Storyteller' s sun กาลครั้งหนึ่ง...หัวใจสีทอง - นิยาย Storyteller' s sun กาลครั้งหนึ่ง...หัวใจสีทอง : Dek-D.com - Writer
×

    Storyteller' s sun กาลครั้งหนึ่ง...หัวใจสีทอง

    เรื่องที่กระผมแต่งขึ้นเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก เพราะกระผมเป็นพวกแปลกหลุดโลก ความคิดไม่ปกติ ดังนั้นโปรดใช้จิตนาการในการอ่านให้มากๆ เพราะกระผมเป็นพวกชอบจิตนาการสูง แล้วก็นี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งลงเด็กดี พิมพ์ไปนิด ติ่งต็องไปหน่อยก็อย่าว่ากันเลยน่ะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    43

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    43

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 55 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กระผมเชื่อว่าพวกคุณทุกคนจะต้องเคยได้ยินเรื่องราวที่มีชื่อว่า Sleeping Beauty เป็นแน่ อ้อ ใช่พวกเราคงจะคุ้นชื่อนี้มากกว่าละมั่งนะ เรื่องนี้มีชื่อเรื่องว่า เจ้าหญิงนิทรา ยังไงละ อา บางอ้อขึ้นมาแล้วละสิ ใช่แล้วเจ้าหญิงนิทรา หญิงสาวผู้มีสีผมดุจดังแสงตะวัน ริมฝีปากดุจดังกลีบกุหลาบสีแดงสด งดงามยากจะหาใดเปรียบ และเป็นที่รักของผู้ที่ได้พบเห็น เธอมีชื่อว่า ออโรร่า
    ตอนที่เธอเป็นเด็กทารก เธอได้รับพรจากนางฟ้าสามนาง ชื่อว่า ฟรอร่า โฟน่า และแมรี่เวสเธอร์ พร้อมๆ กันนั้นเธอก็ได้รับคำสาปจากแม่มดที่ชั่วร้าย นามว่า เบลร่าพีเซน เช่นกัน 
    พรข้อแรกจาก ฟราร่า คือ พรแห่งความงาม พรที่สองจาก โฟน่า คือ พรแห่งเสียงดรตรี ออโรร่าจะมีสียงที่ไพรเราะราวกับเสียงร้องเพลงขอภูต ยามใครได้ยินก็ต้องเป็นอันลุ้มหลง พรข้อสาม จากแมรี่เวสเธอร์ แต่ก่อนที่นางจะได้ให้พรแก่ออโรร่า เบลร่าพีเซนก็ปรากฏตัวขึ้นมาเสียก่อน 
    นางไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ไม่ได้รับเชิญให้มาร่วมให้คำอวยพรแก่ออโรร่า เธอจึงให้คำอวยพรที่เป็นคำสาปแก่ออโรร่า ว่า
    'นางจะมีพระสริโฉมงดงามและเป็นที่รักแก่ผู้ที่ได้พบเห็นดังพร แต่ว่าเมื่อนางมีอายุได้ 16 พรรษา นางจะต้องถูกเข็มทอผ้าจากเครื่องปั้นฝ้ายตำนิ้ว และตาย!'
    หลังจากคำอวยพรของเบลร่าพีเซนจบลง แมรี่เวสเธอร์ก็จึงให้พรกับออโรร่าว่า
    'เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะไม่ตาย แต่เพียงแค่หลับไปเท่านั้น และจะตื่นจนกว่าจะได้รับจุมพิตแห่งรักแท้ของเจ้าชายเท่านั้น'
    จบคำอวยพรนั้น นางฟ้าทั้งสามก็ขอตัวออโรร่าไปเลี้ยงดูจนกว่าจะถึงเวลานั้น ให้เธอรอดจากคำสาปนั้น นั้นคือ ไม่ให้นางไปพบปะกับใคร แล้วไม่ให้เบลร่าพีเซนรู้ว่านางอยู่ไหนจนกว่าอายุจะครบ 16 ปีเท่านั้น
    16 ปีต่อมา ณ กระท่อนนายพรานกลางป่าที่นางฟ้าทั้งสามพาออโรร่าออกมาเลี้ยงดูนอกพระราชวัง และให้ชื่อใหม่แก่เธอว่า โรส และแทนตัวของพวกนางเองว่าป้า และในวันนั้น วันเกิดของเธอ โรสได้ออกไปเก็บผลไม้ในป่าตามที่ป้าทั้งสามได้บอก เธอก็ได้พบกับชายหนุ่มรูปงามปริศนาคนหนึ่ง ทั้งสองตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเจอ แต่โรสก็นึกขึนได้ว่าเธอถูกสั่งห้ามไม่ให้พบกับคนแปลกหน้า เธอจึงรีบวิ่งหนีกลับบ้าน
    พอถึงบ้านเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เจอคือ เซอร์ไพล์เล็กๆ น้อยๆ จากคุณป้าทั้งสาม คือ ชุดราตรีสีฟ้าคอวีไหล่กว้างโชว์ไหล่บางของเธอ และเค้กวันเกิด เธอดีใจมาก และก่อนที่จะได้เริ่มงานเลี้ยง โรสก็เล่าเรื่องที่เธอได้พบกับชายหนุ่มปริศนาให้คุณป้าทั้งสามฟัง
    คุณป้าทั้งสามตกใจมาก จึงสั่งห้ามมิให้โรสรักกับชายหนุ่มคนนั้น และเล่าเรื่องจริงทุกอย่างให้โรสฟัง และได้บอกว่าเธอเองก็ที่คู่มั่นที่ท่านพระราชาและราชินีได้เลือกไว้ให้แล้ว
    โรสหัวใจแตกสลาย พร้อมกับรำไห้อย่างเจ็บปวด นางฟ้าทั้งสามก็พลอยเศร้าไปด้วย แต่ทุกอย่างก็ต้องไปตามกำหนดการ ออโรร่าต้องกลับวังเมื่อเธอ อายุ 16 แล้วในตอนกลางคืนเมื่อข้ามพ้นวันเกิดของเธอแล้ว
    แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้น เมื่อออโรร่าโดนเบลร่าพีเซนร่ายมนตร์สกดให้ไปที่หอคอยของปราสาท และร่ายมนตร์เสกเครื่องปั้นฝ้ายขึ้นมา แล้วสั่งให้ออโรร่าแตะเข็มของเครื่องปั้นฝ้ายนั้น
    ฝ่ายนางฟ้าทั้งสามที่พึ่งรู้ตัว แล้วตามมามันก็สายไปเสียแล้ว เพราะออโรร่าได้หลับไหลไปตลอดกาลเสียแล้ว นางฟ้าทั้งสามจึงตั้งใจที่จะทำให้ออโรร่าฟื้นขึ้นมาก่อนที่จะมีใครรู้ พวกนางจึงร่ายมนตร์ล้อมรอบปราสาทให้ทุกคนหลับไหล จนกว่าออโรร่าจะตื่นขึ้นมา และเหมือนจะโชคดีที่เจ้าชายเอริคไม่ได้อยู่ที่พระราขวัง แต่อยู่ที่ป่าที่เขาได้พบกับออโรร่านั้นเอง ใช่แล้ว ชายหนุ่มปริศนาคนนั้นก็คือเจ้าชายเอริคนั้นเอง เขากับมาตามหาออโรร่าอีกครั้งก่อนที่จะกลับวัง แต่ก็ไม่เจอ แต่กลับโดนเบลร่าพีเซนจับตัวไปเสียนี่ นางฟ้าทั้งสามที่รู้เรื่องนี้ ก็รีบตามมาช่วยเจ้าชายเอริค หลังจากที่ช่วยออกมาได้ เจ้าชายเอริค ก็รับตรงไปช่วยออโรร่าทันที
    ฝ่ายนางเบลร่าพีเซนที่รู้เรื่องการหนีไปของเจ้าชาย นางก็ร่ายคำสาปใส่ปราสาทขององค์ออโรร่าให้มีต้นไม้หนามแหลมคมปรากฏขึ้นเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้าชายเข้าไปถึงปราสาทได้ แต่ด้วยฤษธิ์เดชของดาบอัศวินที่ฟรอร่ามอบให้ ทำให้เขาสามารถฟันฝ่าเหล่าต้นไม้มรณะนั้นเข้าไปได้ แล้วด้วยโล่แห่งความกล้าหาณที่โฟน่ามอบให้ ทำให้เขาสามารถป้องกันไม่ให้ตัวของเขาโดนหนามพวกนั้นได้
    เบลร่าพีเซนเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งโกรธ และแปลงกายเป็นมังกรยักษ์ที่แสนน่าเกียจน่ากลัว มาขัดขว้างเจ้าชายเอริคเอาไว้ และด้วยความกล้าหาญและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งน่ารังเกียจนั้น ดาบของเขาจึงกลายเป็นดาบแก้วศักดิ์สิทธิ และทิ่งแทงหัวใจของนางแม่มดในร่างมังกรจนตาย
    จากนั้นเจ้าชายเอริค ก็รีบวิ่งขึ้นไปบนหอคอยสูง เพื่อไปหาเจ้าออโรร่าที่เขารัก และจุมพิตเธอย่างรกใคร่ ไม่นานเจ้าหญิงออโรร่าก็ฟื้นขึ้นมา
    และแล้วที่งคู่ก็ได้รักกันไปชั่วนิรันดร

    จบ

    ฮ่ะๆๆๆ พวกคุณคิดแบบนั้นสิ่งน่ะ แต่ว่าถ้ามันยังไม่จบแค่นี้ละ?









    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    จากคนแต่ง: ที่แทนตัวเองว่ากระผม ใช่ว่าผมจะเป็นผู้ชายนะครับ อ๊ะๆๆๆ อย่าพึ่งคิดว่าผมเป็นทอม กระเทย หรือเกย์ละ ผมยื่นยันนอนยันได้เลยว่าผมเป็นผู้หญิงนะครับ อาจจะแปลที่บอกอย่างนี้ แต่ผมไม่ชอบพูดค่ะ ฉัน หรืออะไรแบบผู้หญิงๆ อยู่แล้ว ดังนั้นอย่าถือสาผมเลยนะครับ -/l\-



    เอามาจากเรื่องจริงที่ไม่ใช่เรื่องจริง ปรับแต่งไหม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เทพนิยายหรือนิทานที่ตอนเด็กๆ เราต้องฟังก่อนนอน อาจจะเป็นการผจญภัย หรือความรัก ที่มักจะจบอย่างแฮมปี่้เอนดิ้ง เช่นเจ้าชายได้รักกับเจ้าหญิง นักผจญภัยเจอสมบัติที่ต้องการ แต่ลองคิดในอีกแง่มุมหนึ่งดูสิ ว่าถ้าพวกเขาไม่ได้พบสิ่งที่ต้องการจะเจออะไร แล้วเมื่อเจ้าชายไม่ได้รักกับเจ้าหญิงที่แสนสวยจริงๆ จะเป็นยังไง มาลองดูกันสักตั้ง กับเรื่องที่แหวกแนวของผมดูหน่อยเป็นไง รับรอง คุณต้องติดใจแน่ : นักเล่านิทาน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น