แฮริสันกำลังไม่แน่ใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับทอม
ว่าเป็นไปแบบไหน
พวกเขาทำตัวเหมือนเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานแต่ก็มีบางอย่างที่แฮริสันก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีเพื่อนคนไหนทำกัน
โอเคในทีแรกมันก็ไม่มีอะไรพวกเขายังคงเป็นเพื่อนกันธรรมดาจนเมื่อเขาต้องตามทอมไปยังที่ต่างๆ
คอยช่วยงานคอยอยู่ดูแลอะไรบางอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
จริงอยู่ที่ทอมงอแงเอาแต่ใจใส่เขาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่บางครั้งในการกระทำของเราสองคนมันดูมีอะไรมากกว่านั้น อย่างเช่นตอนที่ทอมแกล้งปลุกเขา
อาจจะฟังดูไม่มีอะไร แต่เฮ้!คนโดนปลุกโดยปกติมันควรจะหงุดหงิดใช่ไหม?
แฮริสันเองก็เป็นคนธรรมดาที่โดนปลุกย่อมต้องหงุดหงิด แต่พอลืมตาขึ้นมาเจอใบหน้าซนๆของเพื่อนตัวแสบแทนที่จะโกรธเขากลับรู้สึกเอ็นดูจนอดยิ้มออกมาไม่ได้เสียแทน
และในบางครั้งที่เขากับทอมได้มีโอกาสนอนเตียงเดียวกัน(ซึ่งมันก็ไม่ได้บ่อยนักหรอก)
แฮริสันอดคิดไม่ได้ว่ากลิ่นสบู่บนตัวเพื่อนช่างหอมยวนใจจนอดไม่ได้ที่เขาจะดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด
และรู้อะไรไหมทอมก็ไม่เคยปฏิเสธกอดจากเขาด้วยสินั่นยิ่งทำให้เขาได้ใจเชียวล่ะ
หรืออย่างในบางครั้งที่แฮริสันกับทอมต้องแยกกันไปจัดการงานของตัวเอง
ตามปกติถ้าต้องแยกกันกลับบ้านแฮริสันคงไม่คิดอะไรหรอก
แต่ถ้าหากต้องแยกกันโดยที่ทอมยังอยู่ที่กองถ่ายหรืองานอีเว้นต่างๆ แฮริสันก็จะอดรู้สึกห่วงไม่ได้ว่าเพื่อนตัวแสบของเขาจะทำอะไรอยู่
จะงอแงหาคนชงลาเต้ให้กินตอนเช้าไหม? จะทำอาหารทานเองได้ไหม?
จะเหงาบ้างไหม(โอ้แน่นอนถ้าแฮรี่อยู่ด้วยทอมคงไม่เหงาหรอก)
และ...จะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า?
เรือนผมสีอ่อนได้แต่สะบัดไปมาไล่ความฟุ้งซ่านของตัวเองที่เริ่มคิดไปไกล
อันที่จริงการอยู่แบบนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกนะ แค่บางทีมันก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้
และบางอย่างที่มันดูไม่น่าจะใช่เพื่อนปกติทำกัน แต่ทอมก็ไม่ได้ท้วงติงอะไร
เพราะอย่างนั้นนายควรเลิกใส่ใจมันได้แล้วแฮริสันมันไม่มีอะไรหรอก
“แฮริสันนน เช็ดผมให้หน่อย~”
ยังไม่ทันที่ห้วงความคิดจะเข้าที่เข้าทางดี คนในห้วงคำนึงก็โผล่มาพร้อมเสียงใสๆให้แฮริสันได้ยิ้มหนักใจกลับไป
“ทำหน้าแบบนั้นคืออะไรน่ะแฮซ
เดี๋ยวนี้ไม่เต็มใจเช็ดผมให้ฉันแล้วเหรอ?”
แก้มป่องๆนั่นดูเหมือนจะถูกพองลมขึ้นอีกเล็กน้อยพอให้คนมองได้รู้ว่าเจ้าตัวแสบกำลังงอนแล้วนะ
ช่างเป็นกิริยาที่ทำให้แฮริสันต้องถามกับตัวเองอีกครั้งว่าเพื่อนเขาอายุเท่าไหร่แล้วนะ?
พ้น5ขวบหรือยัง?(จุ๊ๆ แต่อย่าเอ็ดไปเชียวล่ะเดี๋ยวเขาจะโดนงอนหนักกว่าเดิม)
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย
แค่เหนื่อยใจว่าถ้าไม่มีฉันอยู่นายจะทำยังไงนะ?”
น้ำเสียงทุ้มถามเจือไปด้วยความขบขันแล้วดึงคนตัวเล็กกว่าให้ลงมานั่งเพื่อจะเช็ดผมให้
“นายไม่อยู่ฉันก็หาพี่เลี้ยงใหม่ไง ง่ายจะตาย”
คำตอบที่ดูราวกับไม่ใส่ใจนั้นถึงคนฟังจะรู้ว่าพูดเล่นๆแต่แฮริสันก็อดรู้สึกน้อยใจจนหยุดมือที่เช็ดผมให้อยู่ไม่ได้
“แปลว่าจะหาใครมาแทนฉันก็ได้งั้นสิ?”
น้ำเสียงที่ในที่แรกแฮริสันตั้งใจจะให้ฟังดูประชดประชันขำขันแท้ๆแต่มันกลับลายเป็นน้ำเสียงเง้างอนจนทอมต้องหันกลับมามองไปได้อย่างไรก็ไม่รู้
“คิดอะไรอยู่เนี้ย งอนเป็นผู้หญิงเลย
ไม่เอาไม่งอนนะ เพราะฉันจะไม่ง้อ” ว่าจบทอมก็หัวเราะลั่นใส่เขาอีกหนึ่งที
จนคนที่เช็ดผมให้อยู่อดหมั่นไส้ไม่ได้ต้องขยี้ผมแรงๆเพื่อแกล้งกลับแต่กลับยิ่งทำให้ทอมหัวเราะอีกพักใหญ่กว่าจะยอมหยุดแล้วหันหน้ามาคุยกับเขาตรงๆ
“ไม่เอาหน่า
นายเป็นคนเดียวที่ดูแลฉันได้ขนาดนี้เลยนะ
เป็นคนอื่นคงเผ่นราบไปตั้งแต่2เดือนแรกแล้ว
ดังนั้นต่อให้นายจะลาออกฉันก็ไม่ยอมให้นายลาออกหรอกนะ”
สีหน้าและแววตาจริงจังที่ถูกส่งกลับมาเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายสำหรับแฮริสันอยู่มาก
ทิ้งเวลาให้ความเงียบโรยตัวอยู่ชั่วครู่กว่าที่ดวงตาสีอ่อนจะหยีเป็นจันทร์เสี้ยวพร้อมกับริมฝีปากที่ฉีกยิ้มกว้างออก
“นั่นแปลว่าฉันต้องเป็นพี่เลี้ยงนายไปตลอดชีวิตหรือเปล่าน่ะ?”
แฮริสันหยอกกลับ
“ไม่ล่ะ... เพราะนายเป็นทาสฉันต่างหากไม่ใช่พี่เลี้ยง”
ทอมหัวเราะใส่ดังลั่นจนคนโดนยกตำแหน่งทาสให้แทบอยากจะค้อนใส่
“หยุดทำหน้าแบบนั้นแล้วเช็ดผมให้ฉันต่อได้แล้วหน่า
ฉันง่วงแล้วเนี้ย”
ว่าแล้วเพื่อนตัวแสบพ่วงตำแหน่งเจ้านายก็นั่งหันหลังให้ทาสเช็ดผมต่อให้ทันที
“คอยดูนะถ้าวันไหนฉันลาออกจริงๆนายจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง”
แฮริสันขู่เบาๆ
แต่ช่างดูไร้น้ำหนักเมื่อริมฝีปากคมยังคงมีรอยยิ้มแตะแต้มอยู่แบบนั้น
“แฮริสัน...”
ทอมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาข่มขู่นิดๆก่อนออกคำสั่งต่อไป “ก้มลงมาหน่อยสิ”
“หืม?” แฮริสันฮัมในลำคออย่างประหลาดใจแต่ก็ยอมก้มลงไปหาแต่โดยดี
ทอมแต่งยิ้มร้ายนิดๆบนใบหน้าก่อนโน้มคอเพื่อนสนิทของตนลงมาจูบแตะริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆแล้วปล่อยให้คนโดนกระทำมองอย่างตกใจ
“เอาล่ะทีนี้นายก็เซนสัญญาทาสกับฉันเรียบร้อยแล้ว ลาออกไม่ได้แล้วนะ”
น้ำเสียงรั้นๆกับใบหน้าร้ายๆของเพื่อนสนิททำให้คนโดนผูกสัญญาทาสหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยแล้วยอมพยักหน้ารับแต่โดยดี
“ไม่ต้องผูกสัญญาแบบนี้ฉันก็ไม่ได้คิดจะไปไหนอยู่แล้วล่ะหน่า”
ส่วนเรื่องระดับความสัมพันธ์น่ะแฮริสันตัดสินใจแล้วว่าไม่ต้องไปคิดมันหรอก
แค่ตอนนี้มีความสุขดีก็ไม่เห็นจะต้องคิดไปเลยว่าพวกเขาอยู่ในสถานะไหนกัน แค่มีกันและกันแบบนี้ก็พอแล้ว
FIN.