มิตรภาพบนเส้นขนาน
คุณเคยไหมที่ต้องทรยศความไว้ใจของเพื่อน เพียงเพื่อให้ชีวิตของเพื่อนปลอดภัย แม้จะถูกกล่าวหาว่าเป็น เพื่อนทรยศ
ผู้เข้าชมรวม
210
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
มิตรภาพบนเส้นขนาน
คุณเคยไหมที่ต้องทรยศความไว้ใจของเพื่อน เพียงเพื่อให้ชีวิตของเพื่อนปลอดภัย แม้จะถูกกล่าวหาว่าเป็น เพื่อนทรยศ
นี่เป็นเพียงเรื่องราวสั้นๆ ของมิตรภาพระหว่างคนสองคนที่ดำรงอยู่เพียงในความทรงจำ... ราวกับเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ...
รสรินทร์ และ น้ำทิพย์ เป็นเพื่อนที่คบกันมานานกว่าสิบปี ทั้งสองมีบุคลิกอุปนิสัยและความชอบต่างกันคนละขั้ว ริน เป็นสาวหวานนุ่มนวลเรียบร้อย เธอเป็นเลขานุการคนสนิทและคู่รักของ เมธี ผู้จัดการหนุ่มโสดไฟแรงแห่งฝ่ายการเงินของบริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้าแห่งหนึ่ง ส่วนทิพย์เป็นสาวเปรี้ยวที่ชอบเข้าสังคมเธอเป็นพนักงานฝ่ายกฎหมายของบริษัทเดียวกันกับริน
“ว้าย ตายแล้ว ริน นี่ปล่อยให้ท้องได้ยังไงกันยะ” มันเป็นประโยคแรกที่ทิพย์พูดด้วยความตกใจ หลังจากได้ยินคำบอกเล่าจากปากของริน ขณะทานอาหารกลางวันด้วยกันในห้องอาหารของบริษัท รินรีบบอกให้ทิพย์ลดเสียงลงก่อนจะคุยกันต่อ
“แล้วนี่ตั้งใจจะบอก เมธีเมื่อไหร่ เย็นนี้เลยใช่ไหม” ทิพย์ถามอย่างกระวีกระวาด เพราะแม้เธอจะเป็นสาวหัวสมัยใหม่แค่ไหน แต่เรื่องท้องก่อนแต่งแบบนี้เธอก็รับไม่ได้จริงๆ แม้จะรู้อยู่ว่าทั้งเมธีและรินต่างก็รักกันอย่างจริงจัง และน่าจะแต่งงานกันในอีกไม่ช้า
“ยังหรอกจ้ะ ฉันกะจะให้เขา surprise น่ะ พอเขาขอฉันแต่งงาน ฉันก็ค่อยบอก แต่ก็ไม่แน่นะอาจจะเป็นเย็นนี้ก็ได้” รินกำลังพูดถึงนัดเดทตอนเย็นวันนี้ ที่เธอกับเมธีกำลังจะไปทานอาหารค่ำกันที่โรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่ง เธอคาดว่าวันนี้เมธีจะต้องขอเธอแต่งงานแน่ๆ เพราะสองสามวันมานี้เขามีท่าทีที่แปลกๆ ไป เหมือนกับว่ากำลังแอบปกปิดอะไรบางอย่างไว้ในใจ
“จ้า... แม่คนมีความสุข ยังไงก็ดีใจด้วยก็แล้วกันนะจ้ะ แล้วฉันจะรอฟังข่าวดีนะ” ทิพย์แซวด้วยความหมั่นไส้ในความสุขของริน...
และแล้วความ Surprise ก็เกิดขึ้นจริงๆ ในเย็นวันนั้น แต่มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่รินคาดหมาย... เมธีเอ่ยปากขอเลิกคบกับรินอย่างสายฟ้าแลบ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ริน คุณเป็นคนดีเกินไป ไม่เหมาะกับคนเลวๆ อย่างผมหรอก”
แน่นอนว่าหากความรักไม่บังตา รินก็คงจะยอมเลิกกับเมธีไปตั้งแต่วันที่เธอค้นพบว่าเมธียักยอกเงินมูลค่าหลายแสนบาทของบริษัทไปจ่ายค่าเสียพนันบอลซึ่งเขาไม่ได้ทำแบบนี้เพียงครั้งเดียว แต่เพราะความรัก รินจึงไม่สามารถปฏิเสธการขอร้องของเมธีที่ให้ช่วยปกปิดความผิดของเขา...
วันต่อมาข่าวลือก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งบริษัทว่า เมธีได้รับการทาบทามจากกรรมการผู้บริหารคนหนึ่งในบริษัทให้เป็นลูกเขย และถ้าหากเขาตอบตกลงแต่งงานกับลูกสาวของกรรมการผู้บริหารคนนั้นยิ่งเร็วเท่าไหร่ เขาก็จะมีโอกาสก้าวข้ามขั้นสู่ตำแหน่งบริหารที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่เมธีคาดหวัง เพราะรินยังคงไม่ยอมปล่อยเขาไป เธอพยายามผูกมัดเขาให้คบกับเธอต่อไปด้วยคำขู่ที่ว่า “เมธี... ฉันรักคุณนะคะ แต่ถ้าคุณจะไปจากฉัน ฉันก็จะเอาหลักฐานที่คุณยักยอกเงินบริษัทไปฟ้องผู้บริหาร”
เมธีจึงต้องจำฝืนใจคบอยู่กับรินต่อไป แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอก็เปลี่ยนไปแล้ว จากที่เขาเคยคิดว่ารินเป็นแค่ผู้หญิงหัวอ่อน ขี้เหงา ที่จิตใจสั่นไหวได้ง่ายๆ กับ คำว่ารักของเขา บัดนี้เธอเป็นเหมือนตัวริ้นไรที่คอยสร้างความรำคาญให้กับเขาที่ต้องหาทางกำจัดออกไปให้เร็วที่สุด...
“ริน ฉันว่า การขู่เขาน่ะ ไม่ช่วยหรอกนะ บอกเขาไปตรงๆ เถอะว่าเธอท้อง เขาจะได้ยอมรับ”
ทิพย์ที่รู้ความจริงทุกอย่างเตือนด้วยความเป็นห่วง เพราะเริ่มสังเกตเห็นลางร้ายบางอย่างที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวของริน นับตั้งแต่ที่รินขู่เมธีด้วยหลักฐานการยักยอกเงิน รินก็ต้องเจอกับอุบัติเหตุทั้งในและนอกบริษัทหลายครั้งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ไม่ได้หรอกริน ถ้าฉันบอกตอนนี้ ลูกในท้องของฉันก็จะกลายเป็นแค่ข้อผูกมัดเท่านั้น ฉันอยากให้เขายอมรับว่าเขาเป็นพ่อของลูก เพราะว่าเขารักฉัน... แต่ฉันก็กลัวว่า ถ้าตอนนี้ฉันไม่ดึงตัวเขาเอาไว้ แล้วปล่อยเขาไป อีกไม่นานเขาอาจจะหมดรักฉันไปเลยก็ได้...” รินระบายความในใจกับทิพย์
ด้วยความสงสารเพื่อน ทิพย์ไม่อาจจะทนปกปิดความจริงนี้อีกต่อไปได้ ทิพย์คิดว่าการบอกความจริงกับเมธีอาจจะช่วยได้ดีกว่า ทิพย์จึงตัดสินใจแอบบอกความจริงเรื่องการท้องของรินให้เมธีรู้ แล้วทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดีขึ้นจริงๆ เมธีดูเหมือนจะดูแลเอาใจใส่รินมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันอุบัติเหตุรอบๆ ตัวรินกลับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และสภาพร่างกายรินดูอ่อนแอลงทั้งที่ได้กินยาสมุนไพรจากเมธีเพื่อบำรุงสุขภาพ ทิพย์จึงต้องกลับมาทบทวนว่าตนเองได้ทำอะไรผิดพลาดไปหรือไม่...
ในวันครบรอบการคบกันห้าปีเต็มของเมธีและริน เมธีชวนรินทำอาหารและฉลองกันตามลำพังที่คอนโดมิเนียมของริน เย็นวันนี้เป็นวันที่รินมีความสุขมาก
“ริน ผมขอโทษนะ ยกโทษให้ผมด้วย ต่อไปนี้ผมจะกลับตัวและจะเป็นพ่อที่ดีของลูก ทิพย์บอกเรื่องที่คุณท้องกับผมเอง อย่าโกรธทิพย์เลยนะ แต่งงานกับผมนะ ริน”
เมธีขอรินแต่งงานที่โต๊ะอาหาร หลังจากเมธีสวมแหวนหมั้นให้กับริน เขาก็ส่งแก้วไวน์ให้ริน ชนแก้วและดื่มด้วยกัน เพียงครู่เดียวรินก็เคลิ้มหลับด้วยใบหน้าที่แย้มยิ้มมีความสุขโดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดเป็นแผนของเมธีที่ตั้งใจทำให้รินตายใจ และใส่ยานอนหลับในแก้วไวน์ให้รินดื่ม
เมธีไม่ยอมเสียเวลา เขารีบค้นหาเอกสารหลักฐานเรื่องการยักยอกเงินของบริษัทจากห้องนอนและตู้ต่างๆในคอนโดมิเนียมของริน ไม่นานนักเขาก็ค้นพบอย่างที่คาดหมาย จากนั้นเมธีก็เริ่มต้นจัดฉากการฆาตกรรมอำพราง เมธีถอดเสื้อผ้าของรินจนเปลือยเปล่าแล้วอุ้มรินไปนอนลงในอ่างอาบน้ำ เขาเปิดน้ำในอ่างให้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น โดยหวังว่ารินจะนอนหลับด้วยฤทธิ์ยาสลบอย่างแรงและถูกน้ำท่วมมิดจนจมน้ำตายในที่สุด
เมธีวางจดหมายลาตายที่มีลายเซ็นปลอมซึ่งเขาได้ทำขึ้นเองไว้บนโต๊ะ แล้วรีบออกจากห้องไปก่อนที่น้ำจะท่วมมิดตัวของริน เขารีบขับรถไปหาว่าที่คู่หมั้นซึ่งนัดเอาไว้ที่ร้านอาหารซึ่งอยู่ห่างจากคอนโดมิเนียมของรินเพียงสิบห้านาที เมธีคิดว่ากว่าจะมีใครมาพบศพของรินก็คงจะเป็นวันพรุ่งนี้และเขาก็มีพยานคือคู่หมั้นที่อยู่ด้วยกันในคืนนี้...
ในเวลาเดียวกันนั้นเองทิพย์เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับริน เธอจึงโทรศัพท์ไปหารินคล้อยหลังจากที่เมธีออกจากห้องไปเพียงไม่กี่นาที เมื่อรินไม่รับโทรศัพท์ ทิพย์ยิ่งรู้สึกร้อนใจจึงโทรศัพท์เรียกคุณปานผู้จัดการของคอนโดมิเนียม ซึ่งรู้จักกับทั้งรินและทิพย์เป็นอย่างดีให้ช่วยไปดูรินที่ห้องซึ่งอาจกำลังไม่สบายนอนพักอยู่คนเดียว คุณปานจึงไปห้องของรินใช้กุญแจสำรองเปิดเข้าไปและพบรินในสภาพที่นอนจมอยู่ในน้ำที่สูงเกือบมิดหัว จึงรีบนำตัวรินส่งโรงพยาบาลทำให้รินรอดตายได้อย่างหวุดหวิด...
“นี่ รินไม่มาทำงานหลายวันแล้ว โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ ผมติดต่อไปที่คอนโด ทางนั้นก็บอกแต่ว่าไม่รู้ๆ ทิพย์คุณรู้ไหมว่ารินหายไปไหน” เมธีพูดด้วยท่าทางเป็นกังวลเมื่อเจอกับทิพย์ที่บริษัท หลังจากที่เขาพยายามหาข่าวการตายของรินตามหน้าหนังสือพิมพ์แต่ก็ไม่พบ
“ไม่รู้สิ รินก็ไม่ได้ติดต่อกับฉันเลย มีแต่ทางบ้านของเขาที่ติดต่อมาเท่านั้นล่ะ ว่ารินไม่ค่อยสบายและฝากให้ฉันทำเรื่องขอลาพักงานให้กับริน ฉันถามไปว่ารินเป็นอะไร ทางนั้นก็ไม่ยอมบอก น่าเป็นห่วงจริงๆ แพ้ท้องรึเปล่าก็ไม่รู้”
ทิพย์ตอบแบบเลี่ยงๆ ทั้งที่เธอรู้ความจริงทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่เมธีพยายามฆ่ารินด้วย ความจริงแล้วรินกำลังพักฟื้นอยู่ที่บ้านของทิพย์ซึ่งอยู่แถบชานเมืองนี่เอง ทิพย์กำลังรอให้รินฟื้นสภาพร่างกายและจิตใจแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไประหว่างตัดสินใจยกโทษและลืมเมธีไปเสียแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกที่กำลังจะเกิดมา หรือแจ้งความและฟ้องร้องเมธีให้ศาลจัดการในเรื่องนี้ซึ่งทิพย์ก็พร้อมจะช่วยหาหลักฐานพยานและเดินเรื่องทุกอย่าง...
เวลาผ่านไปราวสามสัปดาห์สภาพร่างกายของรินดีขึ้น แต่สภาพจิตใจยังคงย่ำแย่ รินเอาแต่เก็บตัวเงียบ นั่งเหม่อลอย ส่วนเมธีกลับยิ่งลำพองตัวเขาประกาศจัดงานหมั้นและแต่งงานกับลูกสาวของกรรมการผู้บริหารบริษัทด้วยคิดว่ารินคงจะไม่กลับมาอีกแล้วแม้เธอจะยังไม่ตายเพราะทางบ้านของเธอคงจะอับอายที่คิดว่าเธอพยายามฆ่าตัวตายและคงจะกักตัวรินเอาไว้ที่บ้าน เขาได้มอบบัตรเชิญไปร่วมพิธีหมั้นและงานแต่งงานให้กับทิพย์และฝากอีกใบให้กับรินด้วย โดยทำทีเหมือนเขาไม่รู้เรื่องหรือรู้สึกผิดอะไรเลยกับเรื่องของริน...
ทิพย์ซ่อนบัตรเชิญเอาไว้และไม่บอกเรื่องงานแต่งงานของเมธีให้รินรู้ แต่ความลับก็ไม่มีในโลก รินบังเอิญอ่านเจอเรื่องของเมธีจากหน้าข่าวสังคมซุบซิบในหนังสือพิมพ์
“ฉันจะไปงานแต่งงานของเมธี ทิพย์ ถ้าเธอยังเป็นเพื่อนฉัน เธอห้ามบอกให้เขารู้นะ ฉันจะไปอย่างเงียบๆ เพื่อไปดูหน้าเขาครั้งสุดท้าย” รินพูดด้วยสีหน้าเย็นชาและแววตาที่แฝงความคิดอะไรบางอย่าง แต่ทิพย์ก็รู้ทันว่ารินคงตั้งใจจะไปทำเรื่องไม่ดีอะไรสักอย่างในงานนี้แน่ๆ และรินก็ไม่มีทางที่จะฟังคำเตือนหรือห้ามปรามของทิพย์ ดังนั้นเพื่อไม่ให้รินทำในสิ่งที่ผิดและเป็นอันตรายต่อตัวเองทิพย์จึงตัดสินใจไปบอกเมธีให้เตรียมตัวป้องกันเอาไว้...
แล้วในวันงานแต่งงานของเมธี รินก็ไปปรากฏตัวขึ้นที่นั่นพร้อมกับปืนพก รินล้วงมันออกมาจากกระเป๋าทันทีที่เห็นหน้าเมธีเดินควงคู่ออกมากับเจ้าสาว รินยืนประจันหน้ากับเมธีจ่อปืนไปที่เขา สร้างความแตกตื่นให้กับคนทั้งงานยกเว้นเมธีที่รู้ตัวอยู่แล้ว ในเสี้ยววินาทีที่รินกำลังจะเหนี่ยวไกปืน การ์ดของงานก็เข้ามาจับตัวเธอและพาเธอออกไปจากงาน ทิพย์รีบตามออกไปอยู่กับริน ส่วนเมธีก็เดินตามออกไปภายหลังเพื่อพูดเยาะเย้ย
“ฮะๆๆ ริน เจ็บใจใช่ไหมที่ทำอะไรผมไม่ได้ ก็แน่ล่ะ เพราะมีเพื่อนดีๆ อย่างทิพย์ที่มาบอกให้ผมเตรียมตัวเอาไว้ก่อน แล้วอย่าคิดว่าจะทำอะไรผมได้นะ ถ้าคิดจะก่อกวนผมอีก ผมแจ้งความเอาเรื่องกับคุณแน่ๆ”
“ทิพย์ เพื่อนทรยศ!!!” รินแผดเสียงใส่ทิพย์ด้วยความเกรี้ยวกราดและผิดหวังที่เพื่อนที่เธอไว้ใจกลับไปอยู่ข้างคนเลว โดยรินไม่รู้เลยว่าคำพูดนั้นได้กรีดลึกลงไปในหัวใจของทิพย์เพียงใด ทั้งๆ ที่ทิพย์ตั้งใจจะช่วยไม่ให้รินทำผิดพลาด...
รินทั้งเสียใจและผิดหวังกับการกระทำของทิพย์อย่างมาก และรู้สึกอับอายในเรื่องของเมธี เธอกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดและตรอมใจจนแท้งลูกของเมธี หลังจากเรื่องในคราวนั้นรินก็ไม่ยอมติดต่อกับทิพย์อีกเลย แม้ว่าทิพย์จะพยายามโทรศัพท์ไปหารินก็ไม่รับ ไปเยี่ยมที่บ้านก็ไม่ยอมออกมาพบ แม้แต่จดหมายที่ทิพย์ส่งไปให้ก็ไม่ยอมเปิดอ่านเอาให้แม่เก็บไปเผาทิ้ง...
เวลาผ่านไปสองปี จู่ๆ ก็มีหมายศาลเรียกรินให้ไปเป็นพยานคดีที่เมธียักยอกเงินของบริษัทและพยายามฆ่าปิดปากเธอ รินแปลกใจมากว่าเรื่องไปถึงศาลได้อย่างไรเพราะหลักฐานน่าจะถูกเมธีทำลายไปหมดแล้ว เมื่อเธอไปขึ้นศาลและพบกับทนายความจึงทราบว่าทิพย์ได้แอบทำสำเนาหลังฐานเหล่านั้นเอาไว้ และตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาทิพย์พยายามรวบรวมทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคลทั้งในและนอกบริษัทเพื่อทำเรื่องฟ้องร้องเมธี ทิพย์เป็นตัวแทนของรินในการต่อสู้เรียกร้องความชอบธรรมให้กับรินมาโดยตลอด แม้จะถูกเมธีและกรรมการผู้บริหารซึ่งเป็นพ่อตาของเมธีกดดันและบีบคั้นจนต้องลาออกจากบริษัทไปเมื่อครึ่งปีก่อนก็ตาม
รินได้พบกับคุณปานซึ่งเคยช่วยชีวิตของเธอที่ได้มาเป็นพยานด้วย คุณปานมาเป็นพยานในเรื่องที่เมธีพยายามฆาตกรรมรินด้วยการให้กินยานอนหลับเกินขนาดและนอนในอ่างน้ำ หลังการสืบพยานปานบอกรินว่าความจริงคนที่ช่วยชีวิตรินในวันนั้นคือทิพย์ หากทิพย์ไม่เกิดสังหรณ์ใจและโทรศัพท์บอกให้เธอไปดูที่ห้อง รินก็คงจะตายไปนานแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทิพย์ไม่เคยบอกให้รินรู้มาก่อนเลย
“คุณปานกับคุณทนายพอจะรู้ไหมคะว่าตอนนี้ทิพย์อยู่ที่ไหน ฉันไม่ได้ติดต่อกับทิพย์มานานแล้ว แต่ตอนนี้ฉันอยากจะขอโทษที่เคยพูดไม่ดีกับเขา กล่าวหาว่าเขาเป็นเพื่อนทรยศ... แล้วก็อยากจะขอบคุณเขาสำหรับทุกๆ อย่างที่เขาทำให้กับฉันด้วย”
ทนายความและปานมองหน้ากันด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ แล้วปานจึงหันมาพูดกับรินอย่างลำบากใจว่า
“เอ่อ... นี่คุณรินไม่ทราบข่าวเรื่องคุณทิพย์จริงๆ หรือคะ คือว่า... คุณทิพย์เพิ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนนี่เองค่ะ...”
คำตอบของคุณปานทำให้ทิพย์ถึงกับช็อคและน้ำตาคลอด้วยความใจหายระคนเสียใจ ทนายความซึ่งเป็นเพื่อนของทิพย์เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า ทิพย์เริ่มรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งระยะที่สองเมื่อตอนที่รินมีเรื่องกับเมธี เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับรินเพราะคิดว่าจะเป็นการเพิ่มความทุกข์ใจให้กับเพื่อน และเธอพยายามรักษาตัวเองแต่ก็ไม่อาจจะควบคุมมันไว้ได้ จนมะเร็งลุกลามมาถึงระยะสุดท้าย และก่อนที่ทิพย์จะสิ้นใจเธอได้สั่งเสียไว้ว่า “ฉันดีใจที่สิ่งสุดท้ายที่ฉันได้พยายามทุ่มเทในชีวิตคือการช่วยให้ริน เพื่อนรักของฉันได้รับเป็นธรรมกลับคืนมาในชีวิต ได้ช่วยแก้แค้นให้กับรินในฐานะของเพื่อน โดยรินไม่จำเป็นจะต้องรับรู้เลยว่าฉันทำอะไรให้...”
และในที่สุดเมธีก็ถูกไล่ออกจากบริษัท ถูกริบทรัพย์และจำคุกตามความผิดที่เขาได้กระทำลงไป ส่วนรินกลับไปที่บ้านเล่าเรื่องของตัวเองให้แม่ฟัง เธอรู้สึกโทษตัวเองอย่างมากที่ไม่เคยฟังคำเตือนและไม่ไว้ใจในความเป็นเพื่อนของทิพย์จนเสียเพื่อนที่ดีไป เวลานั้นเองแม่ของรินได้นำจดหมายฉบับสุดท้ายของทิพย์ที่แอบเก็บเอาไว้ออกมาให้รินอ่าน
“ถึงริน ตอนที่เพื่อนได้อ่านจดหมายฉบับนี้ เราคงจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว เราขอโทษนะที่ไม่สามารถเป็นเพื่อนที่ดีอย่างใจของรินได้ และเราก็ไม่ถือหรอกนะไม่ว่ารินจะว่าเราว่ายังไง เราไม่เคยโกรธเพื่อนเลย เราอยากบอกรินว่าขอให้รินใช้ชีวิตต่อไปอย่างเห็นคุณค่าของตัวเองนะเพราะเราก็เป็นคนหนึ่งที่เห็นคุณค่าของรินเสมอ ขอให้รินใช้ชีวิตที่เหลือบนโลกนี้แทนเราด้วย ส่วนเรา เพื่อนทรยศของเธอคนนี้จะคอยดูแลและให้กำลังใจจากบนสวรรค์ตลอดไป”
ผลงานอื่นๆ ของ Angela13 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Angela13
ความคิดเห็น