ลุ้นโดนจับความลับหัวใจ ตอนที่1 - ลุ้นโดนจับความลับหัวใจ ตอนที่1 นิยาย ลุ้นโดนจับความลับหัวใจ ตอนที่1 : Dek-D.com - Writer

    ลุ้นโดนจับความลับหัวใจ ตอนที่1

    ฮาแบบบ้าบอ คลอด้วยความรัก จมปลักกับความซวย...

    ผู้เข้าชมรวม

    92

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    92

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ต.ค. 53 / 10:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    บทที่1
    ไม่เอานะเชอรี่ ไม่มีทางเด็จขาด...
    นายไม่สงสารฉันหรือไง แม่กับพ่อฉันกำลังจะตกมันอยู่แล้ว
                    ผมกับเชอรี่กำลังฟาดฟันกันเรื่องการย้ายโรงเรียนใหม่ นั้นแหละมันเป็นเรื่องที่ผมเครียดที่สุดเกือบติดอันดับที่สุดของชีวิตเลยที่เดี่ยว ผมขอแนะนำตัวก่อนแล้วกันนะครับ ผมชื่อเดล หรือเดลต้า นามสกุลอย่าไปพูดถึงเลยครับ ตอนนี้ผมใช้นามสกุลเดี่ยวกับเชอรี่อยู่ อย่าพึงเข้าใจผิดว่าผมกับเชอรีแต่งงานกันนะ... 
                   ผมกับเธอพึ่งสิบแปดเอง พ่อแม่ของผมเหรอ รูปซักใบก็ไม่มีให้เห็นแต่ก็เป็นการดีเพราะผมไม่ต้องหวังเลยว่าจะได้ตามหาไง พ่อแม่ของเชอรี่ยื่นคำขาดให้ผมเรียกท่านว่าพ่อและแม่เหมือนกับเชอรี่ นั้นดูเหมือนน่าดีใจ แต่ว่าผมอยู่ที่นี้ในฐานะลูกไม่ได้อยู่ในฐานะคนใช้ คนใช้คนเก่าๆมีไม่กี่คนที่ผมจะคุยด้วยได้ ผมก็พอจะรู้ว่าทำไม ถึงอย่างนั้นผมก็คงไม่มีควรโกธนพวกเขาหรอกจริงไหม
     
                    ส่วนเรื่องของเชอรี่นั้นนะเหรอ เรื่องมันมีอยู่ว่าเธอเป็นเด็กสาวที่ขี้กลัวเอามากมาย ความที่กลัวอย่างนั้นอย่างนี้มากเกินไปทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นเท่าไหร่ เพราะอะไรก็กลัวไปหมดเลยมีเพียงผมคนเดี่ยวที่เล่นกับเธอได้นานที่สุด แล้วครั้งล่าสุดผมก็ช่วยเธอให้รอดจากการจมน้ำ เธอจึงมีฝันร้ายอยู่ทุกวันเมื่อตื่นมาไม่เจอผมเธอจะเอาแต่ร้องไห้ ในอาการตัวหนาวสั่น สุดท้ายพ่อและแม่ของเธอก็เลยพาผมออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 
                    คุณอาจจะคิดว่าเพราะเรื่องแค่นี้นะเหรอ ไม่ใช้ก็ไม่เชิง เพราะนอกจากที่เชอรี่ติดผมแจแล้ว ผมก็ยังช่วยกันผู้ชายหลายๆคนออกจากชีวิตเธอด้วยทางที่อ้อม...จนเธอไม่รู้ตัวด้วยตามคำขอร้องของแม่เธอนั้นเอง
     
                    ตอนนี้เรากำลังมีสงครามใหญ่ มันใหญ่มากๆ...มากกว่าการที่องค์การนาซ่าพบมนุษย์ต่างดาวอีกจริงๆนะ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณสามอาทิตย์ที่แล้ว ณ โรงเรียนเก่าวันพบผู้ปกครองมีนักเรียนตีกัน ต่อหน้าต่อตาประชาชาวนักเรียนและผู้ปกครอง ผ่านไปอีกไม่นานนักก็มีรถตำรวจขับเข้ามาพร้อมกับเด็กชายหญิงคู่หนึ่ง สองคนนี้โดนจับในคดีภาคผู้เยาว์ และแน่นอนเรื่องนี้ฉาวสะบัดชนิด คลื่นสินามึ ถลมภาคใต้และประเทศอื่นๆได้เลยที่เดี่ยว แม้ทางโรงเรียนจะพยายามปิดข่าวแต่ความฉาวชนิดแทบปิดโรงเรียนก็กระจ่ายออกไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด และที่แห่งนั้นก็คือที่ที่ผมกำลังเรียนอยู่นั้นเอง พ่อกับแม่ของเชอรี่ถึงกับพาลูกออก ณ เวลานั้นเลย ซึ่งเป็นที่หน้าสงสารคณะครูอาจารย์โรงเรียนนั้นจริงๆ
                    พ่อแม่ของเชอรีคงไม่ชอบโรงเรียนสหศึกษาไปอีกตลอดชีวิตเลยกระมั่ง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็น่าจะเห็นใจผมบ้าง การที่จะส่งเชอรี่ไปเรียนโรงเรียนสตรีนั้น หมายความว่าผมก็ต้องไปด้วย ลองคิดดูนะครับ ผู้ชายคนเดี่ยวในโรงเรียน จะต้องทำตัวอย่างไร อาจารย์จะต้องดูแลอย่างไร 
                  อีกอย่างโรงเรียนนี้เคร่งเรื่องการเข้าออกของบุคลากรที่เป็นชายทุกคนเสียด้วย เลิกคิดได้เลยว่าจะเข้าไปเรียนภาคปรกติ อีกไม่นานก็จะจบแล้วแท้ๆเชียว ต้องเทียบโอนเกรดไปต่อที่อื่นซะอย่างนั้น สิ่งที่ผมคิดไม่ตกตอนนี้ก็คือว่า พ่อแม่ของเชอรี่ต้องไม่ยอมแน่ถ้าจะไม่เข้าไปเรียนด้วย แต่สำหรับผมละ ผมต้องทำอย่างไร ทั้งๆที่ข้างๆมีโรงเรียนก็ยังเป็นโรงเรียนชายล้วน ที่เป็นโรงเรียนพี่โรงเรียนน้องกันแท้ๆ แต่ถ้าจะไปที่นั้นเชอรี่ละจะทำไง
    เดล ต้องไปกับเชอรี่ ไม่รู้แหละเชอรี่ไม่ยอมไปเรียนโรงเรียนสตรีเหล็กอะไรนั้นคนเดี่ยวแน่
    ไว้เดลหาเพื่อนให้ได้ไหม เดลจะเข้าไปเรียนด้วยได้ไงเล่า ที่นั้นมีแต่ผู้หญิงนะเชอรี่
    แต่เชอรี่ไม่อยากอยู่ห่างเดลนี้ เดี่ยวพ่อก็จัดการให้เองแหละ นะเดลนะ มันต้องมีทางซิ
    ... ผมก็กำลังคิดอยู่ว่าทางที่ว่านะมันทางไหน แล้วอยู่ๆเธอก็ยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่เลยทีเดี่ยว เธอขยับเข้ามานั่งใกล้ๆแล้วจ้องหน้าผมด้วยดวงตาที่แสนจะกลมโต เกือบจะเท่าแตงโมในไม่ช้านี้
    เดล ก็เปลี่ยนชื่อเป็น เดซีซะซิ
    หมายความว่ายังไง เดลไม่เข้าใจ
    เอาไว้เชอรี่คุยกับพ่อเรื่องที่เรียนก่อน พ่อต้องชอบแน่ที่คิดอะไรลุ้นๆแบบนี้ได้ ส่วนพี่เองก็จะได้สนุกด้วยแน่ๆ เพราะพี่เองก็จะได้เห็นสาวๆสวยๆน่ารักๆทุกๆวันเลยดีไหม
    อธิบายก่อนได้ไหมเนี้ยเชอรี่ 
           ยังไม่ทันที่จะได้คาดคั่นเธอ เสียงหัวเราะเล็กๆก็ดังไปทั่วๆห้องก่อนที่เสียงประตูจะปิด เธอออกไปคุยกับพ่อเรื่องโรงเรียนแห่งใหม่แล้ว ผมอยากตายจริงๆ เดซี มันหมายความว่าอย่างไรกันนะ ชื่อนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงภัยเงียบจริงๆเลย 
     
                    ในห้องมีแต่สีชมพูและสีครีมเท่านั้น เครื่องมือเครื่องใช้สีครีมส่วนใหญ่จะเป็นของผม ผมไม่ค่อยถูกชะตากับข้าวของเครื่องใช้สีชมพูเท่าไหร่ ลืมบอกไปนิดว่าผมกับเชอรี่นอนห้องเดี่ยวกัน เตียงเดี่ยวกันเป็นบ้างคืน เพราะถ้าเธอป่วยเธอจะงอแงมาก และผมเองก็จะไม่ได้นอนถ้าไม่ได้นอนกับเธอ เตียงของเธอมีลายคิดตี้สีชมพูเข้ม หมอนรูปคิดตี้ ผ้าห่ม แปรงสีฟัน สบู่ ยางรัดผม ร้องเท้ากระเป๋าสตางค์ พวงกุญแจ แหวน กำไล เอาเป็นว่าขอให้เขาทำอะไรเป็นคิดตี้ขึ้นมาเถอะ เธอจะกวาดด้วยบัตรเครดิตเธอออกมาจนครบคอเล็กชั่น ขออีกอย่าง กกน. ของเธอถ้าไม่สีชมพูก็ต้องมีลายคิดตี้เช่นกัน ไม่เช่นนั้นเธอจะไม่ใส่
     
                    ผมมีพื้นที่สีครีมเพียงหนึ่งส่วนสี่ของห้องเท่านั้น ผมพยายามจะทำให้อะไรๆกลายเป็นสีครีมให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะกระอักคิดตี้ตาย ผมชอบอะไรก็ได้ที่ไม่ใช้สีชมพู เรื่องนี้ห้ามบอกเธอเด็จขาดไม่อย่างนั้นเธอจะร้องไห้จนกว่าผมจะบอกว่าผมก็ชอบสีชมพู (นิดนึง) เธอถึงจะยอม เตียงของผมครึ่งหนึ่งเป็นที่นอน อีกครั่งเป็นชั้นว่างหนังสือเรียน โน้ตบุ๊ก พีเอสพี ไอโฟน แบล็กเบอรี และ ไอฟอดทัช ลืมบอกไปว่าผมเป็นพวกบ้าเทคโนโลยีคับ 
             'เดลต้า' เลยกลายเป็นชื่อของผม ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เวลาส่วนใหญ่ของผมก็ต้องอยู่กับ เชอรี่ที่เหมือนลูกมากกว่าจะเป็นเพื่อนผมด้วยซ้ำ...
                    เสียงจากทีวีคิดตี้(รุ่นสั่งทำ)จอกว้างกว่าตู้ปลา ส่งเสียงเพลงการ์ตูนโดเรม่อนดังลั่นห้องอยู่ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็จะไม่มีเวลาเกลียดสีชมพูเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้ผมจะเกลียดโรงเรียนสตรีเหมือนกับที่ผู้หญิงหลายๆคนต่างพากันกล่าวขาล แค่คิดเล่นๆก็ อกจะแตกแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงไม่ต้องสะพายกระเป๋าคิดตี้ไปเรียนด้วยหรอกนะ ที่เจ็บที่สุดคือ ม.ปลายที่นั้นต้องไปยืนขาสั่นบนส้นสูงแถมบางคณะจะมีกฎประจำบังคับให้สูงขึ้นไปอีก
     
                    ระหว่างที่ความวิตกกังวลกำลังบินว่อนรอบห้อง เสียงประตูก็ดังขึ้น เธอคนนั้นกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความสนุกสุดชีวิตในแววตา เธอวิ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วแล้วก็ขนเสื้อผ้าออกมาหลังจากนั้นก็ลากผมลงจากเตียง
    ไปอาบน้ำได้แล้วเดซี พรุ่งนี้เราต้องไปมอบตัวที่โรงเรียนสตรีเหล็กวิทยา
    หมายความว่าไง เดี่ยวก่อนช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม
    พ่อบอกว่ามีเวลาว่างแค่วันนี้วันเดี่ยวพรุ่งนี้เราจะเตรียมวุ่นวายกันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปีอีกครั้ง อย่ามั่วแต่ถามให้มันมากนักไปอาบน้ำซะ อีกสิบนาทีเจอกันที่ห้องแต่งตัวนะจ๊ะ...
    ... 
    ถ้าผมยังไ่รีบเข้าไปอาบน้ำ น้ำตาเธอก็จะถลายลงมาพร้อมกับเสียงดังสุดๆดุจลำโพงจากไฟสามเฟต อานุภาพเสียงสามารถล้มช้างได้ทั้งโขลงที่เดี่ยว ผมอาบน้ำด้วยสารพัดคิดตี้ที่มีอยู่ กระทั้งแปรงสีฟันของผมยังโดนบังคับให้เป็นคิดตี้ด้วย...
                    และแล้วผมก็ออกจากการอาบน้ำ เชอรีแต่งตัวรออยู่อย่างเรียบร้อย กางเกงยีนขายาว เสื้อสี... นั้นแหละสีเดิมสีเดี่ยว แล้วก็หมวกลายเดิม กับเสื้อคลุมอีกชั้นสีครีม ผมแต่งตัวหน้ากระจกเธอก็เอาแต่นั่งจิ้มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผม ถ้าไม่ใช้วันไปโรงเรียนเธอก็จะแต่งตัวเอง ตื่นเอง แต่ถ้าเป็นวันไปโรงเรียนหน้าที่ทั้งหมดจะตกเป็นหน้าที่ของผมคนนี้แหละ
    พร้อมแล้ว บอกได้หรือยังว่าจะไปไหน
    ความลับ ไปกันเถอะ
    แบบนี้มันขี้โกงกันนะ อาบน้ำแล้วทำไมไม่เห็นบอกเลย
                    เชอรี่เดินอมยิ้มแล้วดึงมือผมลงมาจากห้องไปยังห้องอาหาร พ่อกับแม่กำลังนั่งคำนวณอะไรกันอย่างวุ่นวาย ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมายิ้มไม่นานก็กลับไปกดๆเครื่องคิดเลขต่อ เชอรี่เดินเข้าไปหอมพ่อกับแม่แล้วก็กลับมาดึงมือผม
    ไม่หอมแม่บ้างเหรอ เดล แม่ของเชอรีหรือก็คือแม่ของผมเอ่ยขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มอีกแปบหนึ่ง
    แม่ครับ ผมสิบเก้าแล้วนะ แม่ยังคงมองลอดออกมาจากแว่น สิบเก้าแล้ว... ผมเดินเข้าไปใกล้แล้วก็หอมแม่ทีหนึ่ง แล้วแม่ก็หอมตอบ แอบอายเหมือนกันนะเนี้ย...
    ของพ่อไม่ต้องนะ พ่อพูดแล้วก็ยิ้มกวนๆแล้วก็รับโทรศัพท์ ผมรู้ว่าพ่อพูดเล่น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คงไม่กล้าหอมหรอก เท่าที่จำความได้ผมเคยหอมพ่อแค่สองครั้งเท่านั้นเอง
    รีบไปกันเถอะ แล้วอย่ากลับให้มันดึกดื่นนักละ เดล ดูแลน้องดีๆนะ
                    แม่มักจะเตือนผมเสมอ อันที่จริงผมก็ต้องดูแลเชอรี่อยู่ตลอดอยู่แล้ว ที่แม่เรียกเชอรี่ว่าน้องเพราะว่าผมเกิดก่อนเธอตามอายุเพียง หนึ่งเดือนเท่านั้นเอง แต่เชอรี่ก็ไม่ค่อยได้เรียกผมว่าพี่หรอก ซึ่งมันคงจะดีกว่าถ้าจะไม่เรียก ผมและเชอรี่ขึ้นรถที่มีลุงชื่น คนขับรถประจำบ้านรออยู่แล้ว
    ไปไหนครับคุณหนู
    สถานแปลงโฉมมือหนึ่งที่คุณเคย
    ... 
                    อันนี้ผมไม่รู้จริงๆเพราะชื่อเรียกของเธอจะไม่แน่นอน ลุงชื่นจะคุ้นเคยกับชื่อพวกนี้ดีเพราะต้องพาเชอรีไปบ่อยๆ แน่ละเกือบทุกที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย ไม่ใช้ร้านขายเสื้อผ้า ตุ๊กตา ก็ร้านเสริมสวย
     
                    รถแล่นออกมาด้วยความเร็วที่ลุงแก่ๆไม่น่าจะขับได้ ก่อนที่จะปรับความเร็วให้ช้าลง ไม่นานนักก็เป็นอย่างที่ผมคิดไม่ผิดเลยแม้แต่ซักนิดเดี่ยว สถานที่แห่งนี้คือร้านเสริมสวย  ป้ายประกาศว่า คิดตี้ชาลอน หน้าร้านแปะไว้ด้วยรูปคิดตี้ตัวใหญ่ที่กระจก จนแทบจะเต็มแผ่น ภายในร้านมีลูกค้าค่อนข้างจะแน่นอย่างไม่น่าเชื่อ
    ไปกันเถอะ พี่เดซี...
     
                    ชื่อที่ผมไม่อยากได้ยินดังขึ้นอีกรอบ นั้นแหละตอนนี้ทำให้ผมได้รู้ความหมายของคำว่าเดซีแล้ว นั้นหมายถึงผมจะต้องแปลงกายเป็นสาวน้อยวัยเรียนเนี้ยนะ ประตูเปิดออกและมือของเชอรี่ก็ดึงผมลงจากรถ ผมจ้องมองรถด้วยความหมดหวัง 
               ลุงชื่นจอดรถแล้วดับเครื่องสนิท นั้นหมายความได้อย่างดีเลยว่าลุงจะรอจนกว่าเชอรี่จะสั่งให้ไปต่อ ภายในร้านตกแต่งได้ไม่ต่างจากเตียงของเชอรี่เลย ทุกอย่างจนถึงกระถ่างดอกไม้ ยังคงไว้ด้วยลายคิดตี้ ช่างในร้านทุกคนก็ใส่ผ้ากันเปื้อนและร้องเท้าถ้าไม่มีลายก็จะคงไว้ด้วยสีชมพู
    คุณหนูเชอรี วีไอพีเชิญชั้นสองดีกว่านะค่ะ
    มีคิวไหม เจ้าของร้านทำหน้าครุ่นคิด อีกสิบนาทีจะมีคิวค่ะ มีลูกค้าระดับวีนัดไว้เหมือนกัน
    มีคิวไหม เชอรีทวนคำถามด้วยเสียงเรียบๆ เจ้าของร้านทำหน้าเศร้าๆแล้วก็หันไปหันมา ก่อนที่จะก้มหัวให้อีกครั้ง ไม่มีคิวค่ะ เชิญใช้บริการ
                    เชอรี่เดินนำขึ้นมายังชั้นสอง ยิ่งเข้ามาลึกการตกแต่งก็ยิ่งหนักหนาสาหัสขึ้นทุกก้าว ทั้งคิดตี้ บาร์บี้ เต็มไปหมด แล้วก็เข้ามาสู้ห้องที่น่าจะกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นสองเลยทีเดี่ยว ในที่แห่งนี้มีเครื่องมือครบคัน ทุกอย่างอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน พนักงานสามคนเดินเข้ามาในห้อง ด้วยเครื่องแบบคนละระดับกับด้านล่าง ทั้งหมดยกมือไหว้ก่อนที่จะหันมายิ้มให้ผม
    ตามที่สั่งเลยใช้ไหมค่ะ คุณหนู เชอรี่เงยหน้าสั่ง เพราะพนักงานสูงกว่ามาก เบามือที่สุด สวยที่สุด ดีที่สุด ลงมือ...
     
                    เมื่อสิ้นเสียงพนักงานก็บายมือไปที่เก้าอี้ทรงสูง และเมื่อผมนั่งลง ก็มีพนักงานเอาอะไรบางอย่างเย็นๆมาทาลงบนเล็บ มัดผมหลายสีหลายมัดทาบลงบนหัวของผม และในเวลาไม่นานนักผมก็สระผมอยู่บนเตียง มันจะดูไม่พิเศษแน่ 

                    ถ้าช่างจะไม่มาทำพร้อมกันที่เดี่ยวสามคน หลังจากสระผมเสร็จเล็บของผมก็ต่อยาวขึ้นและมีสีชมพูอ่อนๆไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ทางเราจะจัดการเรื่องรอบอกให้นะค่ะ อยากได้ประมาณไหนค่ะ
    ... 
    ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกช่างพวกนี้พูดเลย ผมยังใจหายเกี่ยวกับเรื่องเล็บสีชมพูอยู่เลย แล้วตอนนี้ยังมีเรื่องรอบอกด้วยอย่างนั้นเหรอ นิตยาสารปิดลงชั่วคราว ใบหน้าของเชอรี่โผล่ออกมายิ้มให้ แล้วก็หั่นไปทางพนักงาน
    พอประมาณ ก็พอจ๊ะ ขอเนียนๆนะ 
            แล้วพนักงานก็หายไปชั่วครู่ ตอนนี้ผมบนหัวกำลังติดกาวอย่างบรรจง การเสริมความงามนี้มันช่างลำบากเหมือนการโดนทรมานในค่ายทหารจริงๆ แล้วในไม่ช้าชุดอุปกรณ์การแปลงกายก็กลับมาอีกครั้ง อกปลอมฟองน้ำที่มีน้ำหนัก เสื้อซับเสริมอึ้ม และกระโปรงพีชกับเสื้อสีขาว ร้องเท้าส้นสูงไม่ต่ำกว่าสามนิ้ว
    นี้เอาจริงๆเหรอ เชอรี จะไหวเหรอเนี้ย...
    เอาเถอะ เดี่ยวเราจะต้องไปเดินซื้อของกันต่ออีกนะ พวกกระเป๋าหลุยส์ หรือ กุ๊ชซี่ย์
    เอาแบบ เอาท์ดอล ไม่ได้เหรอไม่กี่ร้อยเอง
    ไม่ ไม่ได้เด็จขาด มันไม่เหมาะกับเรา วันพรุ่งนี้จะต้องเป็นสงครามไอโซที่หรูที่สุด จำไว้นะพี่เดซี...
                    ชื่อนี้ทำให้ผมอยากกัดลิ้นตัวเองตาย ตายซะยังจะดีกว่านี้เลยจริงไหม ชื่อ หน้าตา ทรงผม เล็บ และอกปลอม ยังต้องมาเดินบนร้องเท้าทรมานๆนี้อีก 
                    ผมละเบื่อค่านิยมผู้หญิงสมัยนี้เสียจริงๆ อะไรๆก็ต้องแพงๆไว้ก่อน กระเป๋าเอาท์ดอล มันก็ใส่หนังสือได้ไม่ใช้เหรอ ผมจำได้ว่าเธอจำใจใช้      เอาท์ดอล ใบเก่าของผมได้ต้องสามวันเชียวนะ ก่อนที่ผมจะต้องเก็บไว้ให้ห่างตาเธออีก
                    เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ซึ่งต่อจากนี้ผมต้องโกหกทุกคนที่ออกจากห้องแห่งนี้ว่าผมเป็นผู้หญิงจริงๆ สำหรับคุณคงไม่ใช้เรื่องใหญ่ แน่นอนก่อนจะสวยครบทกสูตรผมยังไม่ได้บอกคุณเลยว่าตอนเวคขนนะมันสุดยอดแค่ไหน ไม่เช่นนั้นคุณจะได้เห็นตัวประหลาดที่สวยที่สุดและทุเรศที่สุดมาร่วมกันในร่างเดี่ยวกัน 

                   หลังจากทำทุกอย่างเสร็จตอนนี้ผมก็กลายเป็นนักศึกษาสาวเต็มตัวแล้ว พนักงานทุกคนเดินออกไปจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะออกเสียงประตูก็เปิดออกพร้อมเสียงโวยวาย ผู้หญิงสามคนเดินเข้ามาในห้อง นี้คงจะเป็น
    นางพวกนี้ใช้ไหมที่รัดคิวฉัน กล้ามากจริงๆนะ
    คือ อันที่จริงเขาไม่ได้รัดคิวคุณทิวลิปนะค่ะ...แต่
    หุบปากเลย ถือว่าเป็นเจ้าที่ใช้ไหมเลยให้มันแซงคิวฉัน
                    ตอนนี้เธอคงจะระเบิดภูเขาไฟฟูจิให้กลับมาทำงานอีกครั้งได้แล้วมั้ง สงสัยจริงๆว่าเธอจะอยากโดนทรมานเร็วๆทำไมกัน ตอนนี้เจ้าของร้านหน้าเหลือไม่ถึงสองนิ้วแล้วด้วยซ้ำ เชอรี่เองก็เดินออกมาจ่องหน้ายายกลุ่มพังค์นี้ซะอย่างไม่เกรงกลัวเลย
    ขอทางหน่อยนะ ยายพวกเศษผ้าขี้ริ้ว
    แก...แกว่าการแต่งตัวของฉัน แกก็แค่เด็กยายเด็กเออ...
    โวย แบบนี้ต้องเจอ
                    เชอรี่กระโจนเข้าไปหาพวกกลุ่มพังค์ แต่แล้วผมก็ห้ามไว้ สงสารเจ้าของร้านจริงๆเลยเชี่ยว สุดท้ายการถลมร้านคิดตี้ที่รักนี้ก็ยืดออกไป อาจจะเป็นคราวหน้าก็ได้ บ้างทีที่นี้ควรจะมียามเยอะๆหน่อยคงดีกว่านี้ เชอรี่เดินอย่างหงุดหงิดไปขึ้นรถ ทิ้งให้ผมต้องเดินออกจากร้านเสริมซวย(สวย)นี้ด้วยความลำบากจากส้นสูง และแล้วรถออกตัวเข้าสู่ถนนสายหลัก มุ่งหน้าไปยังสถานที่จับจ่ายแหล่งที่สองของวันนี้...
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×