ตอนที่ 6 : บทที่ 1 | คนเลี้ยงสิงโต [4]
“มันอาจจะดูรกๆ เหมือนป่าไปสักหน่อยนะ ผมให้คนมาจัดสภาพแวดล้อมใหม่ ไม่อยากให้สิงโตที่เอามาเลี้ยงรู้สึกว่าถูกขังอยู่ในกรง”
“แต่ยังไงมันก็โดนขังอยู่ดีใช่ไหมล่ะคะ” มิถิลาระบายลมหายใจ สิงโตเป็นสัตว์ป่า ต่อให้ที่อัลมานฮาฌ์มไม่มีกฎหมายห้าม แต่ชีคอาซาดิลก็ไม่ควรนำมันมาเลี้ยงอยู่ดี
สัตว์ป่าก็ควรจะได้อยู่ในป่าไม่ใช่หรือ
“กำลังจะกล่าวหาอะไรผมหรือเปล่า” ชายหนุ่มเปิดประตูกรง มันเป็นกรงสองชั้น แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เขาก็เห็นว่ามิถิลาไม่ได้ก้าวเท้าตามเข้ามา “เข้ามาสิ”
“แล้ว...สิงโตของคุณจะไม่ขย้ำฉันหรือไงคะ” เธอเป็นคนแปลกหน้า จู่ๆ จะให้เดินเข้าไปเลยเนี่ยนะ
“เข้ามาเถอะ ไม่เป็นไรหรอกน่า”
พอก้าวเท้าผ่านประตูเหล็กบานใหญ่นั่นเข้าไปแล้ว มิถิลาถึงได้เห็นว่ายังมีคนอยู่ด้านในอีกสองคน แล้วสิงโตของชีคอาซาดิลก็ไม่ได้เหมือนกับในจินตนาการของเธอเลย
เธอคิดเอาไว้ว่าสิงโตของชายหนุ่มจะต้องเป็นสิงโตตัวใหญ่ โตเต็มวัย แผงคอสวยสง่าเหมือนพวกสิงโตเจ้าป่าแบบที่เคยเห็นผ่านตาในภาพยนตร์หรือสารคดี
มิถิลาไม่ได้คิดว่าอาซาดิลจะให้เธอมาเลี้ยง ‘ลูกสิงโต’
“คุณจ้างฉันมาเลี้ยงลูกสิงโตงั้นเหรอคะ” ถึงลูกสิงโตจะนับว่าเป็นสัตว์ป่า แต่ในความรู้สึกของมิถิลาก็รู้สึกว่ามันไม่ได้มีพิษมีภัยเท่ากับสิงโตโตเต็มวัย
ชีคอาซาดิลไม่ยอมบอกเธอตั้งแต่แรกว่าสิงโตของเขาเป็นแค่ลูกสิงโต เขาปล่อยให้เธอเข้าใจผิด ปล่อยให้เธอนึกกลัวอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
แกล้งกันชัดๆ
“นี่เป็นสัตว์ป่าของกลาง”
“คะ?”
“เผื่อว่าคุณกำลังนึกด่าผมอยู่ในใจ ว่าผมไปพรากลูกสิงโตมาจากแม่ของมัน หรือว่าเอามันมาขังไว้ในกรงแทนที่จะปล่อยให้มันได้อยู่ในป่า” เขาคงต้องแก้ต่างเรื่องนี้เสียหน่อย “คุณรู้จักสัตว์ป่าของกลางใช่ไหม”
“สัตว์ป่าที่มีการค้าขายกันแบบผิดกฎหมายใช่ไหมคะ”
“อืม เวลาที่เจ้าหน้าที่ไปจับมาได้ ก็ต้องยึดสัตว์ป่าพวกนั้น แล้วก็กระจายไปตามศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าของกลาง ต้องดูแลจนกว่าคดีความจะสิ้นสุดแล้วถึงจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ”
“แล้วสิงโตของคุณ?” มิถิลาชะโงกหน้ามองเข้าไปด้านใน ลูกสิงโตพอเห็นว่ามีคนเปิดกรงเข้ามาก็วิ่งไปหลบด้านหลังโขดหินก้อนใหญ่ มีผู้ชายสองคนยืนดูมันอยู่ตรงนั้น
“อัลมานฮาฌ์มไม่ใช่ประเทศที่มีศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่ามากพอที่จะรองรับสัตว์ป่าของกลางที่ยึดมา ลูกสิงโตตัวนี้ยึดมาได้พร้อมกับแม่ของมัน แต่แม่ของมันติดโรค อยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือได้ไม่กี่สัปดาห์ก็ตาย ส่วนลูกสิงโตที่ผมได้มาก็เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่ามันเป็นสิงโตแอฟริกาผสมกับสายพันธุ์บาบารี”
“แล้วมันยังไงเหรอคะ”
“สิงโตสายพันธุ์บาร์บารีสูญพันธุ์จากธรรมชาติไปแล้ว ปัจจุบันก็ยังมีอยู่แต่ไม่มากในเขตอนุรักษ์หรือไม่ก็ตามสวนสัตว์ นี่ก็ไม่มีใครหาคำตอบได้ว่าทำไมสิงโตตัวนี้ถึงเป็นลูกผสม และเพราะว่าเจ้าตัวนี้เป็นลูกผสม...ต่อให้ทางศูนย์ช่วยเหลือจะเลี้ยงมันจนโตและแข็งแรงพอที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แต่นักวิชาการก็จะไม่ยอมอยู่ดี”
“ทำไมล่ะคะ”
“เขาบอกว่ามันจะทำให้เสียสมดลของระบบนิเวศน์ เขาว่ามาอย่างนั้น”
“แต่มันก็น่าจะดีกว่าเอามาขังไว้ในพื้นที่จำกัดไม่ใช่เหรอคะ”
“ในความรู้สึกมันก็ใช่ แต่คุณจะเอาความรู้สึกไปเถียงกับคนที่เขาศึกษามาได้หรือไง มันไม่มีทางชนะหรอก รู้อะไรไหม...ผมไม่เคยนึกอยากจะเลี้ยงสัตว์ชนิดไหนในโลกเลยนะ แต่ที่ตัดสินใจเอาลูกสิงโตตัวนี้มาเลี้ยงเพราะเพื่อนที่ทำงานด้านสัตว์ป่าบอกว่าสุดท้ายแล้ว ลูกสิงโตตัวนี้ก็ต้องอยู่ในศูนย์ช่วยเหลือไปทั้งชีวิต พูดง่ายๆ ก็คืออยู่รอวันตายน่ะคุณ
“ที่นั่นไม่ได้ดีเด่อะไรนักหรอก อยู่ในกรง มีอาหารให้เท่าที่งบประมาณจะพอจัดสรร ยิ่งสัตว์ของกลางเยอะขึ้น งบก็ต้องแบ่งส่วนย่อยๆ มากขึ้น เดือนไหนได้เงินบริจาคเยอะก็ดีหน่อย ไว้มีโอกาสผมจะพาคุณไปดู คุณจะได้เลิกกังขาว่าทำไมผมถึงต้องเอาสิงโตมาเลี้ยงไว้เองแบบนี้”
อาซาดิลรู้ว่าที่เขาทำมันไม่ได้ถูกต้องนัก แต่จะว่าผิดเต็มร้อยมันก็ไม่เชิงอยู่ดี อย่างที่รู้ว่าโลกนี้มันไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ แต่ยังมีสีเทาปนอยู่ด้วย ชีวิตของเขาก็เทาๆ แบบนั้นนั่นละ การเอาสัตว์ป่ามาเลี้ยงอาจจะค้านสายตาของใครไปบ้าง แต่ในอัลมานฮาฌ์มมันไม่ได้ผิดกฎหมาย
และที่สำคัญในเชิงความรู้สึก...เขารู้ว่าเขาให้ความเป็นอยู่ที่ดีกับลูกสิงโตตัวนี้ได้
อย่างไรมันก็ไม่มีทางได้กลับคืนสู่ธรรมชาติอยู่แล้ว มันอยู่กับเขาจะสบายกว่าอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าอีกด้วยซ้ำ
ขึ้นชื่อว่าเป็นของของชีคอาซาดิลแล้วจะต้องห่วงอะไร...
คนทั่วทั้งแผ่นดินอัลมานฮาฌ์มรู้ดี คนอย่างชีคอาซาดิล บราฮิม ชาร์อุซมานดูแลของของตัวเองดีที่สุดเสมอ
____________________________________________________
ปล.คอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวแนนมีสุ่มแจกนิยายจากคอมเม้นต์ด้วยค่ะ
ขอฝากผลงานเรื่องก่อนๆ เอาไว้ด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ประเทศที่รวยๆ ก็มีปัญหางบประมาณจัดสรรไม่เพียงพอ ความแตกต่างระหว่างชนชั้นก็เยอะเชียว
นางเอกเรารอดตัวไปที่แท้ได้เลี้ยงลูกสิงโตนี่เอง