ใต้ต้นไม้ใหญ่มีเด็กชายผมดำเงายาวประบ่า
และดวงตาที่สีนิลประดุจดั่งผมของเจ้าตัว ร่างบางกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างเพลิดเพลิน
และไม่นานความสุขในวันหยุดของร่างบางจะจบลงหลังจากนี้…….
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่สเนป”มีเด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดลำลองที่มีเสื้อไหมพรมถักสีเขียวเข้มบ่งบอกว่าเธอเป็นเด็กบ้านไหนได้อย่างชัดเจน
“มีอะไร”น้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แต่กลับแฝงไปด้วยความรำคาญทำเอาเด็กหญิงตัวสั่นไม่น้อย
“คะ คือหนูชอบรุ่นพี่ค่ะ!! ได้โปรดรับคุกกี้นี้ไปด้วยนะคะ”ดูเหมือนร่างบางจะอึ้งกับสิ่งที่เด็กสาวกำลังกระทำอยู่ตรงหน้าอยู่ไม่น้อย
แต่ก็ต้องปรับสีหน้า
“สะ-”ร่างบางกำลังจะตอบปฏิเสธเด็กสาวตรงหน้าออกไปก็ต้องโดนขัดเพราะมีบุคคลที่ไม่ยินดีเจอเข้ามาขัด
“ยินดีด้วยนะสนิฟเวลรัสที่มีสาวๆชอบ
ฉันก็คิดว่าชาตินี้แกจะไม่มีผู้หญิงเข้ามาจีบเสียแล้วนะ”น้ำเสียงที่แสนเย้ยหยันนั้นทำเอาร่างบางถึงกลับเส้นเลือดกระตุกอยู่ไม่น้อย
“ขอบใจสำหรับคุกกี้นะ แต่ฉันคงรับความรู้สึกที่เธอมีให้ฉันไม่ได้”ร่างบางพูดด้วยท่าทางที่เรียบนิ่ง
แต่กลับปนไปด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ
“แค่รุ่นพี่รับคุกกี้ของฉันไป แค่นี้ฉันก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ”จากนั้นเด็กสาวก็รีบวิ่งเข้าไปในตัวปราสาททันที
ร่างบางเองก็เก็บของเตรียมเข้าไปในตัวปราสาทเช่นกัน
“เมินกันแบบนี้เลยหรอ!!”
“โอ๊ย!! ปล่อยนะแบล็คฉันไม่อยากทะเลาะกับนายในวันหยุดแบบนี้
มันเสียอารมณ์”ร่างบางหันมาทำหน้าบึ้งให้กับเด็กชายตระกูลแบล็คที่เป็นคนเดียวในตระกูลที่อยู่บ้านสิงโต
“ปล่อยเซเวอร์รัสเดี๋ยวนี้นะ”ความสั่งที่นั้นชั่งเรียบนิ่งที่ปนกับความเย้ยหยัน
ดูหมิ่นดูแคลนคนอื่นดังมาจากอีกฝั่ง ทำให้ทั้งสองคนที่กำลังจะเริ่มทะเลาะต้องหันไปมอง
“รุ่นพี่มัลฟอย”ร่างบางแอบยิ้มนิดๆเพราะรุ่นพี่มัลฟอยที่เขาเคารพ(รัก!?)นั้นมักจะเข้ามาช่วยเขาไว้ทุกครั้งเมื่อพวกเด้กบ้านสิงโตนั้นเข้ามาแกล้ง
“ก็ได้ๆ ฉันปล่อยก็ได้”เด็กชายตระกูลแบล็คยอมปล่อยมือออก
แต่สายตานั้นไม่ยอมปล่อยอย่างการกระทำ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างบาง
และรุ่นพี่ร่างบางเคารพทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้เลย
ไหนจะรอยยิ้มที่ร่างบางส่งไปให้กับรุ่นพี่นั่นอีก นึกแล้วอารมณ์ที่เริ่มอ่อนไหวก็ก่อตัวขึ้นมาทันที
“พวกนายจะทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศแบบนี้ไม่ได้!!!”ร่างบางหันมามองคนที่กำลังโวยวายด้วยหางตาก่อนจะหันกลับไปคุยกับรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ข้างๆต่อ
“ไปคุยกันต่อข้างในเถอะครับ ข้างนอกนี่เหมือนอากาศจะเป็นพิษนะครับ”เด็กชายตระกูลแบล็คยืนนิ่งกับคำที่ร่างบางพูดพร้อมกับคิดว่าเขาน่าจะชินกับประโยคเย็นชาหรือการกระทำที่ร่างบางไม่เคยสนใจตนแม้แต่น้อยใช่!!เขาควรจะชินมันได้แล้ว
และตั้งแต่วันนั้นเองทำให้เด็กชายตระกูลแบล็คไม่เข้าไปทัก
หรือแกล้งร่างบางเป็นเวลาที่นานพอสมควร ส่วนร่างบางเองก็พลางคิดว่าเป็นเวลาที่ดีที่ไม่มีพวกเด็กบ้านสิงโตนั่นเข้ามากวนประสาทตน
และนึกขอบคุณรุ่นพี่ที่ร่างบางเคารพ(รัก?)มาก ตั้งแต่ที่รุ่นพี่ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือในสิ่งต่างๆหรือแม้กระทั่งช่วยให้หลุดจากการกลั่นแกล้งจากพวกเด็กบ้านสิงโต
ร่างบางก็เกิดความรู้สึกบางอย่างความรู้สึกนี้เริ่มก่อตัวขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้เอง
หัวใจที่มักเต้นผิดจังหวะเวลาที่เจอกับรุ่นพี่มัลฟอยนั้นมันคือความรู้สึกอะไรกันแน่
ร่างบางต้องการหาคำตอบให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ทำไมเขี่ยอาหารแบบนั้นล่ะ มันไม่อร่อยหรอ”เมื่อคนที่ร่างบางกำลังนึกถึงนั้นได้ปรากฏตัวขึ้นมาก็ทำเอาร่างบางแทบสะดุ้ง
“ผม....ผมอิ่มแล้วครับ ขอตัวก่อนนะครับ”ร่างบางโค้งให้เล็กน้อยจากนั้นก็รีบวิ่งออกจากห้องโถงไป
ร่างบางพยายามหลบหน้าร่างสูงมาสักพักแล้วถ้าจะพูดให้ถูกก็ตั้งแต่เด็กบ้านสิงโตไม่คอยมาแกล้งทั้งคู่ก็เริ่มออกห่างกัน
และคนที่เริ่มออกห่างจะเป็นใครไปไม่ได้ร่างบางนั่นเอง
ที่ร่างบางทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้หัวใจตัวเองไปรักคนที่ไม่ควรจะรักยังไงล่ะ
“ทำไมกัน ฮึก ทำไมหัวใจผมถึงจะเจ็บแบบนี้ ทำไมผมถึงหลงรักคุณได้
รุ่นพี่ลูเซียส......ทั้งๆที่ผมไม่ควรจะรักคุณด้วยซ้ำ ก็คุณน่ะมีคู่หมั่นอยู่แล้วนิ
คุณจะมารักคนอย่างผมได้ยังไง ปล่อยให้เป็นไปแบบนี้เหละดีแล้ว”ร่างบางนั่งกอดเข่าร้องไห้ใต้ต้นไม้
ต้นเดิมที่ร่างบางชอบมานั่งเล่น
น้ำตาที่ไหลรินลงมาอาบใบหน้าหวานทำเอาคนที่วิ่งตามหลังมานั้นต้องหยุดชะงักเพราะเจ็บที่หัวใจเมื่อได้รัยรู้อะไรบางอย่าง
“ฉันรักนายนะสนิฟเวลรัสถึงแม้ฉันจะไม่เคยอยู่ในสายตาของนายเลยก้ตามที”เมื่อเด็กชายตระกูลแบล็คคิดอย่างนั้นได้
ก็เดินตรงไปยังร่างบางที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ทันที
“ทำไมมานั่งร้องไห้ที่นี่คนเดียวล่ะ”น้ำเสียงที่ใช้ถามร่างบางตรงหน้าชั่งอ่อนโยนมากเสียจนร่างบางต้องเงยหน้าขึ้นมามองทันที
“ไม่ใช่เรื่องของนายแบล็ค”เด็กชายไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เขานั่งยองๆ
และจับร่างบางตรงนั้นนั้นมากอดอย่างอ่อนโยน และปลอบประโลม
น้ำตาที่ไหลอยู่แล้วของร่างบางก็ทะลักออกมาทั้งๆที่ร่างบางไม่อยากจะให้ใครเห็นน้ำตาของตนแท้ๆ
“ฉันขอโทษนะที่เคยแกล้งนาย
ขอโทษจากใจจริงได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วยนะ....”
“เซเวอร์รัส...อืม”ร่างบางช้อนตาขึ้นมามองคนตรงหน้า
ทำเอาเด็กชายตระกูลแบล็คอยากจะจับจูบเสียจริงเชียว
ที่จริงแล้วร่างบางรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าคนตรงหน้าสำนึกผิดจริงๆก็เมื่อสองสามวันมานี้คนตรงหน้าบอกกับเพื่อนในกลุ่มของตนว่าห้ามใครแกล้งร่างบางเด็ดขาด
และคนตรงหน้าก็ได้สำนึกผิดเป็นที่เรียบร้อย ร่างบางเองก็ไม่รู้ว่าทำไมคนตรงหน้าถึงสำนึกผิด
แต่ก็ไม่อยากถามเพราะมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขอแค่เลิกแกล้งร่างบางได้
ร่างบางก็พอใจแล้ว
“เราเข้าไปในตัวปราสาทเถอะ อีกเดี๋ยวดัมเบิลดอร์จะประกาศเรื่องการจบการศึกษาของพวกปีเจ็ด”ร่างบางพยักหน้าก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งออกไป....
“ขอบใจ...ซีเรียส”เด็กชายยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อร่างบางยอมเรียกชื่อเขาสักที
เด็กชายพยุงร่างบางเข้ามาในห้องโถงทำเอาเป็นที่จับจ้องของทุกๆคน เพราะใครๆก็ต่างรู้ว่าทั้งคู่ไม่ถูกกัน
แต่ทำไมวันนี้กลับประคองกันได้ล่ะ และการกระทำของทั้งสองก็อยู่ในสายตาของใครคนหนึ่ง
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นหลังวันจบการศึกษาของปีเจ็ดงานเลี้ยงจัดที่บ้านของตระกูลมัลฟอยผู้ที่ถูกเชิญมาในงานนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนจากบ้านสลิธีริน
และตอนนี้ที่นอกระเบียงกำลังเกิดเหตุการณ์ที่แสนจะอึมครึมมาก ถึงมากที่สุด
“หลายอาทิตย์เลยนะที่ไม่ได้คุยกันนานแบบนี้”
“ครับ”ร่างบางก้มหน้าตอบออกไป
เพราะตอนนี้ทั้งคู่ยืนอยู่ที่ระเบียงด้านนอก
ร่างบางโดนลูเซียสลากออกมาคุยเสียมากกว่า
“ฉันจะถามแบบไม่อ้อมค้อมนะ ทำไมหลายวันมานี้นายคอยเอาแต่หลบหน้าฉัน
ไม่ค่อยพูดกับฉันด้วย”
“ผมก็จะตอบแบบไม่อ้อมค้อมเหมือนกันครับ....ผมต้องขอโทษรุ่นพี่ด้วยนะครับที่หลบหน้ามาตลอด
แต่ว่าผมก็แอบมองรุ่นพี่เสมอๆเลยนะครับ ที่ผมทำแบบนั้นก็เพราะ ผมรักรุ่นพี่ แอบรักมาตลอด
แต่รุ่นพี่มีคู่หมั่นแล้วรุ่นพี่-อึก จะมารักผมคนนี้ได้ยังไง
อีกอย่างผมกลัวหัวใจตัวเองที่จะไม่สามารถหยุดรักรุ่นพี่ได้ถุงได้พยายามออกห่างมาแบบนี้”น้ำตาที่พยายามเก็บเอาไว้บัดนี้มันได้ไหลออกมาอีกครา
“ฉันก็คิดว่าฉันไปทำอะไรให้นายโกรธ เฮ้อ... เงียบซะนะ...คนดีของฉัน”เมื่อจบประโยคลูเซียสก็จับคางร่างบางที่ร้องไห้จนตัวโยนขึ้นมา
จากนั้นก้มอบจูบที่แสนอ่อนโยน ลิ้นหนาค่อยๆเข้าไปเกี่ยวพันกับลิ้นบางอย่างช้าๆจากนั้นก็กลายเป็นจูบที่แสนเร่าร้อน
ร่างบางเริ่มหายใจไม่ออกจึงผละออกมาเสียก่อน
“ระ รุ่นพี่...”ร่างบางตกใจไม่น้อยที่จู่ๆลูเซียสมาทำอะไรแบบนี้
“ฉันเองก็....รักนายนะเซเวอร์รัส”
“แล้วคู่หมั่นของรุ่นพี่ล่ะครับ”
“มีซะที่ไหนล่ะเรื่องนั้นน่ะหลอก เพราฉันไม่อยากปวดหัวกับเหล่าบรรดาผู้หญิงทั้งหลายที่ต่างจะคอยจับฉัน
ฉันก็เลยสร้างเรื่องหลอกขึ้นมาอีกอย่างฉันจะได้มีเวลาสนใจนายคนเดียวยังไงล่ะ”
“บ้า”ร่างบางตีคนตรงหน้าอย่างไม่แรงนัก
“บ้าแล้วรักไหมล่ะ”ร่างบางยิ้มออกมาจากใจจริง
ทำเอาคนตรงหน้าอยากจับกดเสียตรงนั้น
“Always”
END
ชอบมากเลยที่เซฟเคะ นางน่ารัก ><
ดีใจที่มีคนแต่งคู่นี้และแต่งจบแฮปปี้ 555555