ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจรักภูธร

    ลำดับตอนที่ #6 : อีกมุมหนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 59


              

              ปราณปรียา ถือขันสีเงินใบใหญ่ข้างในมีข้าวสวย อาหาร และน้ำดื่มขวดเล็กจัดเป็นชุดไว้ จำนวนสี่ชุด เดินออกจากห้องพักข้ามถนนคอนกรีตไปยังรั้วสถานีตำรวจ ที่มีประตูเล็กๆ สำหรับเปิดออกไปข้างนอก ทะลุไปเจอกับถนนภายในชุมชน ซึ่งเป็นเส้นทางบิณฑบาตของพระสงฆ์

              ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่หญิงสาวยังไม่มีโอกาสได้ทำบุญตักบาตรเลย เนื่องจากยังต้องปรับตัวกับที่อยู่ใหม่และที่ทำงานใหม่ และเมื่อคืน ดวงฤทัย ผู้เป็นมารดากำชับนักหนาให้หมั่นทำบุญ ไหว้เจ้าที่เจ้าทางให้ท่านช่วยปกปักรักษา เพราะเป็นห่วงลูกสาวคนเล็ก ที่เป็นคนร่าเริงสดใส มองโลกในแง่ดี จนกลัวว่าจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน

              แม้ว่าปราณปรียาจะเป็นคนร่าเริง สดใส มองโลกในแง่ดี จนบางครั้งเหมือนเชื่อคนง่าย ไม่ทันคน แต่นั่นเป็นเพราะหญิงสาวไม่อยากใส่ใจมากกว่า จึงเลือกที่จะไม่เก็บรายละเอียดพวกนั้นมารกสมอง แต่หากมุ่งมั่นสิ่งใดแล้วจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ถ้าไม่ได้ลงมือทำหรือพิสูจน์ด้วยตัวเอง

              หญิงสาวเดินมาหยุดข้างหญิงชราที่นั่งอยู่บนรถเข็นริมทางเท้า ข้างตัวมีโต๊ะเล็กๆ สำหรับวางสิ่งของที่จะใส่บาตร

              “ขอใส่บาตรด้วยคนนะคะคุณยาย” ทักทายคนแก่ หลังจากที่ย่อเข่าลงข้างๆ กัน  หญิงชราหันมายิ้มรับอย่างใจดี พร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก  ดูเถิดขนาดเดินไม่ได้ก็ยังออกมาใส่บาตร นี่หละที่เรียกว่าศรัทธา หญิงสาวนึกชื่นชมในใจ

              ปราณปรียา ชวนคนแก่พูดคุยระหว่างที่รอพระมาบิณฑบาต จึงได้รู้ว่าแกเป็นเจ้าของร้านก๋วยจั๊บเก่าแก่ของที่นี่  ซึ่งร้านอยู่ข้างหลังเธอนี่เอง หญิงสาวไม่ได้สังเกตเห็นในตอนแรกเพราะมัวแต่มองทางว่าพระมาทางไหน  และตอนเช้าวันหยุดอย่างนี้จะมีลูกค้าเข้าร้านช่วงสายหน่อย  ขณะที่กำลังพูดคุยกันอย่างถูกคอ หญิงสาวก็ต้องหันกลับมาข้างหลัง เมื่อหญิงชราหันไปมองและพยักหน้ายิ้มรับผู้มาใหม่

              ภวินท์ เลิกคิ้วพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะยกมือไหว้ผู้สูงวัย

              “สวัสดีครับคุณย่า” ชายหนุ่มย่อตัวลงนั่งข้างกับหญิงสาว แถมยังจงใจเบียดตัวเข้ามากระแซะเธออีก จนอีกคนสะดุ้งต้องกระถดตัวหนีจนชิดกับผู้สูงวัย ก่อนจะหันหน้ามาทำตาโตเขียวปั๊ดใส่ชายหนุ่มที่ทำหน้าตาใสซื่อ หญิงสาวหมั่นไส้ขยับปากจะต่อว่า

              “พระมาพอดีเลยครับ” คุณพระมาช่วยไว้ทันเวลาพอดี ชายหนุ่มเอี้ยวตัวไปช่วยหญิงชราหยิบจับของสำหรับใส่บาตรอย่างเคยชิน  จมูกโด่งของเขาเฉียดแก้มของเธอจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ปราณปรียาหลับตาปี๋ขณะที่หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าคนข้างๆ จะได้ยิน

              “มายัยหนู  มาใส่บาตรพร้อมกันเลยทีเดียว วันนี้พระมาหลายรูปจะได้ไม่เสียเวลาท่าน” หญิงสูงวัยจัดแจงให้เสร็จสรรพ

              “เอ่อ ....” หญิงสาวอึกอัก ทำตัวไม่ถูก

              “เร็วสิคุณ พระท่านมารอแล้ว เดี๋ยวไม่ได้บุญนะ” ชายหนุ่มเอ่ยสำทับข้างใบหูเล็ก ทำให้หญิงสาวรีบกระเถิบเข้าหาผู้สูงวัยโดยอัตโนมัติ เหลือเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีอย่างประหลาด

              ทั้งสามคนช่วยกันใส่บาตรอย่างตั้งใจ และไม่มีเสียงพูดคุย ชายหนุ่มทำหน้าที่หยิบของยื่นส่งให้หญิงสาว ที่ทำหน้าที่ประเคนของใส่บาตรช่วยหญิงสูงวัยอีกทีจนครบทั้งสิบสองรูป จากนั้นจึงพนมมือเพื่อรับพร เมื่อพระไปแล้วปราณปรียาทำหน้าที่เข็นรถพาหญิงสูงวัยเข้าไปในร้าน  ส่วนภวินท์เก็บโต๊ะพับขนาดเล็กตามเข้าไป

              “อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะหนูกระต่าย ถ้าไม่รำคาญคนแก่อย่างยาย” หญิงชราเอ่ยชวนแขกเมื่อเข้ามาในร้าน  เพราะแอบสังเกตว่าสองคนนี้มีอาการแปลกๆ ต่อกัน น่าจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น

    ส่วนอีกคนหลังจากที่ตักบาตรด้วยกันชายหนุ่มก็จะอยู่ทานอาหารเป็นเพื่อนแม่อวนอยู่แล้ว นอกจากมีภารกิจเร่งด่วน 

    ปราณปรียาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว  ที่แท้ภวินท์กับแม่อวนรู้จักกัน และดูเหมือนจะสนิทสนมมิใช่น้อย

    “ไม่รำคาญหรอกค่ะคุณยาย คุณยายคุยสนุกด้วยซ้ำไป” หญิงสาวรีบบอกความในใจ กลัวคนแก่เข้าใจผิด แต่หญิงสูงวัยช่างมีความจำเป็นเลิศ ไม่มีอาการงกๆ เงิ่นๆ เหมือนคนแก่ทั่วไปซ้ำยังจำชื่อของเธอได้ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน

              แม้ว่าแม่อวน ที่ทุกคนย่านนี้ล้วนรู้จักกันดีเพราะดังตามชื่อร้าน ก๋วยจั๊บแม่อวน จะอายุย่างเข้า 80 ปี แต่ยังมีความจำเป็นเลิศ หู ตาใช้งานได้ดีและร่างกายแข็งแรงเดินเหินด้วยตนเองได้อย่างสบาย เพราะเป็นคนรูปร่างเล็ก ที่วันนี้นั่งรถเข็นเพราะเมื่อสองวันก่อนเดินไปสะดุดฝาท่อระบายน้ำบนทางเท้าระหว่างที่จะไปตลาดตอนเช้ามืด ทำให้ข้อเท้าแพลงต้องใช้รถเข็นไปพลางๆ ก่อน

              แม่อวนหันไปสั่งคนงานในร้านจัดเตรียมสำรับข้าวปลาอาหาร โดยวันนี้มีเมนูพิเศษเพิ่มมาอีกหลายอย่าง เนื่องมาจากหลานชายสุดที่รักแวะมาทานอาหารด้วยและต้อนรับแขกที่คุยกันถูกคอตั้งแต่รู้จักครั้งแรก

    และจากการสังเกตท่าทางของหลานชายที่มีกับสาวน้อยคนนี้นั้น  ดูเหมือนจะมีความนัยที่แอบแฝงมากกว่าคนรู้จักกันธรรมดา  เพราะแม่อวนรู้จักนิสัยหลานชายตัวเองดี  ถ้าหากลางสังหรณ์ของคนแก่ไม่ผิดก็นับเป็นเรื่องดีที่ภวินท์จะเปิดหัวใจใช้งานอีกครั้ง หลังจากที่ถูกทำร้ายจากคนที่รักมากที่สุดถึงสองคนด้วยกัน 

    นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นคนเงียบขรึม  ทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานโดยไม่ปล่อยให้ตัวเองได้มีเวลาว่าง  

     

    **********************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×