JOJO Bizzare Adventrue: Demon Wars โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ: สงครามอสูร
ผู้เข้าชมรวม
11,985
ผู้เข้าชมเดือนนี้
152
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ ในภาคนี้ เป็นภาคต่อจากโจโจ้ล่าข้ามศตวรรษภาคที่ 1 หลังจากที่ JoJo ภาคแรกจบลง คุณ Robert e.o speedwagon ได้ ค้นพบผู้ประดิษฐ์หน้ากากสิลาที่เป็นต้นเหตุของโจโจ้ภาคแรก ก็คือพวกบุรุษเสาหินแต่ในครั้งนี้ เหล่าบุรุษเสาหินได้รับการสนับสนุนจากเหล่าอสูร เเต่พวกกลุ่มตระกูลโจสตาร์ ก็ได้รับการช่วยเหลือเสาหลักทั้ง 9 ที่เป็นผู้ใช้ปราณซึ่งเป็นพลังชนิดเดียวกับ พลังคลื่นมนตราที่มาจากประเทศญี่ปุ่น มาช่วยปราบ เหล่าอสูร กับบุรุษเสาหิน ที่พยายามจะเอาชนะ การอยู่ใต้แสงแดดให้จงได้ เเต่ถ้าหาก บุรุษเสาหินสามารถทำสำเร็จ มวลมนุษยชาติต้องสูญพันธ์แน่นอน
ตัวละคร
โจเซฟ โจสตาร์
เขาเป็นชายอายุ 19 ปี เป็นผู้ใช้ พลังคลื่นมนตรา เขาเป็นหลานชายของ โจนาธาน โจสตาร์ พระเอก จะภาคที่แล้ว มีนิสัยพาล เหมือนเด็กเกเร แต่จิตใจดีเหมือนสุภาพบุรุตร เขามีเพื่อนสนิทชื่อ ซีซาร์ เอ เซปปิลี่ มี ปรมาจารย์ สอนพลังคลื่นมนตราให้กับเขา ชื่อ บิซ่า ลิซ่า เขากับเพื่อนสนิทของเขา เเละบรมอาจารย์ กับ 9 เสาหลัก ที่มีพลังปราณ ต้องร่วมมือกันไปกำจัด 3 บุรุษเสาหิน กับเหล่าอสูร ในตอนแรกตัวของเขานั้น เป็นผู้ใช้พลังคลื่นมนตราที่ยังไม่ ชำนาญนัก แต่พอเขาได้ไปฝึกพลังคลื่นมนตรากับ ปรมาจารย์ ลิซ่า ลิซ่า เขาสามารถ ใช้พลังคลื่นมนตราได้ชำนาญกว่าตอนแรกเเละสามารถจัดการบุรุตรเสาหิน ได้นั้นเอง เขามีความสามารถอีกความสามารถก็คือการอ่านใจนั่นเอง เขาสามารถอ่านใจทุกคนได้ว่า ทุกคนจะว่าไงหรือรู้สึกยังไงกับตัวเขานั่นเอง โดยการดูที่สีหน้าอารมณ์ และท่าทาง เขาก็สามารถอ่านใจได้ แล้วเขายังสามารถ คาดเดา คำพูดต่อไปได้ โดยการฟังประโยคกับ ดูความรู้สึก และอารมณ์ จึงสามารถทำให้ ศัตรูอึงไปชั่วขณะได้นั้นเอง แล้วเขาก็จะมีบทบาทสำคัญในภาคต่อไปด้วยนั่นเอง
ซีซาร์ เอ. เซปปิลี่
เขาเป็น ผู้ใช้พลังคลื่นมนตรา เขาเป็นหลานชายของ Will A. Zeppeli ปรมาจารย์ สอนพลังคลื่นมนตราของ โจนาธาน โจสตาร์ พระเอกจากภาคที่แล้ว มีเพื่อนสนิทก็คือ โจเซฟ โจสตาร์ นิสัยของเขา เป็นคนที่รีบร้อน เอาแต่ใจ แต่ว่า เขาก็เป็นคนที่มีความเป็นห่วงเพื่อนสนิทของเขาเหมือนกันเเละคนอื่นๆเหมือนกัน
ปรมาจารย์ lisa lisa
หล่อนนั้นเป็นหญิงสวยที่อาศัยอยู่ที่เวนิสประเทศอิตาลี ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปที่แท้จริงของหล่อน แต่ว่าหล่อนจะเป็นอาจารย์คอยสอนพลังคลื่นมนตราให้กับโจเซฟเเละซีซาร์ และเป็นคนที่เก็บของสำคัญบางอย่างเอาไว้ด้วย
Robert E.O. speedwagon
เขาเป็นชายแก่อายุ 75 ปี เป็นลุงของ โจเซฟ โจสตาร์ และเคยเป็นเพื่อนกับ โจนาธาน โจสตาร์ ที่เป็นปู่ของโจเซฟในตอนนี้ เขาร่ำรวยจากการขายน้ำมัน เเละเป็นเจ้าของ มูลนิธิสปีดวาก้อน ที่คอยทำหน้าที่ช่วยเหลือ ตระกูลโจสตาร์ กับ คนที่มีปัญหา แต่จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของมูลนิธินี้ ก็คือ การกำจัดหน้ากากศิลา ที่เป็นต้นเหตุของภาคที่แล้ว แล้วเขาเป็นคนที่ขอความช่วยเหลือให้ เสาหลักทั้ง 9 ที่เป็นผู้ใช้ปราณที่เก่งที่สุด มาช่วยพวกโจเซฟจัดการกับ 3 บุรุษเสาหิน เเละพวกอสูร
Rudol von stroheim
เขาเป็นผู้พันของกองทัพนาซีกองใดกองหนึ่ง ที่แฝงตัว อยู่ที่เม็กซิโก เพื่อค้นคว้าและวิจัย จนกระทั่งพบกับ Robert E.O speedwagon ที่ยังรอดชีวิต ที่ไหลมากับแม่น้ำ แล้วก็พาตัวมาสอบสวนจนพวกมัน ได้ขน เสาหินที่มี บุรุษเสาหินมาทำวิจัยเพื่อที่จะเอามาเป็นอาวุธสงคราม แต่ว่าการปลุกบุรุษเสาหินตนนี้ เป็นเรื่องที่คิดผิดมหันต์เพราะว่า บุรุษเสาหินที่พวก เขา ปลุกขึ้นมานั้น มันได้ไล่ฆ่า ทุกคนในศูนย์วิจัย
เสาหลักนักล่าอสูรทั้ง 9
เสาหลักนักล่าอสูรนี้นั้นคือนักล่าอสูรที่เก่งที่สุดในองค์กรหน่วยพิฆาตอสูรซึ่งมี อุบุยาชิกิ คากายะ เป็นผู้นำหน่วยซึ่งหนว่ยพิฆาตอสูรนั้นได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อเกือบพันปีที่เเล้วโดยมีจุดมุ่งหมายคือการกำจัดพวกอสูรที่อยู่ทั้วญี่ปุ่นนั้นเอง สมาชิกในหมู่เสาหลักก็มีดังนี้
เสาหลักแห่งหมอก(โทคิโตะ มุอิจิโร)
เขาเป็นเสาหลักคนเดียวเท่านั้นที่มีอายุในเรื่องนี้ที่สุดเเค่เพียง 14 ปี เขาเป็นคนที่มีนิสัย เหวยๆ เเละเออๆ อยยู่ตะลอด เเละก็เป็นที่ขี้ลืมมากด้วย และสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นคนแบบนี้เพราะว่า ในสมัยเด็กนั้น มุอิจิโร เคยมีฝาแฝดอยู่อีกคนนึง พวกเขาทั้งสองคนอยู่กันมาโดยที่ไม่มีพ่อแม่นั้นเองจนกระทั่ง ภรรยาของคุณ คากายะ ได้มาขอให้ทั้งสองมาเป็นนักล่าอสูร ซึ่งฝาแฝดคนที่ ยอมรับที่จะเป็นนักล่าอสูรเเต่ว่า มุอิจิโรที่เป็น น้อยฝาเเฝดคนเล็ก เขากลับปฏิเสธที่จะเป็นนักล่าอสูรเพราะว่า เขาคิดเขาคิดว่าคนที่จะเป็นนักล่าอสูรสุดใดก็เป็นคนที่ถูกเลือกเท่านั้น จนกระทั่งมีอสูรตนหนึ่ง ได้เข้ามาโจมตีพวกเขาทั้งสอง ทำให้เเฝดคุณพี่ได้รับบาดเจ็บ เเต่ แฝด คนน้องได้ทำทุกอย่าง เพื่อฆ่าอสูรตนนั้นจนรุ้งสางเเล้วอสูรตนนั้นก็สลายหายไป มุอิจิโร ได้กับไปหาเเฝดพี่เพื่อคุยเป็นครั้งสุดท่าย สิ่งสุดท้ายที่ แฝดพี่ ได้สั่งเสียไว้ก็คือ ชื่อของ มุยอิจิโร มีความหมายว่าความเป็นนิรันดร์ ทำให้ มุอิจิโร ยอมเป็นนักล่าอสูรจนได้กลายเป็นเสาหลักเมื่อนทุกวันนี้ จนกระทั่ง เขากับเสาหลักคนอื่นๆ ได้รับ คำสั่งจากคุณ คากายะ ว่าให้ไปช่วยเหลือ พวกผู้ใช้คลื่นมนตราที่ยุโรปและกำจัดบุรุษเสาหินด้วยนั้นเอง
เสาหลักแห่งวารี(อุรุโคดากิ สากอนจิ)
เขาเป็นเสาหลักที่เก่งมากๆคนนึงที่อยู่รองลงจากเสาหลักไฟ ซากอนจินั้นได้เข้ามาทำงานในหน่วยพิฆาตอสูรเพราะครอบครัวของตัวเองถูกฆ่าโดยพวกอสูรจนกระทั่ง เขากับเสาหลักคนอื่นๆ ได้รับ คำสั่งจากคุณ คากายะ ว่าให้ไปช่วยเหลือ พวกผู้ใช้คลื่นมนตราที่ยุโรปและกำจัดบุรุษเสาหินด้วยนั้นเอง
เสาหลักอัสนี(จิโกโร)
เขาเป็นเสาหลักที่เข้ามาทำงานในหน่วยพิฆาตอสูรเพราะต้องการหาเงินไปเลี้ยงครอบครัว จนกระทั่ง เขากับเสาหลักคนอื่นๆ ได้รับ คำสั่งจากคุณ คากายะ ว่าให้ไปช่วยเหลือ พวกผู้ใช้คลื่นมนตราที่ยุโรปและกำจัดบุรุษเสาหินด้วยนั้นเอง เขาเป็นคนที่จริงจังกับงานเป็นอย่างมาก
เสาหลักแห่งบุปผา(โคโจ คานาเอะ ที่ 1)
หล่อนเสาหลักที่มีจิตใจอ่อนโยนและเมตตาต่อศัตรูและคนอื่อๆ หล่อนเขามาทำงานก็พงเพราะครอบครัวถูกฆ่าโดยอสูร จนกระทั่ง เขากับเสาหลักคนอื่นๆ ได้รับ คำสั่งจากคุณ คากายะ ว่าให้ไปช่วยเหลือ พวกผู้ใช้คลื่นมนตราที่ยุโรปและกำจัดบุรุษเสาหินด้วยนั้นเอง
เสาหลักแห่งความรัก(คันโรจิ มิสึริ)
เสาหลัก ที่เป็นมิตรที่สุดแล้วซึ่งหล่อนชอบคบหาและคุยกับคนอื่นอยู่เสมอ หล่อนอาจจะดูสวยตลอดก็เป็นคนที่กินจุมาก และเป็นคนเดียว ที่มี เหตุผลในการเข้ามาอยู่ในหน่วยพิฆาตอสูร ที่แตกต่างจากคนอื่น ในหมู่เสาหลัก ที่เหลือ 8 คนเข้าร่วมสมาคมหน่วยพิฆาตอสูรเพราะต้องการล้างแค้นอย่างเดียว เเต่ว่าหล่อน เข้ามาอยู่ในหน่วยพิฆาตอสูรเพราะว่าต้องการความรัก ซึ่งเหตุผลที่เราต้องการความรักนั้นก็เพราะว่า ในสมัยเด็กนั้นหล่อนเกิดมา แตกต่างจากเด็กทั่วไปคือหล่อนมีพละกำลังที่เหนือกว่าเด็กทั่วไป แล้วก็มีสีผมที่แปลกประหลาด จึงทำให้เธอนั้นถูก ตัดสินไม่ให้แต่งงานกับชายคนใดแล้วก็ถูกสั่งให้ไปย้อมผมสีดำนั่นเอง ซึ่งการกระทำแบบนี้ มันทำให้หล่อน ไม่เป็นตัวของตัวเองและรู้สึกไม่ค่อยดีจนกระทั่ง คากายะ ได้มาแนะนำ ให้ลองเข้าร่วมกับหน่วยพิฆาตอสูรดู เพื่อหล่อนจะได้ ใช้ความเป็นตัวของตัวเองได้และรู้สึกดีขึ้น นั้นเอง
เสาหลักแห่งอสรพิษ(อิกุโร โอบานัย)
เขาเป็น เสาหลักที่ที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้า Joseph joestar ตั้งแต่ที่ได้เห็นหน้าครั้งแรก ซึ่งเขามักจะเตือนโจเซฟเสมอว่า อย่าไปยุ่งกับ คันโรจิ มิสึริ เด็ดขาดเพราะว่าเขานั้นเป็นคนที่สนิทกับ มิสึริ มากที่สุดแล้ว และไม่ต้องการให้ใครนั้นมาแทนที่เขา(ตัวเขาอาจจะแอบชอบมิสึริอยู่ก็ได้) แล้วอีกอย่าง โอบานัย เดียวใน หมู่เสาหลักที่มี สีตาคนละสี ปลายข้างหนึ่งของเขามันเป็นสีเขียว ส่วนปลายอีกข้างนั้นจะเป็นสีเหลือง แล้วเขานั้นยังใส่ผ้าปิดปากอยู่ตลอดเวลาเพราะว่า มันเป็นปมในอดีตนั่นเอง ที่เขาถูกกรีดปาก นั่นเอง แล้วเขาไม่ต้องการที่จะโชว์ให้ใครเห็น และ เขายังมีคู่หูคู่ใจของเขาที่เป็นงู ขาวที่พันอยู่รอบ คอเขานั่นเอง ซึ่งสัตว์เลี้ยงของเขานั้นได้มาจาก ในสมัยเด็กที่เขาถูกขังและงูขาวตัวนี้ก็ขอเป็นเพื่อนเขาอยู่นั่นเอง
เสาหลักแห่งวายุ(ฮินาสุกาว่า สาเนมิ)
เขาเป็น เสาหลักมี่ไม่คอยชอบขี้หน้าของโจเซฟ โจสตาร์ ตั้งเเต่ได้เห็นหน้าครั้งเเรกอีคนนึง เขานั้นเป็นคนที่นิสัยเสียมาก เเละไม่เคยมีความเคารพกับผู้อื่นยกเว้นหัวหน้าสูงสุดของหน่วยพิฆาตอสูร คุณคากายะ นั้นเอง เหตุผลที่ตัวเขานั้นเป็นคนแบบนี้ก็เพราะว่า ในสมัยที่เขายังเด็กนั้น ถูกเเม่ที่กลายเป็นอสูร ฆ่ายกครอบครัว เหลือแค่เขากับน้องชายจะเเต่ว่าน้องชายเขาก็หาว่าพี่ชายนั้นเป็นฆาตกรฆ่าแม่ เพราะว่าน้องชายเขาไม่รู้ว่า อสูรคืออะไรทำให้ ซาเนมิ เข้าร่วมกับหน่วยพิฆาตอสูรนั้นเอง หลังจากจบภารกิจกำจัด 3 บุรุษเสาหินและอสูรไปได้ เขาก็ไปแต่งงานมีลูกมีเมียหลังจากนั้นและก็ได้มีหลานชายชื่อ ฮินาสุกาว่า เก็นยะ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในภาคต่อไป
เสาหลักแห่งเพลิง(เร็งโกคุ เคียวจุโร)
เขาเป็นเสาหลักคนเดียวที่เป็นเเพื่อนสนิทกับ โจเซฟ โจสตาร์ และเขามีความว้องๆเเละไหวพริบที่ดีเยี่ยมสามารถสมผัสอันตรายที่กำลังเขามาใกล่ได้ ตระกูลของเขานั้น ได้สืบทอดพลังปราณแห่งเพลิงมาเป็นรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงรุ่นของเขา แต่ ตัวเขานั้น ฝึกพลังแห่งเพลิงด้วยตัวเองโดยไม่ได้ให้ใครช่วยฝึกเลย เพราะว่าพ่อเขานั้นติดเหล้า เป็นอย่างมาก ทำให้เขานั้นไปศึกษากระบวนท่าทั้งหมดจากบรรพบุรุษของตัวเองที่ได้บันทึกเอาไว้ จนตัวเองได้ขึ้นเป็นเสาหลักนั่นเอง จนกระทั่ง เขากับเสาหลักคนอื่นๆ ได้รับ คำสั่งจากคุณ คากายะ ว่าให้ไปช่วยเหลือ พวกผู้ใช้คลื่นมนตราที่ยุโรปและกำจัดบุรุษเสาหินด้วยนั้นเอง
เสาหลักแห่งหินผา(ฮิเมจิมะ เกียวเม)
เขาเป็นเสาหลักที่เก่งที่สุดเเล้วในหมู่เสาหลักทั้ง 9 คน ที่จริงเเล้วตัวเขาเป็นคนตาบอดเเต่ ประสาทสัมผัสข้อนข้างดีเยียม ตัวเจามีปมในอดีตของเขานั้นคือ เขานั้นเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กในวัดเเห่งนึงในญี่ปุ่น ซึ่งในวันนึงเนี่ยมี เด็กคนหนึ่งพยายามที่จะแหกกฎที่เกียวเมตั้งขึ้น โดยการออกไป เที่ยวเล่นข้างนอกในเวลากลางคืน แล้วก็ไปเจอกับอสูร แล้วบอกให้อสูรคนนั้นไปกิน เด็กๆที่เหลือที่วัดให้หมด เกียวเม พยายามปกป้องเด็กๆในวัดอย่างสุดชีวิต แต่เขาสามารถช่วยชีวิตเด็กเด็กได้แค่คนเดียวเท่านั้น จนรุ่งเช้าตัวเขาก็ถูกจับในข้อหา ฆาตกรรมเด็กๆในวัด เเล้วคุณคากายะก็มาประกันตัวให้ แล้วพาเกียวเมเข้าสู้หน่วยพิฆาตอสูรไดสำเร็จ
คิบุซูจิ มุซัน
เขาเป็นอสูรตนแรกของโลก และเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกือบสมบูรณ์แบบเหมือน 3 บุรุษเสาหิน เขามีพลังที่คล้ายกับซันตาน่าเเตกมีความหลากหลายเเละเเข็งเเกร่งกว่ามาก มีอายุราว 1000 ปี เขาเป็นราชาแห่งอสูรทั้งปวง เเละเป็นศัตรูหลักของหน่วยพิฆาตอสูร โดยที่เขา เกิดมาจาก การกินยา ชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนผสมของ กระดูกของบุรุษเสาหินที่ส่วมหน้ากากศิลา และ ดอกฮิกังบานะสีน้ำเงิน(Blue spider lily) เพราะว่า ตัวของเขานั้นได้ป่วยลงด้วยโรคร้าย ทำให้เขานั้นมีอายุได้บนโลกนี้แค่เพียง 20 ปี และตอนนั้น เขาได้เผลอ ฆ่า ที่หมอที่เคยรักษาเขา โดยที่ เขาคิดว่ายาที่หมอให้มานั้น จะทำให้เขาตาย แต่กลับกัน ผลของยานั้น ทำให้เขานั้นกลายเป็น อสูร ออกไล่ล่าผู้คน แต่ว่าตัวเขานั้น ต้องแลกกับการที่ ไม่สามารถอยู่ใต้แสงอาทิตย์ได้ ซึ่งทำให้เขาที่นั้นเอาสูตรยารักษาของหมอคนนั้นมาทำเอง ตอนนี้เขามีส่วนผสม ในการทำยา เรียบร้อยแล้ว แต่ว่า ยังขาด ส่วนผสม แค่อย่าเดียว เท่านั้น คือดอกฮิกังบานะสีน้ำเงิน (Blue spider lily) เขาก็เลย สั่งให้อสูร ที่เขาสร้างขึ้นมา ไปออกตามหาแต่ก็ไม่พบดีๆจนกระทั่ง เขาได้สัมผัสถึงกลิ่นอาย บางสิ่งบางอย่างที่เเปลกประหลาดที่เเตกต่างจาก อสูรทั่วไปเเละ 12 อสูรจันทรา ซึ่งนั่นก็คือ 3 บุรุษเสาหินนั่นเองทำให้เขาจึงได้มาหา 3 บุรุษเสาหินที่อาวุโสกว่าเขา เพื่อต้องการขอความช่วยเหลือเเละร่วมมือ เเล้วเขาจะมีบทบาทสำในคัญในภาคต่อไปด้วย
ซันตาน่า
เขาเป็น บุรุษเสาหิน ตนแรกที่ตื่นขึ้นมา แต่ว่าเขานั้นก็เป็นบุตรเสาหินที่อายุน้อยที่สุดแค่เพียง10,000 ปีเท่านั้น ซึ่งแก่กว่า คิบุซูจิ มุซัน ไป 9000กว่าปี มันเป็นบุรุษเสาหินที่มีความเฉลียวฉลาดเรียนรู้ได้รวดเร็ว มีสติปัญญา เเละแม่นยำสูง ซึ่งเขาถูก ปลุก ขึ้นมาโดย กองทัพทหารนาซี ของท่านผู้พัน Rudol von stroheim และเป็นคนสังหาร ทหารและนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในศูนย์วิจัยทั้งหมด
วามู
เขาเป็นบุรุษเสาหินตนที่ 2 ที่ตื่นขึ้น เขามีอายุ 12000 ซึ่งแก่ กว่า ซันตาน่า เเละ คิบุซูจิ มุซัน อีก ซึ่งตัวของเขานั้น แม้แต่จะเป็น ตัวร้าย แต่เขานั้นก็ เป็นคนที่ซื่อสัตย์และมีศักดิ์ศรีในการต่อสู้เป็นอย่างมาก เขามีความสามารถเกี่ยวกับลม เขาสามารถสร้างพายุหมุนที่รุนแรงได้โดยการ หมุนแขนของเ เขาให้เหมือนพัดลมที่มีขนาดใหญ่ได้ แล้วเขา ยังสามารถใช้เครื่องประดับบนหมวกใช้เป็นใบมีดลมก็ได้ร
เอซี ดีซี
เขาเป็น บุรุษเสาหินตนที่ 3 ที่ได้ตื่นขึ้นมีอายุราว 90000 ปี ซึ่งแก่กว่า วามู ซันตาน่า เเละ คิบุซุจิ มุซัน เขามีความความสามารถเกี่ยวกับไฟ ทำให้เลือดของตัวเขานั้นมีความร้อนที่สูงมากเท่ากับลาวาและสามารถปล่อยเส้นเลือดออกมาจากปลาย นิ้ว เเละเเผลได้ แล้วพ่นเลือดของเขาใส่ศัตรู เเละเขาก็มีความสามารถในการเข้าสิงคน เหมือนซันตาน่า แต่ ความสามารถนี้เขาจำเป็นต้อง ทำให้ร่างกายของเขา ถูกทำลายไปซะก่อน เขาถึงสามารถใช้ความสามารถนี้ได้
คาร์ส
เขาเป็น บุรุษเสาหิน ตนสุดท้าย ที่ตื่นขึ้น ซึ่งเขานั้น เป็นผู้ใช้พลังปราณคนแรกของโลก เป็นตัวละครที่แก่ที่สุดในเรื่องนี้แล้วมีอายุถึง 100000 ปี และเป็นผู้ที่ประดิษฐ์หน้ากากศิลาขึ้นมาเพื่อที่จะพิชิตดวงตะวันให้ได้ คาร์สเห็นเเก่ตัวมากเพราะเขาตอ้งการบรรลุเป่าหมายของเขาให้ได้ เขากับบุรุษเสาหินอีกสองคนนั้นเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณที่อาศัยอยู่ใต้ดินซึ่งพวกพวกมนุษย์โบราณนี้ไม่สามารถโดนเเสงเเดดได้ จนกระทั้งคาร์สได้เกิดขึ้นมาเเล้วเล่งเห็นว่าตนเองต้องหาทางทำให้เผ่าพันธุ์ของตัวเองสามารถอยู่ใต้เเสงเเดดได้เขาจึงได้สร้างหน้ากากศิลาขึ้น ซึ่งหน้ากากศิลานี้ได้ทำให้เขากลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกือบสมบูรณ์เเบบ เเต่มันทำให้คาร์สต้องการพลังงานชีวิตมากซึ่งหมายความว่าคาร์สต้องกินสิ่งมีชีวิตมากกว่าเดิน ซึ่งมันอาจส่งผลทำให้สิ่งมี ชีวิตทั้งโลกศูษย์พันธุ์ได้เลย ทำให้คนในเผ่าพันธุ์ตัวเองหวาดกลัวเป็นอย่างมากจนได้มีการสั่งให้กำจัดคาร์ส กับหน้ากากศิลาทิ้งให้ได้ ซึ่งคาร์สนั้นก็ได้สังหารเผ่าพันธ์ุของตัวเองจนหมด เหลือเเค่ เอซี-ดีซี กับวามูที่ยังเป็นทาหรกอยู่นั้นเอง หลังจากนั้นเวลาก็ได้ผ่านไปหลายพันปีจนถึงยุค โรมมัน ซึ่งในตอนนั้นคาร์ส ตองการสร้างหน้ากากศิลาที่สมบูรณ์เเบบที่สุด ซึ่งมันจำเป็นต้องใช้ ศิลาเเดง เอจาร์ ซึ่งในขณะนั้นอยู่กับจักพรรด โรมมัน จึงต้องไปชิงมาซึ่งในตอนนั้น สามบุรุษเสาหินได้ไปทำล้ายล้างเหล่านักรบพลังคลื่นมนตราจนสิ้นซากเเล้วได้ไปชิงศิลาเเดงเเต่ก็ถูกพวกนักรบพลังคลื่นมนตราจัดการไปได้โดยการขังพวกเขาทั้งสามไว้เป็นเวลา 2000 ปี จนกระทั้งกองทัพนาซี ได้มาปลุกพวกเขาจากการหลับไหลนั้นเอง พลังของ คาร์ส คือ ปราณเเห่ง เเสง (breath of light) ซึ่งพลังนี้นั้นยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนเพราะว่า พลังนี้นั้นยังไม่เคยมีปรากฏหรือถูกจดบันทึกไว้เลยแม้แต่ หัวหน้า ของ หน่วยพิฆาตอสูร หรือเสาหลัก ทั้ง 9 ที่ เชี่ยวชาญในการใช้ปราณ และผู้ใช้พลังคลื่นมนตรา เก่าๆ นั้น ก็ยังไม่มีใครรู้จักปราณชนิดนี้เลย ปราณนี้นั้นมีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ใช้ได้ก็คือ คาร์ส นั่นเอง พลังปราณนี้ยังเป็นปราณชนิดเเรกของโลกที่เเท่จริง ซึ่งคาร์สได้พลังปราณชนิดนี้ มาจากการที่ เขาสวมใส่หน้ากากศิลา ทำให้เขานั้น ได้พลังปราณ มาพร้อมกับดาบของเขา ที่ออกมาจากแขน(brillaint bone blades) เเต่ปรานชนิดนี้ ไม่เคยถูกบันทึกเอาไว้ หรือปรากฏให้เห็น หลังยุคโรมันเป็นต้นมา จึงทำให้ พลังปราณ ตะวันกลายเป็นพลังปลาชนิดแรกของโลก ที่ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อ 300 ปราณของคาร์ส ในเรื่องเขาอาจจะอ้างว่าพลังปราณของเขาเป็นพลังปราณชนิดแรกที่แท้จริงเเละเเข็งเเกร่งที่สุด แต่ว่าพลังปราณของเขาไม่ได้ถูกจัดว่าเป็นพลัง ปราณต้นเเบบเพราะว่าพลังปราณของเขา ไม่เหมือน ปรานตะวันที่แตกแขนงออกมาเป็นหลายๆปราณนั้นเอง
ผลงานอื่นๆ ของ teepakorn192 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ teepakorn192
ความคิดเห็น