้คุ้นๆนะ แต่นึกไม่ออก...”
“รู้จักกับมัน...ด้วยงั้นเหรอ?”
ร่างของหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกราตรีค่อยๆเดินมาทางด้านหลังของเฟทอย่างช้า
ซึ่งเฟทก็กระตุกมือของตัวเองลงในทันที
หูสีดำสนิทของจิ้งจอกที่ตั้งตรงตามปกติและหางสีดำฟูฟ่องเพียงเส้นเดียวเพื่อที่จะบ่งบอกว่าตัวเองคือเผ่าจิ้งจอกราตรี
...หัวหน้าจิ้งจอกราตรีคนนี้กับนายท่าทางชะตาถูกกันน่าดูเลยนะเนี่ย~...
ดีโกเดรสเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
แต่มันก็ดังก้องกังวานเหมือนอยู่ในถ้ำ...จนแทบที่จะป่วยประสาทคนฟังให้ฆ่าคนได้...
(เงียบไปเลยน่า...)
**++**++**++**--**++**++**++**
“แต่ว่า...เจ้ามนุษย์คนนั่นมันไม่ได้ขายตาให้ใครหรอกนะ”ฟูนค์เอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มดั่งเช่นเคย
แต่ดูเหมือนเจ้าของเนตรสีห้วงราตรีจะไม่ยอมง่ายๆ
ซึ่งหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทองเธอพูดอีกครั้ง “...ฉันไม่ได้เชื่ออย่างนั้น...แต่ฉันมั่นใจต่างหาก”
“อ๋อ...อีกอย่างหนึ่งนะเดลน์”หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทองเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสพ้รอมกับชูนิ้วชี้ขึ้น
“ถ้าเกิดเจ้ามนุษย์นั่นมันทรยศเราจริง...”
“...ฝีมือแค่นั้น...สำหรับฉัน
แค่มือข้างเดียวก็พอ...”
ฟูนค์เอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ดวงตาสีแดงเลือดจ้องมองคนเบื้องหน้าราวกับจะบอกว่าให้ถอยไป...
ซึ่งทันทีที่เดลน์สบเนตรสีโลหิตนั่นก็รู้ทันทีเลยว่า...
คนๆนี้ไม่ล้อเล่นเลยแม้แต่ประโยคเดียว...
หากถึงเวลา...
เขาก็พร้อมที่จะฆ่า...
“ฉันจะไว้ใจให้นายดูแลเจ้ามนุษย์นั่นก็ได้...”เดลน์เอ่ยขึ้นพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ “แต่ถ้านายแพ้...รับประกันเลยว่า ฉันไม่ฝังศพนายแน่ ฟูนค์”
“ตามสบาย...”หัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทองตอบกลับในทันทีด้วยน้ำเสียงที่รื่นเริงตามปกติ
หางสีเหลืองทองฟูฟ่องสะบัดเบาๆ
ตอนที่23
เนื้อหาในใบประกาศการแข่งขันภูต...ข้อความจากหนังสือมนตราที่มาจากอนาคต...
“แล้ว...พรุ่งนี้
แข่งภูตใช่ไหม?”เจ้าของร่างที่โปร่งจนแสงสามารถที่จะทะลุได้อย่างสบายๆเอ่ยขึ้น
“อืม...”
เฟทตอบกลับในทันที
ซึ่งชายอีกคนก็ยิ้มบางๆ...ภาพที่เกิดจากไอเวทย์สั่นไหวน้อยเนื่องมาจากการติดต่อที่ยากลำบาก...
เพราะไอเวทย์มันปิดกั้นการติดต่อ...
“งั้น...ฉันก็...จะขอบอกคำเดียวก็แล้วกัน...”ชายผมสีเหลืองทองเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเหยียดรอยยิ้มบางๆ...
“ใส่ให้สุดฝีมือ...ไม่ต้องกลัวใครทั้งนั้น...”
“เห!?”
เฟทอุทานเสียงดังลั่นในทันทีทันใด
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองชายที่เป็นภาพโปร่งแสงซึ่งตอนนี้กำลังยิ้มอย่างสนุกสนาน
เพราะถ้าเกิดเขาใส่ให้สุดฝีมือจริงๆล่ะก็...
มันก็ไม่เหมือนมนุษย์อย่างที่หาที่เหรียบไม่ได้แล้ว!
“ทำไมล่ะ!”จิ้งจอกสีน้ำตาลตะโกนถามในทันที
ซึ่งชายคนนั้นก็สะบัดหางเบาๆแล้วยิ้มดั่งเช่นเคย...
“เพื่อแผนขั้นต่อไป...”
ตอนที่24
การประลองภูตมนตราแห่งวอลเทล1...การปะทะกันของเหล่าภูตแห่งตำนาน
“นี่เวอริเซ่น...”
เฟทพึมพำขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนที่จะค่อยๆพิงกำแพงสีขาวในโถงทางเดินอย่างช้าๆ
ซึ่งนกอินทรีย์สีทองก็บินแฉลบลงมาอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรงั้นเหรอ
เจ้านาย?”
วิหกสีทองเอ่ยขึ้นในทันทีพร้อมกับกระพือปีกเบาๆ
พลางจ้องมองนายของตัวเองด้วยแววตาสงสัยเล็กน้อย
“คราวนี้คงรู้ใช่ไหม...?”เฟทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและราบเรียบ ซึ่งวิหกสีทองก็เอียงคอเล็กน้อยอย่างงุนงง
“ไม่ว่ายังไง...ก็ต้องชนะ”
พรึ่บ!
อินทรีย์สีทองสะบัดปีกของตัวเองออกกว้างในทันทีแล้วฟาดลงอย่างรวดเร็วสร้างกระแสลมอันรุนแรงจนเส้นผมสีน้ำตาลสะบัดไปมาอย่างรุนแรง
“หึ! เรื่องอย่างนั้น! ถึงเจ้านายไม่สั่ง
ฉันก็จะจัดให้อยู่แล้ว”
ตอนที่25
การประลองภูตมนตราแห่งวอลเทล2...ภูตกระต่ายแห่งป่าเทเกอริก!!
-เน่? เจ้านายข้าบอกให้นายไปตายล่ะ-
กระต่ายสีขาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับนั่งลงอย่างสบายอารมณ์...
-ซึ่งข้าก็...จะจัดให้ ล่ะนะ-
กระต่ายสีขาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับเหยียดรอยยิ้มออก
ร่างของมันเรืองแสงรางๆเหมือนกับกำลังจะเปลี่ยนจากร่างภูตมาเป็นร่างคน!
“หมื่นมีดมนตรา!”
วิ้งงงง!
“หวา...ทิศทางเบี้ยวๆ
โทษทีนะ ยืนนิ่งๆให้เล็งอีกรอบได้ไหม?”กระต่ายสีขาวพูดขึ้นพร้อมกับก้มหัวปลกๆ
“หา...?”
เฟทอุทานด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่หูตัวเองได้ยิน...
“เรื่องซิ!”
เวอริเซ่นคำรามตอบกลับแทนเจ้านายของมันที่ยังคงเอ๋อๆอยู่เล็กน้อย
ตอนที่26
การประลองภูตมนตราแห่งวอลเทล3...จุดจบของงานเทศกาล...ความน่ากลัวของภูตน่ารักๆ
“นี่นาย
เป็นภูตสีขาวของป่าเทเกอริกของจริงด้วยนี่น่า เฟท~”รุสตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับดีใจอย่างสุดๆ
หางเรียวเล็กแหลมและยาวเกือบสามเท่าของตัวมันสะบัดเบาๆอย่างดีอกดีใจเป็นที่สุด
ภูตสีขาวมองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าของภูตเบื้องหน้าก่อนที่จะเหยียดรอยยิ้มกวนๆ
หางเรียวของมันชี้ไปที่หน้าของภูตเบื้องหน้า
“แต่...นายกระจอกกว่าเวอริเซ่นหลายขุมเลยนี่?”
ประโยคกวนประสาทและดูถูกหลุดออกมาจากปากของรุสจนได้
ชักอารมณ์โมโหจากกระต่ายเบื้องหน้าได้เป็นอย่างดีเยี่ยม!
ภูตสีขาวเบื้องหน้าเงื้อเคียวสีดำของตัวเองขึ้นสูงก่อนที่จะตวัดลงอย่างรวดเร็วโดยที่กะจะผ่าร่างของรุสออกเป็นสองซีกเลยทีเดียว!
ฉั๊วะ!
คมมีดสีดำของเคียวยักษ์ฟันเข้าให้ที่สีข้างของภูตหนูขาวที่ยังคงยืนยิ้มอย่างกวนๆแบบที่ไม่คิดจะหลบส่งผลให้ร่างของมันกระเด็นไปหลายเมตร!
ร่างของภูตสีขาวที่กระเด็นไปหลายต่อหลายเมตรสร้างความตกใจให้กับเฟทไม่น้อยเลยทีเดียว...แต่กลับสร้างความขัดข้องใจให้กับเจ้าของเคียวอย่างสุดๆ
ภูตกระต่ายสีขาวค่อยๆยกเคียวสีดำของตัวเองขึ้นมาดูที่คมมีดอย่างช้าๆก่อนที่จะเลื่อนไปมองร่างของภูตสีขาวที่นอนหมอบอยู่กับพื้นและดูเหมือนจะมีน้ำสีแดงๆไหลออกมานองเต็มพื้นไปหมด!
ตอนที่27
หัวหน้าจิ้งจอกแห่งแสง...คำขอท้าประลองภูตมนตราของลานัล...ราชันป่ามรกต!
“อีกอย่างนะลานัล นายก็ลองสู้กับมันดูก่อนไหมล่ะ...แล้วนายจะได้รู้ว่ามันฝีมือไม่ใช่พวกล่างๆ”เดลน์เปรยขึ้นพ้รอมกับเอานิ้วชี้หน้าลานัลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตัวเองแบบที่ไม่มีความหวาดกลัวเลยว่า...คนเบื้องหน้าจะสวนกลับมาอย่างไร...
“เอาสิ...ให้มันรู้กันไปเลย”ลานัลตอบกลับคำท้าอย่างง่ายดายทำอาเฟทที่นั่งอยู่เย็นสันหลังวาบ...
ความซวยโบกมือรอรับอีกแล้วไง...
“ฉันจะแข่ง
ด้วยภูตมนตราเพียงตัวเดียว
ส่วนเจ้ามนุษย์นั่นจะใช้กี่ตัวก็ได้...ฉันไม่ถือ...คิดซะว่าฉันต่อให้”
ลานัลกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับรู้ว่าเฟทกำลังฟังอยู่...หางสีขาวฟูฟ่องของมันสะบัดเบาๆ
“ครับ...”
เฟทพยักหน้าเล็กน้อย
“อ๋อ...ฟูนค์
ช่วยเล่ารายละเอียดตอนที่เจ้าหนูนี่แข่งในงานประลองให้ด้วย...ฉันอยากจะรู้รายละเอียดข้อมูลของเจ้ามนุษย์นี่...”ลานัลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ซึ่งฟนค์ที่กำลังจะนั่งก็หันมามอง
“ว่ามันจะเก่งซักเท่าไหร่เชียว”
“อ๋อได้...”
ฟูนค์ตอบรับกลับในทันทีพร้อมกับรอยยิ้ม
หัวหน้าจิ้งจอกทองลุกขึ้นแล้วเดินตัดหน้าของลานัลออกนอกห้องไป
“ตามมาซิ
แล้วจะเล่าให้ฟัง”
ลานัลพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนที่จะหันหลังเดินตามหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกทองไปอย่างว่าง่ายสุดๆ
ซึ่งเดลน์ก็ตะโกนด่าในใจ
“เฟท! นายต้องชนะมันให้ได้นะ!
จะฆ่าจะเชือดจะแกงยังไงๆ ขอให้ชนะนะ!”เดลน์พูดขึ้นในทันทีพร้อมกับชี้หน้าเฟท
ซึ่งจิ้งจอกสีน้ำตาลก็ได้แต่ก้มหัวปลกๆอย่างที่ไม่มีจังหวะเว้นว่างให้มันได้โต้ตอบเลย...
“ดีมาก!”
เดลน์พูดชมก่อนที่จะแกล้งขยี้หัวของเฟทครั้งหนึ่งจนผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงจนดูสภาพไม่ได้อีกครั้ง...
ตอนที่28
สารขอเชิญตัวจากแอนเฟซ...แผนการของมหาจักรพรรดินี...
“แล้ว...พิธีกรรมนั่น
มันเป็นไงงั้นเหรอ?”เฟทถามอีกครั้ง
ซึ่งฟูนค์ก็ทำเหมือนเดิม...นั่นก็คือยิ้มตอบรับ
“ไว้ไปแล้วก็รู้เอง...ธรรมดาเขาจะให้รู้ด้วยตัวเอง”หัวหน้าจิ้งจอกทองตอบกลับ “เพราะบอกไป...มันจะทำให้เปอร์เซ็นต์ที่พิธีจะผิดพลาดมีสูงขึ้น”
“ผิดพลาด?”
เฟทพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและตกใจเล็กน้อย...ตามความจริงจะทำอะไรๆมันก็มีความเสี่ยงที่จะผิดพลาด
ไม่ว่ามันจะน้อยเท่าไหร่ก็ตาม...
แต่มันก็ต้องมี...
และผลของความผิดผลาดของการปลดผนึก...
“การผิดพลาดของการปลดผนึกคงจะรู้ดีนะ...”ฟูนค์เปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงรื่นเริงและดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความกังวลเลยแม้แต้น้อย
“ว่ามัน...ต้องแลกด้วยความตาย...”
“...เออ...เดี๋ยวนะ
ฟูนค์...”เฟทพูดแทรกเบาๆ
ซึ่งหัวหน้าจิ้งจอกทองก็เบนสายตามามองในทันที
“เปอร์เซ็นต์โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดของการปลดผนึกน่ะอยู่ที่เท่าไหร่งั้นเหรอ?”ชายหนุ่มถามขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งหัวหน้าจิ้งจอกทองที่นั่งอยู่เบื้องหน้าก็เงยหน้าขึ้นเหมือนกับกำลังใช้ความคิดอยู่...
“ราวๆหนึ่งในล้านล่ะมั้ง? ยิ่งถ้าจัดที่แอนเฟซเปอร์เซ็นต์ก็แทบที่จะเป็นศูนย์เลยทีเดียว...”ฟูนค์ตอบกลับ “คงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลล่ะมั้ง?”
“ธรรมดาถ้าไม่มีใครทำลายพิธี...พิธีก็ไม่น่าจะล่ม
แต่ถ้ามี...ล่มแน่ๆ”
“ครับ...”เฟทพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับถอนหายใจเหมือนกับโล่งอก...
ซึ่งฟรีนก็ตวัดสายตามามองเฟทที่พึมพำแปลกๆทั้งๆที่ฟูนค์ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรด้วยซ้ำไป...
“ว่าแต่...รู้สึกว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นมาจะลงตัวไปทุกล็อคจังเลยนะ
ฟูนค์”เฟทเงยหน้าขึ้นแล้วก็ถามคนเบื้องหน้าตวัเองในทันที
ซึ่งคนที่ถูกถามก็ยิ้มรับแล้วยกนิ้วชี้ขึ้น
“ก็...ท่านมิเซน่าเป็นคนวางแผนเอาไว้หมดเลยน่ะ”
ตอนที่29
มุ่งตรงสู่แอนเฟซ!1...ฟานเวียส นครแวมไพร์...นครที่ไร้ซึ่ง
‘วันรุ่งขึ้น’
แปะ...แปะ...
เสียงตบมือที่ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาท่ามกลางยามราตรีที่เงียบสงัดจนแทบที่จะไร้ซึ่งเสียงใดๆ
เฟทและไคน์ย่อตัวลงเล็กน้อยในท่าพร้อมสู้ในทันทีที่ได้ยินเสียง
“...พวกท่านๆนี่เก่งกันสมคำร่ำลือจริงๆ...”
แกร๊ก...!
เสียงรองเท้าที่ทำจากหนังกระทบลงพื้นอย่างแผ่วเบา...แต่ดูเหมือเขาจะไม่ยี่หระกับไอความร้อนและลาวาหลว...
ที่มันควรจะหลอมละลายกางเกงและรองเท้าของเขา...
แต่นี่มันไม่ทำอะไรเลย...
แสดงว่า
คนๆนี้แหละ! คือคนที่ใช้เวทย์!
“ยินดีที่ได้พบหน้ากันอีกครั้งนะ...คุณหนูฟรีน
จากโกลเด้นฟ็อกซ์”
ชายที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วโค้งหัวลง...ตามศักดิ์ฟรีนมีตำแหน่งสูงกว่าคนๆนี้จริงๆนั่นแหละ
“เมื่อครู่นี้เพิ่งจะมี...จดหมายสารจากวอลเทลมาถึงเองครับ
ผมเลยมาต้อนรับช้าไปนิด...ต้องขออภัยด้วยครับ”
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นโดยที่ยังไม่คิดที่จะเงยหน้าขึ้นมาอยู่ดี
น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำเอาเฟทและไคน์ขมวดคิ้วพร้อมๆกัน...
คุ้นเหมือนกับเพิ่งยินมาเมื่อไม่นานมานี้...
“ขอต้อนรับท่านทั้งสาม...เข้าสู่
‘ฟานเวียส’ นครแห่งแวมไพร์”
เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนสมกับเป็นผู้ที่มาต้อนรับแขก
ดวงตาสีเหลืองทองที่ดูอบอุ่นและอ่อนโยน...ปีกค้างคาวสีดำสนิทที่สยายอยู่กลางหลัง...ทำให้เจ้าของร่างนี้ดูน่าเกรงขามขึ้นมาเป็นกอง
และโครงหน้าที่เฟทและไคน์เห็นแล้วถึงกับอุทานในทันที
ก็...คนๆนี้น่าจะอยู่ที่วอลเทลนี่!!?
“รุ่นพี่เล็ท!!”
ตอนที่30
มุ่งตรงสู่แอนเฟซ!2…เข้าสู่ป่าเบเรนิด...ป่าแห่งเผ่าวิหก
แสงสีเงินสวยสว่างวาบออกมาจากบาดแผลทั้งสองแห่งที่มือข้างซ้ายของหญิงสาวเรียกความสนใจของเธอและเฟทได้เป็นอย่างดี...
เพราะธรรมดา...มันไม่เคยเกิดปรากฏการณ์ทำนองนี้นี่...?
ฟุ่บบบบบบบ!
ผิวหนังที่มือของกริฟฟินสาวค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเงินแบบเดียวกับสีของดาบรัตติกาลเงิน
ดวงตาสีเหลืองทองของเธอเบิกโพลงด้วยความตกใจอย่างสุดๆ...
เคร้งงง!
หอกสีเงินที่ร่วงลงพื้นอย่างง่ายดาย
หญิงสาวก้มลงมองมือของตัวเองที่เปลี่ยนเป็นสีเงินราวกับต้องคำสาป
มือเรียวที่สั่นระริกแต่ไร้ซึ่งบาดแผล
แต่ดูเหมือนมันจะยังขยับได้ดีอยู่...
หญิงสาวเลื่อนดวงตาสีเหลืองทองขึ้นมามองศัตรูของตัวเองอย่างช้าๆ
แววตาที่ฉายแววเกรี้ยวกราดอย่างสุดๆจ้องเฟทเขม็งราวกับเฟทเป็นศัตรูที่ไม่ควรจะให้อภัย!
“นาย...ทำอะไรกับมือของฉัน!?”
กริฟฟินสาวหันไปคำรามใส่เฟทที่ท่าทางตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว...เธอใช้เท้าเขี่ยที่ปลายหอกก่อนที่จะเตะขึ้นแล้วตั้งมันเอาไว้ในท่าตั้งฉากกับพื้นดิน
ผลงานอื่นๆ ของ mizato ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ mizato
ความคิดเห็น